ส่วนที่ 7 ภาคกล้าให้อาทิตย์ดวงจันทร์ผันเปลี่ยน ตอนที่ 141-2 วิถีเทพซ่อนเร้น

ท้าลิขิตพลิกโชคชะตา

​ใน​วิทยาลัย​เวทมนตร์​แห่ง​นี้​ ​เขา​วางตัว​ธรรมดา​มาก​ ​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คลื่น​พลัง​เวท​หรือ​ความแข็ง​แกร่ง​ใน​การ​ร่าย​เวท​ ​ก็​ล้วน​ไม่มี​อะไร​พิเศษ

​ถ้า​เขา​ยินยอม​ ​คลื่น​พลัง​เวท​ที่​อ่อนแอ​เหล่านี้​ล้วน​สามารถ​มลาย​หาย​ได้​ทุกขณะ​ ​กลายเป็น​คนธรรมดา​สามัญ​ไป​จริงๆ

​หรือ​ต่อให้​เหล่า​เทพเจ้า​มา​เห็น​เขา​ ​ก็​ไม่น่า​จะ​รู้​สถานะ​ที่แท้​จริง​ของ​เขา​ ​เพราะ​เขา​บรรลุ​ถึงขั้น​อำพราง​เทพ

​แล้ว​จริงๆ

​พริบตา​ที่​เขา​มาถึง​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ ​ก็​พบ​ว่า​ฟ้า​ดิน​ทั่วทุกแห่ง​หน​ของ​ที่นี่​ล้วน​มี​แต่​แสง​ศักดิ์สิทธิ์

​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​เหล่านั้น​กับ​แสง​ศักดิ์สิทธิ์​ใน​ร่าง​เขา​ ​เดิมที​เป็น​สิ่ง​เดียวกัน​ ​ทั้งสอง​ผสาน​กันได​้​เอง​ตามธรรม​ชาติ​ ​นี่​หมายความว่า​ ​สิ่ง​ที่​เขา​ทำได้​จริงๆ​ ​ก็​คือ​ ​กลมกลืน​กับ​ฟ้า​ดิน

​ถูก​แล้ว​ ​เขา​ใน​ตอนนี้​อยู่​ใน​ขั้น​อำพราง​เทพ​ ​หรือ​ก็​คือ​ขั้น​เดียว​กับ​จักรพรรดินี​เทียน​ไห่​ใน​อดีต

​มนุษย์​คนอื่นๆ​ ​เมื่อมา​ถึง​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ ​ไม่น่า​จะ​เลื่อนขั้น​ได้​เร็ว​จน​น่ากลัว​อย่าง​เขา​ ​แต่​ก็​น่าจะ​แข็งแกร่ง​ขึ้น​มาก

​ด้วย​ฟ้า​ดิน​ทั่วทุก​หน​แห่ง​ล้วนแล้วแต่​มีพลัง​งาน

​หลาย​ปีก่อน​ ​ที่​ซู​หลี​สามารถ​ใช้​กระบี่​เดียว​ฟัน​ช่องทาง​มิติ​จน​ขาด​ ​คิด​ๆ​ ​ดูก​็​น่าจะ​เกี่ยวข้อง​กับ​สิ่ง​นี้

​ครั้ง​อยู่​ใน​ดินแดน​แผ่นดินใหญ่​ ​กระบี่​ของ​เขา​แม้​ร้ายกาจ​มาก​ ​แต่​ก็​ไม่น่า​จะ​แข็งแกร่ง​ถึง​ระดับ​นี้

​ช่วงแรก​ที่อยู่​ใน​พื้นที่​ทุรกันดาร​ ​เขา​ยัง​เคย​สงสัย​ว่า​ ​ในเมื่อ​วัด​มหายาน​คือ​รอยแยก​ของ​มิติ​ ​เหตุใด​เทพเจ้า​ถึง​ไม่​เปิดช่อง​ทาง​มิติ​จาก​ตรงนั้น​

​หวัง​จือ​เช่อ​ตอบ​เขา​ว่า​ ​เพราะ​เหล่า​เทพเจ้า​ก็​ไม่​สามารถ​รับประกัน​ได้​เช่นกัน​ว่า​ ​ช่องทาง​มิติ​แห่ง​นี้​เป็น​ช่องทางเดิน​ทางเดียว

