ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1384 คุ้มไหม?
คืนนั้น จวบจนกระทั่งเรือลำนี้ถึงเกาะ คณาธิปก็ไม่ได้ออกมาเลย ส่วนเชียนหยวนล๋ายเย่นั้นก็นั่งเฝ้าอยู่นอกห้องโดยสาร แม้แสงดาวจะมาบอกว่าทะเลมีลมแรง ให้เข้าไปอยู่ในห้องโดยสาร เธอก็ไม่ยอม ช่างเป็นคนโง่อะไรอย่างนี้
ก่อนฟ้าสางในวันที่สองเมื่อคณาธิปเปิดประตูห้องออก ก็พบสาวน้อยนอนขดตัวงีบหลับอยู่ที่บานประตู คราวนี้ แม้เธอจะสวมเสื้อกันหนาว แต่อากาศก็หนาวจนแม้แต่ใบหน้าน้อยๆก็คล้ำลง ทั้งตัวขดจนกลมเหมือนลูกบอล คณาธิปจึงชะงักอยู่ตรงนั้น
ทะเลยามเช้า เมื่อพระอาทิตย์ยังไม่ทอแสง จึงมีเพียงแสงรุ่งอรุณสีเทาห่อหุ้มอยู่ ทั้งยังมีหมอกขมุกขมัวอีกด้วยทำให้ทัศนวิสัยทั้งหมดราวถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง การมองเห็นของเขาทำให้เธอที่เป็นดั่งน้ำค้างแข็งเข้มข้นขึ้น
“ก็อกๆ–” ในที่สุด เพราะหลับไปแล้ว ศีรษะน้อยๆจึงชนกับบานประตูโดยไม่ทันระวัง สาวน้อยจึงตื่นขึ้นมา
“ที่รักคะ คุณ……คุณตื่นแล้วหรือคะ?” เธอลืมตา เมื่อครั้นลืมตาเธอยังคงตาปรืออยู่ หลังจากเห็นเท้าทั้งสองของชายหนุ่มที่ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จนเมื่อมีลมพัดมาอีกระลอกหนึ่ง เธอหนาวสั่น จึงมองเห็นอย่างชัดเจนว่าเท้าทั้งคู่นี้ยกขึ้นมาหลังจากนั้นไม่นานในขณะที่ใบหน้าของเธอยังเขียวคล้ำอยู่ เธอเงยหน้ามองไปที่คณาธิป
คณาธิป : “……..”
เหมือนกับว่าเวลาได้ผ่านไปอย่างเนิ่นนานราวศตวรรษ ในที่สุด เขาก็นั่งยองๆลงมาที่เบื้องหน้าเด็กสาว “คุ้มไหม? เรื่องเมื่อวานนี้ คุณก็รู้แล้ว ว่าผมไม่ได้รักคุณ คุณก็เห็นแล้วนี่ ว่าผมป่วยหนัก ทั้งชาตินี้คงไม่หายแล้ว คุณยังมาเฝ้าที่นี่อีก มันคุ้มแล้วหรือ?” เสียงของเขาในความเยียบเย็นยังแฝงไปด้วยความร้ายกาจ เหมือนกันลมหนาวที่ไม่มีอุณหภูมิใดๆที่ล่องลอยอยู่เหนือผิวน้ำทะเล ดวงตาทั้งคู่ของเชียนหยวนล๋ายเย่ค่อยๆเบิกกว้าง “คุ้มสิคะที่รัก คุณไม่ได้ป่วย เพียงแค่คุณไม่มีคนคอยอยู่ข้างๆ ต่อจากนี้ไป ฉันจะคอยอยู่ข้างๆคุณเองค่ะ” ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าเด็กสาวผู้นี้ แม้จะได้ยินคำพูดของเขาที่โหดร้ายออกปานนั้น เธอชะงักไปเพียงไม่กี่วินาที แล้วก็รีบลุกขึ้นมา จากนั้นมองเขาแล้วพูดคำพูดที่จริงจังอย่างหาใดเปรียบนั้นออกมา คณาธิปจ้องมองอย่างว่างเปล่า อยู่ข้างๆหรือ? เขาเหมือนโดนอะไรแทงอย่างนั้น ชั่วพริบตาเดียวดวงตาหลังแว่นสายตาและแม้แต่รูม่านตาก็หดลง คำพูดนี้ สำหรับเขาแล้ว ช่างเปล่าประโยชน์นัก ตั้งแต่เด็กจนโต เขาก็โดดเดี่ยวมาโดยตลอด ไม่เคยมีใครยินยอมที่จะอยู่เคียงข้างเขา “คุณรู้เหตุผลที่ผมแต่งงานกับคุณไหม?” ในลมหนาวที่เย็นยะเยือก ในที่สุดเขาก็ได้ยินเสียงที่แหบแห้งของเขาถามออกไป
เชียนหยวนล๋ายเย่ : “………..” “ผมแต่งกับคุณ เพราะคุณเหมือนเธอ คุณยังไม่เข้าใจอีกหรือ? หน้าตาของคุณมีเงาของเธออยู่ คุณตอนอายุเท่านี้ เป็นช่วงเดียวกับตอนที่ผมคลั่งไคล้ในตัวเธอ คุณไม่เข้าใจหรือ?”
ในที่สุด เขาก็พูดความลับที่เก็บซ่อนไว้ในใจออกมา ทั้งโหดร้ายและทำให้สิ้นหวัง สีหน้าเลือดฝาดของสาวน้อยจึงค่อยๆหายไปในที่สุด เธอเงยหน้ามองดูเขา ดวงตาเมล็ดซิ่งที่ชุ่มชื้นและเปล่งประกาย บัดนี้ได้หม่นหมองลง และกลับมีหมอกสีแดงล่องลอยมาแทนที่ เมื่อคณาธิปเห็นเช่นนี้ ก็ไม่ต่างกันนัก ริมฝีปากของเขาขาวซีดและเย็นเยือก จากนั้นจึงลุกขึ้นยืน “งั้นหลังจากนี้ต่อไป คุณคิดว่าฉันเป็นเชียนหยวนล๋ายเย่เท่านั้นได้ไหมคะ? ฉันรู้ดีว่าฉันสู้พี่สาวไม่ได้ในหลายๆด้าน แต่หากคุณยินยอมที่จะมองว่าฉันคือเชียนหยวนล๋ายเย่ ฉันก็พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณ ทั้งชีวิตนี้จะอยู่กับคุณตลอดไปค่ะ!” น้ำเสียงสะอื้นไห้ของหญิงสาวที่อ่อนโยนและบอบบางดังขึ้นมาจากด้านหลัง เด็กโง่คนนี้ แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าตนเองเป็นแค่เพียงตัวแทนเท่านั้น เธอยังร้องไห้และบอกว่าจะรอเขา เธอเพียงแค่ขออย่างเดียวคือ ต่อจากนี้ไป เธอก็คือเชียนหยวนล๋ายเย่ ไม่ใช่ตัวแทนของใครอีกต่อไป เธอก็คือตัวเธอเท่านั้น
คณาธิปรั้งเท้าทันควันจนกระดูกนิ้วซีด สองตาจ้องไปที่เบื้องหน้า ขอบตาแดงยิ่งขึ้นไปอีกทีละนิด ส่วนริมฝีปากเรียวบางก็ปิดแน่นจนกลายเป็นเส้นตรง แต่ท้ายที่สุด เขายังคงไม่หันกลับมา แต่กลับเดินกลับเข้าไปในห้องโดยสาร