ตอนที่ 2682

War sovereign Soaring The Heavens

WSSTH ตอนที่ 2,682 : อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง…ต้วนหลิงเทียน?

 

 

อ๋อง 4 นั้น เป็นดั่งตำนานของพระราชวังฉิน

 

ในบรรดาพี่น้องของฮ่องเต้ฉิน ไม่ว่าไหวพริบปฏิภาณก็ดีพรสวรรค์ทั้งศักยภาพก็ดี อ๋อง 4 ล้วนมีสูงสุดอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ตั้งแตหลายร้อยปีก่อนพลังฝีมือก็เหนือล้ำกว่าฮ่องเต้ฉินในวันนี้ด้วยซ้ำ ได้รับการขนามนามว่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งพระราชวังฉิน!

 

น่าเสียดายที่ฟ้าริษยาอัจฉริยะ เมื่อไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา อ๋อง 4 ที่ฝึกวรยุทธ์ผิดพลาดจนบังเกิดอาการธาตุไฟเข้าแทรก คนกลายเป็นคุ้มคลั่งเสียยสติ พลั้งมือทำร้ายฮ่องเต้ฉินจนบาดเจ็บหนัก ก่อนจะหลบหนีออกจากพระราชวังฉินไป

 

เถียนจี้หวี่ในฐานะผู้ว่าการมณฑลจิ่วโยว เคยได้รับเกียรติให้เข้าพบอ๋อง 4 คราหนึ่ง แต่เนื่องจากเรื่องราวมันผ่านไปหลายร้อยปีแล้ว มันจึงไม่อาจนึกได้ออก…

 

ที่แท้เหตุผลที่มันรู้สึกว่าฉินอวี่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยแปลกๆ เพราะมีเค้าโครงใบหน้าเหมือนกับอ๋อง 4 นั่นเอง

 

ตอนนี้พอมาได้เห็นฉินอวี่สำแดงเวทย์พลังสนับสนุนอย่าง ‘ประทับโลหิตฟ้าร่ายรำ’ ที่เป็นเวทย์พลังเฉพาะสำหรับวงศ์วานพระราชวังฉิน และได้เห็นอ๋อง 3 เรียกฉินอวี่ไปเข้าพบ เถียนจี้หวี่ก็ฉุกคิดถึงอ๋อง 4 ในอดีตขึ้นมา

 

“ฉินอวี่ของมณฑลจิ่วโยว…ดูเหมือนว่า…จะมีเค้าโครงใบหน้าละม้ายคล้ายกับอ๋อง 4 ในกาลก่อน…”

 

ด้านผู้ว่าการมณฑลผิงชาน หวังฉี่หลิง เองสองตาก็ทอประกายวาบหนึ่งด้วยนึกอะไรขึ้นได้

 

‘ก็ว่าแล้วเชียวไฉนเห็นเจ้าหนูนั่นขึ้นเวทีครั้งแรกข้ารู้สึกคุ้นๆตาอยู่บ้าง ที่แท้หน้าตามันคล้ายกับอ๋อง 4 ที่ข้าเคยเข้าเฝ้าเมื่อพันกว่าปีก่อนนี่เอง…’

 

“ฉินอวี่ผู้นี้..ไฉนหน้าตาถึงละม้ายคล้ายอ๋อง 4 เล่า?”

 

“ใช่ ข้านึกได้แล้ว นับว่าหน้าตาคล้ายอ๋อง 4 ยิ่ง แถมยังมีแซ่ฉินอีก…หรือว่าเป็นทายาทของพระราชวังฉินที่ถูกทิ้งด้านนอก?”

 

“เจ้าหนุ่มนั่นเผลอๆจะเป็นลูกชายของอ๋อง 4 ด้วยซ้ำ”

 

 

มีผู้ว่าการมณฑลอยู่จำนวนหน่งที่เคยเข้าเฝ้าอ๋อง 4 มาก่อน พอเห็นฉินอวี่ถูกนำตัวผ่านม่านผ้า เข้าพบอ๋อง 3 ทำให้ฉากเรื่องราวการเข้าพบของพวกมันในอดีตแล่นย้อนขึ้นมา จึงทำให้ฉุกคิดถึงอ๋อง 4 ที่มีข่าวว่าหายตัวไปเมื่อไม่กี่สิบปีก่อนได้ทันที

 

“อ๋อง 4?”

