ตอนที่ 1945 พี่น้องหลิว

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1945 พี่น้องหลิว

 

แม้แต่หูตงยังพ่ายแพ้ แล้วใครกันจะกล้าท้าทายหลิงฮัน?

 

“นายน้อยจู ให้ข้าลงมือเอง” หวั่นเฟยเสนอตัวเห็นได้ชัดว่านิรันดร์สี่นิพพานนั้น อย่างมากก็ทําได้เพียงเสมอกับหลิงฮันเท่านั้น ถ้าหากต้องการกําราบอีกฝ่ายในระดับโลกียนิพพาน จําเป็นต้องให้ผู้สืบทอดหลิว หรือธิดาหลิวหานลงมือสถานเดียว

 

เพียงแต่ทั้งสองนั้นเปรียบดังพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ มีรีที่จะยอมลงมือช่วยง่ายๆ?

 

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จูจื่อจวินก็พยักหน้า

 

เมื่อได้รับคํายินยอมหั่นเฟยก็ก้าวเดินขึ้นหน้าในทันที ออร่าของตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณถูกปลดปล่อยออกมา ต่อให้นักปรุงยาจะมีพลังต่อสู้อ่อนแอในระดับเดียวกัน แต่เขาก็มีระดับพลังใหญ่ที่สูงกว่า

 

เหล่าราชาโดยรอบเผยสีหน้าเหยียดหยามทันใด ที่แห่งนี้คือสถานที่รวมตัวของเหล่าอัจฉริยะ การที่ตนเองไม่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ และให้จอมยุทธที่ ‘อาวุโส’ กว่าแก้แค้นแทนนั้น เป็นการกระทําที่ทําให้พวกเขารู้สึกรังเกียจอย่างมาก

 

โลกแห่งวรยุทธเลื่อมใสต่อจอมยุทธที่ทรงพลังก็จริง แต่ทรงพลังที่ว่าไม่ได้หมายถึงระดับพลังใครสูงกว่ากัน แต่หมายถึงการที่จอมยุทธผู้หนึ่งมีพลังต่อสู้ที่ไร้เทียมทานในระดับเดียวกัน

 

หลิงฮันเองก็หมดความอดทน และกล่าวอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าแทนศิษย์พี่สามสินะ”

 

“ยังกล่าวพล่ามเรื่องไร้สาระออกมาอีก!” หวั่นเฟยแสยะยิ้มและเตรียมร่างกระบวนท่า

 

ถึงแม้หวั่นเฟยจะไม่ใช่จอมยุทธที่ทรงพลัง แต่เขาก็มีพลังอยู่ในระดับแบ่งแยกวิญญาณ เพราะงั้นอํานาจของเขาจึงสามารถกําราบจอมยุทธระดับโลกียนิพพานได้ทั้งมวล

 

แม้แต่เหล่าราชาที่ยืนอยู่รอบข้าง ก็ยังเผยสีหน้ากระอักกระอ่วนออกมา ด้วยความต่างของระดับพลังหนึ่งขั้นใหญ่ แม้อํานาจที่ปลดปล่อยจะไม่เจาะจงเป้าหมาย ก็สามารถทําให้พวกเขาต้องขยับตัวล่าถอยอย่างไม่มีทางเลือก

 

ระดับพลังทั้งห้าระดับของนิรันดร์ เปรียบเสมือนขุนเขาที่ไม่อาจข้ามผ่านได้

 

หลิงฮัน…จบสิ้นแล้ว!

 

“พรึบ” แต่ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ก็ถูกปลดปล่อยออกไป

 

เพี๊ยะ!

 

ฝ่ามือที่ดูเหมือนโจมตีลวกๆ ของหลิงฮัน กระทบเข้าใส่ใบหน้าของหวั่นเฟยอย่างจัง ด้วยการที่เขาไม่ได้ผสานอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ใดๆ เข้าไป การโจมตีจึงเคลื่อนที่ดูเหมือนไม่เร็วมาก ทุกคนสามารถมองเห็นฝ่ามือได้อย่างชัดเจนก็จริง แต่ก็ราวถูกว่าหวั่นเฟยถูกมนต์สะกด ทําให้ไม่สามารถขยับตัวได้ และทําได้เพียงจ้องมองฝ่ามือที่จู่โจมเข้ามาอย่างเดียว

 

หลังจากสิ้นเสียงตบ ร่างของหวั่นเฟยก็ถูกส่งลอยกระเด็นขึ้นฟ้า

 

“การลักขโมย คือสิ่งที่พี่สามสั่งสอนเจ้างั้นรึ?”

 

‘เพี๊ยะ!’

