“…” ประมุขชิงเถียงไม่ออก
นึกออกแล้ว ในปีนั้นเกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่สุดท้ายก็เป็นซ่างกวนชิงที่มาหาเขาและบอกให้เขาเปรียบเทียบผลได้ผลเสีย สุดท้ายเขาก็รู้สึกว่าไม่ควรจะลงโทษต่อไปอีก ให้องครักษ์เงาตรวจสอบตนเองภายใน ขณะเดียวกันก็อนุญาตซ่างกวนชิงว่าไม่ต้องส่งรายชื่อองครักษ์เงาที่กำลังปฏิบัติภารกิจซุ่มโจมตีมาให้ ตอนนี้ถูกเกาก้วนเถียงประโยคเดียวจนตัวเองโวยวายไม่ออกแล้ว
ฟังจากความหมายที่เขาพูด กลับกลายเป็นความรับผิดชอบของประมุขชิงไปแล้ว แต่เขาก็ทำได้แค่มองดูด้วยความสิ้นหวัง!
ประมุขชิงหันตัวไป เอามือไขว้หลังเดินไปเดินมาในตำหนักอีก จมลึกอยู่ในความคิดแล้ว
ภายในองครักษ์เงามีหนอนบ่อนไส้แล้ว เป็นกัวเหยียนถิงแค่คนเดียวหรือเปล่าที่มีปัญหา จะตรวจสอบหรือไม่ตรวจสอบดี?
เขาอยากจะตรวจสอบ แต่ถ้าเกิดปัญหากับกำลังทหารที่อยู่ข้างกาย จะไม่แย่หรอกเหรอ? แต่องครักษ์เงาส่วนหนึ่งก็กำลังปฏิบัติภารกิจ อีกส่วนกำลังดักซุ่ม อีกส่วนกำลังหาโอกาสเหมาะเพื่อลงมือลอบสังหารหนิวโหย่วเต๋อ ทว่าเฟยหงที่แฝงตัวอยู่ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้จะไม่สร้างโอกาสให้องครักษ์เงาอีกแล้ว ถ้าไม่มีสมาชิกที่แฝงตัวคอยให้ความร่วมมือ การจะลอบสังหารอ๋องสวรรค์คุมทัพใต้ก็เป็นแค่เรื่องล้อเล่นแท้ๆ ตอนนี้กำลังพลที่จะลอบสังหารไม่มีโอกาสลงมือแล้ว!
พอนึกถึงตรงนี้ ประมุขชิงก็หันตัวมา กล่าวเสียงต่ำว่า “องครักษ์เงา…ตรวจสอบ!”
ตั้งใจประกาศว่าจะตรวจสอบองครักษ์เงา ไม่ใช่ตรวจสอบหนิวโหย่วเต๋อ ประเด็นก็คือเจ้าไม่มีทางตรวจสอบอีกฝ่ายได้ ต่อให้เจ้ารู้อยู่แจ่มแจ้งว่าอีกฝ่ายเป็นคนทำ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไปตรวจสอบ จะให้บอกว่าอนุภรรยาของหนิวโหย่วเต๋อเป็นสายลับที่หน่วยตรวจการซ้ายแทรกไว้งั้นเหรอ? เรื่องแบบนี้พูดกันอย่างเปิดเผยได้หรือไง?
เกาก้วนสีหน้าไร้อารมณ์ กุมหมัดเอ่ยรับคำสั่งอย่างช้าๆ…
ผ่านไปไม่นาน เกาก้วนก็ปรากฏตัวในลานบ้านแห่งหนึ่ง ใช้แววตาสงบนิ่งมองซ่างกวนชิงที่นอนหมอบอย่างสาหัสอยู่บนเตียงหลังจากถูกลงโทษ
ซ่างกวนชิงตัวสั่นเทิ้ม สาเหตุเป็นเพราะเจ็บแผล และเป็นเพราะในใจเต็มไปด้วยเศร้ารันทดด้วย พยายามเอียงหน้ามองเกาก้วน ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ครั้งก่อนเกาก้วนส่งองครักษ์เงาเข้าไปทรมานทในคุกใหญ่ของหน่วยตรวจการขวา ครั้งนี้ก็ตกอยู่ในมือเกาก้วนอีก โดยเฉพาะเมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น มีหรือที่เกาก้วนจะลงมืออย่างปรานี?
