ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 132 ข้ารอท่านมานานแล้ว

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​แสง​ดาบ​ทั้งสอง​ปะทะ​กัน​อย่าง​ดุเดือด​แฝงกลิ่น​อาย​ความ​สยองขวัญ​ไร้​ขอบเขต​ ​ประกาย​แสง​ยัง​ไม่ทัน​ได้​ดับ​ลง​ ​ก็​กลายเป็น​เส้น​แสง​ที่​แหลมคม​ที่สุด​ใน​โลก​ ​วาด​เป็น​เส้นตรง​นับไม่ถ้วน​ใน​ม่าน​รัตติกาล​ ​เรียก​หมู่​เมฆ​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​มาจาก​ระยะไกล​ ​ปกคลุม​ดวงดาว​นับไม่ถ้วน

​ลมพายุ​โหมกระหน่ำ​ ​กิ่งไม้​ใบ​หญ้า​หัก​กระจาย​ แผ่น​ป้ายสี​่​เหลี่ยม​สีดำ​ก็​แตก​ออก​เป็น​เสี่ยง​ๆ​ ​กลายเป็น​ดั่ง​ลูกศร​อัน​น่า​สะพรึง​ ​เสียง​กรีดร้อง​แหลม​สูง​ดัง​อยู่​ทุกหน​แห่ง​ใน​สุสาน​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็นฮู​หยิน​สูงศักดิ์​ผู้​ร่ำไห้​หา​ลูกชาย​หรือว่า​ขุนนาง​ผู้​ด้านชา​ก็​คืนสติ​แล้ว​ ​หนี​ไป​ทั่วทุกสารทิศ​ ​แต่​ก็​ไม่รู้​ว่า​สุดท้าย​แล้ว​ที่​หนี​ออก​ไป​ได้​จะ​เหลืออยู่​กี่​คน

ไม่รู้​ว่า​เวลา​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าใด​ ​ในที่สุด​สายลม​ก็​หยุด​ลง​ ​ดิน​และ​กรวด​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​ตกลง​มารา​วกับ​ห่า​ฝน​ ​และ​แสง​ดาบ​อัน​น่าสะพรึงกลัว​ทั้งสอง​ก็​ไม่เคย​สว่าง​ขึ้น​อีก​เลย

เมฆ​บน​ท้องฟ้า​ยามค่ำคืน​กระจัดกระจาย​ ​แสง​ดวงดาว​ส่องสว่าง​ไป​ทั่ว​สุสาน​ ​ถึง​ได้​พบ​ว่า​เนิน​หญ้า​ใน​ระยะ​ไม่​กี่​ลี้​นั้น​จม​ลึก​ลง​ไป​หลาย​ฉื่อ​!

ใน​ระยะไกล​ ​ดวงจันทร์​ค่อยๆ​ ​ลอย​ขึ้น​เหนือ​ขอบฟ้า

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ยืน​อยู่​บน​จุดสูงสุด​ของ​เนิน​หญ้า​ ​รูปลักษณ์​ยังคง​ดู​เล็ก​เตี้ย​ ​แต่​ภายใต้​แสงจันทร์​เต็มดวง​ที่​ส่อง​สะท้อน​ ​กลับ​ดู​สูงใหญ่​อย่างมาก

หมวก​ที่​มี​คราบ​สนิม​เขียว​แตก​ออกจาก​การสู้​รบ​ ​และ​หล่น​ลง​บน​พื้น​อย่าง​ตามใจ

นาง​ถัก​เปีย​สูง​ตั้ง​ชี้​ขึ้น​ฟ้า​ ​ดูแล​้​วน​่า​ขบขัน​เล็กน้อย​ ​ดูแล​้​วรา​วกับ​เด็กผู้หญิง​นาง​หนึ่ง​ ​แต่​ท่าทาง​ของ​นาง​กลับ​ดูดุ​ดัน​มาก

เส้น​ผม​รอบ​เปียนั​้น​ดู​ยุ่งเหยิง​เล็กน้อย​ ​ผมบาง​เส้น​พลิ้ว​ไป​ตาม​สายลม​ยามค่ำคืน​ ​ดูเหมือน​เป็น​กิ่งไม้​แห้ง​หลังจาก​นก​บินหนี​ไป