 

“ราชนิกูลผู้เป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของพระราชวังฉินในกาลก่อน ที่หายตัวไปไม่กี่สิบปีผู้นั้น?”

 

“ฉินอวี่จากมณฑลจิ่วโยว…อาจเป็นลูกชายของอ๋อง 4?!”

 

 

ในขณะที่เหล่าผู้ว่าเริ่มกล่าวข้อสันนิษฐานออกมา คนอื่นๆที่นั่งอยู่ใกลๆก็พลอยได้ยินเรื่องราวไปด้วย ทั้งหลายจึงอดแตกตื่นกันไม่ได้

 

ในพริบตาจากหัวขโมยลักลอบฝึกเวทย์พลังสนับสนุนที่อาจมีโทษโดนประหาร 9 ชั่วโคตร ก็กลายเป็นทายาทสายตรงของพระราชวังฉินไปทันใด…

 

เหล่าผู้ที่อยู่ในอัฒจันทร์รอบเวทีทั้งหลาย ไม่ได้มีแต่คนของ 16 มณฑลเท่านั้น ยังมีเหล่าขุมพลังต่างๆใต้อาณัติของพระราชวังฉินที่ได้รับเชิญมาจากพระราชวังฉินให้ชมดูความสนุกสนานอีกด้วย

 

ถึงแม้พลังอำนาจของขุมพลังเหล่านี้จะไม่ร้ายกาจเท่าพระราชวังฉิน หากแต่ก็ไม่ใช่อะไรที่พลังอำนาจของ จวนผู้ว่าทั้ง 16 มณฑลจะเทียบได้…

 

“ฉินอวี่…เป็นทายาทของพระราชวังฉินงั้นเหรอ!?”

 

บริเวณพื้นที่ด้านข้างชั้นลอยสำหรับคนในราชวงศ์ ร่างคนในชุดคลุมสีดำชะงักไปเล็กน้อย ปากพึมพำออกมาเสียงเบาให้ได้ยินแค่ตัวเอง ในน้ำเสียงฟังแล้วคล้ายประหลาดใจอยู่บ้าง

 

ชุดคลุมสีดำที่คนผู้นี้สวมใส่ มีลายปักรูปเปลวเพลิงปักอยู่ และเปลวเพลิงดังกล่าวยังร้อยเรียงเป็นตัวอักษร ‘แผ่นดิน’ ทำให้ตัวอักษร ‘แผ่นดิน’ บนชุดคลุมสีดำนี้คล้ายดั่งเปลวเพลิงที่ลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา แลดูงดงามเป็นพิเศษ

(แผ่นดิน ในที่นี้คือคำว่า’ คุน**)**

 

และนี่เป็นชุดคลุมเฉพาะสำหรับชนชั้น ‘ปรมาจารย์อมตะ’ ในระนาบเทวโลก!

 

และชุดคลุมปรมาจารย์อมตะดังกล่าว ก็ถูกสร้างขึ้นโดยพันธมิตรปรมาจารย์อมตะ เรียกว่ามีแต่เหล่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะหรือปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์อมตะรวมถึงศาสตร์อื่นๆ ที่ผ่านการทดสอบและได้รับสถานะปรมาจารย์ในศาสตร์แขนงใดแขนงหนึ่งแล้วเท่านั้น ถึงจะสวมใส่ได้

 

มีน้อยคนนักที่หาญกล้าสวมใส่ชุดคลุมเลียนแบบ เพื่ออ้างตัวเป็นชนชั้นปรมาจารย์ในระนาบเทวโลก เพราะถ้าหากถูกพบเจอที่ไหน ย่อมถูกเหล่าพันธมิตรปรมาจารย์อมตะไล่ล่าถึงที่สุด!

