ตอนที่ 1948 ข้ามาจากอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1948 ข้ามาจากอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน

 

“น้องชายหลิง เชิญทางนี้!” หลิวเจียโบกมือเรียกหลิงฮัน

ต่อให้ระดับวรยุทธของอาณาเขตสวรรค์กว่างลังจะสูงส่ง แต่จํานวนของจักรพรรดิก็ยังมีน้อยนิดอยู่ดี เพราะงั้นจักรพรรดิแต่ละคนจึงควรค่าแก่การทําความรู้จัก

 

หลิงฮันพยักหน้า และรับคําเชิญของหลิวเจี้ย พวกเขามุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยง

 

สถานที่ที่ว่าคือสวนอันงดงามที่เต็มไปด้วยบุปผาและพืชพรรณ บ่อหน้าที่ตั้งอยู่บริเวณกลางสวนนั้น มีดอกบัวดอกหนึ่งลอยอยู่ ซึ่งตัวของดอกบัวได้ปลดปล่อยกลิ่นหอมอันสดชื่นออกมา

 

“นั่นมันดอกบัวสวรรค์แปรผัน!” หลิงฮันในตอนนี้คุ้นเคยกับสมุนไพรของดินแดนแห่งเซียนแล้ว เขาจึงมองดอกบัวตรงหน้าออกทันที เพียงแต่หลังจากนั้นเขาก็ต้องเผยสีหน้าผิดหวังออกมา “เพียงแต่อายุของมันอยู่ที่หนึ่งพันกว่าล้านปีเท่านั้น จึงจัดอยู่ในส่วนของสมุนไพรทั่วไป”

 

ดอกบัวสวรรค์แปรผันต้องเติบโตอย่างน้อยห้าพันล้านปีถึงจะสามารถดูดซับอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพีได้ และยกระดับกลายเป็นสมุนไพรนิรันดร์ หากอายุยังไม่ถึง มันก็ถูกจัดว่าเป็นสมุนไพรกึ่งนิรันดร์เท่านั้น

 

ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มของหลิวเจี้ย เมื่อได้ยินคําพูดของหลิงฮันที่ดูเหมือนดูถูกสมุนไพรของเขาก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นมืดมนทันใด

 

หลิวหานยิ้มกรุ้มกริ่ม ในตอนแรกหลิงฮันดูเกะกะสายตาก็จริง แต่กลับกลายเป็นว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นจักรพรรดิ

 

ด้วยการมีศักยภาพระดับจักรพรรดิ แน่นอนว่าต้องมีความหยิ่งทะนงในตนเองอยู่แล้ว เพียงแต่หลิงฮันไม่ได้เป็นอัจฉริยะแค่ในศาสตร์วรยุทธ แต่ยังมีพรสวรรค์ที่โดดเด่นในศาสตร์ปรุงยาอีกด้วย นางจึงหันมามองหลิงฮันด้วยสายตาที่ประทับใจ

 

“สายตาของน้องชายหลิงฮันช่างสูงยิ่งนัก!” หลิวเจี้ยส่ายหัวด้วยท่าทางไร้คําพูด

 

เมื่อทุกคนมากันครบและนั่งลง เหล่าคนใช้ก็ปรากฏตัวและวางจานอาหารลงบนโต๊ะ

 

หลิวเจี้ยยังไม่กล่าวอะไร แต่รอให้ทุกคนกินกันใครเกือบเสร็จก่อน จึงค่อยเอ่ยขึ้น “ครั้งนี้ที่เชิญชวนให้ทุกคนมาที่นี่ ก็เพราะข้ามีเรื่องสําคัญมากจะพูดด้วย”

 

“ไม่ทราบว่าผู้สืบทอดหลิวมีเรื่องอันใดังนรึ?” ใครบางคนเอ่ยถาม

 

หลิวเจี้ยแน่นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว “ในอาณาเขตที่อยู่ระหว่างชายแดนของอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน กับอาณาเขตสวรรค์กว่างสิ่งของเรา มีเขตแดนลี้ลับแห่งสวรรค์และปฐพีถืออยู่ ซึ่งภายในนั้น ได้มีแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีถือกําเนิดขึ้น”

 

ว่าไงนะ… แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี!

 

ทุกคนดวงตาเปิดกว้างด้วยความตื่นเต้น

 

แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีคือสมบัติในระดับราชานิรันดร์ ใครที่ได้ครอบครองมันจะไร้เทียมทานในระดับพลังเดียวกันอย่างแท้จริง ต่อให้เป็นราชา หรือราชาในหมู่ราชา หากได้ครอบครองมัน พลังต่อสู้ก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้น บางทีราชาในอาจจะกลายเป็นราชาในหมู่ราชา ส่วนราชาในหมู่ราชาก็จะกลายเป็นจักรพรรดิ

 

“แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีนี้ มีชื่อเรียกว่าพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธ เพียงแต่ไม่ใช่แค่อาณาเขตสวรรค์กว่างลั่งของเราเท่านั้นที่ได้รับข่าวนี้ แต่ทางด้านของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันก็เช่นกัน”

 

“จากการคาดการณ์ของราชานิรันดร์ หลังจากนี้อีกราวๆหนึ่งปี เขตแดนลี้ลับที่ว่าจะเปิดออก และพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธก็จะเติบโตกลายเป็นแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีที่สมบูรณ์”

 

“เขตแดนลี้ลับแห่งนี้ ยอมให้เพียงจอมยุทธระดับโลกียนิพพานผ่านเข้าไปได้ เมื่อเวลานั้นมาถึง พวกเราสองอาณาเขตสวรรค์คงมีการต่อสู้ที่ดุเดือดเกิดขึ้น”

 

เมื่อสิ้นเสียงของหลิวเจี้ย ก็จบเห็นว่าใครหลายคนได้เผยสีหน้าเหยียดหยามออกมา

 

“อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน? คนพวกนั้นคิดจะมาแย่งชิงกับพวกเรางั้นรึ?”