หาก​มอง​อย่างละเอียด​ ​น่าจะ​พอ​มองเห็น​ริ้วรอย​ที่​หาง​ตาของ​นาง​ ​และ​ยัง​มี​ผมหงอก​เล็กน้อย

หวังผ​้​ออยู​่​ด้านล่าง​ ​มีบาด​แผล​บาง​มาก​ที่​คอ​ข้าง​ซ้าย​ ​และ​มี​เลือด​ไหล​ออกมา​จาก​ตรงนั้น

หาก​ดาบ​ของ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ใกล้​เข้ามา​อีก​หนึ่ง​ชุ​่น​ ​ศีรษะ​ของ​เขา​คง​ร่วง​ลงมา​ฟัน​เหมือน​ผล​สุก

เมื่อม​อง​ไป​ที่​ร่าง​เล็ก​เตี้ย​บน​ยอด​เนิน​หญ้า​นั้น​ ​หวังผ​้​อก​็​เงียบ​จน​พูดไม่ออก

ใคร​เลย​จะ​คาดคิด​ ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ผู้​ทรงพลัง​และ​น่าสะพรึงกลัว​เช่นนี้​กลับเป็น​สตรี​นาง​หนึ่ง

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​หันกลับ​มา​พูด​กับ​หวังผ​้​อว​่า​ ​“​ต่อไป​เจ้า​อาจจะ​แข็งแกร่ง​กว่า​ข้า​ ​แต่​ตอนนี้​ยัง​เทียบ​ข้า​ไม่​ติด​”

ตอนที่​พูด​ประโยค​นี้​ ​ท่าทาง​ของ​นาง​ไม่แยแส​และ​เย็นชา​ ​ไม่มี​อารมณ์​ใดๆ​ ​เพราะ​มัน​เป็น​เพียง​การชี้แจง​แสดง​เรื่อง​เท่านั้น

หวังผ​้​อพูด​ว่า​ ​“​ใช่​ ​ข้า​กับ​ท่าน​ยัง​ห่าง​กัน​อยู่​ช่วง​หนึ่ง​”

เขา​ไม่ได้​ปิดบัง​ความเคารพ​ต่อย​อด​ฝีมือ​อันดับ​หนึ่ง​ของ​เผ่า​มาร

หน้า​เทือกเขานั​่​วรื​่อ​หลั่ง​และ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​การปะทะ​ดาบ​กัน​สองครั​้ง​ของ​หวังผ​้อ​และ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มารถือ​ได้​ว่า​เป็น​สอง​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​ที่สุด​ใน​สงคราม​ครั้งนี้​

ใน​การ​เผชิญหน้า​กัน​สองครั​้ง​นี้​ ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​มักจะ​กด​เขา​ไว้​เสี้ยว​หนึ่ง

ถึงแม้​จะ​เป็น​เสี้ยว​บาง​ๆ​ ​แต่​ก็​เป็น​เหมือน​คูน้ำ​ที่​ผ่าน​ไม่ได้

การ​เผชิญหน้า​กัน​ครั้งสุดท้าย​ใน​คืนนี้​ ​หวังผ​้อ​ได้รับ​ชัยชนะ​ ​เป็น​เพราะ​อาการ​บาดเจ็บ​ของ​นาง​สาหัส​กว่า​เขา​มาก

เมื่อ​ไม่​กี่​วันก่อน​หน้า​นี้​ ​เซียว​จาง​ใช้​ทวนน้ำ​ค้าง​เทพ​ทิ้ง​รู​เลือด​ไว้​ที่​หน้าอก​ของ​นาง​ ​จนกระทั่ง​คืนนี้​ก็​ยัง​ไม่​หาย​ดีดัง​เดิม

หวังผ​้​อพู​ดกับ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ว่า​ ​“​ผู้อาวุโส​ ​โปรด​บอก​ข้า​เถิด​ว่า​คน​ชุด​ดำ​อยู่​ที่ใด​”

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​พูดว่า​ ​“​อาศัย​อะไร​มา​ให้​ข้า​ต้อง​บอก​เจ้า​”