องครักษ์เงาเปป็นหน่วยกล้าตายนะ! ส่งหน่วยกล้าตายไปทรมานซ้ำแล้วซ้ำอีก แล้วยังจะให้พวกเขาทุ่มเทชีวิตทำงานได้อย่างไร?
แต่เขาจะพูดอะไรได้? ครั้งก่อนที่เซี่ยโห้วหลงเฉิงโดนแทง ก็แค่สงสัยว่าองครักษ์เงามีปัญหา แต่ครั้งนี้มีหลักฐานพิสูจน์ชัดเจนละว่าในองครักษ์เงามีหนอนบ่อนไส้ องครักษ์ข้างกายฝ่าบาทเกิดปัญหาขึ้นแล้ว จะไม่ตรวจสอบได้อย่างไร? เขาจะหาเหตุผลอะไรไปห้าม? มิหนำซ้ำตอนนี้เขาก็มีความผิดติดตัวอยู่ด้วย!
แต่เขาก็ไม่เข้าใจอีกว่าในองครักษ์เงามีหนอนบ่อนไส้ได้อย่างไร เขาควบคุมดูแลองครักษ์เงามาหลายปี ตามที่ตัวเองสันนิษฐาน เป็นไปไม่ได้ที่องครักษ์เงาจะมีเกลือเป็นหนอน ตามหลักแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่กัวเหยียนถิงจะถูกคนอื่นปลุกระดมให้กบฏ แต่ดันเกิดช่องโหว่จากกัวเหยียนถิงแล้ว กัวเหยียนถิงเป็นอะไรกันแน่? เขาอยากจะถามกัวเหยียนถิงให้ชัดเจนไปเลย ว่าเป็นเพราะอะไรกันแน่?
แต่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นแล้ว ใครจะไปเชื่อคำพูดเขาได้?
“เฮ้อ!” ซ่างกวนชิงควงหมัดชกข้างหมอนอย่างไร้เรี่ยวแรง ส่ายหน้าด้วยความจนใจ สุดท้ายก็วุกหัวลงบนหมอน…
จวนอ๋องสวรรค์ก่วง ก่วงลิ่งกงขมวดคิ้วพลางเดินไปเดินมาอยู่ในสวนป่า ในใจรู้สึกกลัดกลุ้มมาก
เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ บ่าวไพร่ที่ส่งไปเฝ้าบ้านพักหลังนั้นไปโจมตีพระตำหนักอุทยานได้อย่างไร? ถ้าจะให้ส่งบ่าวไพร่คนหนึ่งไปโจมตีพระตำหนักอุทยาน แบบนั้นแสดงว่าสมองของเขามีปัญหาแล้วล่ะ? แต่คนที่ลงมือก็เป็นคนของเขา ตอนนี้ตำหนักสวรรค์ขอคำชี้แจงจากเขานั้นผิดด้วยหรือ?
เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้เรื่องแบบนี้มาทำอะไรเขา แค่ฝั่งนี้อ้างเหตุผลส่งเดชไป ผลักความรับผิดชอบให้บ่าวไพร่ไปก็สิ้นเรื่องแล้ว ตำหนักสวรรค์เองก็ไม่ได้โง่ น่าจะรู้เช่นกันว่าเขาไม่มีทางทำเรื่องแบบนี้ ตำหนักสวรรค์เองก็ไม่มีทางเปิดฉากต่อสู้กับเขาเพราะเหตุผลนี้เช่นกัน ลงโทษแต่ในนามนิดหน่อยเดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว
ตำหนักสวรรค์ถูกลอบจู่โจมสองครั้ง เขาเองก็สังเกตได้เช่นกันว่าเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล เคยอยากจะถามรายละเอียด แต่ตำหนักสวรรค์ก็ปฏิเสธอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมพูดรายละเอียดให้ชัดเจน ในนั้นต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน
ส่วนโกวเยว่ในตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ข้างกายเขา เพราะพาก่วงเม่ยเอ๋อร์บุตรสาวของเขาไปที่จวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล ไปเยี่ยมคำนับชิงหยวนจุน
เหตุผลก็เป็นเพราะก่วงเม่ยเอ๋อร์ชอบสภาพแวดล้อมที่อยู่ทางนั้น ก่อนหน้านี้ไปบ่อย แต่สาเหตุที่แท้จริงก็คืออยากจะให้ก่วงเม่ยเอ๋อร์แต่งงานกับชิงหยวนจุน ข่าวที่เซี่ยโห้วลิ่ง ‘ป่วยตาย’ แล้วอำนาจมหาศาลของตระกูลเซี่ยโห้วตกอยู่ในมือเฉาหม่านแพร่ออกไปแล้ว ประจวบเหมาะกับที่ตระกูลเซี่ยโห้วมีการเปลี่ยนแปลง ไม่รู้ว่าประมุขชิงเกิดความคิดอะไรหรือเปล่า เขาอยากจะฉวยโอกาสนี้ทดสอบดู