​ตอนนี้​เขา​เข้าใจ​สาเหตุ​แล้ว

​เทพเจ้า​กำลัง​กลัว​ ​กลัว​ว่า​มนุษย์​จะ​มาถึง​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง

​……

​……

​แสงอาทิตย์​อัสดง​ตกลง​บน​หน้าต่าง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​เดิน​ไปริ​มห​น้า​ต่าง​ ​มอง​ไป​ยัง​สนามหญ้า​นอก​วิทยาลัย​

​บน​สนามหญ้า​ ​อาจารย์​กับ​นักศึกษา​มากมาย​กำลัง​เดิน​ไปรับ​ประทาน​อาหารเย็น​ ​พอ​เห็น​เขา​ที่​ริม​หน้าต่าง​ ​ทุกคน​ล้วน​ทักทาย​เขา​อย่าง​เป็นกันเอง​

​พอ​เห็น​พวกเขา​ ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ก็​พลัน​รู้สึก​อาลัยอาวรณ์

​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​จาก​ลา​แล้ว

​สอง​สาม​ปี​ที่ผ่านมา​ ​ขณะ​อยู่​ใน​วิทยาลัย​ ​เขา​ตั้งใจ​ศึกษา​เล่าเรียน​เป็น​อย่างยิ่ง​ ​ทั้ง​ประวัติศาสตร์​แผ่นดินใหญ่​ ​ความรู้​เกี่ยวกับ​เวทมนตร์​ ​บันทึก​เกี่ยวกับ​ภูมิศาสตร์​และ​มนุษยศาสตร์​ ​ล้วน​เชี่ยวชาญ​เป็น​อย่างดี

​อีกทั้ง​ตาม​การคาด​คะเน​ของ​เขา​ ​โหย​่ว​หรง​น่าจะ​ใกล้​มาถึง​แล้ว

​โลก​กว้างใหญ่​ขนาด​นี้​ ​เขา​เป็นห่วง​ว่านาง​จะ​หา​เขา​ไม่​เจอ

​เขา​เคย​สืบถาม​เบาะแส​ของ​ซู​หลี​ดู​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​อะไร​เลย​ ​ขนาด​มุข​นายก​ใหญ่​ชุด​แดง​ท่าน​หนึ่ง​ที่​บังเอิญ​ถูก​เขา​รั้ง​ตัว​ไว้​ ​ก็​ยัง​ไม่เคย​ได้ยิน​มาก​่อน

​ผู้​ที่สามา​รถ​ปกปิด​เบาะแส​กับ​ข่าวคราว​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​เช่นนี้​ ​มี​เพียง​หัวหน้า​นักฆ่า​ท่าน​นั้น

​แน่นอน​ ​อาจ​เป็นไปได้​ว่า​ ​ผู้ปกครอง​สูงสุด​กำลัง​จงใจ​ปกปิด​ข่าว

​เขา​ตัดสินใจ​ไป​นคร​ศักดิ์สิทธิ์​ดู​สัก​ตั้ง​ ​เขา​มั่นใจ​ว่า​สวี​โหย​่ว​หรง​ต้อง​ไป​นคร​ศักดิ์สิทธิ์​แน่

​เพราะ​สังฆราช​สูงสุด​อยู่​ที่นั่น

​จักรพรรดิ​อาณาเขต​เทพศักดิ์​สิทธิ์​กับ​สังฆราช​สูงสุด​คือ​ผู้​ที่​มีอำนาจ​มาก​ที่สุด​ใน​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง​ ​โดย​ไม่มีใคร​ฟันธง​ได้​ว่า​ ​ใคร​มีอำนาจ​มากกว่า

​ที่​ฟันธง​ได้​ก็​คือ​ ​สังฆราช​สูงสุด​เป็น​ผู้​แข็งแกร่ง​สุด​ใน​ดินแดน​เซิ​่​งก​วง

