ตอนที่ 2439 ความถูกต้องมันอยู่ที่ใจของผู้คน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“เย่หยวน เจ้ารู้หรือไม่ว่าก่อนนั้นมันมียอดคนต้องตายเพราะเทียนเหอไปมากเท่าใด? เจ้าปล่อยเขาไปเช่นนั้นมันจะต้องมีอีกกี่คนที่ต้องตายเพราะมัน? หากวันนี้เจ้าไม่อธิบายมาแล้วเจ้าก็ไม่ต้องคิดว่าจะไปจากโถงกำเนิดตรัสรู้นี้ได้เลย!” เต๋าบรรพกาลทำลายล้างกล่าวขึ้นตาม

คำถามจากปากของสองเต๋าบรรพกาลมันจะต้องน่ากลัวสักแค่ไหน?

โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวเต๋าบรรพกาลทำลายล้าง กฎแห่งการทำลายที่เขาถืออยู่นั้นมันยิ่งจะทำให้มิติสั่นสะเทือนได้

ยอดฝีมือทั้งหลายในที่นี้ต่างล้วนเป็นเจ้าฟ้าดินห้าทลายสิ้น แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกถึงความหนักหน่วงนี้ได้

สายตาของพวกเขาได้แต่ต้องหันไปมองเย่หยวนว่าเขาจะตอบกลับอย่างไร

เพราะอย่างไรเสีย เรื่องนี้มันก็ไม่อาจจะอ้างเหตุผลใดได้

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็หัวเราะขึ้นมา “อธิบาย? อธิบายอะไรเล่า? ข้าเย่หยวนนั้นทำอะไรตามกฎเกณฑ์ของตนเองเสมอ ทำไมต้องมาอธิบายมันให้คนอย่างเจ้าฟังด้วย?”

เวลานี้ยอดฝีมือมากมายที่ได้ยินคำของเย่หยวนต้องอ้าปากค้างขึ้น

เจ้าหมอนี่มันกลับกล้าพูดเช่นนี้ต่อเต๋าบรรพกาล!

แล้วที่เย่หยวนมายังเทือกเขากำเนิดตรัสรู้นี้มันมิใช่เพื่อจะปกป้องตัวเองหรอกหรือ?

แล้วเขามาทำไมกัน?

พวกเขานั้นยิ่งได้ฟังก็ยิ่งไม่อาจคาดเดาได้ว่าเย่หยวนนั้นต้องการจะทำอะไรกันแน่

ต่อให้จะเป็นตัวเฉียนจี้เองในเวลานี้ที่ได้ยินคำของเย่หยวน เขาก็ยังต้องอ้าปากค้างไม่อาจพูดกล่าวใดๆ ขึ้นได้

หลินเฉาเถียนเองก็ผงะไปไม่น้อยก่อนจะถามกลับมา “เช่นนั้นท่านยอมรับว่าตนคิดทรยศเผ่าพันธุ์?”

เมื่อได้เห็นเย่หยวนไม่มีทีท่าคิดอธิบายใดเขาก็ย่อมจะยิ่งได้ใจ

คำพูดนี้มันเหมือนราวกับว่าเย่หยวนนั้นยอมรับการทรยศ

เท่านี้อะไรๆ มันก็คงง่ายขึ้น

แต่เย่หยวนกลับหัวเราะขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… เย่ผู้นี้ทรยศเผ่าพันธุ์หรือไม่นั้นมันมิใช่สิ่งที่ควรมาถามตัวข้าผู้นี้! เจ้าลองไปถามนักรบทั้งหลายที่ได้ต่อสู้กับข้า! เจ้าลองไปถามวิญญาณวีรบุรุษทั้งหลายที่ได้ตายลงไป! หรือเจ้าก็ลองกลับไปถามสหายร่วมศึกของเจ้าที่ได้ตายลงในยุคก่อนเถอะ!”