หวังผ​้​อพูด​ว่า​ ​“​แท่นบูชา​นี้​เห็นได้ชัด​ว่า​เป็น​หมาก​ลวง​ ​คน​ชุด​ดำ​ทำให้​เผ่า​มาร​มี​จุดจบ​เช่นนี้​ ​ท่าน​ไม่​เกลียด​เขา​หรือ​”

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​พูด​พร้อม​หัวเราะ​อย่าง​บ้าคลั่ง​ ​“​ฮ่า​ฮ่า​ฮ่า​ฮ่า​!​ ​สัตว์​ตัวผู้​เช่น​พวก​เจ้า​ดูถูก​สตรี​อย่าง​พวก​ข้า​เสมอ​ ​ไหน​เลย​จะ​รู้​ว่า​กุนซือ​ยิ่งใหญ่​แค่ไหน​ ​นาง​ฆ่า​กระทั่ง​พี่ใหญ่​ที่​พวก​ข้า​ไม่กล้า​ยุ่ง​จนตาย​ ​เล่น​กับ​คน​ทั้ง​ทวีป​มา​หลาย​ร้อย​ปี​ ​ข้า​จะ​เกลียด​นาง​ได้​อย่างไร​กัน​ ​ข้ามี​แต่​จะ​เลื่อมใส​บูชา​นาง​ต่างหาก​”

หวังผ​้อ​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​พูด​สิ่งใด

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​หมุน​กาย​กลับ​ไป​มอง​ดวงจันทร์​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป

ขณะที่​หวังผ​้อ​คิด​ว่านาง​จะ​ขับ​เพลง​กลอน​บท​หนึ่ง​ ​ทันใดนั้น​ก็ได้​ยิน​เสียง​นาง​สบถ​ขึ้น​มา

“​พวก​ปัญญาอ่อน​”

ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​พูด​ด้วย​ใบหน้า​รังเกียจ​ว่า​ ​“​คิด​เรียนรู้​จาก​เผ่า​มนุษย์​ ​อยาก​จะ​ใช้​ละออง​ดวงดาว​เข้ามา​แทนที่​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​ ​มัน​ไหน​เลย​จะ​ดีกว่า​แสงจันทร์​!​ ​กระบี่​ดารา​กางเขน​ใต้​อะไร​กัน​ ​แค่​ได้ยิน​ชื่อ​ก็​ว่า​โง่​จะ​ตาย​แล้ว​ ​ฮึ​!​”

เสียง​หยิ่งผยอง​ดัง​ขึ้น​ครา​หนึ่ง

เงา​ร่าง​เล็ก​นั่น​พลัน​แยก​ออกจาก​กัน​ก่อนที่​จันทร์เต็ม​ดวง

เลือด​สีทอง​โปรย​ลงมา​ทั่ว​ฟ้า​ ​ดูรา​วกั​บก​ลีบ​บุปผา​ ​ปกคลุม​ไป​ทั้ง​เนิน​หญ้า

……

……

เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​เปลวเพลิง​มารค​ล้า​ยมี​คล้าย​ไม่มี​ ​ที่ตั้ง​ของ​สุสาน​นั้น​ชัดเจน​มาก​ ​เพราะ​ที่นั่น​มืด​มาก

ทันใดนั้น​ ​ประกาย​แสง​ที่​บาง​มาก​สอง​สาย​ก็​ปรากฏ​ขึ้น​ใน​พื้นที่​มืดมิด​แห่ง​นั้น​ ​แล้ว​ค่อยๆ​ ​ดับ​ลง

ทุกคน​ต่าง​มอง​ไป​ยัง​บางแห่ง​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​จึง​เห็น​แสงสีทอง​ส่องสว่าง​ใน​รัตติกาล

เมื่อ​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​ผู้คุม​กฎ​เผ่า​มาร​ตาย​ไป​ ​ฟ้า​ดิน​ย่อม​ต้อง​มี​ปฏิกิริยา​ตอบสนอง​ ​ทุกคน​ใน​วัง​มาร​ต่าง​สัมผัส​ได้​ ​และ​อด​ไม่ได้​ที่จะ​นิ่ง​ขรึม​ลง