 

เช่นนั้นแล้วตลอดประวัติศาสตร์อันยาวนานของระนาบเทวโลก ผู้ที่หาญกล้าเลียนแบบชุดคลุมปรมาจารย์อมตะนี้ จึงมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้น

 

ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะ ยังแบ่งออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน

 

อันได้แก่ ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะสวรรค์ ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะปฐพี ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะฟ้า ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะแผ่นดิน

 

ในบรรดาทั้ง 4 ระดับ มีเพียงปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะขั้นสูงสุด หรือปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์สวรรค์ขั้นสูงสุดเท่านั้น ที่มีสิทธิ์ส่วมใส่ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะสวรรค์ได้…

 

ส่วนปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำ หรือปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์อมตะระดับต่ำ ก็สามารถสวมใส่ได้แค่ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะแผ่นดินเท่านั้น และการจะได้รับมาสวมใส่แบบนี้ แน่นอนว่าต้องไปสอบวัดคุณสมบัติที่พันธมิตรปรมาจารย์สาขาต่างๆจนผ่านเสียก่อน…

 

และสิ่งที่ชายในชุดดำคนนี้สวมก็คือ ชุดคลุมปรมาจารย์อมตะแผ่นดิน!

 

นี่บอกให้รู้ว่า

 

ชายผู้นี้หากไม่ใช่ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับต่ำ ก็คือปรมาจารย์หลอมอุปกรณ์อมตะระดับต่ำ!

 

“รองประมุขหวง…อ๋อง 4 ที่ว่า ร้ายกาจว่าฮ่องเต้ฉินอีกรึ?”

 

ทันใดนั้นศีรษะในชุดคลุมดำก็หันไปถามชายวัยกลางคนที่นั่งไม่ไกลด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย ขณะกล่าวสองตาใต้ชุดคลุมยังทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่ง

 

“ท่านผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง…”

 

ได้ยินชายในชุดคลุมดำหันมาถามไถ่ ชายวัยกลางคนแต่เดิมที่มีใบหน้าไม่รับแขกแลดูดุดัน ก็เร่งหันไปพยักหน้าตอบคำด้วยรอยยิ้มแฉ่งทันที  “ในอดีตพลังฝีมือของอ๋อง 4 นั้น นับว่าเหนือล้ำกว่าฮ่องเต้ฉินมากจริงๆ”

 

“ว่าแต่…ดูเหมือนผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง ท่าน…ไม่เคยได้ยินเรื่องราวของอ๋อง 4 แห่งพระราชวังฉินมาก่อนหรือ?”

 

ชายวัยกลางคนที่กำลังถามไถ่อยู่นี้มีนามว่า หวงกวงจี๋ เป็นถึงรองประมุขนิกายมังกรบิน ขุมพลังที่นับว่ามีพลังอำนาจพอตัวใต้อาณัติพระราชวังฉิน

 

คราวนี้มันก็ได้รับคำสั่งจากประมุขนิกายมังกรบิน ให้พาคนในนิกายมาร่วมรับชมเรื่องราวสนุกสนานตามคำเชิญของฮ่องเต้ฉิน

 

และเรื่องราวสนุกสนานที่ว่า ก็คือการประลอง 16 มณฑลเบื้องหน้าพวกมันนี่เอง

 

ถึงแม้ว่าชายในชุดคลุมดำข้างๆ จะพึ่งเข้าร่วมนิกายมังกรบินของพวกมันได้แค่ 2 เดือน และยังเป็นแค่ 1 ใน 5 ปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำของพวกมันเท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอัตราความสำเร็จก็ดี ความบริสุทธิ์ก็ดี หรือความเร็วในการหลอมโอสถก็ดี ชายข้างกายของมันคนนี้…เห็นได้ชัดว่าเหนือล้ำกว่าปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะอีก 4 คนที่เหลือหลายขุม! เช่นนั้นมันจึงไม่กล้าละเลยอีกฝ่าย!!