 

“ข้าได้ยินมาอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน นั่นไม่มีจักรพรรดิเลยสักคน เพียงแค่เราให้จักรพรรดิลงมือก็สามารถกําราบคนเหล่านั้นได้ง่ายๆแล้ว”

 

ในช่วงร้อยล้านปีที่ผ่านมา อาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งไม่เพียงหลุดพ้นจากการเป็นอาณาเขตสวรรค์ที่อ่อนแอที่สุด แต่ความต่างชั้นกับอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน ยังค่อยๆมีมากขึ้นเรื่อยๆด้วย

 

เพราะเหตุนี้ เหล่ารุ่นเยาว์ของอาณาเขตสวรรค์กว่างลังจึงภาคภูมิใจ และคิดว่าในอาณาเขตสวรรค์ไท่อันนั้นมีราชาอยู่เพียงน้อยนิด

 

หลิงฮันลูบคางและกล่าว “ขอโทษทีนะ แต่ข้าเองก็มาจากอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน”

 

เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าวออกไป รอบค้างก็กลายเป็นเงียบสงัดทันที

 

จะเป็นไปได้อย่างไร?

 

อัจฉริยะอย่างหลิงฮันน่ะรึจะถูกบ่มเพาะขึ้นที่อาณาเขตสวรรค์ไท่อัน?

 

“พี่ชายหลิงฮันช่างชอบล้อเล่นเสียจริง!”

 

“จริงด้วย อัจฉริยะอย่างพี่ชายหลิงคือความภาคภูมิใจของอาณาเขตสวรรค์กว่างลังของเรา”

 

ใครหลายคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อพร้อมกับส่ายหัว

 

หลิงฮันคร้านจะโต้เถียง และทําเพียงยิ้มตอบกลับไป

 

หลิวเจี้ยรีบสะบัดและกล่าวต่อ “ไม่ว่าอย่างไรเพื่อพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธแล้ว พวกเราก็ต้องทุ่มเทสุดความสามารถ

 

“แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี ไม่ใช่ว่าเพียงแค่มีพลังแข็งแกร่งแล้วจะทําให้มันยอมติดตามได้ ด้วยการที่มันเป็นตัวตนระดับราชานิรันดร์ และมีความนึกคิดเป็นของตนเอง เมื่อพบเจอแก่นกําเนิดนิรันดร์ พวกเราจึงทําได้เพียงพยายามสุดตัวเพื่อให้ตนเองได้รับเลือกเท่านั้น”

 

“โอกาสมีเพียงครั้งเดียว เมื่อแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีกําเนิดขึ้นมา และไม่เลือกติดตามใครเลยล่ะก็ มันจะหลบหนีหายไป โดยที่ต่อให้เป็นราชานิรันดร์ระดับสูงก็ไม่อาจจับกุมมันได้ และจะต้องรอคอยไปอีกหลานหมื่นแสนล้านปี กว่ามันจะกลับมาปรากฏตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ใครบางคนถูกเลือกอีกครั้ง”

 

“แต่เดิมข้าวางแผนว่าจะชวนคนห้าคน มาร่วมมือกับข้าและน้องสาวใช้ค่ายกลจันทราประกายแสงเจ็ดดาราเพื่อเพิ่มพลังต่อสู้ แต่ตอนนี้เมื่อมีน้องชายหลิงฮันอยู่ด้วยแล้ว ข้าเชื่อว่าหากพวกเราสามคนร่วมมือกัน จะต้องเป็นกลุ่มที่ไร้เทียมทานอย่างแน่นอน”

 

จักรพรรดิถึงสามคนร่วมมือกัน ยังไม่รับประกันชัยชนะอีกงั้นรึ?

 

หลิงฮันกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แต่ก็กล่าวออกไป “ข้าเป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ ไท่อันจริงๆ เพราะงั้นคงมีแต่ต้องปฏิเสธความหวังดีของพี่ชายหลิว”

 

“ฮ่าๆๆๆ!” เมื่อได้ยินประโยคนี้ แน่นอนว่าทุกคนย่อมต้องหัวเราะ และคิดว่าหลิงฮันช่าง เป็นคนตลกยิ่งนัก

 

หลิงฮันกลายเป็นไร้คําพูด ทําไมถึงไม่มีใครเชื่อความจริงที่เขาพูดกัน?

 

“น้องชาย เจ้าไม่อยากร่วมมือกับข้างั้นรี?” หลิวเจี้ยกล่าว

 

หลิงฮันส่ายหัว “ข้าได้บอกเหตุผลไปแล้ว”

 

หลิวเจียยังคงไม่เชื่ออยู่ดีว่าหลิงฮันจะเป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันไปได้ เนื่องจากภาพลักษณ์อันอ่อนแอของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันนั้น ได้ฝังลึกลงไปยังจิตใจของเขาแล้ว เขาชักชวนอีกครั้ง “น้องชายหลิง ถ้าหากเจ้ากลัวว่าการร่วมมือกันข้าจะต้องลงเอยด้วยการแย่งชิงพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธกันเองล่ะ เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไป”

 

“ข้าแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีจะเลือกเจ้านายด้วยตัวเอง พวกเราเพียงแค่ร่วมมือกันเพื่อคว้าโอกาสให้มันเลือกพวกเราเท่านั้น”

 

เขากล่าวคําพูดเหล่านี้ด้วยน้ําเสียงจริงจังเป็นอย่างมาก