ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 128 พวกเจ้าแพ้แล้ว

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​แล้ว​เซียง​อ๋อง​ก็​สิ้นพระชนม์​เช่นนี้​ ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ได้​หลบหนี​จาก​พระราชวัง​ไป​ก่อน​แล้ว​ ​และ​ไป​ถึง​ฝั่งแม่น้ำลั​่ว​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​กว่า​สิบ​ลี้​แล้ว

​จาก​ระยะห่าง​ที่​ไกล​ออก​ไป​ ​ผู้คน​ใน​วัง​ยังคง​ได้ยิน​เสียงสั่น​เครือ​อย่าง​หวาดกลัว​ของ​เขา​ ​และ​คำพูด​ประโยค​นั้น​ซ้ำๆ​ ​“​ฝ่า​บาท​โปรด​ไว้ชีวิต​!​”

​ใบหน้า​ของ​หลิน​กง​กง​ซีดเผือด​ลง

​คืนนี้​เป็น​มลทิน​หนึ่งเดียว​ใน​ชีวิต​ของ​เขา

​แต่​ท้ายที่สุด​แล้ว​เขา​คือ​หลิน​กง​กง​ ​ผู้รู้​วิธี​เขียน​คำ​ว่าความ​ซื่อสัตย์​สอง​คำ​นี้​ ​ไม่​อาจ​ไร้ยางอาย​เหมือน​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ได้​ ​คุกเข่า​ลง​อ้อนวอน​ขอ​ความเมตตา

​เขา​พลิก​ฝ่ามือ​และ​ตบ​ลง​บน​ศีรษะ​เบา​ๆ​ ​ในขณะเดียวกัน​ปราณ​แท้​ก็​โคจร​ตีกลับ​พร้อม​ที่จะ​หยุด​ตัวเอง​ ​เขา​จะ​ทำ​มัน​อย่างแน่นอน​ ​โดย​ไม่​ทิ้ง​ความเป็นไปได้​ใดๆ​

​แต่​ฝ่ามือ​ที่​กำลังจะ​ตกลง​บน​ศีรษะ​ของ​เขา​กลับ​ไม่​สามารถ​ขยับเขยื้อน​ลง​ไป​ต่อ​ได้​ ​และ​ปราณ​แท้​ใน​เส้น​ชีพจร​ก็​ดูเหมือน​จะ​จับตัว​กัน​แน่น​ ​และ​ไม่​อาจ​ทะลวง​เข้าไป​ใน​แดน​ลี้ลับ​ได้​เลย

​“​ไป​เถิด​ ​อย่า​ได้​เข้า​วัง​อีก​เลย​ ​ที่นี่​…​ไม่ใช่​ที่​ที่​ดี​อะไร​”

​อวี​๋​เห​ริน​พูด​กับ​เขา

​หลิน​กง​กง​อึ้ง​งัน

​เนื่องจาก​จักรพรรดิ​องค์​ก่อน​ ​เวลา​ทั้ง​ชีวิต​ของ​เขา​ใช้​ไป​กับ​การ​อยู่​ใน​พระราชวัง

​แม้ว่า​จักรพรรดินี​ศักดิ์สิทธิ์​เทียน​ไห่​จะ​ไล่​เขา​กลับบ้านเก่า​ ​แต่​เขา​ยังคง​นึกถึง​วัน​เวลา​ที่อยู่​ใน​วัง​ทุกวัน

​แต่ไหนแต่ไรมา​ไม่เคย​มี​ใคร​พูด​กับ​เขา​ ​ไม่ต้อง​มา​อีกแล้ว​…​ไม่ว่า​จะ​ทำ​เพื่อ​ศีลธรรม​ ​หรือไม่​เต็มใจ​ ​หรือ​เหตุผล​อื่นใด

​นั่น​ยิ่ง​ไม่เคย​มี​ผู้ใด​พูด​กับ​เขา​มาก​่อ​นว​่า​ที่นี่​ไม่ใช่​ที่​ที่​ดี

​หลิน​กง​กง​ออกจาก​วัง​ไป​แล้ว​ ​ดู​เดียวดาย​อยู่​บ้าง​ ​สามารถ​พูด​ได้​ว่า​เขา​กำลัง​สูญเสีย​จิตวิญญาณ

