ตอนที่ 1358: การขี่กระบี่

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1358: การขี่กระบี่

เจี้ยนเฉินได้เก็บต้นไผ่มามากมายจากโลกจิ๋วหยานหวง การกลั่นสามารถกลั่นได้เพียงหยดเดียวของน้ำหล่อเลี้ยงจากต้นไผ่หนึ่งต้น ดังนั้นเขาจึงต้องใช้หลายต้นเพื่อกลั่นออกมาหลายหยด มันมีไม่ค่อยมากมายนัก

เจี้ยนเฉินปฏิบัติต่อไผ่จิตวิญญาณม่วงเป็นอย่างดี เนื่องจากมันเป็นของที่มีค่า ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าวิญญาณของเขาอ่อนแอลงหลังจากจิตวิญญาณกระบี่ได้แยกจากไป เขาก็คงจะอยู่สภาพปกติแล้วตอนนี้ เขาจะไม่มีวันเสียไม้ไผ่ที่มีค่านี้ไปอย่างง่าย ๆ แน่นอน

เจี้ยนเฉินกลั่นหยดของน้ำหล่อเลี้ยงจากไม้ไผ่ 1 ต้นผ่านวิธีที่เขาได้เรียนรู้มาจากจิตวิญญาณกระบี่ มันปล่อยแสงสีม่วงบาง ๆ ในขณะที่พลังงานพิศวงได้ไหลพล่านอยู่ภายใน มันเป็นพลังงานที่น่าอัศจรรย์ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณได้

เจี้ยนเฉินหยดน้ำหล่อเลี้ยงไปที่ศูนย์กลางคิ้วของเขา ทันทีที่มันสัมผัสกับผิวของเขา มันหลอมรวมกับผิวที่มันสัมผัส กลายเป็นพลังงานสะอาดที่ซึมผ่านวิญญาณของเจี้ยนเฉิน

หยดน้ำหล่อเลี้ยงมีผลกระทบอย่างมากมาย วิญญาณที่เปราะบางของเจี้ยนเฉินได้รับการรักษาในอัตราที่น่าเหลือเชื่อ ความรู้สึกสบายที่เติมเต็มเข้าไปในส่วนลึกของวิญญาณ มันเป็นความพอใจอย่างมากและเจี้ยนเฉิน ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาว

เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ปิดตาลงขณะที่เขานั่งลงกับพื้น เขาเมาความรู้สึกสบายนี้ขณะที่มันเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณของเขา ไม่เพียงแต่วิญญาณของเขาได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว แต่ยังรวมเป็นหนึ่งมากกว่าเดิมและยังทำให้แข็งแกร่งกว่าเดิมอีกด้วย

ผ่านไปครึ่งวัน ผลของน้ำหล่อเลี้ยงค่อย ๆ หายไป วิญญาณของเจี้ยนเฉินได้รับการฟื้นฟูในปริมาณมาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด แต่ถึงกระนั้น เขาก็รู้สึกว่าวิญญาณของเขาตอนนี้ได้แข็งแกร่งกว่าแต่ก่อนมาก

ถ้าจะอธิบายว่าก่อนหน้านี้วิญญาณของเขาเหมือนกับดินที่อยู่เต็มมือ ตอนนี้วิญญาณของเขาก็เหมือนกับหินที่มีขนาดเท่ากับไข่ ขนาดของมันแตกต่างกันมาก และมันก็ทนทานกว่าแต่ก่อนมาก

เจี้ยนเฉินดีใจมาก แต่เดิมเขาคิดว่าเขาจำเป็นต้องใช้ต้นไผ่หลายต้นในการฟื้นฟูเต็มที่ เขาไม่เคยคาดคิดว่าเพียงแค่ต้นไผ่ต้นเดียวจะสามารถฟื้นฟูได้มากเช่นนี้และเขาแปลกใจกับผลลัพธ์ที่ทรงพลังนี้

โดยไม่ลังเล เจี้ยนเฉินเริ่มกลั่นหยดน้ำเลี้ยงที่สองต่อ

วันต่อมา วิญญาณของเจี้ยนเฉินก็อยู่ในสภาพสูงสุด เพียงแค่ 2 หยดก็เพียงพอที่จะทำให้วิญญาณของเขาแข็งแกร่งหลายเท่า การรับรู้ของเขาสามารถปกคลุมรัศมีกว่า 2 แสนกิโลเมตร นี่เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการมาก ๆ

สิ่งนี้กลายเป็นข้อกำหนดก้อนโตของความแข็งแกร่งที่ต้องเหมาะกับวิญญาณของเขา

“วิญญาณของข้าได้ไปถึงจุดสูงสุดของเซียนจักรพรรดิ ไม่ก็อาจจะเหนือกว่าเซียนจักรพรรดิก็ได้” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง

