ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 139-2 ฤดูใบไม้ร่วงที่เย็นสบาย

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

เสียง​ของ​คน​ผู้​นั้น​เบา​และ​แหบ​มาก​ ​เนื่องจาก​ไม่ได้​ดื่ม​น้ำ​มา​หลาย​วัน

​“​ข้า​ชื่อ​เจ๋อ​ซิ่ว​”

​คน​ชุด​ดำ​รู้​ว่า​เจ๋อ​ซิ่ว​คือ​ใคร​ ​จึง​เงียบ​ไม่​พูด​อีก

​ลมหนาว​พัดผ่าน​เนิน​หิมะ​เสียงดัง​หวีดหวิว​ ​ไกล​ออก​ไป​มีท​หาร​ม้า​ขี่ม้า​ผ่าน​มา​ ​แต่​ไม่มีใคร​สังเกตเห็น​ว่า​บน​เนิน​หิมะ​มี​คน​สอง​คน​นอน​นิ่ง​ๆ​ ​เรียง​กัน​อยู่

​ถ้า​มี​คน​มอง​ลงมา​จาก​ด้านบน​ ​อาจ​รู้สึก​ว่า​ภาพ​นี้​สวยงาม​ใน​เชิง​สุนทรียภาพ​ ​พวกเขา​เหมือน​คู่รัก​ที่​ยอม​ตาย​เพื่อ​ความรัก

​แต่​น่าเสียดาย​ ​นี่​ไม่​เป็นความ​จริง

​ไม่รู้​ว่า​ผ่าน​ไป​นาน​เท่าใด​ ​คน​ชุด​ดำ​จึง​ถอนหายใจ​เบา​ๆ​ ​ก่อน​ถาม​ ​“​เจ้า​รู้​ได้​อย่างไร​”

​คำถาม​นี้​ย่อม​หมายถึง​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​เดา​ได้​อย่างไร​ว่านาง​ใช้​ศพ​ใน​สุสาน​แห่ง​นี้​กระทำการ​ฟื้นคืนชีพ

​เจ๋อ​ซิ่ว​ว่า​ ​“​ข้า​ไม่รู้​ว่า​เจ้า​คิด​ทำ​อะไร​ ​เพียงแต่​ตอนที่​ข้ามา​ถึง​สุสาน​แห่ง​นี้​ ​พอดี​เห็น​เจ้า​อยู่​ที่นี่​ด้วย​”

​ตอนนั้น​กองทัพ​เผ่า​มนุษย์​ใกล้​ตีเมือง​เสวี​่ย​เหล่า​แตก​อยู่​รอมร่อ​ ​ใน​เวลา​คับขัน​เช่นนี้​ ​คน​ชุด​ดำ​ที่​บาดเจ็บ​ยัง​จะ​มีกะใจ​มายัง​สุสาน​แห่ง​นี้​ ​นี่​บ่งบอก​ว่า​สุสาน​แห่ง​นี้​สำคัญ​กับ​นาง​มาก

​คน​ชุด​ดำ​ ​“​ดังนั้น​เจ้า​จึง​อยู่​ที่นี่​ตลอด​ ​เพื่อ​รอ​ข้า​กลับมา​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​“​ใช่​”

​คน​ชุด​ดำ​ ​“​แล้ว​เจ้า​ไม่เคย​คิด​หรือ​อย่างไร​ว่า​ ​ความคิด​ของ​เจ้า​อาจ​ผิด​”

​คืน​นั้น​ใน​ตำหนัก​มาร​ที่นาง​ถูก​หลิว​ชิง​สังหาร​ ​วิญญาณ​เทพ​ได้​หยิบยืม​พลัง​ของ​แท่นบูชา​ยัญ​หนี​ออก​ ​แต่​นาง​มิได้​รีบ​จากไป​ ​ซ่อนตัว​อยู่​ใน​หลุมฝังศพ​หลาย​สิบ​วัน​อย่าง​ระแวดระวัง​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​นาง​นึกไม่ออก​ว่า​ ​ยัง​มี​ใคร​อึด​กว่า​ตนเอง​อีก

​ยิ่งไปกว่านั้น​ ​เจ๋อ​ซิ่ว​ไม่มีเหตุผล​ที่จะ​ทน​อยู่​ใน​หลุมฝังศพ​นาน​เช่นนี้​ ​เพราะ​ข้อสันนิษฐาน​เพียง​ข้อ​เดียว

