ตอนที่ 1957 เจ้าด้อยกว่าชื่อซิวเหวินเสียอีก

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1957 เจ้าด้อยกว่าชื่อซิวเหวินเสียอีก

 

พริบตานั้นเอง สายตาทุกคู่ก็จดจ้องมายังหลิงฮันด้วยความอิจฉา

 

รุ่นเยาว์ผู้นี้ช่างโชคดียิ่งนัก

 

ฮูหนิวนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดเอาชนะชื่อซิวเหวินได้ แถมยังมีรูปลักษณ์ที่งดงามเกินพรรณนาอีกด้วย ทั้งๆ ที่นางมีท่าที่โหดเหี้ยมต่อคนอื่นแท้ๆ แต่กับหลิงฮันนางกลับกลายเป็นสตรีที่อ่อนห วานแทน

 

ใบหน้าอันงดงามของหลิวหานกลายเป็นมืดมน และจ้องมองหลิงฮันด้วยแววตาอาฆาตแค้นหากไม่มีบุรุษผู้นี้ล่ะก็ ฮูหนิวก็เป็นของนางไปแล้ว ขอแค่ฮูหนิวกินหญ้าชาตรีสวรรค์เข้าไปเรื่องเพศก็จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

 

เป็นบุรุษผู้นี้ที่ทําลายความสัมพันธ์ของนางกับซูหนิว!

 

บุรุษผู้นี้ต้องตาย

 

“เจ้าชื่อซิวเหวินอ่อนแอลง จนถึงขนาดที่ไม่สามารถจัดได้ แม้แต่เศษสวะของอาณาเขตสวรรค์ไท่อันเลยงั้นรึ?” ชายผู้หนึ่งเดินเข้ามาด้วยคําพูดเยาะเย้ย เขากวาดมองผู้คนของอาณาเขตสวรรค์ไม่อันก่อนจะกล่าวอย่างหยิ่งทะนง “ข้าคือเฟยหยุน อัจฉริยะอันดับหกในระดับโลกียนิพพานของอาณาเขตสวรรค์กว่างลั่ง”

 

อันดับหก!

 

ถึงแม้ฮุหนิวจะชนะการประลองก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่ใช่ชัยชนะที่ได้มาอย่างง่ายดาย แถมอันดับของชื่อซิวเหวินยังอยู่ที่อันดับเก้าด้วยซ้ํา แล้วเช่นนั้น อันดับหกล่ะจะแข็งแกร่งขนาดไหน?

 

ฮูหนิวแยกเขี้ยวและคิดจะลงมืออีกครั้ง

 

นางยังมีทักษะทรงพลังซ่อนอยู่อีก เพียงแต่ทักษะที่ว่าสามารถใช้ได้เพียงไม่นานเท่านั้นแถมในระยะเวลาหลายวันยังใช้ได้ครั้งเดียวอีกด้วย หากไม่จําเป็นจริงๆ นางก็ไม่คิดจะใช้มัน

 

หลิงฮันเอื้อมมือไปรั้งนางเอาไว้ พร้อมกับกล่าว “ข้าลงมือเอง!”

 

จักรพรรดินีเองก็อยากลงมือเช่นกัน แต่ในเมื่อหลิงฮันกล่าวว่าจะลงมือเอง นางก็ทําได้เพียงยับยั้งใจเอาไว้

 

“พวกข้าจะเป็นเศษสวะหรือไม่ เจ้ามีสิทธิ์มาตัดสินรึ?” หลิงฮันก้าวเดินขึ้นหน้า

 

“ฮ่าๆๆ ในอาณาเขตสวรรค์ไม่อัน ใครบ้างที่ไม่ใช่เศษสวะ?” ใบหน้าของเฟยหยุนแสดงออกอย่างเหยียดหยาม “พวกเจ้าจะลงมือพร้อมกันก็ได้ แล้วมาดูว่าข้าจะกําราบพวกเจ้าทั้งคู่อย่างไร!”

 

บ้า… เป็นคนที่บ้าจริงๆ

 

หลิงฮันส่ายหัว กับคนบ้าเช่นนี้เขาไม่คิดจะเสวนาไร้สาระด้วย

 

“ถ้างั้นก็เข้ามา จะเป็นเศษสวะหรือไม่ ให้กําปั้นเป็นตัวตัดสิน!”