เขาตีกระบี่เสร็จสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่เขาจะใช้วิถีกระบี่ได้มากกว่าแต่ก่อน แต่เขายังสามารถรับรู้ทักษะกระบี่ที่ทรงพลังได้อย่างมากมายเช่นกัน รวมกับการที่วิญญาณได้เพิ่มความแข็งแกร่งของเขา ยังมีใครบนโลกนี้อีกไหมที่จะเป็นศัตรูกับเขาได้ถ้าไม่รวมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตดั้งเดิม

“นายท่าน ท่านอาจจะตีกระบี่ได้ก็จริง แต่พวกมันยังไม่ได้กลายเป็นอาวุธโชคชะตาของท่าน ทันทีที่พวกมันกลายเป็นอาวุธโชคชะตา ไม่เพียงแต่ท่านจะสามารถเข้าใจวิถีกระบี่ได้อย่างต่อเนื่อง แต่พลังของกระบี่ยังจะเพิ่มมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม มันต้องใช้เวลา มันต้องการเจ้านายที่หลอมรวมจิตใจของท่านเข้ากับกระบี่ มันยังลำบากใจอยู่ตอนนี้ เจ้านาย เราจะสอนท่านถึงทักษะกระบี่พื้นฐานส่วนใหญ่ก่อนแล้วกัน”

หลังจากตีกระบี่เสร็จ เจี้ยนเฉินเริ่มก้าวเดินอย่างเป็นทางการในเส้นทางฝึกฝนของวิถีกระบี่ จือหยิงและ ฉิงโซวเริ่มส่งต่อทักษะกระบี่มากมายให้กับเขาเหมือนกับอาจารย์ ชี้นำเจี้ยนเฉินในทิศทางที่ถูกต้องบนวิถีกระบี่ นี่จะทำให้เจี้ยนเฉินก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมากกว่าเขารู้สึกถึงมันเอง นี่เป็นข้อมูลที่จะทำให้เขาหลีกเลี่ยงการบิดเบือนที่ไม่จำเป็นตลอดเส้นทางนี้

จือหยิงและฉิงดซวเป็นเพียงจิตวิญญาณกระบี่ แต่พวกเขามีตัวตนมายาวนาน พวกเขารู้เรื่องต่าง ๆ มากมายเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญสูงสุดบนวิถีกระบี่ พวกเขามีประสบการณ์มากมายและยังสามารถรับมือกับเรื่องยาก ๆ หรือสิ่งที่เจี้ยนเฉินไม่เข้าใจ

” วิถีกระบี่ มันเข้มข้นและลึกซึ้งมาก มันต้องใช้เวลานานในการเข้าใจ ข้าไปถึงแค่พื้นฐานของมันซึ่งอยู่แค่ต้นกำเนิดกระบี่ ยังมีจิตวิญญาณกระบี่ อมตะกระบี่ ปราชญ์กระบี่ และเทพกระบี่อยู่ ข้ายังห่างไกล” เจี้ยนเฉิน ถอนหายใจ ดูเหมือนเขาจะไปเจอกับโลกใหม่ที่อยู่ต่อหน้าเขา

ทันใดนั้นเจี้ยนเฉินก่อมือของเขาขึ้น กระบี่จือหยิงเริ่มสร้างเสียงก้องขณะที่มันบินเข้าไปในอากาศจากหลังของเขา มันยาว 10 เมตรและกว้าง 1 เมตร มันแผ่แสงสีม่วงซึ่งปกคลุมใบมีดเอาไว้

เจี้ยนเฉินกระโดดขึ้นและก้าวลงบนกระบี่ที่ขยาย จากนั้นเขาก็เปลี่ยนท่ามือและกระบี่จือหยิงก็ยิ่งแสงสีม่วงออกไปทันที ออกจากถ้ำไปอย่างรวดเร็ว เขาหายไปจากขอบฟ้าเพียงช่วงเวลาเดียว การเดินทางนี้รวดเร็วกว่าทักษะมายาพริบตาของเจี้ยนเฉินมาก

การขี่กระบี่เป็น 1 ในทักษะกระบี่ที่จือหยิงส่งต่อให้กับเจี้ยนเฉิน มันเป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานของผู้ฝึกฝนกระบี่ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงเข้าใจมันได้อย่างรวดเร็ว

