ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 141-1 วิถีเทพซ่อนเร้น

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ฤดูใบไม้ผลิ​ปี​ที่สาม​สิบ​สาม​ใน​แคว้น​ใหม่​ ​เกิด​หลาย​สิ่ง​หลายอย่าง​ขึ้น

​ก่อนอื่น​องค์​จักรพรรดิ​แห่ง​ต้า​โจว​ทรง​ประกาศ​ราชโองการ​ออกมา​ฉบับ​หนึ่ง​ ​ขอให้​พระราชวัง​หลี​เสนอชื่อ​สังฆราช​องค์​ใหม่​โดยเร็ว​ ​เรื่อง​นี้​ทำให้เกิด​ความโกลาหล​ยกใหญ่​ ​โดย​มี​ไม่​กี่​คนที​่​รู้​ว่า​ ​หลังจาก​ทรง​ประกาศ​พระราช​โองการ​ฉบับ​นี้​ ​องค์​จักรพรรดิ​ก็​นั่ง​นิ่ง​บน​ราชบัลลังก์​อยู่นาน​ ​ค่อย​ให้​ศิษย์​น้อง​เขียนจดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ถึง​เทือกเขา​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์

​ถนน​ไท่​ผิง​ก็​คึกคัก​มาก​เหมือนกัน​ ​จง​ซาน​อ๋อง​กำลัง​ด่าว่า​พ่อครัว​คน​ใหม่​อย่าง​สาดเสียเทเสีย​ ​เนื่องจาก​รสชาติ​ของ​บะหมี่​ผัด​เครื่องปรุง​ไม่​ถูกต้อง​ ​ส่วน​จวน​สกุล​เซ​วีย​ที่อยู่​ไม่​ไกล​กัน​นัก​ ​เซ​วีย​เย​่​จิ​่น​ผู้​สอบ​ได้​ลำดับ​ที่สอง​ใน​การ​สอบ​ใหญ่​ ​พอ​ออกจาก​สุสาน​เทียน​ซู​ ​เรื่อง​แรก​คือ​ ​ถูก​บิดา​มารดา​พา​ไปดู​ตัว​หาคู่​ทั่วเมือง​ ​จน​ต้อง​ทอดถอนใจ​ทุกคืน​

​ด้าน​ม่อ​อวี​่​ก็​แอบ​ถูกใจ​บ้าน​ลับ​ของ​โจว​ทง​ที่อยู่​ข้าง​จวน​สกุล​เซ​วีย​ ​โดย​ระยะนี้​ ​พอ​เสร็จ​จาก​การประชุม​ขุนนาง​ ​เรื่อง​ที่นาง​ชอบ​ทำ​มาก​ที่สุด​ก็​คือ​ ​อยู่​ที่นี่​กับ​หลัว​หยาง​อ๋อง​ ​คิดค้น​ว่า​จะ​หมัก​หัวไชเท้า​อย่างไร​ถึง​จะ​อร่อย​ ​เห็นที​นาง​ตั้งครรภ์​แล้ว​จริงๆ​

​เฟิ​่​งกุยจ​วิน​แห่ง​เมือง​สวิน​หยาง​ที่​ก่อนหน้านี้​เอาแต่​อยู่​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​ว่า​กัน​ว่า​กำลัง​เรียน​การแสดง​ละครร้อง​ ​ความสำเร็จ​ของ​อารยธรรม​เผ่า​มารถู​กรา​ชวงศ​์​ต้า​โจว​นำมา​แบ่งปัน​ให้​คน​ทั้งโลก​ได้​ซึมซับ​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​แม้แต่น้อย​ ​บันทึก​งานวิจัย​อัน​ล้ำค่า​ที่สุด​ของ​นักวิชาการ​ทง​กู่​ซือ​ก็​ปล่อย​ให้​ราชสำนัก​กับ​เขา​หลี​ซาน​เอา​ไป​คนละ​ครึ่ง​ ​จนถึง​ตอนนี้​ ​ก็​สาม​ปี​แล้ว​ที่​โก่ว​หาน​สือ​มิได้​ออกจาก​ยอดเขา​ ​ด้วย​มีบัน​ทึก​งานวิจัย​อยู่​เป็นเพื่อน​ทั้งวันทั้งคืน​