ขณะที่กล่าวคำพูดนี้ออกมา เย่หยวนได้ปล่อยคลื่นพลังท่าทางเจิดจ้าออกมาจนแทบจะเกิดเป็นแสงขึ้นที่กายของเขา

นามของนักบุญฟ้าครามนั้นมันชัดเจนแก่ตา!

แม้ว่าตัวเขานั้นจะไม่แข็งแกร่งเท่าเต๋าบรรพกาลแต่นามของนักบุญฟ้าครามที่สร้างความงดงามเช่นนี้ขึ้นมามันย่อมจะมิใช่สิ่งที่จะลบหลู่ได้

ในเวลานี้ท่าร่างและคลื่นพลังจากตัวเย่หยวนมันไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลาย!

เขานั้นรับหน้าเต๋าบรรพกาลทั้งเก้าด้วยตัวของเขาคนเดียว!

แต่คลื่นพลังของทั้งสองฝ่ายนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

คลื่นพลังของเต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นมันคือคลื่นพลังแห่งการปกครองกดหัวคน มันเกิดขึ้นมาได้จากฝีมืออันแข็งแกร่งของพวกเขา

แต่คลื่นจากกายของเย่หยวนนี้มันเกิดขึ้นมาจากความเลื่อมใสที่ผันเปลี่ยนมาตลอดนับหมื่นล้านปี!

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้ผ่านห้วงมิติหมื่นๆ ล้านปีนั้นมาเอง แต่นามของเขานั้นมันได้ลือลั่นมาตลอดหมื่นล้านปี!

เย่หยวนนั้นไม่คิดจะอธิบายใดๆ ปกป้องตัว สิ่งใดถูกต้องนั้นผู้คนต่างรู้กันอยู่แก่ใจ!

มันมิใช่ว่าเขานั้นไม่อยากสังหารเทียนเหอ แต่เขานั้นไม่อาจหยุดเทียนเหอไว้ได้

กำลังฝีมือของลี่เอ๋อในเวลานี้มันไม่ได้อ่อนแอกว่าเขาไปแม้แต่น้อย

หากเขามั่นใจว่าจะสังหารเทียนเหอได้เขาย่อมจะลงมือสังหารแน่

เพียงแค่ว่าเขาเบื่อหน่ายเกมการชิงอำนาจ ไม่อยากจะเสียเวลาอธิบายใด

เวลานี้แม้แต่ตัวหลินเฉาเถียนเองก็ยังต้องเปลี่ยนสีหน้าไป

เขานั้นก็ไม่นึกฝันว่าตัวเย่หยวนกลับจะปล่อยคลื่นพลังสูงส่งเช่นนี้ออกมาได้

สมชื่อว่าเป็นนักบุญฟ้าครามผู้เป็นนิรันดร์สร้างความรุ่งเรืองไว้ไม่สิ้นสุด เขานั้นไม่อาจจะจัดการลงได้ง่ายๆ!

ในหมู่คนนั้นหนี่ซวนกัดฟันตัดสินใจก้าวออกมายกมือขึ้นก้มหัว “ท่านเต๋าบรรพกาล หนี่ซวนนั้นได้ต่อสู้เคียงข้างท่านนักบุญฟ้าครามมากับตัว หนี่ซวนได้เห็นการกระทำของท่านแทบทุกอย่าง! หนี่ซวนขอยืนยันด้วยเต๋าของตนนี้ว่าท่านนักบุญฟ้าครามจะไม่มีทางทรยศหักหลังเผ่าพันธุ์ใดๆ แน่นอน!”

เสียงของเขายังไม่ทันกล่าวจบตัวฉี่พั่วเทียนก็ก้าวขึ้นหน้ามาตาม “ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังใด ฉี่พั่วเทียนนี้ขอยืนยันด้วยเต๋าว่าคนอย่างท่านนี้จะไม่มีทางทรยศหักหลังเผ่าพันธุ์ได้แน่!”

“ข้าขอยืนยัน!”

“ข้าเองก็ขอยืนยันด้วยเช่นกัน!”

