ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1092 กษัตริย์โถงเซียน

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

จักรพรรดิแพรน้ำเสียงผ่อนคลาย แต่ทำให้จักรพรรดิไร้จำกัดต้องเหลือบมองเขาอีกครั้ง

ครั้งนี้เยี่ยนจ้าวเกอหยุดวิชาอย่างแช่มช้า แสงดาวที่จุดลมปราณทั่วร่างสาดออกมา ก่อนจะค่อยๆ หายเข้าไปในร่าง

เขาลืมตามองจักรพรรดิแพรและจักรพรรดิไร้จำกัด เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ข้าผู้แซ่เยี่ยนวู่วาม ทำให้ใต้เท้าสองท่านหัวเราะเยาะแล้ว”

จักรพรรดิแพรกับจักรพรรดิไร้จำกัดต่างกล่าว “หาเป็นไรไม่”

เมิ่งหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้มขึ้นด้านข้าง “ยินดีกับศิษย์พี่เยี่ยนที่พลังฝึกปรือก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น”

“ศิษย์น้องเมิ่งเกรงใจแล้ว” เยี่ยนจ้าวเกอลุกขึ้น มองตำหนักมารเปลวเพลิงตรงหน้าพลางกล่าวว่า “ที่นี่ไม่มีคุณค่าอะไรอีกแล้ว”

ทุกคนออกจากตำหนักที่เกิดจากเปลวเพลิง จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าวอย่างใคร่ครวญว่า “สหายน้อยเฟิงเข้าไปในนพยมโลกลึกขึ้นอีกเพราะถูกราชันพระราหูนำไป ขณะเดียวกันก็ยากจะทิ้งร่องรอยให้แก่พวกเรา หากพวกเราไปต่ออาจจะไม่ได้ผลลัพธ์อะไร ความเสี่ยงรังแต่จะเพิ่มขึ้น”

ในนพยมโลกสุดท้ายแล้วก็มีจอมมารอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

จักรพรรดิไร้จำกัดมองเยี่ยนจ้าวเกอและเมิ่งหว่าน “ความหมายของข้าก็คือ กลับโลกซ้อนโลกเพื่อแจ้งสามกษัตริย์ ขอให้พวกเขาตัดสินใจและปรึกษากัน ถึงเวลานั้นถ้าหากต้องเข้ามาค้นหาในนพยมโลก เมื่อมีสามกษัตริย์นำทาง พวกเราก็สามารถเข้าไปในนพยมโลกได้ลึกกว่าเดิม”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วย “ขอบคุณจักรพรรดิไร้จำกัดที่เห็นใจข้าผู้แซ่เยี่ยน ข้าไม่ใช่คนไม่รู้จักหนักเบา การเข้าไปในนพยมดลกโดยไร้ซึ่งเบาะแสใดๆ ไม่แตกต่างจากการส่งแกะเข้าปากเสือ ข้าถึงแม้จะเป็นห่วงภรรยา แต่ตอนนี้ก็ยังคิดหาวิธีไม่ออก คำกล่าวของท่านถือว่าถูกต้องตามหลักเหตุผล ข้าผู้แซ่เยี่ยนไม่มีอะไรต้องโต้แย้ง”

เมิ่งหว่านที่อยู่ด้านข้างก็กล่าวขึ้น “รบกวนท่านให้มาที่นี่ก็ไม่สมควรอยู่แล้ว ทั้งหมดให้ท่านกับท่านพ่อตัดสินใจ ผู้เยาว์ย่อมปฏิบัติตาม”

จักรพรรดิไร้จำกัดว่า “สหายน้อยฟู่เกรงใจแล้ว ครั้งนี้ที่เข้ามาในนพยมโลกได้สิ่งตอบแทนใหญ่หลวงยิ่ง ถ้าไม่ใช่เพราะการเดินทางในครั้งนี้ คงไม่ทราบว่าราชันพระราหูถึงกับทำเรื่องใหญ่ปานนี้”

เขามองจักรพรรดิแพร อีกฝ่ายยิ้ม “ถึงจะน่าเสียดาย แต่ว่าเรื่องราวยากจะเป็นไปดั่งหวังทุกครั้ง คงจะเป็นลิขิตฟ้าแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอกับจักรพรรดิไร้จำกัดได้ยิน สายตาก็เป็นประกายเล็กน้อย มองสลับไปมาระหว่างจักรพรรดิแพรและเมิ่งหว่าน

พวกเขาไม่รั้งอยู่ต่ออีก ออกจากตำหนักมารเปลวเพลิง จากนั้นก็กลับตามเส้นทางเดิม

ขณะเดินทาง เยี่ยนจ้าวเกอสังเกตทิศทางของจักรพรรดิแพรไปด้วย แต่ว่ามองจากตอนนี้ อีกฝ่ายเหมือนเป็นปรกติทุกอย่าง

สิ่งที่ผิดปกติมาจากโลกด้านนอก!