​ทว่า​ชิว​ซานจ​วิน​กลับ​อ่าน​เพียง​สาม​วัน​ ​ก็​จากไป​เพียงลำพัง​ ​เพื่อ​ไป​ยัง​ทุ่ง​หิมะ​อัน​หนาวเหน็บ​และ​ห่างไกล​ ​โดย​ไม่สน​ใจคำ​ขอร้อง​อ้อนวอน​ของ​บิดา​ ​รอ​จน​กวน​เฟย​ไป๋​รู้​ข่าว​แล้ว​รีบเร่ง​เดินทาง​จาก​เวิ​่น​สุ่ย​กลับมา​ ​ก็​ไม่​เจอ​เขา​แล้ว​ ​จึง​ไม่มี​โอกาส​ถาม​ศิษย์​พี่​แล้ว​ว่า​ ​จดหมาย​ฉบับ​ที่​เขียน​ให้​เหลียง​ปั้น​หู​ใน​ตอนนั้น​ ​มีใจ​ความ​ว่า​อย่างไร

​ไม่มีใคร​รู้​ว่า​ชิว​ซานจ​วิน​ไป​ทะเล​เหนือ​ ​ที่นั่น​เขา​ได้​พบ​กับ​คน​บรรพต​อี​ชุน​และ​คน​บรรพต​จิ้ง​พัว​ ​โดย​มิได้​ปิดบัง​จุดประสงค์​ของ​ตนเอง​ ​บอก​คน​บรรพต​ทั้งสอง​ท่าน​ตรงๆ​ ​ว่า​ ​เขา​เตรียม​จะ​ใช้ชีวิต​อยู่​ใน​ทะเล​เหนือ​นาน​หลาย​ปี​ ​รอ​จน​ฝ่ายตรงข้าม​เสียชีวิต​ตามธรรม​ชาติ​ด้วย​โรค​ชรา​ ​ค่อย​นำ​ร่าง​ของ​พวกเขา​มา​วิจัย​ทางกาย​วิภาค​ตาม​บันทึก​ของ​นักวิชาการ​ทง​กู่​ซือ​ ​โดย​หวัง​ว่า​จะ​สามารถ​หาวิ​ธี​ทำให้​ชน​เผ่า​มาร​สืบสาย​พันธุ์​ได้​อย่างต่อเนื่อง​ ​คน​บรรพต​ทั้งสอง​มิได้​โมโห​ ​และ​มิได้​รู้สึก​ว่า​เขา​เป็น​คนบ้า​ ​ยิ้มแย้ม​และ​เห็นด้วย​กับ​คำขอ​ของ​เขา

​เช้า​วันรุ่งขึ้น​ ​ชิว​ซานจ​วิน​ก็​เห็น​หนาน​เค​่อ​ ​ค่อย​รู้​ว่านาง​ใช้ชีวิต​อยู่​ที่นี่​มา​หลาย​ปี​แล้ว​ ​เพียงแต่​ดูๆ​ ​ไป​อาการป่วย​ของ​นาง​ยัง​ไม่​หาย​ดี​ ​กลับ​แย่​ลง​กว่า​เดิม​อีก

​เขา​ยิ้ม​เล็กน้อย​ ​แล้ว​ว่า​ ​“​บังเอิญ​นัก​ ​ล่าสุด​ข้า​หัด​ลำนำ​กระบี่​ได้​เพลง​หนึ่ง​ ​เจ้า​อยาก​ฟัง​ไหม​”

