ตอนที่ 1354: เซียนจักรพรรดิที่อ่อนแอ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1354: เซียนจักรพรรดิที่อ่อนแอ (1)

กระบี่ทั้งสองแผ่แสงสลัวขณะที่พวกมันโคจรไปรอบ ๆ พวกมันบินผ่านอากาศอย่างอิสระ กระบี่ทั้งสองดูเหมือนจะเป็นคู่รักกัน พวกมันเคลื่อนที่ใกล้กันและกัน พวกมันไม่แยกจากกัน แต่พวกมันรักษาระยะห่างซึ่งกันและกันอย่างมั่นคง

เมฆที่รวมตัวกันในอากาศได้หนาขึ้นและหนาขึ้นเรื่อย ๆ พวกมันจมลงต่ำลงเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับความดันที่มองไม่เห็นจากเมฆถูกเติมเต็มไปรอบ ๆ เซียนราชาที่ยังพบว่าการหายใจมันยากขึ้น ราวกับว่ามีหินขนาดใหญ่กดทับหน้าอกของพวกเขาเอาไว้ บรรยากาศหนักหน่วงเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ความสนใจของทุกคนได้เพ่งไปที่กระบี่ทั้งสอง พวกเขาทั้งหมดตามการเคลื่อนที่ของกระบี่และไม่สนใจเมฆสีดำที่อยู่ในอากาศเลย สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาและความโลภ

“สมบัตินั่นถูกดูแลโดยภูเขาไฟพวกนั้นซึ่งมันทรงพลังอย่างที่คาดไว้เลย และมันมี 2 ชิ้นด้วย” บรรพบุรุษจักรวรรดิเฟยลี่พูด เขาถูกดึงดูดโดยกระบี่มากว่า 1000 ปี ความเข้าใจลึกซึ้งของเขามากมายยิ่งนัก ซึ่งเขาสามารถบอกพลังของกระบี่ทั้งสองได้เพียงการมองแค่ครั้งเดียว

“สมบัติมีจิตวิญญาณ ดังนั้นพวกมันไม่สามารถถูกรับโดยพลังได้ มันจะขึ้นอยู่กับโชคชะตาของบุคคล กระบี่ทั้งสองมีพลังพอที่จะขับเคลื่อนสวรรค์ได้ ดังนั้นเป็นไปได้ว่าแม้แต่เซียนจักรพรรดิก็อาจไม่สามารถเอามันมาด้วยกำลังได้ พวกมันต้องได้รับการยอมรับ แม้แต่คนธรรมดาก็มีโอกาสได้มันเช่นกัน ถ้าข้าได้รับการยอมรับ ข้าก็จะสามารถกลายเป็นเซียนจักรพรรดิได้ทันที แม้ว่าการพัฒนาของข้าจะไม่อยู่ในระดับนั้น พลังการต่อสู้ของข้าก็ไม่ต่ำไปกว่าเซียนจักรพรรดิเลย”

“ถูกต้อง สมบัติเหล่านั้นมีจิตวิญญาณและพวกมันครอบครองพละกำลังมหาศาล เป็นไปได้ว่าแม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ไม่สามารถใช้กำลังเพื่อเอามาได้ เราทั้งหมดมีโอกาสเหมือนกัน”

“มาเถอะทุกคน ใครก็ตามที่สามารถทำให้สมบัติยอมรับได้จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเซียนจักรพรรดิเลย”

ทันใดนั้น กลุ่มคนก็โดดลงไปพร้อมกัน เซียนราชาทั้งหมดเริ่มเคลื่อนที่ พุ่งเข้าไปในอากาศไปที่กระบี่ทั้งสอง ในขณะเดียวกัน เซียนราชาบางส่วนจากตระกูลโบราณหลับตาและก่อผนึกมือขึ้นมา พวกเขาต้องการใช้ทักษะลับที่ถูกส่งต่อในตระกูลเพื่อสื่อสารกับสมบัติ