ในตอนที่พวกเยี่ยนจ้าวเกอกลับทางเดิม เดินทางอยู่บนเส้นทางที่จะผละจากนพยมโลก ขณะไปถึงกลางทางก็พลันมีลางสังหรณ์ที่รุนแรงและไม่ชอบมาพากลปรากฏขึ้นในใจของทุกคนอย่างฉับพลัน!

จิตสังหารซ่อนเร้นอยู่ในความมืดไร้สิ้นสุดทุกทิศ

ฉับพลันนั้น กระแสคลื่นยิ่งใหญ่ม้วนพัด พุ่งมาใส่พวกเขา!

สภาวะที่น่าสะพรึงนั้นถึงกับเหนือกว่ายอดฝีมือเซียนจริงแท้ที่ได้ผลักเปิดประตูเซียน

ความคิดแรกที่เกิดในสมองของพวกเยี่ยนจ้าวเกอก็คือ ถืงแม้ว่าจะพยายามเคลื่อนไหวให้เงียบที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังไปสะกิดความสนใจของจอมมารที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าในนพยมโลก

แต่ว่าต่อจากนั้นกลับมีเสียงที่ยิ่งใหญ่สะท้อนขึ้นในอากาศ “ผู้สืบทอดของอิ่นเทียนเซี่ยอยู่ที่ใด ข้าสัมผัสกลิ่นอายของสิบสองวิชาประกายกาฬดั้งเดิมซึ่งมาจากอาวุธเซียนที่อิ่นเทียนเซี่ยได้ทิ้งเอาไว้ชิ้นนั้นได้อย่างชัดเจน”

“กษัตริย์จากโถงเซียน” สีหน้าของจักรพรรดิไร้จำกัดพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด “ไม่ต่ำกว่าหนึ่ง!”

เยี่ยนจ้าวเกอม่านตาค่อยๆ หดตัว ‘กษัตริย์จากโถงเซียนไฉนจึงมาปรากฏตัวที่นพยมโลก พบข้ากับกงจักรมหาประกายกาฬโดยบังเอิญ หรือว่า…’

ความคิดทำงานดุจสายฟ้าแลบ เขาพลันหันไปมองจักรพรรดิ

กลับเห็นจักรพรรดิแพรตีสีหน้าไม่หวั่นไหว กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “กษัตริย์โถงเซียนแม้นแข็งแกร่ง แต่สุดท้ายแล้วก็ยังสู้สามกษัตริย์ของสำนักเต๋าสายหลักของพวกเราไม่ได้ ข้าไม่อาจยืนยันกับศิษย์พี่ลี่ว่าจะชนะได้ แต่ก็น่าจะสู้ได้อยู่ พวกเราไม่ต้องสู้ตัดสิน ใช้ภูมิประเทศของนพยมโลกมาสลัดหลุดจากพวกเขา”

จักรพรรดิไร้จำกัดมองจักรพรรดิแพรอย่างล้ำลึก จากนั้นก็กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว “ไปก่อนค่อยว่ากล่าว!”

เขาม้วนแขนเสื้อสีดำ พาเยี่ยนจ้าวเกอหลบไปอีกทิศทางหนึ่ง

จักรพรรดิแพรก็เคลื่อนไหวอย่างเดียวกัน พาเมิ่งหว่านจากไปอย่างรวดเร็ว

ด้านหลังมีคลื่นคลั่งม้วนพัด เสียงของคนที่สองดังขึ้น “ลี่จวิน ฟู่อวิ๋นฉือ ไม่ต้องทำตัวน่าเกลียดขนาดนั้นก็ได้กระมัง

“พวกท่านมาขวางทาง สมควรเป็นข้าที่ประหลาดใจถึงจะถูกต้อง” จักรพรรดิไร้จำกัดกล่าว “โถงเซียนทำลายข้อตกลงหรือ”

เสียงแรกดังขึ้น “อย่ามาเล่นลิ้น อิ่นเทียนเซี่ยรนหาที่ตายเอง ผู้สืบทอดของเขาไม่อาจได้รับการละเว้น! นี่จึงเป็นข้อตกลง พวกเจ้าวันนี้คิดทำตัวเป็นตั๊กแตนขวางรถ เช่นนั้นก็อย่าโทษพวกเราไม่ไว้หน้าพวกเจ้า!”