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​“​เพราะ​ที่อื่น​ไม่ต้องการ​ข้า​ ​ข้า​จึง​เหมาะ​ที่จะ​ทำ​เรื่อง​เติมเต็ม​ใน​สิ่ง​ที่​ขาดหาย​ไป​เหล่านี้​”

​คน​ชุด​ดำ​ ​“​แล้ว​ถ้า​จน​แล้ว​จน​เล่า​ข้า​ไม่​ออกมา​ ​หรือ​เจ้า​จะ​รอ​ไป​เรื่อยๆ​ ​จน​สุดท้าย​กลายเป็น​ผีดิบ​ไป​จริงๆ​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​“​ไม่มีทาง​ ​ถ้า​ข้า​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​เจ้า​จะ​ไม่​กลับมา​ที่นี่​ ​ข้า​ก็​จะ​จากไป​เอง​”

​คน​ชุด​ดำ​ ​“​เจ้า​แน่ใจ​ได้​อย่างไร​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​“​ขณะ​ล่าสัตว์​ ​สิ่ง​สำคัญ​ที่สุด​มิใช่​ประสบการณ์​ ​แต่​เป็น​สัญชาติ​ญาณ​”

​คน​ชุด​ดำ​ ​“​ถ้า​สัญชาติ​ญาณ​ของ​เจ้า​ผิด​ล่ะ​”

​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​“​ไม่ใช่​ทุกครั้งที่​ออก​ล่า​ ​จะ​ต้อง​จับ​เหยื่อ​ได้​ ​ครั้ง​ต่อไป​ค่อย​มา​ใหม่​ยัง​ได้​”

​คน​ชุด​ดำ​คิด​ๆ​ ​ดู​ ​“​มีเหตุผล​”

​……

​……

​ข่าว​การปรากฏ​ตัว​ขึ้น​อีกครั้ง​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​ ​แพร่กระจาย​มาถึง​เมืองหลวง​อย่างรวดเร็ว​ ​และ​ที่มา​พร้อมกัน​ ​ยัง​มี​ข่าว​ลับ​เฉพาะ​นั่น​ด้วย

​จวบจน​อ่าน​เนื้อความ​ใน​จดหมาย​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ถึง​ได้​รู้​ว่า​ ​ที่แท้​คน​ชุด​ดำ​ยัง​ไม่​ตาย​ ​แต่​ตาย​ใน​เวลา​ต่อมา​ด้วย​น้ำมือ​ของ​เจ๋อ​ซิ่ว​…​เรื่อง​นี้​มิได้​ถูก​เปิดเผย​ต่อ​สาธารณะ​ ​เนื่องจาก​เจ๋อ​ซิ่ว​เขียน​ไว้​ใน​จดหมาย​อย่างชัดเจน​ว่า​ ​เขา​ไม่ต้องการ​เกียรติยศ​เช่นนี้​ ​เพราะ​พิจารณา​ใน​แต่ละ​ด้าน​แล้ว​ ​บทเพลง​สอดแทรก​ท่อน​นี้​ ​ให้​คิด​เสียว​่า​ไม่เคย​เกิดขึ้น​จะ​ดีกว่า

​ดังนั้น​ ​หลิว​ชิง​จึง​ยังคง​คิด​ว่า​ ​คน​ชุด​ดำ​ตาย​ภายใต้​คมกระ​บี่​ของ​ตน​ ​และ​รู้สึก​ว่า​ไม่มี​อะไร​ให้​ต้อง​แสวงหา​ใน​อาชีพ​การงาน​อีก​ ​หลังจาก​แน่ใจ​แล้ว​ว่า​ราชสำนัก​กับ​พระราชวัง​หลี​ไม่ต้องการ​ให้​เขา​ไป​สืบ​ข่าว​ของ​เฉา​อวิ​๋น​ผิง​ ​เขา​ก็ได้​ยุติ​อาชีพ​การ​เป็น​นักฆ่า​ของ​ตนเอง​ ​แล้ว​เริ่ม​ใช้ชีวิต​หลัง​เกษียณ​ด้วยใจ​ที่​สงบ​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ซึ่ง​เรื่อง​นี้​มีส​วี​โหย​่ว​หร​งกั​บมุ​ขนายก​ใหญ่​อัน​หลิน​เป็น​พยาน

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ไป​พบ​เฉิน​หลิว​อ๋อง​ที่​ตรอก​ทหารม้า​กองทัพ​เหนือ