​……

​……

​โลก​เรียบร้อย​ดีทุ​กอย​่าง​ ​แต่​ถัง​ซาน​สือ​ลิ่ว​รู้สึก​ไม่​ค่อย​ดี​เท่าไหร่

​ที่​เมือง​เวิ​่น​สุ่ย​ ​ต่อให้​เขา​หยิ่งยโส​อย่างไร​ ​ก็​แสดงความสามารถ​ไม่​ออก​ ​พอก​ลับ​เมืองหลวง​ ​ก็​รับ​ไม่ได้​กับ​การแสดง​ความรัก​ของ​คู่รัก​หนุ่มสาว​เจ๋อ​ซิ่ว​กับ​ชี​เจียน​ ​ส่วน​ท่าน​ปู่​ก็​ร่างกาย​แข็งแรง​ ​เห็นชัด​ว่า​ภายใน​สิบ​ปีนี​้​ ​ไม่มีทาง​จาก​โลก​นี้​ไป​แน่​ ​ส่วน​พิษ​ใน​ร่าง​ท่าน​พ่อ​ถูก​ถอน​จน​หมด​ ​อย่างน้อย​ก็​สามารถ​มีชีวิต​อยู่​ได้​อีก​หลาย​ร้อย​ปี​ ​แล้ว​เขา​ล่ะ​ ​สามารถ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง

​เขา​ไป​ยัง​เขา​ดอก​ท้อ​ที่อยู่​นอกเมือง​ ​เข้าไป​ใน​กระท่อม​ดอก​ท้อ​ของ​บ้าน​หลัง​นั้น​ ​สั่ง​ชาด​อก​ท้อ​มา​หนึ่ง​ถ้วย​ ​พอได้​นั่ง​ก็​นั่ง​ยาว​ไป​สาม​ฤดูใบไม้ร่วง​ ​แต่​อย่างไร​ก็​ไม่ได้​ยิน​เสียงสะท้อน​อีก

​ชีวิต​ของลั​่​วลั​่​วก​็​ผ่าน​ไป​ได้​ไม่ดี​เช่นกัน​ ​ช่วง​ฤดูใบไม้ผลิ​ ​นาง​ถูก​แต่งตั้ง​ให้​เป็น​รัชา​ทายาท​ ​แต่​นั่น​มิได้​ส่งผล​ต่อ​ชีวิต​ของ​นาง​มาก​นัก​ ​นอกจาก​อ่านหนังสือ​ ​ฝึก​วรยุทธ์​ ​วาด​ดอก​สาลี่​แล้ว​ ​สิ่ง​ที่นา​งมัก​ทำเป็น​ประจำ​ก็​คือ​ ​มองดู​ทะเล​เมฆ​ ​แล้ว​ใช้​นิ้ว​ถูก​้อน​หิน​โดยไม่รู้ตัว​ ​ท่าทาง​เหงา​ๆ

​เซ​วี​ยน​หยวนผ​้​อมิ​ได้​เป็น​หัวหน้า​ทหาร​ต่อ​ ​และ​มิได้​ติดตาม​จิน​อวี​้ล​วี่​ไป​ทำไร่​ ​เขา​เป็น​องครักษ์​ของลั​่​วลั​่ว

​ขณะลั​่​วลั​่ว​ยืน​เหม่อมอง​ทะเล​เมฆ​อยู่​ริม​หน้าต่าง​วงกลม​ ​เขา​ก็​ยืน​เหม่อมอง​นาง​เช่นเดียวกัน​ ​เขา​รู้​ว่า​องค์​หญิง​จะ​ไม่อยู่​ที่นี่​นาน​จน​เกินไป​ ​เพราะ​ขั้น​บำเพ็ญ​เพียร​ของ​องค์​หญิง​ยากลำบาก​จริงๆ​ ​และ​เมื่อถึง​วันที่​ผ่าน​ขั้น​นี้​ไป​ได้​ ​องค์​หญิง​ต้อง​ไปหา​เฉิน​ฉาง​เซิง​ที่​โลก​ใบ​นั้น

​แม่น้ำถง​เจียง​ใน​ยาม​พลบค่ำ​ ​สวยงาม​ราวกับ​เข็มขัด​สีทอง

​ชีวิต​ใน​เมือง​เล็ก​ๆ​ ​ยังคง​สงบ​และ​ผ่อนคลาย​กระไร​เช่นนั้น

​ไพ่​นกกระจอก​ไม้​ไผ่​สีเขียว​ถูก​แบ​ลง​บน​โต๊ะ​ ​นำมาซึ่ง​เสียงดัง​ฮือฮา

​ชิง​อี๋​เส​้อ​[1]​

​สวี​โหย่ง​หรง​จ้องมอง​ไพ่​ไม้​ไผ่​เงียบๆ​ ​แล้ว​จู่ๆ​ ​ก็​พูด​ขึ้น​ ​“​รู้สึก​ไม่เลว​”