​ไม่มีใคร​สนใจ​การ​จากไป​ของ​เขา​ ​ทุก​สายตา​ต่าง​จับจ้อง​ไป​ที่​อวี​๋​เห​ริน

​ระดับ​ขั้น​ของ​ฝ่า​บาท​ล้ำลึก​เกิน​จะ​หยั่งถึง​เช่นนี้​ ​เรื่อง​นี้​ไม่ว่า​ผู้ใด​ก็​คาดไม่ถึง

​ดวงอาทิตย์​ดวง​นั้น​ได้​สลาย​ไป​แล้ว​ ​เมฆ​ยามค่ำคืน​ก็​ถูก​พัด​กลับมา​ที่​จิง​ตูด​้ว​ยลม​แห่ง​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​และ​ปกคลุม​ดวงดาว​อีกครั้ง

​อวี​๋​เห​ริน​มอง​ไป​ยัง​บางแห่ง​ใน​ชั้น​เมฆ​ ​ยืนยัน​ว่า​จักรพรรดิ​ขาว​จากไป​แล้ว​ ​เขา​เก็บ​สายตา​มอง​กลับ​ไป​ทาง​ทิศเหนือ​ ​สีหน้า​มี​ความกังวลใจ

​……

​……

​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​วัง​มาร

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ตอบคำถาม​ราชา​มาร​โดยตรง​ ​“​ข้า​และ​ท่าน​อาจารย์​มิได้​กังวล​เกี่ยวกับ​จิง​ตู​ ​เพราะว่า​มี​ศิษย์​พี่​อยู่​ที่นั่น​”

​ราชา​มาร​พูด​อย่าง​เย้ยหยัน​ ​“​เจ้า​คิด​ว่า​เจ้า​จะ​หลอก​ข้า​แบบนี้​ได้​หรือ​ ​เมื่อ​เจ้า​ออกจาก​เมือง​ซี​หนิง​ ​เจ้า​ก็​มิได้​เริ่ม​ฝึก​บำเพ็ญ​เลย​ ​ข้า​เชื่อ​ว่า​เขา​เอง​ก็​ไม่ได้​ฝึก​ ​หลังจากนั้น​เจ้า​พบ​กับ​เขา​เพียง​ไม่​กี่​ครั้ง​ ​ข้า​แน่ใจ​ว่าแต่​ไหน​แต่​ไร​มา​เขา​ก็​ไม่เคย​ลงมือ​ต่อหน้า​เจ้า​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูดว่า​ ​“​ใช่​ ​จนถึง​ตอนนี้​ ​ยัง​ไม่เคย​มี​ใคร​เห็น​ศิษย์​พี่​ลงมือ​มาก​่อน​”

​ราชา​มาร​พูดว่า​ ​“​เช่นนั้น​เจ้า​ใช้​สิ่งใด​มาตัด​สิน​ความสามารถ​ของ​เขา​ ​อย่า​พูดเหลวไหล​อย่าง​…​เพราะ​เขา​เป็น​ศิษย์​พี่​ของ​ข้า​อะไร​แบบ​นั้น​นะ​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูดว่า​ ​“​ข้า​เพิ่งจะ​นึกได้​หลังจาก​เกิดเรื่อง​แล้ว​”

​ราชา​มารถาม​ว่า​ ​“​นึก​สิ่งใด​ได้​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูดว่า​ ​“​ใน​คืน​ที่เกิด​เรื่อง​กับ​จักรพรรดินี​ศักดิ์สิทธิ์​เหนียง​เหนียง​วันนั้น​ ​เหตุใด​ศิษย์​พี่​จึง​ออกมา​จาก​พุ่มไม้​”

​ราชา​มาร​ดู​เคร่งขรึม​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​และ​พูดว่า​ ​“​เจ้า​หมายความ​เช่นไร​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูดว่า​ ​“​ใน​ตอนกลางวัน​เขา​ไป​ที่​สุสาน​เทียน​ซู​กับ​ท่าน​อาจารย์​ ​นี่​ก็​หมายความว่า​ ​เขา​ใช้เวลา​เพียง​วัน​เดียว​ก็​สามารถ​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ได้​จบ​แล้ว​”