“​นาง​เป็น​ท่าน​ป้า​ของ​ข้า​ ​เป็น​สตรีที​่​น่าทึ่ง​คน​หนึ่ง​…​อ้อ​ ​ตัวนาง​ก็​ไม่​ค่อย​สูง​เท่าใด​นัก​”

ราชา​มาร​มอง​ไป​ยัง​หนาน​เค​่​อพูด​ด้วย​ความเสียใจ​ว่า​ ​“​เดิมที​อาจารย์​และ​ข้า​หวัง​ว่า​ต่อไป​ในอนาคต​เจ้า​จะ​เป็น​นาง​คนที​่​สอง​ ​แต่ว่า​เจ้า​ไร้เดียงสา​เกินไป​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​เจ้า​จะ​โดน​เสด็จ​พ่อ​หลอก​ให้​ลง​ไป​ห้วง​ลึก​ได้​”

หลังจาก​หนาน​เค​่อ​ตาม​เฉิน​ฉาง​เซิง​และ​คนอื่นๆ​ ​เข้ามา​ใน​ตำหนัก​มาร​ ​ตลอดมา​ก็​ไม่ได้​พูด​คำ​ใด​เลย​ ​ท่าทาง​ทำ​อะไร​ไม่​ถูก​ ​เป็น​เหมือน​สัตว์ร้าย​ตัวเล็ก​ๆ​ ​ที่​ไม่​สามารถ​หาบ​้าน​ได้​หลังจาก​ได้รับบาดเจ็บ

ราชา​มาร​ขจัด​อารมณ์​เศร้า​ของ​เขา​อย่างรวดเร็ว​ ​มองดู​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่างสงบ​แล้ว​พูดว่า​ ​“​แท่นบูชา​ถูก​ทำลาย​แล้ว​ ​ข้อตกลง​เสร็จสิ้น​แล้ว​ ​ข้า​ไป​ได้​แล้ว​ใช่​หรือไม่​”

ทุกคน​ตรงนี้​รู้ดี​ว่า​ ​คำ​ว่า​ไป​ใน​ประโยค​นี้​ของ​เขา​ไม่ใช่​ไป​ที่หมาย​ถึง​ไป​จริงๆ​ ​แต่​เป็น​อีก​ความหมาย​หนึ่ง

เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่ได้​รับคำ​ ​มอง​ไป​ยัง​ราชา​มาร​ ​และ​พูด​อย่างจริงจัง​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​ควรจะ​ชื่นชม​ท่าน​หรือ​เห็นใจ​ท่าน​”

ประโยค​นี้​ไม่ได้​พูดถึง​การ​ไป​ ​และ​ก็​ไม่ใช่​การยอมจำนน​ ​แต่ว่า​พูดถึง​ความรู้สึก​ของ​ราชา​มาร​ช่วง​หลาย​วันที่​ผ่าน​มา

ทหาร​เผ่า​มนุษย์​เข้ามา​ใน​เมือง​ ​ที่สุด​แล้ว​เผ่า​มารค​วรทำ​อย่างไร​ ​ยอมรับ​อย่าง​เงียบๆ​ ​หรือ​ฝ่าฝืน​กฎ​ของ​บรรพบุรุษ​เพื่อ​ต่อสู้​อย่าง​บ้าคลั่ง​เป็น​ครั้งสุดท้าย

เชื่อ​ว่า​ช่วง​หลาย​วัน​มานี​้​ราชา​มาร​ต้อง​รู้สึก​เจ็บปวด​มาก​เป็นแน่

……

……

“​เขา​ไม่​เจ็บปวด​สักนิด​”

ทันใดนั้น​มีเสียง​หนึ่ง​ดัง​ขึ้น​มา​ใน​ตำหนัก​มาร​ ​แต่​ฟัง​ไม่ชัด​เจน​ว่า​ดัง​มาจาก​ที่ใด