เหล่าเจ้าฟ้าดินห้าทลายที่เคยได้สู้ร่วมกับเย่หยวนมานั้นต่างก้าวออกมาแทบจะพร้อมกัน พยายามกล่าวปกป้องเย่หยวนสุดตัว

เวลาที่ผ่านมานี้ เย่หยวนทำอะไรทำอย่างไร พวกเขานั้นย่อมจะเห็นมันประจักษ์แก่สายตา

จะบอกว่าเย่หยวนคิดทรยศเผ่าพันธุ์นั้น ให้บอกว่าพวกเขาเองทรยศยังจะน่าเชื่อกว่า

บนสนามรบนั้นเย่หยวนจะบุกสังหารเป็นแนวหน้าเสมอ

จำนวนศัตรูที่เขาสังหารลงนั้นมันมีมากเกินกว่าจะนับได้

และยังเป็นเขาคนนี้ที่ได้เปลี่ยนทัพนายน้อยไร้เดียงสาให้กลายเป็นยอดทหารสุดโหดแกร่ง

หากมิใช่เพราะเย่หยวนดึงทัพผสมไว้ด้วยกันแล้ว วันนี้มันก็คงไม่มีชัยชนะใดๆ เผ่าเทวาคงได้ยึดครองดินแดนของมหาพิภพถงเทียนไปแทบสิ้น!

คนเช่นนี้หรือจะทรยศเผ่าพันธุ์?

เรื่องของเทียนเหอนั้นพวกเขาย่อมไม่เข้าใจถึงเหตุผล

แต่เรื่องเดียวที่พวกเขาจะไม่มีวันยอมเชื่อก็คือเรื่องที่เย่หยวนคิดทรยศเผ่าพันธุ์!

เมื่อเห็นคลื่นพลังท่าทางสูงส่งของเย่หยวนแก่สายตา พวกเขาทั้งหลายจึงลืมตัวก้าวออกมาอย่างไม่ทันคิดถึงผลลัพธ์ใดๆ

แท้จริงก่อนหน้านี้มันก็มีคนที่ไม่เห็นด้วยมาก แค่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจน

แต่ท่าทางคลื่นพลังคำพูดของเย่หยวนนั้นมันเหมือนแทรกซึมลงในจิตใจของคนทั้งหลาย จนทำให้เกิดความรู้สึกไม่อาจอยู่เฉยได้อีกต่อไป

ได้เห็นเช่นนั้นเหล่าเต๋าบรรพกาลนั้นหลายก็ได้แต่ทำหน้าเหยเก

เพราะเรื่องนี้มันเหนือการควบคุม!

พวกเขานั้นไม่ได้คิดเลยว่ามันจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาได้

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองมันก็เกิดเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านนอก ดูท่าแล้วมันคงดังพอที่จะส่งไปทั่วทั้งเทือกเขากำเนิดตรัสรู้

“ขอเหล่าท่านเต๋าบรรพกาลโปรดอย่าถอดนามท่านนักบุญฟ้าคราม!”

“ขอเหล่าท่านเต๋าบรรพกาลโปรดอย่าถอดนามท่านนักบุญฟ้าคราม!”

“ขอเหล่าท่านเต๋าบรรพกาลโปรดอย่าถอดนามท่านนักบุญฟ้าคราม!”

เสียงนั้นมันดังขึ้นมาเป็นระลอกๆ

เสียงของเหล่าเจ้าฟ้าดินและจักรพรรดิเทพสวรรค์มากมายนับหมื่นนั้นมันแทบจะทำให้เทือกเขากำเนิดตรัสรู้แตกสลายลง

ที่นอกประตูช่องเขานั้นว่านเจิ้นและผางเจิ้นได้นำทัพไร้คาดเดาทั้งหมดรวมไปถึงทหารที่ร่วมรบแนวหน้าอีกนับล้านๆ และรวมไปถึงเหล่ายอดคนที่ชื่นชมความยิ่งใหญ่ของเย่หยวนมา

จำนวนของพวกเขานั้นมันมากกว่าสิบล้าน!