​เขา​ได้รับ​สมญานาม​ว่า​ ​บุรุษ​ผู้ใกล้ชิด​เทพ​มาก​ที่สุด

​……

​……

​จาก​อำเภอ​กรีน​โบว์​ ​(Green​ ​bow)​ ​ถึง​นคร​ศักดิ์สิทธิ์​ ​ถ้า​ใช้​ม้าเร็ว​ที่สุด​ ​ต้อง​กินเวลา​หนึ่ง​เดือน​ครึ่ง​ ​พูด​ได้​ว่า​เป็นการ​เดินทาง​ที่​ยาวนาน​มาก

​นักเดินทาง​หลาย​คน​คุ้นชิน​กับ​การ​แวะ​พัก​ค้างคืน​และ​ทานอาหาร​ที่​อาศรม​รุส​แซล​ ​(​Roussel)

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มองดู​มัน​บด​ ​ขนมปัง​แข็ง​สีน้ำตาล​ ​กับ​ปลา​ทอด​ใน​ถาด​ ​ก็​เริ่ม​คิดถึงบ้าน​ที่​ก่อนหน้านี้​ไม่เคย​คิดถึง​มาก​่อน

​หลัง​เสร็จ​จาก​การ​รับประทาน​อาหารเย็น​ง่ายๆ​ ​เขา​ก็​กลับ​เข้า​ห้อง​ ​อาบน้ำ​ชำระล้าง​ร่างกาย​ ​พอสี​่​ทุ่ม​ก็​ขึ้น​เตียง​ตรงเวลา​ ​เริ่ม​เข้านอน​ ​และ​ตื่น​ตอน​ตีห้า

​ที่​แปลก​ก็​คือ​ ​ไม่รู้​ว่า​เป็น​เพราะ​ดวงจันทร์​นอก​หน้าต่าง​ขาว​เกินไป​ ​หรือ​เสียงร้อง​ของ​จักจั่น​ฤดูใบไม้ร่วง​ฝูง​สุดท้าย​แหลม​เล็ก​เกินไป​ ​ที่สุด​แล้ว​เขา​ก็​ไม่ได้​นอน

​ขณะ​มองดู​แสงจันทร์​อัน​เย็นยะเยือก​อยู่​หน้า​เตียง​ ​เขา​ตัดสินใจ​ไปรับ​โหย​่ว​หรง​ ​แล้ว​เดินเล่น​อยู่​ที่นั่น​เป็นเพื่อน​นาง​ ​จากนั้น​ค่อย​กลับ​ไป​ ​ไม่​รอ​พวกลั​่​วลั​่ว​แล้ว

​แต่​พอตัด​สิน​ใจ​ได้​ ​กลับ​ยังคง​ไม่​สามารถ​สงบนิ่ง​ลง​ ​เขา​ยังคง​นอนไม่หลับ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​มิได้​โบกมือ​สังหาร​จักจั่น​ฤดูใบไม้ร่วง​รอบ​ๆ​ ​อาศรม​ให้​หมด​ ​และ​มิได้​เรียก​เมฆ​ดำ​มาบั​งด​วงจันทร์​ ​คลุม​เสื้อคลุม​แล้ว​ออก​ไป​เดินเล่น​นอก​อาศรม

​เขา​เดิน​มาถึง​ส่วน​ที่​ลึก​ที่สุด​ของ​อาศรม​โดย​ไม่รู้​เนื้อ​รู้ตัว​ ​ที่นั่น​มี​ปราสาท​หิน​หลัง​หนึ่ง​ ​ไร้​ซึ่ง​แสงสว่าง​ใดๆ​ ​ดู​อึมครึม​เป็น​อย่างยิ่ง

​สำหรับ​ขั้น​อำพราง​เทพ​แล้ว​ ​ไม่มี​เรื่อง​ไม่รู้​เนื้อ​รู้ตัว​เช่นนี้​ ​เขา​สัมผัส​ได้​ถึง​ปัญหา​แต่แรก​ ​ทว่า​ไม่​อยาก​สนใจ

