ตอนที่ 1944 ใช้กลอุบายสับเปลี่ยน

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1944 ใช้กลอุบายสับเปลี่ยน

 

หรั่นเฟยเข้าใจในทันที เขาจงใจกระแอมและเก็บเม็ดยาเข้าไปในขวด ซึ่งในจังหวะนั้น เขาได้ทําการสับเปลี่ยนเม็ดยาให้เป็นเม็ดนิรันดร์ธรรมดาแทน ในขณะที่เม็ดยาของจริงถูกเก็บไปไว้ในอุปกรณ์มิติ

 

“เหอะ ก็แค่เม็ดยานิรันดร์หนึ่งดาวที่ไม่มีการปรับแต่งใดๆ ช่างน่าขันเสียจริง” หรั่นเฟยกล่าวอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะโยนขวดเด็ดขาคืนหลิงฮัน

 

หลิงฮันรับขวดเม็ดยาพร้อมกับแสยะยิ้มมุมปาก คิดว่าข้าไม่เห็นสิ่งที่เจ้าทํางั้นรึ?

 

คิดจะล้อเล่นกับข้าสินะ?

 

หลิงฮันชี้นิ้วไปยังหวั่นเฟยและกล่าว “เลิกการกระทําเล่ห์เหลี่ยมอันแสนกระจอกของเจ้า แล้วคืนเม็ดยาของข้ามา!”

 

“เม็ดยาอะไร?” หรั่นเฟยมองหลิงฮันและขมวดคิ้ว “เจ้าไม่เพียงแสร้งทําเป็นผู้อาวุโสของข้า แต่ยังคิดจะใส่ความทําให้ชื่อเสียงของข้าเสื่อมเสียด้วยงั้นรึ?” ข้าเป็นถึงนักปรุงยาสองดาว ต่อหน้าข้า ตัวเจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากการผายลม!

 

ทุกคนที่ได้ยินเริ่มสับสน ฝ่ายหนึ่งกล่าวว่าอีกคนแอบสับเปลี่ยนเม็ดยาของตน ในขณะที่อีกฝ่ายยืนกรานปฏิเสธ แล้วเช่นนี้ฝ่ายไหนกันแน่ที่โกหก?

 

“ฮึ่ม บังอาจแสร้งทําเป็นศิษย์น้องของปู่ข้า เจ้าคิดว่าตนเองอายุเท่าใดกัน?” จูจื่อจวินก้าวเดินเข้าหาหลิงฮัน ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ส่งเม็ดยาของข้าคืนมาแต่โดยดี แล้วสะสางเรื่องราวให้จบไปทีละอย่าง หลังจากการเดิมพันจบลง เอาไว้ค่อยมายืนยันสถานะของข้า”

 

“คิดจะถ่วงเวลางั้นรึ?” จูจื่อจวินกล่าวอย่างเย็นชา “จงคุกเข่าต่อหน้าข้าเดี๋ยวนี้”

 

ฝ่ายหนึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ ในขณะที่อีกฝ่ายคือหลานของปรมาจารย์จูเฟิง คิดว่าทุกคนจะเชื่อฝ่ายไหนกัน?

 

แน่นอนว่าต้องเป็นจูจื่อจวินอยู่แล้ว

 

“จับตัวเขา แล้วส่งไปให้ปรมาจารย์จูเฟิง!”

 

“คนเช่นนี้จะสมควรไปพบเจอปรมาจารย์จูเฟิงได้อย่างไร รีบสังหารเขาไปเลยจะดีกว่า”

 

“จะอย่างไรก็ช่าง ก่อนอื่นจับตัวเขาไว้”

 

ใครหลายคนโห่ร้องเสียงดัง แน่นอนว่าคนเหล่านี้คือคนที่เดิมพันว่าหลิงฮันจะเป็นฝ่ายชนะ ถ้าหากหลิงฮันถูกจับตัวไป การเดิมพันก็จะกลายเป็นโมฆะโดยปริยาย

 

โม่ซวงกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ช่างไร้เหตุผลนัก สิ่งที่กําลังประลองกันในตอนนี้คือศาสตร์ปรุงยาไม่ใช่รึไง แล้วนี่พวกเจ้ากําลังพล่ามอะไรไร้สาระกันอยู่?”