ด้านนอกเทือกเขากำเนิดตรัสรู้นั้นมันมียอดฝีมือลอยตัวอยู่มากมายจนแทบปิดบังท้องฟ้าไว้

จำนวนนี้มันไม่ได้มากมายหากนับกับประชากรของเผ่ามนุษย์ทั้งหมด

แต่ในโลกหล้าวันนี้ การจะทำให้ยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ออกมาร้องเรียกชื่อคนผู้เดียวนั้น แม้แต่เต๋าบรรพกาลเองก็คงไม่อาจจะทำได้

ก่อนหน้านี้เย่หยวนเคยสั่งให้คนทั้งหลายอย่าได้มา

แต่เวลานี้พวกเขากลับไม่สนใจคำสั่งใดๆ ของเย่หยวนแล้ว

“พวกเจ้ามาทำอะไรกันมากมาย? รีบๆ ไสหัวไป!” หลินหลางเดินมาร้องลั่น

เพียงแค่ว่าภายใต้เสียงของยอดฝีมือนับล้านๆ นี้เสียงน้อยๆ ของหลินหลางมันย่อมจะไม่อาจจะเข้าไปถึงหูใครได้

“ผางเจิ้น เจ้าเองก็เป็นทายาทของเต๋าบรรพกาล กล้ามาทำตัวเช่นนี้หรือ?” หลินหลางนั้นเดินมาร้องด่าที่ด้านหน้าผางเจิ้น

แต่ผางเจิ้นนั้นกลับไม่สนใจและร้องตะโกนต่อไป

ในโถงใหญ่นั้นสีหน้าของเหล่ายอดฝีมือมากมายมันเริ่มเปลี่ยนสีไป

ไม่มีใครคิดว่าเรื่องราววันนี้มันจะกลายเป็นเช่นนี้

เดิมทีแล้วพวกเขายังคิดว่านี่เป็นการตัดสินโทษเย่หยวน

แต่เวลานี้มันกลับกลายเป็นเวทีของเย่หยวนเพียงคนเดียว

ทำไมหลินเฉาเถียนถึงได้เกรงไม่กล้าลงมือต่อเย่หยวนตรงๆ?

เพราะว่าเขานั้นมีกำลังประชาชนหนุน!

แต่สุดท้ายเขาก็ยังประเมินเย่หยวนต่ำไปมาก!

เขานั้นไม่นึกฝันว่าแม้ในยุคสมัยนี้เอง เย่หยวนก็จะสามารถเอาชนะใจคนไปได้มากมายปานนี้แล้ว!

ใช่ เขาย่อมจะไม่มีทางคาดคิดได้

มีหรือที่เต๋าบรรพกาลผู้ไม่สนโลกเบื้องล่างอย่างเขานั้นจะมาสงสารคนที่ทุกข์ทรมานได้?

ตอนที่โลกกำลังทนทุกข์ด้วยไฟสงคราม พวกเขานั้นกลับกลัวกำลังของเผ่าเทวาจนไม่กล้าโผล่หัวออกไปปะทะใดๆ

แต่เย่หยวนนั้นกล้า!

เขานั้นเปลี่ยนกระแสสงครามด้วยตัวคนเดียวเปลี่ยนให้ความพ่ายแพ้ย่อยยับกลายเป็นชัยเด็ดขาดของหลากเผ่าพันธุ์

ความสำเร็จเช่นนี้จะเอาอะไรมาเทียบเคียงได้?

หลินเฉาเถียนนั้นเอาแต่คิดว่าจะพัฒนาเต๋าตัวเองต่อไปอย่างไร คิดจะทำลายโซ่ตรวจที่รั้งตนไว้

แต่เย่หยวนนั้นกลับสละเวลาเสียชีวิตเพื่อคนทั้งหลายในโลกเบื้องล่าง

คนอย่างเขานี้ยังต้องมาอธิบายใดๆ ให้โลกฟัง?

เขาว่ากันว่าความถูกต้องนั้นมันอยู่ที่ใจของผู้คน!

……………..