​นอกจาก​ระดับ​พอ​ๆ​ ​กับ​สังฆราช​สูงสุด​ที่​ดำรงอยู่​แล้ว​ ​โลก​ใบ​นี้​ไม่มีใคร​สามารถ​ข่มขู่​คุกคาม​เขา​ได้​ ​การ​วางกับดัก​และ​การ​ซุ่ม​โจมตี​ยิ่ง​ไร้ค​วาม​หมาย

​พื้น​ของ​ปราสาท​หิน​มีค่า​ยกล​ ​ทุกหย่อมหญ้า​ล้วน​มี​เส้น​พลัง​เวท​ไร้​รูป​ ​แม้แต่​ผู้​แข็งแกร่ง​ระดับ​มุข​นายก​ใหญ่​กับ​อัศวิน​ศักดิ์สิทธิ์​ ​ก็​ไม่มีทาง​ข้าม​ผ่าน​ไป​ได้

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้ยิน​เสียงร้อง​ขอความช่วยเหลือ

​ดัง​มาจาก​คุก​ใต้ดิน​ ​พอ​ดึง​หญ้า​ออก​ถึง​เห็น​ช่องระบายอากาศ​เล็ก​ๆ​ ​ช่อง​หนึ่ง

​คุก​ใต้ดิน​มิได้​จุด​ตะเกียง​ ​แต่​เขา​สามารถ​มองเห็น​ด้านใน​ได้​อย่างชัดเจน

​ผู้​ที่​ถูก​ขัง​อยู่​ใน​คุก​ ​สวมหน้ากาก​เหล็ก​แบบ​เชื่อม​ติดตาย​ที่​ศีรษะ​ ​เสื้อผ้า​ขาด​รุ่งริ่ง

​ยาม​แสงจันทร์​สีขาว​ส่อง​ต้อง​หน้ากาก​เหล็ก​ ​ยิ่ง​ดู​น่ากลัว​สุด​ๆ​

​ตามรอย​แยก​ของ​หน้ากาก​เหล็ก​ ​มี​วัชพืช​งอก​ออกมา

​ไม่รู้​เหมือนกัน​ว่า​ ​คน​ผู้​นี้​ถูก​ขัง​ใน​นี้​มากี​่​ปี​แล้ว

​พอนัก​โทษ​ผู้​นี้​เห็น​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ก็ดี​ใจ​สุดขีด​ ​กระทั่ง​ค่อนข้าง​คลุ้มคลั่ง​ ​เอา​หัว​เหล็ก​โขก​ผนัง​ไม่​หยุด

​เฉิน​ฉาง​เซิง​จ้องมอง​เขา​เงียบๆ​ ​รอ​ให้​เขา​สงบสติอารมณ์​ลง

​“​อาจารย์​ ​ช่วย​ข้า​ด้วย​!​”

​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​คลาน​มาที​่​ช่องระบายอากาศ​ ​แล้ว​วิงวอน​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​สั่นเครือ

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​“​เจ้า​เป็น​ใคร​”

​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​ ​“​ข้า​คือ​ออกัส​ตัส​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​“​เจ้า​กำลัง​รอ​ข้า​?​”

​เห็นชัด​ว่า​ ​มี​คน​วาง​อุบาย​ใน​อาศรม​ ​จงใจ​ล่อ​ให้​เฉิน​ฉาง​เซิง​มาที​่​นี่

​อิทธิพล​เงียบ​ของ​คน​ผู้​นี้​ ​มีผลต่อ​การตัดสินใจ​ของ​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​ต้อง​บอกว่า​ ​ระดับ​ขั้น​ของ​คน​ผู้​นี้​สูง​จน​ยาก​แท้​หยั่งถึง

​ซึ่ง​เฉิน​ฉาง​เซิง​ได้กลิ่น​ที่​คุ้นเคย​จาก​การจัดเตรียม​เช่นนี้​ ​ตอนนี้​เขา​จึง​อารมณ์ดี​ ​และ​ยินดี​ฟัง​ว่า​อีก​ฝ่าย​เตรียม​ที่จะ​พูด​อะไร​บ้าง