จือหยิงดูเหมือนจะกลายเป็นชั้นแสง แต่มันดูเหมือนจะเป็นสายฟ้าสีม่วงขณะที่มันยิงผ่านอาณาจักรทะเลไป มันเร็วมากจนเซียนราชาไม่สามารถมองมันทันได้ เจี้ยนเฉินยืนอยู่บนกระบี่ขณะที่เสื้อผ้าของเขาปลิวไปกับสายลม เขาแสดงท่าทีที่ไม่สามารถอธิบายได้ เขาดูเหมือนกระบี่อมตะที่กำลังร่อนไป เขาจ้องมองไปรอบ ๆ ที่ไม่ชัดเจนขณะที่ถอนหายใจด้วยความแปลกใจ การขี่กระบี่นี้มันรวดเร็วมาก ๆ แม้แต่การมองของเขาก็มองไม่ชัดเจน เขาใช้การรับรู้วิญญาณเพื่อมองพวกมันแทน

“ตอนนี้ข้าได้เข้าใจการขี่กระบี่แล้ว ข้าไม่ช้าไปกว่าคนที่ใช้ประตูมิติแล้ว” เจี้ยนเฉินคิด ปะตูมิติสามารถข้ามมิติได้ เคลื่อนที่ได้หลาย 1 หมื่นล้านกิโลเมตร หรือ 10 ล้านกิโลเมตรได้ อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกเหมือนกับเคลื่อนย้ายในระยะที่มากมายด้วยการขี่กระบี่นี้ซึ่งใช้เวลาไม่มากเลย

ไม่ถึง 1 ชั่วยาม เจี้ยนเฉินก็มาถึงศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเล เขาหยุดที่ระดับ 10 กิโลเมตรจากตึกก่อสร้างและลอยลงไป

ผู้คนทั้งหมดเจอกับเจี้ยนเฉิน หลังจากเขาได้เข้าไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับโค้งคำนับให้เขาและปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพ แม้แต่ผู้อาวุโสเซียนราชาก็ทักทายเขาด้วยรอยยิ้มด้วยมารยาทที่สุภาพอย่างมาก

ชื่อของผู้คุมกฎเผ่าเต่าได้กระจายไปทั่วอาณาจักรทะเล ทุกคนรู้จักเขา เขาเคยสร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วอาณาจักรทะเล ดังนั้นเซียนราชาจำเป็นต้องปฏิบัติต่อเขาอย่างสุภาพตอนนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสประจำศาลาก็จำเป็นต้องลดตัวลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

นี่เป็นประโยชน์ของความแข็งแกร่ง ความเคารพมาจากกำปั้น !

เจี้ยนเฉินเจอกับยาดริมในโถงศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงพวกเขาสองคนในห้องมีเย็นและเงียบ ยาดริมไม่ได้หุ้มด้วยแสงวันนี้ ร่างของนางเผยต่อหน้าเจี้ยนเฉิน นางน่าดึงดูดเหมือนกับเทพเจ้า ใบหน้าของนางสง่างามมาก

“นั่นเป็นอาวุธของเจ้าที่เจ้าตีขึ้นใช่หรือไม่ ? ” ยาดริมจ้องมองไปที่กระบี่ที่อยู่บนหลังของเจี้ยนเฉินอย่างสงสัย ท่าทางของนางค่อนข้างแปลก

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างจริงจังและพูด “ใช่แล้ว ข้าได้ตีกระบี่เสร็จเรียบร้อยแล้วและความแข็งแกร่งของข้าก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมากมาย แม้แต่เจ้าศาลาทั้งสองที่มาพร้อมกัน ข้าก็สามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ฝ่าบาท การฟื้นคืนชีพสามารถดำเนินได้แล้วตอนนี้”

ยาดริมยิ้ม รอยยิ้มของนางน่ารักมาก ๆ เหมือนกับดอกไม้นับไม่ถ้วนกำลังเบ่งบานและเผยสีที่สวยที่สุดในโลกนี้ นางพูด “เจ้าสามารถฆ่าเจ้าศาลาที่มาพร้อมกัน 2 คนได้อย่างง่ายดายงั้นเหรอ เจี้ยนเฉิน กระบี่ของเจ้าทรงพลังจริงใช่หรือไม่ ? เจ้าได้ตีกระบี่บางเล่มที่ทรงพลังเท่ากับอาวุธของฝ่าบาทหรือ ? ” ยาดริมไม่เชื่อเจี้ยนเฉิน แม้แต่นางก็ยังไม่สามารถฆ่าเซียนจักรพรรดิทั้งสองได้อย่างง่ายดาย

เจี้ยนเฉินยิ้มและพูด ” กระบี่ทั้งสองของข้าอาจจะทรงพลังกว่าอาวุธของฝ่าบาทก็ได้เมื่อใช้มัน”

“ข้าหวังว่าจะเป็นเรื่องจริงนะ ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว การคืนชีพของฝ่าบาทก็คงจะสำเร็จ” ยาดริมพูด