“​หลาย​ปีก่อน​ ​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​โดน​ล้อม​โดย​เด็ก​สกุล​เจี​้ย​ ​ข้า​แนะนำ​ให้​สร้าง​แท่นบูชา​ ​ใช้​พิฆาต​ดวงดาว​เปิด​เส้นทาง​มิติ​อีกครั้ง​ ​สิง​ซาน​ตง​กลับ​ไม่เห็นด้วย​ ​ฝ่า​บาท​ก็​เหมือนกับ​บิดา​ของ​เขา​ ​ดังนั้น​เขา​ไม่ได้​เจ็บปวด​ด้วยซ้ำ​ ​เขา​กระทั่ง​มีความสุข​ชนิด​หนึ่ง​จาก​สาเหตุ​นั้น​”

เสียง​นั้น​หาย​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​ก่อน​จะ​ดัง​ขึ้น​มา​อีกครั้ง

“​ข้า​ไม่เคย​รับรู้​ถึง​เทพเจ้า​องค์​นั้น​ ​ข้า​จึง​ไม่เข้าใจ​ความกลัว​ของ​พวกเขา​ ​การแสวง​หา​อิสรภาพ​ที่​เรียกว่า​ความหวาดระแวง​ ​ท้ายที่สุด​มาจาก​ที่ใด​กัน​แน่​”

เสียง​นั้น​ไพเราะ​มาก​ ​เหมือน​น้ำพุ​ที่​ไหล​ลง​ไป​ใน​สระ​อัน​เงียบสงบ​ ​และ​เหมือน​สายพิณ​ที่​ดีด​ด้วย​ปลายนิ้ว​ ​และ​มือ​นั้น​ต้อง​งดงาม​มาก

เปลวไฟ​มาร​สีดำ​หมุน​โคจร​อีกครั้ง​ ​ราวกับ​ต้นไม้​ตายซาก​ที่​เติบโต​ใน​หนองน้ำ​ ​ค่อยๆ​ ​เผย​ให้​เห็น​มุม​หนึ่ง​ของ​เสื้อผ้า

เสื้อผ้า​นั้น​ก็​ยัง​เป็น​สีดำ

เปลวไฟ​มาร​ใน​ตำนาน​ที่สามา​รถ​เผาไหม้​ทุกสิ่ง​ใน​โลก​ได้​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​ไม่​สามารถ​เผา​เสื้อ​ตัว​นั้น​ได้

นั่น​ก็​คือ​เสื้อคลุม​สีดำ​ชุด​หนึ่ง

ที่แท้​เขา​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​ห้วง​ลึก​หลัง​เปลวไฟ​มาร​ ​ไม่​แปลกใจ​เลย​ที่​กองทัพ​มนุษย์​จะ​ไม่​พบ​ร่องรอย​ของ​เขา​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า

ทันใดนั้น​จี๊ด​จี๊ด​ก็​พูด​ขึ้น​ว่า​ ​“​พวกเขา​ต่าง​พูดว่า​เสียง​ของ​เจ้า​ไม่น่าฟัง​สักนิด​ ​ดูท่า​แล้ว​จะ​เป็นการ​ถ่ายทอด​ที่​ผิด​”

ใน​เวลา​แบบนี้​ยัง​กังวลใจ​กับ​ปัญหา​นี้​ ​คง​พูด​ได้​เพียง​ว่า​กระบวนการ​คิด​ของ​นาง​แตกต่าง​กับ​ผู้คน​อยู่​บ้าง

ท่าน​ปู่​ถัง​พูดว่า​ ​“​นี่​ถึง​จะ​เป็น​เสียง​ที่แท้​จริง​ของ​นาง​”

มอง​ไป​ยัง​คน​ชุด​ดำ​ ​เป็น​เขา​จริงๆ​ ​แววตา​พลัน​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย​ ​น้ำ​ใน​บ่อ​ทำ​เกิด​ระลอกคลื่น