จักรพรรดิไร้จำกัดใช้น้ำเสียงเฉื่อยชา “เช่นนั้นได้แต่ล่วงเกินแล้ว”

ขณะที่พูด เขาไม่ได้หยุดเคลื่อนไหว ร่างกลายเป็นรุ้งยาว เคลื่อนไหวในความมืดหลายชั้น จักรพรรดิแพรอยู่ข้างเขา

เยี่ยนจ้าวเกอไม่ถือสาที่ถูกจักรพรรดิไร้จำกัดพาหนี เขาสำรวจจักรพรรดิแพรที่อยู่ด้านข้างไปพลาง มองด้านหลังไปพลาง

ตรงบริเวณนั้น เขาเห็นในมิติที่ก่อนหน้านี้มืดมัวเต็มไปด้วยควันมาร ถึงกับเกิดทรายฟุ้งขึ้นมา

มหาสมุทรยิ่งใหญ่และคลื่นทรายสูงเทียมฟ้าพลิกตัวเหยียดยื่นขึ้นมา ติดตามพวกเยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุด

ด้านบนทะเลทรายมีหงส์อมตะตัวหนึ่งกำลังกระพือปีก มันแตกต่างจากหงส์อมตะเพลิงของสายเนินต้นจักรพรรดิแห่งเขาลีลาหงส์บนโลกซ้อนโลกที่ได้จากการฝึกฝน และเยี่ยนจ้าวเกอรู้จักดี

หงส์อมตะตัวนี้ เป็นหงส์อมตะน้ำแข็ง ร่างกายเล็กจิ๋วของ ถ้าหากยืนอยู่ก็สูงแค่หกฉื่อเท่านั้น

ยามมันกางปีกก็คล้ายกับไม่สะดุดตานัก บินอยู่เหนือทะเลสาบเหมือนมีขนาดเล็กราวกับจุดสีขาวจุดเล็กๆ

แต่ว่าพลังที่ไหลออกมาจาดด้านใน เทียบกับจวงเซินที่อยู่ในขั้นประมุขในหมู่คนแล้ว ยังเหนือกว่าไม่ต่ำกว่าร้อยเท่า

จวงเซินเมื่อเทียบกับอีกฝ่าย เหมือนดั่งเทียนไขเทียบกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์

‘ก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เคยมีคัมภีร์หงส์น้ำแข็งดับสิ้น ซึ่งจักรพรรดิหงส์น้ำแข็งได้ถ่ายทอดเอาไว้” เยี่ยนจ้าวเกอหรี่ตา “สายคัมภีร์หงส์น้ำแข็งดับสิ้นของโถงเซียนในปัจจุบันมียอดฝีมือที่ได้ฉายากษัตริย์ปรากฏขึ้น แม้จะเป็นการสืบทอดของโถงเซียนก็ไม่ธรรมดาอยู่ดี’

กลับเป็นทะเลทรายยิ่งใหญ่นั้น พอเยี่ยนจ้าวเกอนึกย้อน เขาไม่เจอวรยุทธ์การสืบทอดที่ตรงกัน

มีอยู่สองสามนาทีที่เหมือนมีส่วนคล้ายๆ แต่ก็ไม่ใช่อีก

ดูท่าทางมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นวรยุทธ์ที่กำเนิดหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่เหมือนกับสิบสองวิชาประกายกาฬ เป็นผลลัพธ์ของการรังสรรค์สิ่งใหม่หลังจากได้ตกตะกอนภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ

ถึงแม้พื้นฐานของจอมยุทธ์จากโถงเซียนจะอยู่ที่แสงศรัทธา แต่ว่าท้ายที่สุดนี้ก็ยังมีบุคคลที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศ ถึงอย่างไรจำนวนประชากรก็มีให้เห็นชัดเจน

สองฝ่ายท่านไล่ข้าหนี สู้กันไปพลาง เคลื่อนไหวไปพลาง

จักรพรรดิไร้จำกัดกับจักรพรรดิแพรตอนนี้ไม่คิดจะปกปิดร่องรอยอีกแล้ว การต่อสู้ที่ดุเดือดของทั้งสองฝ่ายพลันดึงดูดความสนใจของเหล่ามารในนพยมโลก เริ่มมีมารเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ

สุดท้ายกลิ่นอายที่น่ากลัวเหมือนกันก็มาลอยจากที่ไกลออกไป เสียงคำรามที่น่าสยดสยองสั่นสะเทือนแก้วหูจนแทบฉีกขาด ท้ายที่สุดก็มีจอมมารที่เทียบได้กับยอดฝีมือระดับเซียนในนพยมโลกถูกล่อมา!

ถึงแม้ไม่คิดจะร่วมมือกัน ทว่ายอดฝีมือของโถงเซียนกับจอมมารก็ใช้สภาวะรุมหน้าล้อมหลัง

จอมมารขวางเส้นทางของพวกเยี่ยนจ้าวเกอ กษัตริย์จากโถงเซียนทั้งสองที่ไล่ตามอยู่ด้านหลังพลันฉวยโอกาส

จักรพรรดิไร้จำกัดสะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง ปล่อยเยี่ยนจ้าวเกอ ส่วนจักรพรรดิแพรที่อยู่อีกด้านก็ปล่อยเมิ่งหว่านเหมือนกัน

ทั้งสองเริ่มรวบรวมสมาธิสู้กับอีกฝ่าย เยี่ยนจ้าวเกอพาเมิ่งหว่านถอยหนีไปอีกทาง

การต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างสามฝ่ายพลันก่อกวนเขตมารนพยมโลกตงหน้าจนฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ

………………..