 

หลิงฮันตบเข้าที่ใบหน้าของหวั่นเฟยอีกครั้ง “หัดเคารพผู้อาวุโสเสียบ้าง”

 

‘เพี๊ยะ!’

 

“หรือต่อให้ข้าไม่ใช่ผู้อาวุโสของเจ้าในฐานะนักปรุงยาด้วยกัน ไม่ใช่ว่าเราควรช่วยเหลือซึ่งกันและกันหรอกรึ?”

 

‘เพี้ยะ!’

 

“หากพลังของข้าไม่แข็งแกร่งพอ ข้าสมควรถูกเจ้าข่มเหงงั้นรึ?”

 

หลิงฮันกล่าวคําตบคํา ทุกๆฝ่ามือเขาตบออกไปด้วยแรงอันมหาศาล ทําให้ใบหน้า ของหวั่นเฟยปูดบวมราวกับหัวหมู

 

‘เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ’ ในขณะที่เสียงตบดังลั่น ทุกคนก็ตกอยู่ในความสภาวะแน่นิ่ง

 

แม้แต่ตัวตนระดับแบ่งแยกวิญญาณก็ไม่นับเป็นอันใด และทําได้เพียงยอมให้หลิงฮันตบหน้า

 

ความต่างของพลังขนาดนี้คืออะไรกัน?

 

นิรันดร์ห้านิพพาน!

 

ในตอนนี้ไม่มีใครสงสัยในพลังของหลิงฮันอีกต่อไป มีเพียงจักรพรรดิเท่านั้นที่เมื่อสู้ข้ามระดับแล้ว ยังสามารถเป็นฝ่ายได้เปรียบได้

 

หลิงฮันคือจักรพรรดิจริงๆ

 

“ฮ่าๆ ดูเหมือนทุกคนจะกําลังสนุกกันอยู่สินะ?” เสียงหัวเราะลากยาวดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มผู้หนึ่งได้ก้าวเดินเข้ามา พร้อมกับสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดาด้านหลัง ทั้งๆ ที่ทั้งสองเดินอย่างเรียบง่าย แต่กลิ่นอายอันองอาจได้ส่งผลให้ผู้คนรอบข้างต้องยอม ขยับเปิดทางให้

 

“ผู้สืบทอดหลิว!” ใครหลายคนจิตใจสั่นสะท้าน และเผยสีหน้าเลื่อมใส คนผู้นี้คือสุดยอดอัจฉริยะ ที่ไม่ว่าใครก็ทําได้เพียงแหงนมอง

 

สตรีที่ดูด้านหลังของเขาคือหลิวหาน สองพี่สองคู่นี้ต่างฝ่ายต่างเป็นอัจฉริยะที่มีศักยภาพระดับจักรพรรดิทั้งคู่ เรื่องแบบนี้นับว่าหายากมากในประวัติศาสตร์ของดินแดนแห่งเซียน ไม่รู้ว่าต้องได้รับความรักจากพระเจ้าขนาดไหน สองพี่น้องถึงได้เกิดมาพร้อมกับสวรรค์ที่โดดเด่นเหมือนกัน

 

“สหาย เจ้าจะช่วยหยุดเรื่องสนุกนี้เอาไว้ก่อนได้หรือไม่?” หลิวเจี๋ยกล่าวกับหลิงฮัน ถึงแม้จะดูเหมือนว่าเขาพูดดีด้วย แต่น้ําเสียงกับเน้นไปในทางบังคับ

 

หลิงฮันมองไปยังหลิวเจียและเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์

 

หากอีกฝ่ายพูดดีด้วย เขาเองก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผล เพียงแต่ทันทีที่หลิวเจี๋ยมาถึง อีกฝ่ายพูดออกคําสั่งในทันที ซึ่งทําให้หลิงอันไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาใช้ฝ่ามือตบหน้าหวั่นเฟย ก่อนจะหันไปกล่าว “ข้ากําลังสั่งสอนรุ่นเยาว์ของข้า เหตุใดเจ้าถึงต้องเข้ามาแทรกแซงด้วย?”

 

ช่างเป็นคนที่กล้าหาญนัก!

 

ทันทีที่เห็นว่าหลิงฮันกล้าขัดขืนหลิวเจี๋ย ทุกคนก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก ต่อให้หลิงฮันจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าตนเองเป็นจักรพรรดิ แต่ก็ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่คิดว่าหลิงฮันจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ

 

นั่นเพราะจักรพรรดิเองก็มีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอ ในหมู่จักรพรรดิของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง หลิวเจี๋ยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ราวๆ ยี่สิบ ถึงแม้จะเป็นอันดับที่เกือบต่ําสุด แต่ถ้าหากหลี งฮันแข็งแกร่งกว่าล่ะก็ ไม่ใช่ว่าเขาต้องมีชื่อเสียงโด่งดังไปแล้วหรอก?