 

และท่านทราบหรือไม่ ว่ากระทั่งประมุขนิกายมังกรบินของมัน ต่อหน้าปรมาจขารย์หลอมโอสถระดับต่ำผู้นี้ ยังต้องให้ความเคารพอยู่หลายส่วน! แล้วอย่างมันจะกล้าหือได้เหรอ!?

 

กระทั่งก่อนที่จะออกเดินทางมาดูชมการประลองครานี้ ประมุขนิกายของมันยังได้กำชับมันเอาไว้หลายครั้งหลายครา…

 

ว่าให้ปฏิบัติต่ออาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงคนนี้ให้ดีและแสดงท่าทีสุภาพเคารพให้มาก!

 

“ใช่”

 

ชายชุดดำพยักหน้ารับ กล่าวตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้งเบาๆ “ข้าร่อนเร่พเนจรไปเรื่อย พึ่งจะมาถึงเขตปกครองของพระราชวังฉินได้แค่ 2 เดือน…และพอดีจุดรอคอยด่านพลังข้าเริ่มส่งสัญญาณกรุยออกเล็กน้อย เลยคิดหาสถานที่พักชั่วคราวเพื่อทะลวงด่าน และนั่นคือนิกายมังกรบินเจ้า”

 

ในฐานะรองประมุขนิกายมังกรบิน หวงกวงจี๋ ย่อมเคยได้ยินเรื่องราวและประวัติบุคคลข้างกายจากประมุขมานานแล้ว จึงไม่ได้แปลกใจสงสัยอะไรในวาจาที่อีกฝ่ายพึ่งกล่าว

 

“หากท่านผู้อาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิงสนใจเรื่องราวของอ๋อง 4 เช่นนั้นข้าจักเล่าให้ท่านฟังแต่แรกดีหรือไม่…”

 

หวงกวงจี๋กล่าวออกมาด้วยความกระตือรือร้น

 

 

สุดท้ายภายใต้การเล่าเรื่องราวอย่างได้อรรถรสของหวงกวงจี๋ ชายชุดคลุมดำจึงได้รับทราบว่าอ๋อง 4 เป็นคนเช่นไร…

 

‘ฉินอวี่อาจเป็นลูกชายที่อ๋อง 4 มีด้านนอก หลังออกจากพระราชวังฉิน…’

 

ในใจชายชุดคลุมดำสะท้านไปเล็กน้อย ลอบคาดเดาบางอย่างในใจ

 

หลังจากคาดเดาอะไรได้แล้ว ชายในชุดคลุมดำเพียงพยักหน้าให้หวงกวงจี๋เล็กน้อยก็นิ่งไปไม่สนใจอะไรอีก ด้านหวงกวงจี๋ก็ไม่ได้รู้สึกไม่พอใจแต่อย่างใด

 

เพราะมันคุ้นชินกับลักษณะและทีท่าสันโดษของอาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง ที่เลือกมาอาศัยอยู่ในนิกายมังกรบินของพวกมันคนนี้ดีแล้ว…

 

‘ฟังจากเสียงแหบแห้งของอาวุโสกิตติมศักดิ์เทียนหลิง…สมควรเป็นผู้ชรา และอายุที่แท้จริงก็คงไม่ใช่น้อยๆ…’

 

หวงกวงจี๋ลอบมองสำรวจชายในชุดคลุมดำเล็กน้อย ค่อยละสายตาออกมา

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้รู้เลยว่าเสียงแหบแห้งฟังดูชราแล้วนั้น เป็นอีกฝ่ายเสแสร้งแกล้งดัด

 

ภายใต้ชุดคลุมดำนั้น เป็นร่างเลือดเนื้อหนุ่มแน่นอันแผ่กลิ่นอายอ่อนวัยหนึ่ง

 

หากกล่าวให้ชัด ภายใต้ชุดคลุมสีดำเป็นชายหนุ่มหล่อเหลาที่แลดูเยาว์วัยอย่างมากในชุดจอมยุทธ์สีม่วง…

 

ด้วยความที่มีชุดคลุมดำสวมทับปิดบังไปทั่วกายเช่นนี้ จึงไม่มีใครบอกได้เลยว่าเจ้าตัวเป็นเพียงชายหนุ่มคนหนึ่ง

 

หากฉินอวี่อยู่ตรงนี้และเลิกโม่งดำของชุดที่คลุมหัวออก คงจะบอกได้ทันที…

 

ว่าชายในชุดคลุมดำคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นต้วนหลิงเทียนที่มันรู้จัก!

