ตอนที่ 2438 เต๋าบรรพกาลทั้งเก้า

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

คนทั้งหลายแทบลืมหายใจ

แต่ทางตัวเย่หยวนเองก็ต้องค่อยๆ เก็บธนูไปด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน

พลังของการโจมตีนี้มันรุนแรงที่สุดเท่าที่เขาเคยใช้ออกมา!

แม้ว่าปราณเทวะของเขามันจะหนาแน่นสักแค่ไหนมันก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเหนื่อยอ่อนเมื่อต้องใช้ออกไปมากขนาดนั้น

“ฮ่าๆๆ เย่หยวน เจ้าพ่ายแล้ว! เจ้าคนไม่ประเมินตัวเอง! มีหรือที่พลังโจมตีระดับนี้มันจะทำอะไรปู่สามได้!” ได้เห็นว่าหลินฮวนยืนมั่นไม่มีการบาดเจ็บใดๆ ตัวหลินหลางก็หัวเราะขึ้น

แม้ว่าภาพตรงหน้านั้นมันจะเหนือล้ำปานใด เย่หยวนก็ไม่อาจจะทำอันตรายหลินฮวนได้

คนทั้งหลายได้แต่ต้องถอนหายใจยาวออกมา

การโจมตีนี้มันรุนแรงจนเกินจริง

น่าเสียดายแค่ว่ามันยังขาดพลังไปหน่อย

หากศัตรูของเย่หยวนนั้นมิใช่หลินฮวนแต่เป็นเจ้าฟ้าดินคนอื่นแล้ว มันย่อมจะทำให้พวกเขาทั้งหลายบาดเจ็บได้เป็นแน่

เย่หยวนหันมามองหน้าโง่ๆ ของหลินหลางก่อนจะกล่าวขึ้น “เรอะ? ลองให้มันพูดกล่าวสักคำสิ”

หลินหลางยิ้มกว้าง “อย่าว่าแต่คำพูดเดียวนั้น ต่อให้จะเป็นสิบเป็นร้อยคำพูดแล้วมันจะทำไม? มีหรือที่เจ้าฟ้าดินห้าทลายนั้นจะถูกเจ้าทำร้ายลงได้?”

คนทั้งหลายได้แต่หันไปมองเย่หยวนด้วยความสมเพช

“เฮ้อ ก็ไม่น่าไปท้าทายเจ้าฟ้าดินห้าทลายแต่แรก นี่มันรนหาที่ชัดๆ!”

“แพ้ก็แพ้ ทำไมยังต้องมาอวดอ้างตัวอีก?”

“ไม่นึกเลยว่านักบุญฟ้าครามนั้นกลับจะเป็นคนชอบอวดอ้างตัวปกปิดความผิดเช่นนี้”

นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันยิ่งใหญ่ผ่านยุคสมัย

ชื่อเสียงของเขานั้นมันสูงล้ำจนทำให้ตัวเย่หยวนอยู่เหนือหัวคน

ในสายตาของพวกเขาทั้งหลายนั้นเย่หยวนย่อมจะแพ้แต่ไม่คิดยอมรับเพื่อรักษาหน้า

ตัวเย่หยวนนั้นย่อมจะไม่คิดสนใจตัวหลินหลางและหันไปหาหลินฮวน “ไหน ลองพูดมาสักคำสิ”

หลินฮวนนั้นไม่ตอบ

แต่หลินหลางนั้นกลับยื่นหน้ามาแทรก “นี่ นักบุญฟ้าคราม? แพ้แล้วแท้ๆ ทำไมยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้อีก?”

เวลานี้มันย่อมจะมีหลายต่อหลายคนแอบหันไปมองหลินฮวนเพราะรู้สึกแปลกๆ

ชนะแล้วแต่ทำไมถึงไม่ยอมพูดกล่าว?

เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ยังจะกดไว้อีกหรือ? หากยังกดมันไว้อีกอวัยวะภายในของเจ้าจะได้เสียหายเอานะ ต่อให้จะเป็นวังพำนักกำเนิดตรัสรู้มันก็คงมีโอสถกึ่งเต๋าไม่มากใช่ไหมเล่า?”

หลินฮวนนั้นยังไม่ตอบกลับมา

“หึ! นักบุญฟ้าครามห่าเหวใด แค่เจ้าคนไม่รู้จักยอมแพ้!” หลินหลางนั้นตะโกนขึ้นอย่างไม่พอใจ

เย่หยวนหรี่ตาลงหันไปมองก่อนจะยกมือขึ้นบีบคอหลินหลางไว้ “เจ้ามันปากเก่งเสียจริง! คิดว่าข้าไม่กล้าสังหารเจ้าหรือ?”

จิตสังหารเย็นเยือกพุ่งผ่านร่างหลินหลางจนเขาไม่อาจหายใจได้

เขารู้ดีว่าเย่หยวนคิดสังหารจริง

เมื่อหลินฮวนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะก้าวตัวออกมา

แต่วินาทีที่เขาก้าวร่างกายของเขามันก็ไม่อาจปกปิดใดๆ ต้องกระอักเลือดขึ้น

คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้างมองดูหลินฮวนพร้อมๆ กัน

หลินฮวนนั้นกลับบาดเจ็บ!