​สตรีที​่​แต่งงาน​แล้ว​กับ​ผู้​เล่น​อีก​สอง​คน​กำลังจะ​ขานรับ​สอง​ประโยค​ ​พลัน​รู้สึก​มีบา​งอย​่าง​ไม่​ถูกต้อง

​คำพูด​ประโยค​นี้​ของ​นาง​ ​คล้าย​มิได้​พูดถึง​ไพ่

​……

​……

​เมฆหมอก​ซึ่ง​รายล้อม​เทือกเขา​เทพธิดา​ศักดิ์สิทธิ์​ตลอดปี​พลัน​กระจาย​ออก​ ​สัตว์ปีก​และ​นก​หายาก​จำนวนนับ​ไม่​ถ้วน​บิน​มาจาก​ที่​ต่างๆ​ ​ของ​ดินแดน​ต้า​ลู่​ ​ราวกับ​มา​แสวงบุญ​ก็​มิ​ปาน

​หนึ่ง​ฝน​ใน​ฤดูใบไม้ร่วง​ชะล้าง​แม่น้ำถง​เจียง​ ​ทั่วทุกแห่ง​หน​ใน​โลก​ล้วน​สนองตอบ

​หวังผ​้อ​ยืน​อยู่​ใต้​ต้น​อู๋ถง​ ​มอง​ไป​ยัง​ทิศ​ที่ตั้ง​ของ​สถานศึกษา​หนาน​ซี​ ​ทอดถอนใจ​แล้ว​ว่า​ ​“​ไม่ธรรมดา​”

​เขา​ชัดเจน​ดี​ว่า​ ​ที่​สวี​โหย่ง​หร​งมิ​ได้​จากไป​พร้อมกับ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ใน​ปีนั​้น​ ​มิ​ไช​่​เป็น​เพราะ​สถานศึกษา​หนาน​ซี​มีเรื่อง​ที่​ต้อง​จัดการ​มากมาย​ ​หรือ​เป็น​เพราะ​สถานการณ์​โดยรวม​ยัง​ไม่แน่​นอน

​นาง​เพียง​ไม่ยอม​ศิโรราบ​ให้​ ​นาง​ต้องการ​จากไป​ด้วยตัวเอง

​ตอนที่​เฉิน​ฉาง​เซิง​บรรลุ​เข้า​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ใน​เมือง​เสวี​่ย​เหล่า​ ​ประกอบไปด้วย​สาเหตุ​หลาย​ประการ​ ​โดย​กระบวนการ​นี้​ไม่​สามารถ​กระทำ​ซ้ำ​ได้

​ซึ่ง​ถ้า​นับ​กัน​จริงๆ​ ​ขึ้น​มา​ ​สวี​โหย​่ว​หรง​จึง​จะ​เป็น​ผู้​บรรลุ​เข้า​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ที่​อายุ​น้อยที่สุด

​……

​……

​ก่อน​จากไป​ ​สวี​โหย​่ว​หรง​ได้รับ​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​จาก​เมืองหลวง​

​ลายมือ​สะอาดหมดจด​ ​ค่อนข้าง​คล้าย​กับ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​และ​ค่อนข้าง​คล้าย​กับ​อวี​๋​เห​ริน​เช่นกัน

​ใจความ​ใน​จดหมาย​ ​ลอก​มาจาก​คำพูด​เดิม​ของ​อวี​๋​เห​ริน

​“​หลังจากนี้​สาม​ปี​ ​ข้า​จะ​สละ​บัลลังก์​ ​พา​เขา​กลับมา​แทนที่​ข้า​”

​……

​……

​มี​ผู้​ที่​ไป​จาก​โลก​ใบ​นี้​ก่อน​สวี​โหย​่ว​หรง​ ​นาง​ก็​ไป​ตามหา​เฉิน​ฉาง​เซิง​เช่นเดียวกัน