​มาถึง​เวลานี้​ ​เฉิน​หลิว​อ๋อง​ย่อม​ไม่จำเป็น​ต้อง​ปิดบัง​อะไร​อีก​ ​เขา​มี​ความหยิ่ง​ยโส​ใน​ความ​เงียบ​อยู่​บ้าง​ ​มิได้​ตระหนักถึง​การ​เป็น​ผู้​ต้อง​ขัง​แต่อย่างใด​ ​พอ​เห็น​สหาย​ที่​เคย​สนิท​กัน​มาก​่อน​ท่าน​นี้​ ​มีท​่า​ที​เหมือน​คน​ไม่รู้​จัก​กัน​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​ ​เหตุใด​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ถึง​ได้​ไม่​ชอบ​เขา​มาต​ลอด

​…​เฉิน​หลิว​อ๋อง​เป็น​คนที​่​เยือกเย็น​และ​มีสติ​มาก​คน​หนึ่ง​ ​ชีวิต​ของ​เขา​ชัดเจน​มาก​ ​รู้​ว่า​ตนเอง​อยาก​แสวงหา​อะไร​ใน​ชีวิต​ ​ความปรารถนา​ของ​เขา​ก็​ตรงไปตรงมา​ยิ่ง​ ​เข้าใจ​ได้​ว่า​เปลือย​ให้​เห็น​กัน​ทีเดียว​ ​แต่​สุดท้าย​ ​สิ่ง​ที่​ปรากฏ​คือ​ความ​เงียบ​ ​และ​นี่​คือ​ความ​ดัดจริต​ที่​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​ไม่​ชอบ​เป็น​ที่สุด

​เฉิน​หลิว​อ๋อง​มอง​ตา​เฉิน​ฉาง​เซิ​นพ​ลาง​ว่า​ ​“​ใน​ประวัติศาสตร์​อีก​หน้าหนึ่ง​ ​เป็นไปได้​ว่า​สุดท้าย​ข้า​คือ​ผู้ชนะ​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ว่า​ ​“​เป็นไปได้​ ​เพราะ​ประวัติศาสตร์​หน้า​นั้น​ไม่มี​ข้า​”

​……

​……

​เมื่อ​สี่​ปีก่อน​ ​ใน​ตรอก​ทหารม้า​กองทัพ​เหนือ​ ​ลาน​เล็ก​ๆ​ ​นั่น​มีต​้​นมะ​ตูม​จีน​ที่​ปลูก​ขึ้น​ใหม่​ต้นหนึ​่ง

​เมื่อ​สอง​ปีก่อน​ ​โครงการ​ฟื้นฟู​สุสาน​เทียน​ซู​เสร็จ​สมบูรณ์​อย่างเป็นทางการ​

​ใน​สงคราม​เมื่อ​สิบ​กว่า​ปีก่อน​และ​ความขัดแย้ง​เมื่อ​สิบ​ปี​ที่แล้ว​ ​พนัง​กั้น​น้ำ​และ​ถนน​ปู​กระเบื้อง​หิน​ที่​ถูก​ทำลาย​ได้รับ​การซ่อมแซม​เสร็จ​เรียบร้อย​ด้วย​ความเอาใจใส่​ของ​ช่างฝีมือ​ผู้เชี่ยวชาญ​ ​โดย​มิได้​ให้ความรู้​สึก​ที่​เป็น​เอกลักษณ์​ใหม่​ๆ​ ​แต่​เป็นการ​ซ่อมแซม​เชิง​อนุรักษ์​ที่​แฝง​ความหมาย​บางอย่าง

​ขณะ​มองดู​แนว​ต้นไม้​สีเขียว​ ​หวังผ​้​อก​็​นึกถึง​สวิน​เหมย​ขึ้น​มา

​ตอนที่​เขา​ก้าว​เข้าสู่​วิถี​แห่ง​เทพ​ ​ไม่มีใคร​มา​หยุดยั้ง​เขา

​ศาลา​ริม​ทาง​พัง​ไป​แล้ว​ ​แต่​มิได้​ถูก​ซ่อมแซม​ ​ฮั่น​ชิง​ตาย​ไป​แล้ว​ ​ที่นี่​ไม่มี​คน​เฝ้า​หลุมฝังศพ​อีก

​เขา​เดิน​ไป​จน​สุดถนน​ ​มองดู​แผ่น​ป้าย​อนุสรณ์​คัมภีร์​สวรรค์​ที่​ไร้​ตัวอักษร​นั่น​ ​แล้ว​นิ่งเงียบ​อยู่นาน