​ราชา​มาร​หรี่​ตาลง​เล็กน้อย​ ​พูดว่า​ ​“​ไร้สาระ​!​ ​เขา​ใช้​วิธี​อื่น​ไม่ได้​หรือ​”

​เขา​ไม่เคย​ไป​สุสาน​เทียน​ซูมา​ก่อน​ ​แต่​รู้​กฎเกณฑ์​ของ​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์

​ใน​สุสาน​เทียน​ซูมี​เพียง​ต้อง​ตระหนัก​รู้​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​แผ่น​หนึ่ง​ก่อน​เท่านั้น​ ​จึง​จะ​ไป​ยัง​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​อีก​แผ่น​หนึ่ง​ต่อ​ได้​ ​จวบจน​สูง​ขึ้น​และ​สูง​ขึ้น​ ​สุดท้าย​ก็​มาถึง​จุดสูงสุด

​ไม่มี​ผู้ใด​สามารถ​ฝ่าฝืน​กฎ​นี้​ได้​ ​แม้ว่า​โจว​ตู๋​ฟู​จะ​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ทั้งหมด​แล้วก็​ตาม

​ตามที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​กล่าว​ ​เช่นนั้น​อวี​๋​เห​ริน​ก็​คือ​คนที​่​สามารถ​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​จบ​ใน​วัน​เดียว​ ​จำได้​ว่า​ในขณะนั้น​อวี​๋​เห​ริน​กำลัง​ฟัง​เสียง​เฉิน​ฉาง​เซิง​อยู่​ ​กำลัง​กังวล​ว่า​จะ​ไป​ช่วย​เขา​อย่างไร​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​อาจ​พูด​ได้​ว่า​เขา​ไม่ได้​อ่าน​อย่างละเอียด​เสียด​้วย​ซ้ำ​อาจจะ​เดิน​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ไป​ตามอารมณ์

​นี่​ก็​มี​ความเป็นไปได้​ที่จะ​เป็นเรื่อง​จริง​ ​แต่​ราชา​มาร​ไม่​อาจ​ยอมรับ​ได้

​ไม่มี​ผู้ใด​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​ลือ​ว่า​กัน​ว่า​โจว​ตู๋​ฟู​เคย​ทำ​เช่นนี้​มาก​่อน​ ​แต่​ก็​ไม่เคย​ได้รับ​การ​ยืนยัน​จาก​พระราชวัง​หลี​มาก​่อน

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ผู้​สามารถ​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ที่​สุสาน​ส่วนหน้า​ได้​ภายใน​หนึ่ง​วัน​ก็​ทำให้​ผู้คน​ทั้ง​ดินแดน​ต้า​ลู่​ตกตะลึง​แล้ว​ ​ถ้าหาก​อวี​๋​เห​ริน​ใช้เวลา​เพียง​หนึ่ง​วัน​ก็​สามารถ​อ่าน​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ทั้งหมด​ ​นี่​มัน​จะ​หมายความว่า​อย่างไร​กัน

​นั่น​ก็​หมายถึง​ความสามารถ​และ​พรสวรรค์​ที่​เหนือ​จินตนาการ

​หาก​ทั้งหมด​นี้​เป็นเรื่อง​จริง​ ​เช่นนั้น​เซียง​อ๋อง​และ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ก่อ​กบฏ​ครั้งนี้​ ​สำหรับ​อวี​๋​เห​ริน​แล้ว​คง​เป็น​เหมือน​ละคร​ขบขัน​ฉาก​หนึ่ง

​ราชา​มาร​ยัง​คิด​ต่อไป​ได้​อีกว่า​ ​จักรพรรดิ​ขาว​น่าจะ​ไม่กล้า​ลงมือ​ง่ายๆ

​สายเลือด​แห่ง​จักรพรรดินี​ศักดิ์สิทธิ์​เทียน​ไห่​และ​ตระกูล​เฉิน​ช่าง​น่า​ประหวั่น​เสีย​จริงๆ