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? เจ้าฟ้าดินหนึ่งทลายกลับทำร้ายเจ้าฟ้าดินห้าทลายได้!”

“ก็ว่าทำไมหลินฮวนถึงได้ทำตัวแปลกๆ ที่แท้เขานั้นกำลังกดอาการบาดเจ็บไว้นี่เอง!”

“ดูท่าแล้วการบาดเจ็บนี้มันจะไม่เบาเสียด้วย ไม่เช่นนั้นด้วยพลังชีวิตของเขา ตัวเขาคงรักษามันได้จากภายในทันที”

การบาดเจ็บของหลินฮวนนั้นมันทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นมาตามๆ กัน

นักยุทธที่เพิ่งบรรลุอาณาจักรเจ้าฟ้าดินนั้นกลับทำร้ายเจ้าฟ้าดินห้าทลายจนบาดเจ็บ!

นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว

ในโถงกำเนิดตรัสรู้นั้นเหล่าเต๋าบรรพกาลต่างตกตะลึงไปตามๆ กัน

“เจ้าหมอนี่มันจะเก่งกาจเกินไปหรือไม่? เขาเพิ่งจะบรรลุแต่กลับมีพลังโจมตีที่พอทำร้ายเจ้าฟ้าดินห้าทลายได้!” เต๋าบรรพกาลสายฟ้าร้องขึ้น

“ซี๊ด… หากรอให้เขามาถึงอาณาจักรเจ้าฟ้าดินห้าทลายแล้วแม้แต่พวกเราเองก็คงไม่อาจต้านทานใช่ไหม?” เต๋าบรรพกาลไฟกล่าวขึ้นพร้อมสูดหายใจเย็นเยือก

เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นกลับยิ้มกว้างขึ้นมา “ยิ่งเก่งมันก็ยิ่งเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าบรรพกาลผู้นี้คิดถูก! เขานั้นจะต้องมีอะไรที่สามารถบรรลุทำลายโซ่ตรวจได้แน่! ที่ข้าใช้หลินฮวนไปก็เพื่อจะพิสูจน์เรื่องนี้”

ด้วยเรื่องนี้กำลังของเย่หยวนมันจึงปรากฏชัดขึ้นแก่สายตา

ไม่มีสิ่งใดจะน่าเชื่อไปกว่านี้

ในเวลานี้เต๋าบรรพกาลอีกแปดคนนั้นไม่ได้คิดสงสัยในคำพูดของเต๋าบรรพกาลชีวิตใดๆ อีกแล้ว

รวมไปถึงตัวเต๋าบรรพกาลสายฟ้าด้วย

ไม่มีใครจะอดทนความเย้ายั่วที่จะเก่งกาจขึ้นได้

เย่หยวนนั้นโยนตัวหลินหลางจับไว้ทิ้งก่อนจะเดินไปถึงหน้าหลินฮวน “หมาน้อย ถอยไปได้แล้ว”

หลินฮวนนั้นมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าเหยเกกัดฟันแน่น

แต่สุดท้ายเขาก็ต้องถอยหลีกทางให้

เฉียนจี้นั้นหันไปมองดูเรื่องราวด้วยใบหน้ามึนงง อีกนานสองนานกว่าที่เขาจะตั้งสติและบินตามเย่หยวนเข้าไป

เวลานี้เขาพอจะเข้าใจได้แล้วว่าทำไมหลินเฉาเทียนจึงได้คิดเล็งหัวเย่หยวน

ในโถงกำเนิดตรัสรู้นั้นมันเปี่ยมล้นไปด้วยผู้คน

เย่หยวนนั้นก้าวเข้ามาจนทำให้สายตาของเหล่านักยุทธทั้งหลายต้องหันมามองเขาเป็นตาเดียว

ในหมู่คนทั้งหลายนี้ มีไม่น้อยที่เคยได้ร่วมรบกับเขามาก่อน

เย่หยวนหันไปมองดูที่สุดโถง เดินมาจนถึงกลางโถงอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ ณ สุดโถงมันมีที่นั่งเก้าบัลลังก์อยู่ แน่นอนว่าย่อมจะเป็นที่สำหรับเต๋าบรรพกาลทั้งเก้า

คนทั้งเก้านี้มันคือผู้ปกครองเผ่ามนุษย์ไว้

เต๋าบรรพกาลชีวิต เต๋าบรรพกาลน้ำต้น เต๋าบรรพกาลไฟวิญญาณ เต๋าบรรพกาลวายุ เต๋าบรรพกาลสายฟ้า เต๋าบรรพกาลปฐพี เต๋าบรรพกาลแสง เต๋าบรรพกาลมืดและเต๋าบรรพกาลทำลายล้าง

เต๋าบรรพกาลผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเก้านั้นคือคนที่ปกครองดูแลมหาพิภพถงเทียนนี้ไว้อย่างแท้จริง!