คน​ชุด​ดำ​เมิน​พวกเขา​ ​มอง​ไป​ยัง​ราชา​มาร​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ถึงแม้ว่า​หนาน​เค​่อ​จะ​เป็น​ลูกศิษย์​ข้า​ ​แต่​ที่ผ่านมา​เจ้า​ก็​มักจะ​ปฏิบัติ​ต่อ​ข้า​เหมือน​เป็น​อาจารย์​ ​และ​ข้า​ก็​มีความรู้สึก​สงสาร​แบบ​หา​ได้​ยาก​ต่อ​เจ้า​ส่วนหนึ่ง​ ​น่าเสียดาย​ที่​หลังจาก​ดิ้นรน​มา​หลาย​วัน​ระหว่าง​การทำลายล้าง​เผ่าพันธุ์​และ​การฝึกฝน​ของ​บรรพบุรุษ​ ​สุดท้าย​แล้ว​เจ้า​ก็​ยัง​ไม่​อยาก​ฟัง​ความเห็น​ของ​ข้า​”

ราชา​มาร​เงียบ​ไป​ครู่หนึ่ง​ ​พูดว่า​ ​“​นั่น​เป็น​เพราะ​ข้า​รัก​ท่าน​ ​ข้า​ไม่ต้องการ​ให้ท่า​นน​่า​เกลียด​ไปมา​กก​ว่านี​้​”

เมื่อ​ได้ยิน​ประโยค​นี้​ ​ทุกคน​ต่าง​ก็​ตะลึง​ ​ไม่รู้​ว่า​คำ​ที่​เขา​พูด​นั้น​เกี่ยวกับ​ความเคารพ​รัก​อาจารย์​ ​หรือว่า​…

ราชา​มาร​มอง​ไป​ยัง​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​ยิ้ม​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​ก็​รัก​เจ้า​เช่นกัน​”

เมื่อ​พูดถึง​เหตุการณ์​ที่​โด่งดัง​และ​น่าตื่นเต้น​ที่สุด​ระหว่าง​ชาย​หญิง​ใน​ดินแดน​ต้า​ลู่​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​ ​กระทั่ง​เปรียบ​ได้​กับ​จดหมาย​สมรส​ที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​หยิบ​ออกมา​ใน​งานการ​ชุมนุม​ไม้เลื้อย​ ​ก็​น่าจะเป็น​คำประกาศ​ให้​ทั่วทั้ง​ดินแดน​ต้า​ลู่​ได้รับ​รู้​ของ​ราชา​มาร​เมื่อ​ตอนที่​เขา​ยัง​เป็น​วัยรุ่น​…ข้า​ต้องการ​สวี​โหย​่ว​หร​งมาก​ๆ

ตลอดเวลา​ที่อยู่​ใน​วัง​มารคื​นนี​้​สวี​โหย​่ว​หรง​เงียบ​มาโดยตลอด​ ​ราชา​มาร​ก็​ไม่ได้​พูด​คำ​ใด​กับ​นาง​ ​หลาย​คน​เคย​คิด​ว่า​ข่าวลือ​ก็​เป็น​เพียงแค่​ข่าวลือ​ ​ประโยค​นั้น​ไม่​เป็นความ​จริง​เสีย​แล้วการบุก​รุก​ทางใต้​ของกอง​ทัพ​เผ่า​มาร​ใน​ปี​แรก​ของ​ยุคสมัย​ใหม่​ ​เป็น​เพียง​การ​ปกปิด​จุดอ่อน​ของ​เผ่า​มาร​เท่านั้น​ ​ไม่ใช่​เพราะ​ราชา​มาร​ต้องการ​ไป​สู่ขอ​สวี​โหย​่ว​หรง​จริงๆ​

หลังจากนั้น​ ​พวกเขา​ก็ได้​ยิน​ประโยค​นี้

เฉิน​ฉาง​เซิง​ไม่ได้​ขัดจังหวะ​ราชา​มาร​ ​กระทั่ง​ไม่​โกรธ​ด้วยซ้ำ

ใน​สายตา​ของ​เขา​ ​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​ที่​สมเหตุสมผล​มา​อย่างแน่นอน

บุคคล​ที่​ยอดเยี่ยม​อย่าง​ราชา​มาร​ ​จะ​ไม่​ชอบ​โหย​่ว​หรง​ได้​อย่างไร​กัน

“​แต่​ข้า​รัก​ท่าน​กุนซือ​มากกว่า​ ​เพราะ​ท่าน​กุนซือ​เป็น​คน​ประหลาด​”