สมบัติของโลกได้ปรากฏขึ้นหลายครั้งตลอดประวัติศาสตร์ของทวีปเทียนหยวน แต่นี้ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะสามารถเอามาได้ด้วยกำลัง สมบัติบางชิ้นมีจิตวิญญาณของมันเองและเลือกเจ้านายของมัน จากผลลัพธ์แล้ว ตระกูลโบราณบางคน ผู้ที่อยู่มาเป็นเวลานานได้ครอบครองทักษะลับที่สามารถรับมือกับสมบัติเหล่านั้นได้

เกมของการไล่ตามได้เผยออกบนท้องฟ้า กลุ่มคนและสัตว์อสูรไล่ตามกระบี่อย่างไร้ความหวัง ตามด้วยผู้เชี่ยวชาญจากเผ่าพันธุ์ทะเลด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามมากแค่ไหนหรือใช้ทักษะลับในการเพิ่มความเร็วมากแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถไล่ตามกระบี่ได้เลย แม้ว่ากระบี่ทั้งสองจะบินไปอย่างอิสระ พวกมันก็มีความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ พวกมันบินผ่านอากาศไปอย่างรวดเร็วและเร็วยิ่งกว่าเซียนราชาเสียอีก

เซียนราชาบางส่วนได้พยายามแช่แข็งมิติ แต่มิติที่แช่แข็งก็ไม่สามารถหยุดกระบี่ทั้งสองไว้ได้ รอบ ๆ เซียนราชามากมายได้รวมกลุ่มกันใช้กำลังเซียนพร้อมกันเพื่อสร้างโครงตาข่ายและรอกระบี่บินเข้าไปหาพวกมันเพื่อจับกระบี่เอาไว้ โชคร้าย โครงตาข่ายของพวกเขาไม่ต่างอะไรจากใยแมงมุมเลย ซึ่งได้ผ่ามันออกไปอย่างง่ายดาย

ทันใดนั้นแรงสั่นสะเทือนก็กระเพื่อมผ่านอากาศขณะที่ศูนย์กลางของเมฆดำเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว ความดันที่มองไม่เห็นได้แผ่จากเมฆและล้อมรอบกระบี่เอาไว้

ผู้คนทั้งหมดที่เห็นจิตวิญญาณโลหะได้แสดงท่าทีที่แตกต่างเลย พวกเขาเริ่มตะโกนออกมา ” อันตราย ! ทุกคน ถอย ! สมบัติพวกนั้นทรงพลังจนโลกต้องปฏิเสธมัน อัสนีพิฆาตจะตกลงมาทำลายพวกมัน ทุกคนถอย ไม่งั้นเจ้าจะถูกสาปทันที”

ผู้คนทั้งหมดหยุดไล่ตาม สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปเสี่ยง

ทันใดนั้น กระบี่ในอากาศก็ทำบางอย่างที่ทุกคนแปลกใจ พวกมันแปลงเป็นไอทั้งสองของแสงโชติพุ่งเข้าไปในเมฆ

ตู้ม !

ทันใดนั้น เสียงปะทะได้ดังออกมาจากที่สูง แสงสว่างได้เปล่งออกมาขณะที่สายฟ้าได้ปะทุขึ้นในเมฆ เสียงขนาดดังได้ไหลผ่านทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน ภูเขาไฟนับไม่ถ้วนที่อยู่ข้างล่างเริ่มพังทลายขณะที่คลื่นขนาดใหญ่ได้ก่อตัวภายใต้ลาวา เซียนราชาบางส่วนเริ่มตัวสั่น

พวกเขาชำเลืองมองกระบี่ทั้งสองที่กำลังต่อสู้กับความยากลำบากเปล่งแสงผ่านเมฆ

“ช่างเป็นสมบัติที่ทรงพลังจริง ๆ ! ” คนทั้งหมดถอนหายใจอย่างแปลกใจ ซึ่งมันเหนือกว่าอาวุธโบราณของตระกูลผู้พิทักษ์

มารราคะและสัตว์อสูรระดับ 9 มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นเดียวกับความตะลึงซึ่งฉาบอยู่บนใบหน้าของเขา พลังของกระบี่มันโค่นล้มความเข้าใจของสมบัติใด ๆ