สำหรับความงามของลูกสาว เขายังค่อนข้างมีความมั่นใจ จะบอกว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่ง แห่งยุคก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไป ถ้าชิงหยวนจุนอดใจไม่ไหวและเกิดความสัมพันธ์กับลูกสาวตัวเอง เช่นนั้นประมุขชิงก็จะบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้แล้ว เพราะอ๋องสวรรค์คุมทัพตะวันตกอย่างเขาก็ไม่ใช่เล่นๆ เหมือนกัน
บางทีสำหรับชิงหยวนจุนแล้ว การแต่งงานกับก่วงเม่ยเอ๋อร์ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีอะไร ในมือมีกำลังทหาร แล้วก็มีการสนับสนุนจากก่วงลิ่งกงอีก เห็นได้ชัดว่าจะทำให้ประมุขชิงเป็นกังวลได้ ดีไม่ดีอาจจะถอดอำนาจทางทหารของชิงหยวนจุนไป เพียงแต่ขอแค่ตาไม่บอดก็น่าจะดูออก ว่าแท้จริงแล้วอำนาจทางทหารของจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลไม่ได้อยู่ในมือชิงหยวนจุน แต่อยู่ในมือของประมุขชิง สำหรับก่วงลิ่งกง ตอนนี้ชิงหยวนจุนจะมีอำนาจทางทหารหรือเปล่าก็ไม่สำคัญ ต่อให้ถูกประมุขชิงตัดอำนาจทางทหารแล้วอย่างไรล่ะ? ที่สำคัญก็คือการวางหมากไว้เพื่ออนาคต ขอเพียงชิงหยวนจุนแต่งงานกับก่วงเม่ยเอ๋อร์ แล้วประมุขชิงลาโลกไปเมื่อไร ด้วยรากฐานของชิงหยวนจุน จะต้องขอการสนับสนุนจากพ่อตาอย่างเขาแน่นอน สามารถช่วยให้เขาหลบเลี่ยงไม่ให้ถูกประมุขชิงกวาดล้างคนก่อนสละราชสมบัติ ในอนาคตบ้านเขาก็จะมีราชินีสวรรค์ที่คุมวังหลัง ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลวเลย
ที่ให้โกวเยว่ไปด้วย ก็เพราะจะให้โกวเยว่โน้มน้าวชิงหยวนจุน ว่าอย่าเอาแต่สนใจอำนาจทางทหารเล็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า อำนาจนี้เจ้าคุมไม่ไหวหรอก ไม่สู้นำมาแลกกับการสนับสนุนจากทัพตะวันตกดีกว่า
ในจวนผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาล บนตึกศาลา โกวเยว่ที่เดินเล่นกับชิงหยวนจุนกำลังพูดโน้มน้ามอย่างนี้
ชิงหยวนจุนเอียงหน้ามองก่วงเม่ยเอ๋อร์ที่เดินเล่นอยู่ในลานบ้านเป็นระยะ ยากจะย้ายสายตาออกจากเรือนร่างเย้ายวนของก่วงเม่ยเอ๋อร์ได้ เมื่อก่อนเขายังไม่เคยเจอหน้ากับก่วงเม่ยเอ๋อร์แบบจริงจัง แค่ได้ยินว่าก่วงเม่ยเอ๋อร์สวยมาก มีคนบอกว่าเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของตำหนักสวรรค์ เมื่อครู่เพิ่งได้เจอหน้ากันอย่างเป็นทางการ เรียกได้ว่าน่าตกตะลึงจริงๆ
จะบอกว่าเขาไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงก็ไม่ได้ แต่เพื่อแสดงให้บิดาเห็น เพื่อแสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่ได้หมกมุ่นเรื่องผู้หญิง จึงไม่เคยเก็บผู้หญิงคนไหนไว้ข้างกายเลย โดยเฉพาะหลังจากเกิดเรื่องกับสนมฉิน เขาก็ยิ่งสงบเสงี่ยมมากขึ้น ข้างกายมีเพียงสาวใช้สองคนคอยปรนนิบัติ ความงามอยู่แค่ระดับบนๆ แต่ตอนนี้ก่วงเม่ยเอ๋อร์อยู่ในช่วงอายุที่กำลังเปล่งประกาย กอปรกับลักษณะท่าทางเย้ายวนที่มาจากภายใน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดสตรีที่มีความยั่วเพศอย่างแท้จริง ทำให้เขาตกหลุมรักสุดจิตสุดใจ หัวใจเต้นแรงทันทีที่ได้พบ
และพื้นเพชาติกำเนิดของก่วงเม่ยเอ๋อร์ก็คู่ควรกับเขา เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะเป็นพระชายาโอรสสวรรค์!