ราชา​มาร​มอง​ไป​ยัง​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​แฝง​เจตนา​ขออภัย​ ​และ​อธิบาย​อย่างจริงจัง​ ​“​ข้า​ก็​เป็น​คน​ประหลาด​เช่นกัน​ ​รู้สึก​ว่า​เมื่อ​อยู่​กับ​คน​ประหลาด​ด้วยกัน​จะ​มีพลัง​มากขึ้น​”

“​ขอบคุณ​ ​ข้า​นึก​ว่า​เจ้า​จะ​ไม่​พูดเสีย​แล้ว​”

เสียง​ของ​คน​ชุด​ดำ​ยังคง​ไพเราะ​เช่นนั้น​ ​สง่างาม​อย่าง​ไม่​ตั้งใจ​ ​และ​มีเสน่ห์​ใน​ตัว​ของ​มัน​เอง

ราชา​มาร​พูดว่า​ ​“​มัน​ใกล้​จบ​แล้ว​ ​ข้า​ต้อง​พูด​สิ่ง​ที่​ข้า​อยาก​พูด​ออกมา​”

“​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่จะ​จบ​”

คน​ชุด​ดำ​มอง​เขา​และ​พูด​อย่าง​น่าสงสาร​ว่า​ ​“​ขนาด​สิง​ซาน​ตง​ยัง​ไม่รู้​ความคิด​ที่แท้​จริง​ของ​ข้า​ ​แล้ว​เจ้า​จะ​รู้​ได้​อย่างไร​กัน​”

ราชา​มาร​ยิ้ม​อย่าง​ขมขื่น​แล้ว​พูดว่า​ ​“​ข้า​นำ​พิฆาต​ดวงดาว​ให้​พวกเขา​แล้ว​”

“​สิ่ง​นั้น​อยู่​ใน​มือ​ข้า​”

ท่าน​ปู่​ถัง​พูด​กับ​คน​ชุด​ดำ​ว่า​ ​“​ใน​ปีนั​้น​แม้ว่า​เจ้า​ต้องการ​ดวงดาว​ ​คนในลั​่ว​หยาง​ต่าง​ก็​เต็มใจ​ที่จะ​หยิบ​มัน​ให้​เจ้า​ ​แต่​น่าเสียดาย​ที่​ตอนนี้​มัน​ไม่ใช่​ปีนั​้น​แล้ว​”

ความหมาย​ของ​ประโยค​นี้​ชัดเจน​มาก​ ​ไม่ว่า​ใน​กรณี​ใด​ ​เขา​จะ​ไม่​นำ​พิฆาต​ดวงดาว​ให้​แก่​เขา

คน​ชุด​ดำ​มอง​ไป​ยัง​เขา​ยิ้ม​หยัน​เล็ก​ๆ​ ​แล้ว​พูดว่า​ ​“ณ​ ​ตอนนั้น​ ​ไม่มี​ตัวละคร​เล็ก​ๆ​ ​เช่น​ท่าน​และ​ซาง​สิง​โจว​อยู่​ใน​สายตา​ข้า​”

ท่าน​ปู่​ถัง​พูด​ด้วย​อารมณ์​ว่า​ ​“​ใช่​สิ​ ​ตอนนั้น​เจ้า​เป็น​คนที​่​งดงาม​สว่างไสว​ที่สุด​ในเวลานั้น​”

น้ำเสียง​ของ​คน​ชุด​ดำ​แก้ไข​อย่างจริงจัง​ ​“​ไม่เพียงแต่​ใน​ตอนนั้น​ ​แต่​จนถึง​ตอนนี้​ ​เขา​ก็​ยัง​เป็น​คนที​่​งดงาม​สว่างไสว​ที่สุด​”

ท่าน​ปู่​ถัง​พูดว่า​ ​“​แต่​ถึงแม้​เขา​จะ​ฟื้นคืนชีพ​ขึ้น​มา​ ​ก็​ไม่มีทาง​พราก​สิ่ง​นั้น​ไป​จาก​ข้า​ได้​”

ไม่รู้​ว่า​พิฆาต​ดวงดาว​ถูก​เขา​ซ่อน​ไว้​ที่ใด​ ​บางที​บน​ร่าง​ของ​เขา​อาจะ​มี​ศาสตรา​ช่องว่าง​มิติ​พิเศษ​ก็​เป็นได้