สายฟ้ามีพลังที่สามารถทำลายเซียนจักรพรรดิได้ ถึงกระนั้น กระบี่ก็สามารถขจัดแสงโดยตัวมันเองได้ ซึ่งมันเกินกว่าเซียนจักรพรรดิไปแล้ว

เสียงของฟ้าผ่าดังก้องไปทั่วอากาศ การระเบิดทุก ๆ ครั้งหนักกว่าครั้งก่อน ๆ พลังมันน่ากลัวมาก ๆ ไม่มีฟ้าผ่าลงมาแต่พวกมันทั้งหมดกลับระเบิดในเมฆแทน ประกายไฟที่พวกมันสร้างเหมือนกับดอกไม้เพลิงสุกสว่าง

“พระเจ้าช่วย ข้าคิดว่าข้าเห็นกระบี่ทั้งสองปะทะกับสายฟ้า แม้แต่สายฟ้าที่ทรงพลังก็ไม่สามารถทำลายมันได้”

“สายฟ้าพวกนั้นได้ชนเข้ากับชิ้นส่วนของกระบี่ทั้งสอง เจือจางกลายเป็นประกายไฟนับไม่ถ้วนที่ขยายไปทุกทิศทาง สมบัตินั่นสามารถเอาชนะสายฟ้าที่น่ากลัวนี้ได้”

คนอุทานออกมาอย่างต่อเนื่อง พวกเขาทั้งหมดตะลึง คนจำนวนหนึ่งเหลือบไปมองสิ่งที่กำลังเกินขึ้นในเมฆ

กระบี่เริ่มส่องแสงต่อขณะที่พวกมันเคลื่อนที่ผ่านเมฆอย่างรวดเร็ว แสงของมันบดบังใบมีดเอาไว้ มีเพียงบอลแสงสีฟ้าและม่วงที่มองเห็นจากไกลๆ

ภายในพริบตา ฟ้าผ่า 8 อันได้ตกลงมา ด้วยการระเบิดครั้งสุดท้าย ฟ้าผ่าอันที่ 9 ตกลงมา นี่เป็นหนึ่งที่รุนแรงที่สุดของมัน แม้แต่ ฟ้าผ่า 8 อันรวมกันก็ไม่เท่ากับอันที่ 9

กระบี่ทั้งสองยังเป็นเหมือนเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ เปลี่ยนกลายเป็นแสงก่อนที่จะปะทะเข้ากับสายฟ้า

ตู้ม !

แสงรอบ ๆ กระบี่เริ่มมัวลงเมื่อฟ้าผ่าที่ 9 ตกลงมา อย่างไรก็ตาม ใบมีดของพวกมันสว่างยิ่งขึ้น ไม่เพียงแต่ฟ้าผ่าที่ 9 ล้มเหลวในการทำลายกระบี่แล้ว แต่มันยังช่วยมันแทน ทำให้มันผ่านกระบวนการตี

กระบี่ทั้งสองสั่นหลังจากผ่านฟ้าผ่าที่ 9 จากนั้นพวกมันก็ปรากฏออกจากเมฆ พวกมันสร้างน้ำออกมาขณะที่เมฆนั้นเริ่มค่อย ๆ หายไป

หลังจากเมฆกระจายหายไป มนุษย์และสัตว์อสูรก็เริ่มเคลื่อนที่ต่อ พวกเขาทั้ง 4 ปรากฏต่อหน้ากระบี่ราวกับเคลื่อนย้ายพริบตามา พวกเขาพยายามอย่างหนักที่สุดเท่าที่จะทำได้ พยายามจับกระบี่

สัตว์อสูรคว้าไปที่กระบี่สีม่วง ขณะที่มารราคะได้คว้าไปที่กระบี่สีฟ้า นี่เป็นเพราะว่าสัตว์อสูรทั้งสามรู้ว่าพวกมันสามารถเอาได้เพียงสมบัติชิ้นเดียวเท่านั้นด้วยการรวมความแข็งแกร่ง เนื่องจากสมบัติชิ้นนี้ทรงพลังอย่างมาก