 

‘ตอนนี้อ๋อง 3 คงเรียกฉินอวี่ไปรวจสอบฐานะที่แท้จริง…’

 

ต้วนหลิงเทียนที่สวมใสชุดคลุมดำลอบกล่าวในใจ

 

ถึงแม้เขาจะไม่ได้หันไปมองชมม่านผ้าในชั้นลอยด้านข้างเหมือนผู้คนในนิกายรอบๆ แต่เขาก็คิดไม่ต่างอะไรจากทุกคน

 

‘แต่นับว่าโชคดีจริงๆ…ที่ทางพระราชวังฉินออกกฏเรื่องไพ่ตายมา ไม่งั้นข้าคงไม่อาจซ่อนตัวได้ถึงตอนนี้…’

 

ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าว

 

นอกจากตัวต้วนหลิงเทียนเองแล้ว ทุกคนรวมถึงเถียนจี้หวี่ผู้ว่าการมณฑลจิ่วโยว ย่อมไม่มีใครคิดคาด…

 

ว่าอันที่จริงต้วนหลิงเทียนที่พวกมันชะเง้อมองหาจนคอยาว ที่แท้จะมาถึงงานประลอง 16 มณฑลตั้งนานแล้ว…

 

เพียงแค่นั่งชมดูเรื่องราวในฐานะอื่นเท่านั้น!

 

และฐานะอื่นที่ว่า ก็คือปรมาจารย์หลอมโอสถระดับต่ำ ที่มีชุดคลุมปรมาจารย์อมตะที่ปักอักษรเพลิงคำว่า แผ่นดิน เอาไว้!

 

นอกจากนี้ยังเป็นเพราะชุดคลุมปมจารย์อมตะแผ่นดินที่สวมใส่เอาไว้ ซึ่งบอกยี่ห้อปรมาจารย์อมตะระดับต่ำชัดเจนนี้เอง จึงทำให้ไม่มีใครกล้าแผ่สำนึกเทวะมาตรวจสอบเขา ด้วยเกิดความยำเกรง…

 

ไม่มีใครเต็มใจจะสร้างปัญหา ให้ผิดใจกับปรมาจารย์อมตะระดับต่ำด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องทั้งสิ้น!

 

หากไม่มีชุดคลุมปรมาจารย์อมตะแผ่นดินตัวนี้สวมทับไว้ แต่เป็นชุดคลุมลมดำโง่ๆแบบอื่น ไม่พ้นป่านนี้เขาถูกสำนึกเทวะแผ่มารุมตรวจสอบแต่แรกแล้ว…

 

ทันใดนั้นเอง พลันมีเสียงดังหนึ่งตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง!!

 

“ฮ่องเต้ฉินเสด็จแล้ว!!”

 

“ฮ่องเต้ฉินเสด็จแล้ว!!”

 

 

พร้อมกับเสียงตะโกนดังลั่น สุดขอบฟ้าว่างเปล่าทิศทางหนึ่ง พลันปรากฏเกี้ยวอันมีม้าสวรรค์สีขาวปลอดราวหิมะ 9 ตัวแบกหามทะยานข้ามฟ้ามาแต่ไกลอย่างไม่รีบไม่ร้อน…มองไปความเร็วของมันเพียงเทียบได้กับต้าหลัวจินเซียนทั่วๆไปเท่านั้น

 

และบนเกี้ยวที่ม้าสวรรค์ทั้ง 9 แบกหามมา ก็เป็นชายวัยกลางคนรูปลักษณ์สง่างามมาในชุดคลุมสีม่วงทองนั่งอยู่อย่างองอาจ

 

ด้านหลังเกี้ยวของชายวัยกลางคน ก็ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งเหินติดตามมาไม่ห่าง…