​สาวน้อย​ชุด​ดำ​ก้าว​ออกจาก​หุบเหว​ ​มอง​ไป​ยัง​ป้อมปราการ​หิมะ​น้ำแข็ง​อัน​ใหญ่โตมโหฬาร​ที่อยู่​ข้างหน้า​ ​พอได้​ยิน​เสียง​ตะโกน​จาก​บน​กำแพงเมือง​ ​ใบหน้า​นาง​ก็​เต็มไปด้วย​ความ​งุนงง

​ถ้า​นาง​ฟัง​ไม่ผิด​ ​คน​เหล่านั้น​กำลัง​ตะโกน​คำ​ว่า​อัศวิน​มังกร​ ​แต่​สิ่ง​ที่​บิน​มา​ใน​พายุ​หิมะ​เป็น​กิ้งก่า​ฝูง​หนึ่ง​มิใช่​หรือ

​……

​……

​เฉิน​ฉาง​เซิง​นั่งยองๆ​ ​อยู่​ริม​ลำธาร​ ​ใช้​ผ้าเช็ดหน้า​เช็ด​หยดน้ำ​ตาม​เนื้อตัว​ให้​สะอาดสะอ้าน​ ​แล้วจึง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​เดินผ่าน​ป่า​ ​ผ่าน​รั้ว​ ​มุ่งหน้า​ไป​ยัง​สิ่งก่อสร้าง​ที่อยู่​ห่างไกล

​ผม​ที่​ดก​และ​ดำขลับ​ของ​เขา​ถูก​ตัด​สั้น​ ​จึง​ม้วน​เล็กน้อย​ ​ไม่มีทาง​มวยผม​แบบ​นักพรต​ได้​ ​แต่​ดูๆ​ ​ไป​ก็​สดชื่น​ดี​เหมือนกัน

​เขา​สวม​เสื้อผ้า​ที่​ซัก​อย่าง​ไม่​เปื้อน​ฝุ่น​แม้แต่น้อย​ ​จึง​ดู​สดใส​แตกต่าง​จาก​นักศึกษา​เวทมนตร์​คนอื่นๆ

​อาจ​เพราะ​สาเหตุ​นี้​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​อาจารย์​ใน​วิทยาลัย​ ​หรือ​ป้า​ๆ​ ​ใน​ไร่ปศุสัตว์​เหล่านั้น​ ​ก็​ล้วน​ชื่นชอบ​เขา​ยิ่ง​

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ใน​ตอนนี้​เป็น​นักศึกษา​เวทมนตร์​ธรรมดาๆ​ ​คน​หนึ่ง

​ใน​ดัชชี่​[2]​แห่ง​เก​รย​์​ฟอร์ต​ ​(​The​ ​Duchy​ ​of​ ​Greyfort)​ ​นี้​ ​นักศึกษา​เวทมนตร์​อย่าง​เขา​มีมาก​มาย​หลาย​หมื่น​คน

​เขา​ไม่ต้อง​กังวล​ว่า​จะ​มี​ใคร​รู้ความ​ลับ​เรื่อง​ที่ว่า​เขา​มาจาก​อีก​โลก​หนึ่ง​ ​แม้ว่า​วิทยาลัย​แห่ง​นี้​จะ​มีนัก​เวท​เก่ง​ๆ​ ​อยู่​มาก​ ​กระทั่ง​มี​ผู้วิเศษ​ชื่อเสียง​โด่งดัง​อยู่​สอง​คน

——

[1]​ ​ชิง​อี๋​เส​้อ ​วิธี​ชนะ​อย่างหนึ่ง​ใน​การ​เล่นไพ่​นกกระจอก​ ​โดย​มีตัว​เลขที่​ระบุ​อยู่​บน​หน้า​ไพ่​ประเภท​เดียวกัน​เรียง​กัน

[2]​ ​ดัชชี่​ ​(​Duchy) ​คือ​ ​เป็น​อาณาเขต​การปกครอง​หรือ​บริเวณ​ที่​ปกครอง​โดยด​ยุก​ ​(​Duke)​ ​หรือ​ดัช​เชส​ ​(​Duchess)