โกวเยว่สังเกตปฏิกิริยาของเขาเล็กน้อย รู้ว่าชิงหยวนจุนหวั่นไหวแล้วจริงๆ ถึงพูดโน้มน้าวต่อไปว่า “องค์ชาย ท่านลองคิดดูสิ ฝ่าบาทจะยอมทนให้ตระกูลเซี่ยโห้วควบคุมวังหลังไปตลอดเหรอ? ในอนาคตมีเรื่องมากมายที่พูดได้ไม่ชัดเจน! ใครจะกล้ารับประกันว่าในอนาคตฝ่าบาทจะไม่มีทายาทคนอื่นอีก? สนมสวรรค์จ้านหรูอี้คือภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด! แต่ถ้าองค์ชายแต่งงานกับคุณหนูบ้านเรา ผลที่ตามมาก็จะต่างออกไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงตระกูลเซี่ยโห้วเลย มีท่านอ๋องบ้านค่าคอยสนับสนุน ต่อให้ฝ่าบาทอยากะมีทายาทอีก แต่ก็จะต้องชั่งน้ำหนักแน่! สามารถพูดได้ว่า ถ้าองค์ชายแต่งงานกับคุณหนูของเราแล้ว ก็จะช่วยกวาดล้างอุปสรรคที่จะมาขวางทางการขึ้นครองราชย์ขององค์ชายในอนาคตได้!”
ชิงหยวนจุนถูกโน้มหนาวจนเริ่มลังเลนิดหน่อย ถ้าไม่ใช่เพราะช่วงนี้ได้รับการสนับสนุนทรัพยากรจำนวนมากจากเหมียวอี้ กอปรกับมีลูกน้องแอบบอกใบ้ว่ายินดีจงรักภักดีต่อเขา เกรงว่าเขาคงตอบตกลงไปแล้ว
“องค์ชาย! อำนาจทางทหารอันน้อยนิดที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นแค่ซี่โครงไก่ไร้ประโยชน์ ไม่ได้รับการควบคุมจากองค์ชายเลย องค์ชายจะมองแต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่ได้ ต้องมองให้ไกล!” โกวเยว่โบกมือชี้ไปยังเงาร่างอรชรเย้ายวนที่กำลังเดินเล่นอยู่ในลานบ้าน” ขอเพียงองค์ชายตอบตกลง บ่าวก็กล้ารับประกันได้เลย เมื่อคืนนี้จะให้คุณหนูไปปฏิบัติองค์ชาย! เป็นสาวโสดบริสุทธิ์ของแท้แน่นอน ไม่มีมลทินใดๆ! ถ้าได้เป็นสามีภรรยากันในทางปฏิบัติแล้ว ฝ่าบาทก็ไม่มีทางไม่ไว้หน้าท่านอ๋อง จะต้องช่วยทำให้เกิดเรื่องมงคลแน่! องค์ชาย ยามบุปผาเบ่งบานให้รีบเด็ด อยากทำให้สาวงามผิดหวัง!”
ชิงหยวนจุนกล่าวอย่างลังเล “ให้ข้าไตร่ตรองดูสักหน่อยเป็นไร?” แม้อีกฝ่ายจะโน้มน้าวจนเขาหวั่นไหวสุดๆ แต่เขาก็ยังกลัวว่าจะยั่วให้ประมุขชิงไม่พอใจ อยากจะกลับไปปรึกษากับมารดาก่อน ไม่กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง
ทิวทัศน์ในสวนดอกไม้ยังคงเหมือนเดิม ก่วงเม่ยเอ๋อร์ไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก เพียงแต่ที่นี่เปลี่ยนเจ้าของแล้ว
ความรู้สึกของนางเหมือนกับดอกไม้ที่ร่วงโรยอยู่ตรงหน้าดอกนี้ หดหู่!