​ค่อย​หัน​กาย​ ​มอง​ไป​ยัง​เมืองหลวง​ที่อยู่​ด้านล่าง​ของ​หลุมฝังศพ​ ​สุดท้าย​ก็​หยุด​อยู่​ที่​พระราชวัง

​เป็น​อีก​หนึ่ง​ฤดูใบไม้ร่วง​ที่​เย็นสบาย

​เขา​หัน​กาย​จากไป

​และ​มิได้​มา​เมืองหลวง​อีก

​……

​……

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มาถึง​พระราชวัง​ ​บอกข่าว​การ​จากไป​ของ​หวังผ​้อ​ให้​อวี​๋​เห​ริน​รู้

​อวี​๋​เห​ริน​ไม่​เปลี่ยนท่าที​ ​แต่​ขุนพล​เทพ​เฮ่อ​หมิง​และ​เหล่า​ขุนนาง​ใหญ่​มีท​่า​ที​โล่งอก​อย่างเห็นได้ชัด

​หลังจากที่​ผู้คน​ถอย​ออก​ไป​ ​อวี​๋​เห​ริน​ค่อย​แสดงความคิดเห็น​ของ​ตัวเอง​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ ​หรือ​เกี่ยวกับ​หวังผ​้​อก​็​ว่า​ได้​

​“​คำนึงถึง​ประชาชน​ ​คือ​ปราชญ์​ที่แท้​จริง​”

​จิตใจ​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ค่อนข้าง​หนักอึ้ง​ ​การ​จากไป​ของ​หวังผ​้อ​ทำให้​เขา​นึกถึง​ชีวิต​ของ​ซาง​สิง​โจว​ขึ้น​มา

​“​ตลอดทั้ง​ชีวิต​ของ​อาจารย์​ก็​อยาก​ทำ​เรื่อง​หนึ่ง​เช่นเดียวกัน​ ​ตอนนี้​ถ้า​เขา​ยัง​มีชีวิต​อยู่​ ​ต้อง​มีความสุข​มาก​แน่ๆ​ ​แต่บางที​…​ก็​รู้สึก​ไร้สาระ​มาก​เช่นกัน​”

​“​เป็นไปได้​”

​อวี​๋​เห​ริน​มิได้​พูด​จบ​ประโยค​ ​มองดู​กระดาษ​บน​โต๊ะ​แผ่น​นั้น​ ​แล้วจึง​ส่ายหน้า​ ​“​ใช้​พู่กัน​ไม่​ถูก​ ​เขียน​ใหม่​หนึ่งร้อย​ครั้ง​”

​นักพรต​น้อย​ผู้​ไม่ถูกโรค​อย่างแรง​กับ​วิชา​เขียน​พู่กัน​อยู่​เป็น​ทุนเดิม​ ​ดวงตา​เอ่อล้น​ไป​ด้วย​น้ำตา​ ​หัน​มอง​เฉิน​ฉาง​เซิง​อย่าง​น่าสงสาร​ ​พลาง​เรียก​ ​“​ศิษย์​พี่​…​”

​ตอน​อยู่​ที่​วัด​เก่า​เมือง​ซี​หนิง​ ​ถ้า​อวี​๋​เห​ริน​กับ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ปิด​หนังสือ​เขียน​ ​แล้ว​เขียน​ออกมา​ผิด​ ​ก็​ต้อง​ถูก​ลงโทษ

​ภาพ​นี้​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​เห็น​มามาก​แล้ว​ ​จึง​ยื่นมือ​อก​ไป​ลูบ​ศีรษะ​นักพรต​น้อย​ ​แล้ว​ยิ้ม​พลาง​ว่า​ ​“​เขา​เป็น​ศิษย์​พี่ใหญ่​ ​ข้า​ก็​ต้อง​ฟัง​เขา​เหมือนกัน​”

​อวี​๋​เห​ริน​จึง​ว่า​ ​“​ดังนั้น​ ​การ​จากไป​ใน​เวลา​อัน​เหมาะสม​ ​เป็นเรื่อง​ที่​งดงาม​ยิ่ง​”

​นี่​คือ​คำตอบ​สำหรับ​คำพูด​เมื่อ​ครู่​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​

​เนื่องจาก​ค่อนข้าง​กะทันหัน​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​จึง​อึ้ง​ไป​สักพัก​ ​ก่อน​ตอบ

​“​ขอรับ​”