​“​ผู้​หยั่งรู้​ที่​เรียกตัว​เอง​ว่านัก​เดินทาง​ท่าน​หนึ่ง​เคย​บอก​ข้าว​่า​ ​ขอ​เพียง​ข้า​อดทน​รอ​และ​อธิษฐาน​จาก​ใจจริง​ ​ท่าน​ย่อม​ต้อง​มารับ​ข้า​เป็น​ศิษย์​ ​และ​ช่วย​ข้า​ออก​ไป​”

​เห็นชัด​ว่า​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​มิได้​พูดปด

​เรียกตัว​เอง​ว่านัก​เดินทาง​ ​ก็​มี​เพียง​ท่าน​นั้น​เท่านั้น​ ​ที่ว่าง​จน​เบื่อหน่าย​ ​ถึง​ได้​ทำ​เรื่อง​เช่นนี้

​“​เจ้า​เอา​อะไร​มาตัด​สิน​ว่า​คน​นั้น​คือ​ข้า​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ถาม

​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​ตื่นเต้น​เล็กน้อย​ ​ก่อน​ว่า​ ​“​ผู้​ที่​เพิกเฉย​อย่าง​สิ้นเชิง​ต่อ​ข้อห้าม​ที่​เจ้า​คนชั่ว​รี​เชอ​ลิ​เยอ​กำหนด​ไว้​ ​ต้อง​เป็น​ท่าน​!​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​จำได้​ว่า​ ​มุข​นายก​ใหญ่​สวม​ชุด​แดง​ที่​ชื่อว่า​รี​เชอ​ลิ​เยอ​ท่าน​นั้น​ ​เป็น​ผู้ช่วย​ของ​จักรพรรดิ​เทพศักดิ์​สิทธิ์

​“​เจ้า​เป็น​ใคร​กัน​แน่​”

​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​ ​“​จริงๆ​ ​แล้ว​ข้า​ชื่อ​ออกัส​ตัส​ ​เคย​มีตำ​แหน่ง​เป็น​อัศวิน​ศักดิ์สิทธิ์​ ​เป็น​น้องชาย​ฝาแฝด​ของ​จักรพรรดิ​เทพศักดิ์​สิทธิ์​ ​ถูก​ขัง​อยู่​ที่นี่​มานาน​หลาย​ปี​แล้ว​…​”

​พอ​พูดถึง​ประโยค​สุดท้าย​ ​น้ำเสียง​ของ​เขา​ก็​สั่นเครือ​ขึ้น​มา​อีก​ ​ดู​เจ็บปวด​แสนสา​หัส​ ​และ​เต็มไปด้วย​อารม​รณ​์​ขมขื่น

​แววตา​ของ​เขา​ย่อม​ไม่มี​อารมณ์​เหล่านี้​ ​แต่​เต็มไปด้วย​ความหวัง​และ​ความเครียด​ ​น้ำตา​คลอ​หน่วย​ ​ด้วย​กลัว​ว่า​เฉิน​ฉาง​เซิง​จะ​จากไป​เช่นนี้​

​ประโยค​ง่ายๆ​ ​หนึ่ง​ประโยค​ ​สามารถ​พยากรณ์​เรื่อง​ใน​วัง​ที่​พบเห็น​บ่อย​มาก​ออกมา​ได้​หนึ่ง​เรื่อง

​เฉิน​ฉาง​เซิง​คิด​ๆ​ ​ดู​ ​จึง​ว่า​ ​“​ข้า​จะ​ไป​นคร​ศักดิ์สิทธิ์​ ​เรา​คง​ไป​กัน​คนละ​ทาง​”

​คน​สวมหน้ากาก​เหล็ก​ตอบ​อย่าง​กระวนกระวายใจ​ ​“​ต้อง​เป็น​ทางเดียว​กัน​!​ ​ต้อง​เป็น​ทางเดียว​กัน​!​ ​ต่อให้​ท่าน​ไป​นรก​ ​ข้า​ก็​จะ​เดินตาม​รอยเท้า​ท่าน​ไป​อย่าง​ไม่​ลังเลใจ​!​”

​เฉิน​ฉาง​เซิง​ ​“​แล้ว​ถ้า​ที่​ที่​ข้า​จะ​ไป​คือ​แคว้น​เทพ​ล่ะ​”

​(​จบบริบูรณ์​)