 

“คนประเภทนี้ยังมีสิทธิ์เรียกตนเองว่านักปรุงยางั้นรึ?” จูจื่อจวินก้าวเดินเข้าหาหลิงฮันและผลักฝ่ามือออกไป “ตูม” อํานาจอันไร้ที่สิ้นสุดระเบิดออกมาพร้อมกับตราประทับแห่งเต๋า

 

จูจื่อจวิน คือราชาในระดับสี่นิพพานสูงสุด!

 

ในเมืองผนึกแปรผันแห่งนี้ ถึงแม้จูจื่อจวินจะไม่นับว่าเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่น แต่เขาก็เป็นราชาสี่นิพพานสูงสุดที่ไม่อ่อนแอ

 

ไม่รู้ว่าสมองของโม่ซวงกับหานเทาถูกสุนัขกินไปแล้วรึไง พวกเขาถึงได้เชื่อว่ารุ่นเยาว์ผู้นี้คือศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิง!

 

หลิงฮันยื่นมือออกไป “พรึบ” ข้อมือของจูจื่อจวินถูกคว้าเอาไว้ได้

 

อะไรกัน!

 

ทุกคนดวงตาแข็งค้าง หากจะสามารถรับมือกับการโจมตีของราชาได้อย่างง่ายดาย ก็ต้องมีศักยภาพอยู่ในระดับราชาในหมู่ราชา

 

“เห็นแก่ศิษย์พี่สาม ข้าจะไม่ลดตัวลงไปทะเลาะกับเจ้า” หลิงฮันสะบัดมือโยนร่างของจูจื่อจวินลอยออกไป

 

จูจื่อจวินพยุงตัวและยืนอย่างมั่นคง พร้อมกับเผยสีหน้าตกตะลึง ถ้าเมื่อครู่หลิงฮันต้องการลงมือจริงๆ เขาคงถูกสังหารไปแล้ว แต่ทว่าเขาก็ไม่ได้มีความรู้สึกขอบคุณใดๆ แต่กลับกัน เขายิ่งรู้สึกอัปยศกว่าเดิมด้วยซ้ำ

 

ตัวเขาคือหลานของปรมาจารย์จูเฟิงที่ยิ่งใหญ่ ใครบ้างจะกล้าทําร้ายเขาแม้เพียงเส้นผม

 

แต่ว่าในเมื่อหลิงฮันเป็นถึงราชาในหมู่ราชา เหตุใดอีกฝ่ายถึงต้องแสร้งปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิงกัน?

 

“ใครก็ได้ จงจัดการหมอนั้นให้ข้า” เขากล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง เพียงแต่สิ่งที่เขาเห็นก็คือใบหน้าที่ลังเลของทุกคน

 

อีกฝ่ายเป็นคู่ต่อสู้ที่มีศักยภาพระดับราชา หรืออาจจะราชาในหมู่ราชา แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเผชิญหน้าด้วยง่ายๆ

 

“เม็ดยากลั่นนิพพานหนึ่งขวด” จูจื่อจวินนําขวดเม็ดยาออกมาและชูมือ “ใครก็ตามที่จัดการเขาให้ข้าได้ ข้าจะมอบเม็ดยากลั่นนิพพานขวดนี้ให้”

 

เมื่อได้ยินประโยคนี้ ผู้คนมากมายก็เกิดแรงกระตุ้นให้ลงมือทันใด

 

เม็ดยากลั่นนิพพาน คือเม็ดยาที่มีประสิทธิภาพในการเติมเต็มรากฐานระดับโลกียนิพ พานให้สมบูรณ์ แน่นอนว่ามันไม่สามารถทําให้ราชาในหมู่ราชา ยกระดับกลายเป็นจักรพรรดิได้ แต่ราชาระดับต่ำนั้นสามารถยกระดับขึ้นเป็นราชาระดับสูงได้ หรือแม้แต่ราชาในหมู่ราชาระดับต่ำ ก็สามารถยกระดับเป็นราชาในหมู่ราชาระดับสูงได้ มันคือเม็ดยาที่หายากและล้ำค่าอย่างยิ่ง

 

“นายน้อยจู!” หรั่นเฟยและจือหย่งรีบตะโกนออกมา เม็ดยากลั่นนิพพานขวดนี้คือ เม็ดยาที่ปรมาจารย์จูเฟิง หลอมขึ้นมาให้หลานสุดที่รักของตนเองโดยเฉพาะ ทําให้มันถูกปรับแต่งถึงห้าขั้น มูลค่าของมัน ไม่ใช่สิ่งที่เม็ดยากลั่นนิพพานทั่วไปจะเทียบเคียงได้

 

เหตุใดถึงต้องขอให้คนอื่นช่วยลงมือด้วย? พวกเขาสองคนนั้นเป็นถึงตัวตนระดับตัดวิญญาณหยางแท้ๆ เพียงแค่นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานตัวจ้อย มีรีพวกเขาจะจัดการไม่ได้?