วินาทีต่อมามิติก็สั่นไหว

เงาร่างของคนทั้งเก้านั้นปรากฏขึ้นบนบัลลังก์อย่างไม่มีใครทันสังเกต

แม้ว่าพวกเขาจะนั่งอยู่แล้วแต่มันกลับทำให้คนทั้งหลายไม่อาจรู้สึกถึง

คลื่นพลังกฎที่ออกมาจากร่างของพวกเขานั้นมันทำให้เกิดความลึกลับขึ้น

ราวกับว่าพวกเขานี้คือร่างจุติเต๋าสวรรค์!

แต่เย่หยวนนั้นกลับเห็นคนทั้งเก้าได้อย่างแจ่มชัด

หากให้พูดถึงระดับความเข้าใจต่อเต๋านั้น ตัวเขาย่อมจะเหนือล้ำยิ่งกว่าคนเฒ่าทั้งหลายนี้ไป

มีหรือที่คนทั้งหลายนี้จะมาทำตัวลึกลับต่อหน้าเขาได้?

เย่หยวนมองดูชายแก่ชุดเทาคนหนึ่งที่นั่งตรงกลางด้วยความรู้สึกเหมือนเคยได้เห็นหน้า

หลินเฉาเถียนนั้นเองก็หันมามองเขาด้วยรอยยิ้ม “ท่านนักบุญฟ้าคราม ลาจากกันไปนานนับหมื่นล้านปีไม่นึกเลยว่าเมื่อได้มาพบพานกันอีกครั้ง ตำแหน่งของเรามันจะกลับสลับกันได้เช่นนี้”

ในเวลานั้นตัวพวกเขาทั้งหลายย่อมจะเป็นแค่เด็กหนุ่มในสายตาของเย่หยวน

ต่อให้จะเป็นซ่างเหิงนั้นก็ยังแสนอ่อนแอเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวน

คำพูดนี้มันทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นมาไม่น้อย

เรื่องราวที่เย่หยวนสร้างยุคสมัยแห่งความรุ่งเรืองไว้นั้น เดิมทีมันย่อมจะเป็นแค่ตำนานไร้การยืนยัน

แต่เต๋าบรรพกาลชีวิตนั้นคือผู้เหลือรอดจากยุคสมัยก่อน

ตัวเขากล่าวเช่นนี้ต่อเย่หยวน ยอมรับว่าเขานั้นคือนักบุญฟ้าครามมันย่อมทำให้เรื่องนี้มีหลักฐานแน่นอน

ชายหนุ่มคนนี้มันคือตำนานอย่างแท้จริง!

เย่หยวนมองหน้าหลินเฉาเถียนก่อนจะขมวดคิ้วแน่น “เป็นเจ้านี่เอง! ครั้งนั้นข้าก็สัมผัสได้ว่าตัวเจ้ามีพลังแนวคิดธาตุไม้อยู่ไม่น้อย ไม่นึกเลยว่าจากนั้นมาเจ้ากลับจะก้าวขึ้นมาเป็นถึงเต๋าบรรพกาลได้!”

หลินเฉาเถียนนั้นเป็นหนึ่งในคนที่ไปบุกวังถามสวรรค์ของเย่หยวนกับซ่างเหิงนั้น

แต่ในเวลานั้นความสนใจของเย่หยวนย่อมจะไปหยุดอยู่ที่ซ่างเหิง ไม่ได้คิดไปสนใจหลินเฉาเถียนมากมาย

แต่ตัวหลินเฉาเถียนนี้คือหนึ่งในยอดอัจฉริยะที่เย่หยวนไม่ได้ติดต่อพูดคุยด้วย

ในเวลานั้นเขาเป็นนักบุญฟ้าครามที่เหนือล้ำฟ้าดิน หนึ่งในสองผู้นำของสังหารเทพ แต่ตัวหลินเฉาเถียนนั้นเป็นแค่เด็กหนุ่มอัจฉริยะคนหนึ่ง

แต่เวลาเปลี่ยนเรื่องราวมันก็แปลง ศิษย์ตัวน้อยนั้นวันนี้กลับก้าวขึ้นมาปกครองมหาพิภพถงเทียนกลายเป็นผู้นำของเต๋าบรรพกาล

แต่เย่หยวนนั้นกลับกลายเป็นแค่เด็กหนุ่มอาณาจักรการกำเนิด

ชะตานั้นมันช่างเล่นตลก

หลินเฉาเถียนยิ้มตอบกลับ “ที่หลินเฉาเถียนมีวันนี้ได้มันย่อมเป็นเพราะค่ายกลสืบทอดของท่านนักบุญฟ้าครามสิ้น หลินผู้นี้ซาบซึ้งยิ่ง เพียงแค่ว่าเวลาเปลี่ยนเรื่องราวมันก็แปลงไป ที่ตัวข้าเชิญท่านมาในวันนี้ก็เพื่อจะถามไถ่ถึงสาเหตุที่ท่านปล่อยเทียนเหอไป”

คำพูดนี้ทำให้อากาศทั้งโถงเย็นเยือกขึ้นมา

แต่กล่าวทักทายกันได้ไม่กี่คำ สงครามมันก็เริ่มขึ้นเสียแล้ว!