ท่านดันพ่อให้นางมาเที่ยวเล่นที่นี่ มีหรือที่นางจะไม่รู้ถึงความคิดของท่านพ่อ? แต่นางไม่มีทางเลือก!
ก่อนหน้านี้ท่านพ่ออยากจะส่งนางให้หนิวโหย่วเต๋อ ผลปรากฏว่าหนิวโหย่วเต๋อไม่ยอมรับไว้
ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ยังคิดจะส่งให้นางเข้าไปเป็นสนมปรนนิบัติฝ่าบาทด้วย ผลก็คือฝ่าบาทไม่ยอมแต่งตั้งสนมสวรรค์อีก และไม่ยอมรับนางไว้ด้วย
ตอนนี้ท่านพ่อส่งนางมาให้องค์ชายโอรสสวรรค์ ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไรอีก?
ในใจเศร้าสลดอย่างบอกไม่ถูก พบว่าตัวเองเหมือนเป็นสินค้าชิ้นหนึ่ง รอขายตอนราคาสูงมาตลอด ถูกส่งไปส่งมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ก่อนหน้านี้ท่านแม่ก็ร้องไห้และบอกกับนางเพียงคำเดียวว่า เชื่อฟัง!
โกวเยว่ออกไปได้ไม่นาน รองผู้สำเร็จราชการแดนรัตติกาลหวังติ้งเฉาก็ทำหน้านิ่งเดินก้าวยาวมาอยู่ข้างกายชิงหยวนจุน กุมหมัดคารวะ “องค์ชาย!”
ชิงหยวนจุนเห็นเขาแล้วรำคาญ กล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ที่นี่ไม่มีองค์ชาย!”
“นายท่านผู้สำเร็จราชการ!” หวังติ้งเฉาเปลี่ยนคำเรียก ชี้ก่วงเม่ยเอ๋อร์ที่เดินเล่นอยู่ในสวนพร้อมถามเสียงต่ำว่า “โกวเยว่พาผู้หญิงช่างยั่วคนนี้มาเพราะมีจุดประสงค์อะไรขอรับ?”
ผู้หญิงช่างยั่ว? ชิงหยวนจุนจ้องเขาอย่างเย็นเยียบ “เจ้ากำลังยุ่งมากเกินไปหรือเปล่า?”
หวังติ้งเฉาบอกว่า “นายท่านผู้สำเร็จราชการเหมือนจะถูกผู้หญิงช่างยั่วคนนี้มอมเมาให้หวั่นไหวแล้วนะขอรับ! ข้าน้อยเพียงอยากจะเตือนนายท่านผู้สำเร็จราชการไว้สักหน่อย ต่อให้ผู้หญิงช่างยั่วจะสวยกว่านี้ แต่ก็ใช่ว่าใครจะแตะต้องได้ เดี๋ยวจะลวกมือเอาขอรับ!”
ชิงหยวนจุนเดือดดาลนิดหน่อย กัดฟันถามว่า “ถ้าข้าชอบ ถ้าข้าจะแตะต้องนางให้ได้ล่ะ?”
เมื่อเห็นเขากำลังจะระเบิดอารมณ์ หวังติ้งเฉาก็ขมวดคิ้ว ผ่อนน้ำเสียงให้อ่อนลง พร่ำบ่นด้วยความหวังดี “องค์ชาย ทุกอย่างล้วนต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภาพรวม! ถามความเห็นของฝ่าบาทก่อนก็ได้ ถ้าฝ่าบาทอนุญาตก็ว่าไปอย่าง แค่นั้นทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว! ถ้าฝ่าบาทไม่อนุญาต ก็จะถือวิสาสะตัดสินใจเองไม่ได้เด็ดขาด! องค์ชาย ข้าน้อยรู้ว่าท่านไม่พอใจที่ฝ่าบาทจับตาดู แต่หากองค์ชายกลายเป็นคนที่ควบคุมไม่ได้ในสายตาฝ่าบาท แบบนั้นจะดีจริงเหรอ? ถ้ามีภาพลักษณ์แบบนี้ แล้วไปสมคบกับทัพตะวันตกอีก ท่านจะให้ฝ่าบาทคิดยังไง! อดใจไม่ไหวขนาดนั้นเชียวหรือขอรับ?”