ริมฝีปาก​ของ​คน​ชุด​ดำ​มี​ความ​ประชดประชัน​มากขึ้น​ ​“​ใคร​บอกว่า​ข้า​อยากได้​พิฆาต​ดวงดาว​กัน​”

ราชา​มาร​พูด​ ​“​ท่าน​เคย​บอก​กับ​ข้า​ ​ตำแหน่ง​นั้น​ตรงกัน​ ​แต่ว่า​ดินแดน​นี้​ของ​ข้า​จะ​เคลื่อน​โคจร​ตาม​มหาสมุทร​ดวงดาว​อยู่​ตลอด​”

เมื่อ​ได้ยิน​คำพูด​เหล่านี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​นึกถึง​บันทึก​ของ​หวัง​จือ​เช่อ​และ​ภาพ​เหล่านั้น​ที่​คิด​คำนวณ​ออกมา​ได้​ใน​สุสาน​เทียน​ซู

ราชา​มาร​พูด​ต่อว่า​ ​“​แม้ว่า​ท่าน​จะ​ใช้​แท่นบูชา​เพื่อ​ส่งข่าว​ ​แต่​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ก็​ไม่​สามารถ​ระบุ​ตำแหน่ง​ของ​พวกเรา​ได้​ ​เช่นนั้น​จะ​เปิด​เส้นทาง​ได้​อย่างไร​”

ความหมาย​ของ​ประโยค​นี้​ดู​ซับซ้อน​ ​แต่​ความจริง​แล้ว​เรียบง่าย​และ​ชัดเจน​มาก

เมื่อ​ท่าน​ยืน​อยู่​บน​ทุ่งหญ้า​และ​ได้ยิน​ใคร​บางคน​เรียกหา​ท่าน​ ​ท่าน​สามารถ​ระบุ​ได้​คร่าวๆ​ ​ว่า​เสียง​นั้น​มาจาก​ทิศทาง​ใด​ ​แต่​ท่าน​จะ​ไม่​สามารถ​ระบุ​ตำแหน่ง​เฉพาะ​จง​เจาะ​ของ​อีก​ฝ่าย​ได้

เว้นเสียแต่​ท่าน​จะ​ติดต่อ​กับ​อีก​ฝ่าย​เรื่อยๆ​ ​ให้​ค่อยๆ​ ​การแลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​อย่างต่อเนื่อง​ ​ค่อยๆ​ ​จำกัด​ขอบเขต​ลง​ทีละน้อย​ ​จนกว่า​จะ​พบ​อีก​ฝ่าย​หนึ่ง

ไม่มี​พิฆาต​ดวงดาว​ ​คน​ชุด​ดำ​จะ​รักษา​สายสัมพันธ์​ที่มั่น​คง​ระหว่าง​สอง​ดินแดน​ใน​ช่วงเวลา​นั้น​ได้​อย่างไร

คน​ชุด​ดำ​พูด​ ​“​ข้า​พูด​แล้ว​ ​ข้า​ไม่ต้องการ​พิฆาต​ดวงดาว​”

ราชา​มาร​พูดว่า​ ​“​นี่​เป็นไปไม่ได้​ ​คัมภีร์​ทั้งหมด​บันทึก​ไว้​อย่างชัดเจน​ ​นี่​เป็น​วิธี​เดียว​ที่จะ​เปิด​เส้นทาง​มิติ​ ​นี่​เป็น​เพียง​หนทาง​เดียว​”

คน​ชุด​ดำ​พูดว่า​ ​“​ข้า​รู้​ว่า​มี​วิธี​หนึ่ง​สามารถ​ทำให้​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ระบุ​ตำแหน่ง​ของ​พวกเรา​ได้​อย่างถูกต้อง​”

ราชา​มาร​พูด​อย่างตกใจ​ว่า​ ​“​วิธี​ใด​กัน​”

คน​ชุด​ดำ​มอง​ไป​ทาง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​พูดว่า​ ​“ข้า​รอท่า​นมา​นาน​แล้ว​”