​ราชา​มาร​ยัง​รู้สึก​ว่า​ข่าวลือ​เรื่อง​การ​ท้า​ลิขิต​พลิก​โชคชะตา​เป็น​เท็จ​ ​ที่​อวี​๋​เห​ริน​ต้อง​ทน​ต่อ​ความทุกข์ทรมาน​มาก​มาตั​้ง​แต่​เกิด​ ​อาจ​เป็น​เพราะ​สวรรค์​อิจฉา​เขา​…

​“​ดูเหมือนว่า​ ​พวกเรา​ต้อง​ยอมรับ​ต่อ​ความพ่ายแพ้​จริง​หรือ​”

​“​ใช่​”

​เปลวเพลิง​มาร​สีดำ​ดูรา​วกับ​หนองน้ำ​ ​ดูดกลืน​เส้น​แสง​ทั้งหมด

​ไอ​พลัง​ปราณ​แห่ง​ห้วง​ลึก​บุกรุก​เข้ามา​จาก​ทาง​นั้น​ ​ทำให้​คน​ทั้งหมด​รู้สึก​อึดอัด​เล็กน้อย

​ภายใน​ตำหนัก​มาร​เงียบเหงา​มาก​ ​ไม่มี​ข้าทาส​บริวาร​ ​รวมถึง​เหล่า​นางสนม

​มี​เพียง​ข้า​รับใช้​ที่​สวม​หมวก​สีขาว​ไม่​กี่​คน​และ​คนชรา​ที่​สวม​เสื้อคลุม​สีแดง​สิบ​กว่า​คน​เท่านั้น​ ​ยืน​อยู่​ทั้ง​สี่​ด้าน​ของ​ราชา​มาร

​ราชา​มาร​ชี้​ไป​ข้า​รับใช้​ที่​สวม​หมวก​สีขาว​และ​กล่าวว่า​ ​“​พวกเขา​ล้วน​เป็น​นักประวัติศาสตร์​ ​และ​ประวัติศาสตร์​สุดท้าย​ของ​เผ่า​ข้า​ควร​ได้รับ​การ​บันทึก​ไว้​อย่าง​สมบูรณ์​”

​เขา​ชี้​ไป​ยัง​ชาย​ชรา​ที่​สวม​เสื้อคลุม​สีแดง​และ​กล่าวว่า​ ​”​นี่​คือ​เหล่า​บัณฑิต​ที่​ฉลาด​ที่สุด​ใน​เผ่า​ของ​ข้า​ ​ข้า​คิด​ว่า​เจ้า​และ​จักรพรรดิ​องค์​นั้น​ควร​มีส​มอง​มาก​พอ​ ​ที่จะ​ตัดสิน​ว่าความ​สำเร็จ​ของ​อารยธรรม​เผ่า​ข้า​ควร​ได้รับ​การปกป้อง​อย่างเต็มที่​ ​แล้ว​จากนั้น​เก็บรักษา​ไว้​ ​ทำลาย​เผ่า​แล้วก็​อย่า​ทำลาย​ทั้งหมด​เลย​”

​เมื่อ​ได้​ฟัง​สอง​ประโยค​นี้​ ​ความรู้สึก​ของ​หวังผ​้อ​และ​เซียว​จาง​ที่​มีต​่​อรา​ชามา​รก​็​แตกต่าง​ไป​จาก​เดิม

​นี่​คือ​สิ่ง​ที่​เรียกว่า​จริยวัตร​ของ​พระราชา​ ​สามารถ​เข้าใจ​ได้​ว่า​เป็นการ​สนับสนุน​ที่​แข็งแกร่ง​ ​แต่​ความสงบ​ใน​ระดับ​จิตวิญญาณ​เช่นนี้​เป็น​ที่​แสวงหา​ของ​บรรดา​ผู้​แข็งแกร่ง​มาโดยตลอด​

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูดว่า​ ​“​ใน​ครา​แรก​ที่​เมือง​ไป๋​ตี้​ข้า​เคย​พูด​แล้ว​ ​จะ​ไม่มี​การ​ทำลาย​เผ่าพันธุ์​”