คำพูดในช่วงแรก ชิงหยวนจุนฟังไม่เข้าหูเลย แต่คำพูดตอนท้ายกลับทำให้เขามีสีหน้าสะเทือนใจ!
จู่ๆ หวังติ้งเฉาก็คุกเข่าข้างเดียวอีก กุมหมัดคารวะกล่าวว่า “ไม่ปิดบังองค์ชาย! ก่อนที่ข้าน้อยจะมารับตำแหน่งกับองค์ชายที่นี่ ฝ่าบาทเคยมอบภารกิจลับให้ข้าน้อย ฝ่าบาทบอกข้าน้อยไว้อย่างชัดเจน ว่าให้ข้าน้อยไม่ต้องจงรักภักดีต่อฝ่าบาท แค่ต้องจงรักภักดีต่อองค์ชายคนเดียวเท่านั้น อย่าให้คนนอกมาเสี้ยมความสัมพันธ์ระหว่างฝ่าบาทกับองค์ชาย ฝ่าบาทบอกข้าน้อยไว้ชัดเจน ว่าภาารกิจของข้าน้อยมีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือสนับสนุนให้องค์ชายขึ้นครองราชย์อย่างราบรื่น! บอกว่าถ้าองค์ชายไม่เชื่อฟัง ก็ให้ข้าน้อยอธิบายความประสงค์นี้ได้ ว่าผู้ที่สืบทอดตำแหน่งราชันสวรรค์ นอกจากองค์ชายก็ไม่มีใครแล้ว นอกเสียจากว่าองค์ชายจะวางแผนก่อกบฏ!”
“…” ชิงหยวนจุนตกใจไม่เบา เขารู้ว่าคำพูดแบบนี้หวังติ้งเฉาไม่มีทางพูดซี้ซั้ว ต้องเป็นเรื่องจริงแน่ๆ รีบลุกลี้ลุกลนประคองหวังติ้งเฉาขึ้นมาทันที ชั่วขณะนั้นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
หลังจากหวังติ้งเฉายืนขึ้น ก็มองเงาร่างอ้อนแอ้นในสวนพร้อมบอกว่า “ถ้าองค์ชายชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ต้องรีบขอรับ อย่าให้เรื่องนี้ทำเสียงานใหญ่ รอให้ขึ้นตำแหน่งราชันได้ก่อน มีหญิงงามแบบไหนบ้างที่อยากได้แล้วจะไม่ได้? ถ้าองค์ชายต้องการจากใจจริง ข้าน้อยก็มีแผนดีๆ ให้องค์ชาย รับรองว่าช้าเร็วผู้หญิงคนนี้ก็ต้องเป็นองค์ชาย ไม่มีใครกล้าแตะต้อง จะกลายเป็นสิ่งของในกระเป๋าองค์ชายแน่นอน!”
ชิงหยวนจุนงุนงง พอได้ยินแบบนี้แล้วก็ทำลายความรู้สึกเดิมที่เขาเคยมีต่อหวังติ้งเฉานิดหน่อย กล่าวว่า “ยินดีฟังรายละเอียด!”
“องค์ชายก็แค่ต้องประกาศออกไป เปิดเผยไปเลยว่าชอบผู้หญิงคนนี้ ถามหน่อยว่าในใต้หล้าจะมีใครกล้าแตะต้องผู้หญิงคนนี้อีกไหม ใครกล้ามาแย่งผู้หญิงกับองค์ชายบ้างล่ะ? ก่วงลิ่งกงที่วางแผนชั่วจะได้แพ้ภัยตัวเอง ทั้งยังต้องชดเชยด้วยลูกสาวหนึ่งคนอีก เขาจะได้ไม่ก่อกวนหาเรื่องอีก! ส่วนทางฝ่าบาท ข้าน้อยยอมอธิบายให้เองขอรับ!” หวังติ้งเฉากล่าว
“แผนนี้ดีมาก!” ชิงหยวนจุนหลุดขำ เพียงแต่ยังหันกลับไปมองเรือนร่างเย้ายวนในสวนอย่างเสียดายเล็กน้อย ในภายหลังก็ยังไม่รู้เลยว่าเมื่อไร กลัวว่าสาวงามจะแก่ง่าย!
แต่พอถูกหวังติ้งเฉาปลุกปั่นแบบนี้ เขาก็ไม่ร้อนใจอีกแล้ว เรื่องที่ประมุขชิงเตรียมไว้ล่วงหน้าทำให้ทัศนคติที่เขามีต่อหวังติ้งเฉาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง…
………………