 

“หลิงฮันงั้นรึ?” หลิวเจี๋ยไม่เผยท่าทางเกรี้ยวกราดใดๆ ต่อให้เป็นในอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งจักรพรรดิเองก็มีจํานวนไม่เกินยี่สิบกว่าคน ซึ่งแต่ละคนล้วนแต่จะกลายเป็นราชานิรันดร์ในอนาคต ทุกคนต่างก็เป็นเสาหลักของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง

 

ที่เขารู้ชื่อหลิงฮัน ก็เพราะได้ยินเสียงกระซิบพูดคุยของคนรอบข้าง

 

“อย่างไรก็ปล่อยคนผู้นั้นไปก่อน!” หลิวหานกล่าวด้วยน้ําเสียงที่แฝงเอาไว้ด้วยความไม่พอใจ

 

ทั้งๆ ที่หลิวเจี๋ยกล่าวบอกให้หยุดแล้วแท้ๆ แต่หลิงฮันก็ยังทําตามใจอีก ช่างเป็นคนที่หยิ่งยโสนัก

 

ไม่ว่าอย่างไรที่นี่ก็คือที่พักของผู้สืบทอดหลิว เจ้าที่ลงมือตามใจชอบที่นี่ ไม่ได้เห็นหัวหลิวเจี๋ยเลยงั้นรึ?

 

“ข้าแค่สั่งสอนรุ่นเยาว์ของตัวเองเท่านั้น ไม่จําเป็นต้องกังวล” หลิงฮันกล่าว

 

หลิวเจี๋ยไต่ถาม และรับรู้สถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก มีจักรพรรดิที่แสร้งปลอมตัวเป็นนักปรุงยาอยู่จริงๆ งั้นรึ? เขาไม่สามารถเข้าใจได้เลยจริงๆ

 

แต่จะบอกว่าพวกจูจื่อจวินพูดโกหก ก็เป็นเรื่องที่ดูน่าขบขันเช่นกัน เรื่องใหญ่ขนาดนี้ มีรึ ที่พวกเขาจะกล้าโกหกต่อหน้าสาธารณชน?

 

เขาลังเลก่อนจะกล่าว “ปัญหาแต่ละอย่างสามารถแก้ได้ที่ละเรื่อง ไม่ใช่พวกเจ้าป ระลองหลอมเม็ดยากันอยู่หรอก? ตัดสินกันต่อเลยสิ!”

 

หากได้รับระดับความสามารถในการปรุงยาของหลิงฮัน ย่อมทําให้มองออกว่าอีกฝ่ายโกหกหรือไม่

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แบบนั้นล่ะคือวิธีที่ควรล่ะ!”

 

“ถ้างั้นเหตุใดยังไม่ปล่อยคนผู้นั้นอีก!” หลิวหานเอ่ยแทรกแทบจะพร้อมกัน เนื่องจากความประทับใจแรกพบไม่ดี นางจึงมีความรู้สึกเอนเอียงไม่อยากเข้าข้างหลิงฮัน

 

หลิงฮันยิ้ม “เม็ดยาของข้าถูกคนผู้นี้สับเปลี่ยน จะบอกว่าข้าไม่สมควรซิงมันคืนนั้นรึ?

 

“พูดจาไร้สาระ!” หวั่นเฟยรีบคํารามออกมา ถ้าหากเขาถูกเปิดโปงต่อหน้าสาธารณชนล่ะก็เขาจะต้องถูกปรมาจารย์จูเฟิงขับไล่เป็นแน่

 

“ไร้สาระหรือไม่ เจ้าคิดว่าตนเองเป็นคนตัดสินใจงั้นรึ?” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ําเสียงเย็นชา เขาผิดหวังในตัวรุ่นเยาว์ของตนผู้นี้มากจริงๆ

 

“งั้นเจ้ามีสิทธิ์ตัดสินใจงั้นรึ?” หลิวหานกล่าว นางอดทนกับหลิงฮันมานานสองนานแล้ว

 

“สิ่งที่จะตัดสินคือความจริง!” หลิงฮันหาอุปกรณ์มิติบนร่างของหวั่นเฟยพบในที่สุด ก่อนจะนําเม็ดยาออกมาจากด้านใน เม็ดยาที่เขาเป็นคนหลอมเอง แน่นอนว่าเขาย่อมรู้จักดีที่สุด