 

สิ่งที่ทั้งสองไม่รู้ก็คือจูจือจวินนั้นมีศักดิ์ศรีในฐานะจอมยุทธ เหตุใดการจะจัดการรุ่นเยาว์ตรงหน้านี้ ต้องให้ตัวตนที่มีพลังบ่มเพาะสูงกว่าลงมือด้วย?

 

จริงอยู่ที่สําหรับเขา การหลอมเม็ดยากลั่นนิพพานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เอาไว้เขาไปขอให้ปู่ของานหลอมใหมให้อีกครั้งก็ได้

 

“ข้าลงมือเอง!” ราชาในหมู่ราชาผู้หนึ่งกระโดดออกมาอย่างห้าวหาญ ด้วยแรงกระตุ้น จากของรางวัล

 

โม่ซวงและหานเทาส่ายหัวพร้อมกัน มีเพียงพวกเขาที่รู้ว่าหลิงฮันนั้นไม่ใช่แค่ศิษย์น้องของปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาว แต่ยังเป็นจักรพรรดิในศาสตร์วรยุทธด้วย!

 

อันที่จริงแล้วสถานะอย่างหลังนั้นน่าอัศจรรย์กว่าอย่างแรกด้วยซ้ำ เนื่องจากจักรพรรดิ คือจอมยุทธที่ศักยภาพจะบรรลุเป็นราชานิรันดร์ได้อย่างแน่นอน ในขณะที่ปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาว แค่เกือบจะทัดเทียมได้กับราชานิรันดร์เท่านั้น

 

หลิงฮันเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ “ดูเหมือนพวกเจ้าแต่ละคนจะต้องทําให้เรื่องยุ่งยากจังนะ ก็ดี ถ้างั้นข้าจะชัดเจ้าตามที่ต้องการให้เอง”

 

“ต่อหน้าหูตงผู้นี้ คิดว่าเจ้าจะรอดไปไหนได้?” ราชาในหมู่ราชาที่กระโดดออกมาเอ่ยกล่าว “ครืนน” เขายกหนึ่งมือขึ้นพร้อมกับตราประทับแห่งเต๋ได้พรั่งพรูออกมาทั่วบริเวณ

 

คนผู้นี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก พลังของเขากล่าวได้ว่าอยู่ในระดับของราชาในหมู่ราชาแนวหน้า เขาใช้หนึ่งมือปกคลุมท้องฟ้า และคว้าไปยังหลิงฮัน

 

หลิงฮันชี้นิ้วออกมา “พรึบ” และปลดปล่อยปราณดาบออกไป

 

การโจมตีนี้คือพลังที่เขาได้เรียนรู้มาจากอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหาร หลังจากที่ผสานรวมเข้ากับทักษะดาบแล้ว พลังทําลายของมันก็ยิ่งทรงพลังยิ่งกว่าเดิม

 

“ฉัวะ!”

 

มือขนาดใหญ่ที่ปกคลุมท้องฟ้าถูกผ่าออกเป็นสองส่วน ในขณะที่ปราณพิฆาตยังคงปลดปล่อยอํานาจไปถึงเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า

 

ใบหน้าของหูตงเปลี่ยนไปทันที และไม่มีโอกาสแม้แต่จะอุทานออกมา ร่างของเขารับการโจมตีเข้าไปเต็มๆ โลหิตของเขาสาดกระจาย และล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง

 

อะไรกัน!

 

เมื่อเห็นภาพตรงหน้า ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก แม้แต่ราชาในหมู่ราชาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้งั้นรึ? เหตุใดรุ่นเยาว์ผู้นี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?

 

อีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิ์งั้นรึ?

 

เป็นไปไม่ได้ ถ้าหากอีกฝ่ายเป็นจักรพรรดิล่ะก็ เหตุใดถึงต้องแสร้งปลอมตัวเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์จูเฟิงกัน? แม้สถานะที่ว่าจะน่าอัศจรรย์ แต่ก็ไม่เท่ากับสถานะ จักรพรรดิ