​สิบ​ปีก่อน​ ​ใน​เรือน​ใหญ่​ที่​เต็มไปด้วย​ทราย​สีเหลือง​ใกล้​ปราสาท​สวน​ของ​เผ่า​เซียง​ ​เขา​และ​ราชา​มาร​หนุ่ม​หารือ​กัน​มากมาย

​ใน​หัวข้อ​เหล่านั้น​มีเรื่อง​เหนือ​ท้องฟ้า​ซึ่ง​เต็มไปด้วย​ดวงดาว​ ​เรื่องราว​หลาย​พัน​ชั่วอายุคน​ ​และ​ย่อม​มีเรื่อง​อนาคต​ของ​เผ่า​มนุษย์​และ​เผ่า​มาร

​ที่ลับ​ไป​กว่านั​้น​ ​มี​เพียง​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ ​และ​มังกร​ดำน้อย​เท่านั้น​ที่​รู้​ ​ใน​ช่วงเวลา​สิบ​ปี​มานี​้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​ราชา​มาร​ยังคง​ติดต่อสื่อสาร​กัน​มาต​ลอด​

​ถึงแม้ว่า​ความถี่​ใน​การติด​ต่อ​ของ​พวกเขา​จะ​ไม่​สูง​มาก​ ​หนึ่ง​ปี​มี​เพียง​สอง​สาม​ฉบับ​เท่านั้น​ ​แต่​ก็​ไม่เคย​ตัดขาด​กัน

​นี่​ก็​เป็นเรื่อง​ที่​พูดคุย​กัน​ไว้​ดี​แล้ว​ใน​เมือง​ไป๋​ตี้​เช่นเดียวกัน

​แรกเริ่มเดิมที​ ​พวกเขา​ต้องการ​เลียนแบบ​มหาบัณฑิต​ทง​กู่​ซือ​และ​และ​ใต้เท้า​สังฆราช​ของ​ยุค​นั้น​ ​แต่​สุดท้าย​ก็​พบ​อย่าง​ไม่เต็มใจ​ว่า​เนื้อความ​ใน​จดหมาย​เปลี่ยน​มา​เป็นการ​เจรจา​ต่อรอง

​…​ถ้าหาก​เผ่า​มนุษย์​ชนะ​แล้ว​ ​เผ่า​มาร​จะ​ยอมจำนน​ภายใต้​เงื่อนไข​ใด

​ไม่มี​คำตอบ

​ถึง​กระทั่ง​ตอนนี้​ ​ตลอดมา​ก็​ยังคง​ไม่มี​คำตอบ

​“​พวก​คนรับใช้​ก็​จะ​กลายเป็น​บ่าว​ทาส​ของ​เจ้า​ ​ใช้ชีวิต​อย่าง​ทุกข์ทรมาน​อยู่​ใน​เหมือง​ที่​มืด​และ​ชื้น​ ​เผ่า​เทพ​จะ​ถูก​บังคับ​ให้​แต่งงาน​กับ​พวก​เจ้า​ ​สายเลือด​จะ​ถูก​ทำให้​ค่อยๆ​ ​จาง​ลง​ ​จน​ไม่​สามารถ​ดำรงอยู่​ด้วย​เผ่าพันธุ์​ของ​ตนเอง​เพียงลำพัง​อีกต่อไป​ ​ใน​ความคิด​ของ​ข้า​นั้น​ ​นี่​ก็​ไม่​ต่าง​กับ​การ​ฆ่า​ล้าง​เผ่าพันธุ์​ ​ข้า​ไม่​สามารถ​ยอมรับ​ได้​”

​ราชา​มาร​พูดว่า​ ​“​นอกจากนี้​เผ่า​เทพ​เดิมที​ก็​เป็นเจ้าของ​โลก​นี้​ทั้ง​ใบ​ ​จะ​ยอมจำนน​ต่อ​พวก​มนุษย์​อย่าง​พวก​เจ้า​ได้​อย่างไร​กัน​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​พูด​อย่างจริงจัง​ว่า​ ​“​แต่​พวก​เจ้า​พ่ายแพ้​แล้ว​นะ​”