 

“หากเศษสวะเช่นเจ้าปรารถนาจะถูกทุบตี ข้าก็จะสนองให้!” ร่างของเฟยหยุนพุ่งทะยานเข้าหาหลิงฮันพร้อมกับปล่อยหมัด ครืนน” ตราประทับแห่งเต๋ปรากฏขึ้นมาบนหมัดอํานาจของมันราวกับว่าจะบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง

 

พริบตานั้นเอง จอมยุทธที่ไม่ใช่จักรพรรดิต่างก็รีบเผ่นหนีทันที เมื่อใดที่พลังของหมัดปะทุออกมาอํานาจทําลายล้างของมันคงทรงพลังเกินพรรณนา

 

หลิงฮันส่ายหัว เขายกนิ้วขึ้นมาตอบโต้อย่างง่ายๆ

 

“กล้าดูถูกข้างั้นรี!” เฟยหยุนคําราม ตราประทับแห่งเต๋บนหมัดของเขาค่อยๆ ชัดเจนยิ่งขึ้นพร้อมกับพลังทําลายที่พุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม

 

หลิงฮันยิ้มและยังคงใช้หนึ่งนิ้วตอบโต้

 

ตูม!

 

คลื่นพลังของหมัดกับนิ้วเข้าปะทะกัน โดยที่หมัดกับนิ้วของทั้งสองฝ่ายไม่ได้สัมผัสกันโดยตรงและแยกห่างกันราวๆ สามฟุต อํานาจแห่งเต๋และปราณก่อเกิดของทั้งสองฝ่ายน้ํานั้นใส่กันอย่างดุเดือด พร้อมกับคลื่นทําลายของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ ได้กวาดผ่านไปทั่วทิศทาง

 

หลิงฮันดึงนิ้วกลับมาด้วยท่าทางสงบนิ่ง “ก็แค่นั้นๆ”

 

“บัดซบ เจ้ากล้าดีอย่างไรมาดูหมิ่นข้า!” เส้นผมสีดําของเฟยหยุนสยายชี้ขึ้นฟ้าด้วยความโกรธขั้นสุด

 

หลิงฮันส่ายหัว “เจ้าตั้งค่าตัวเองสูงเกินไป พลังของเจ้าอ่อนแอกว่าชื่อซิวเหวินเสียด้วยซ้ํา”อันดับไม่ใช่ตัววัดความแข็งแกร่งจริงๆ จากหมัดเมื่อครู่ ทําให้เขาได้รับรู้ว่าเฟยหยุนนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับชื่อซิวเหวิน

 

อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ เหตุผลที่ซื้อชิวเหวินได้รับอันดับที่เก้าก็เพราะในการประลองจัดอันดับรอบแรก เขาดันโชคร้ายไปพบกับอัจฉริยะระดับสัตว์ประหลาด ทําให้ได้รับบาดเจ็บหนักจ นตกไปอยู่อันดับที่เก้า

 

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เฟยหยุนนั้นอ่อนแอ

 

ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ แน่นอนว่าเขาย่อมแข็งแกร่ง เพียงแต่เมื่อเทียบกับชื่อซิวเหวินแล้วทั้งสองยังมีความต่างกันอยู่เล็กน้อย

 

“หลังจากข้าทุบตีเจ้าจนน่วมแล้ว เจ้าจะรู้เองว่าความต่างชั้นระหว่างข้ากับเจ้านั้นกว้างใหญ่เพียงใด!” ดวงตาของเฟยหยุนมีออร่าสีดําพรั่งพรูออกมา ออร่าเหล่านั้นค่อยๆ ควบแน่นกันจนแปรสภาพกลายเป็นเคียวทมิฬ

 

“เคียวแห่งความตาย!” ใครบางคนอุทานออกมา พร้อมกับเปลี่ยนสีหน้า

 

“ไม่คาดคิดจริงๆ ว่าเฟยหยุน จะใช้เคียวแห่งความตายเร็วขนาดนี้” จักรพรรดิคนหนึ่งกล่าว

 

“ใครใช้ให้เจ้าหนูนั่นยั่วยุเฟยหยุนกันล่ะ?” จักรพรรดิอีกคนกล่าวด้วยน้ําเสียงสาปแช่ง

 

จริงอยู่ที่จักรพรรดิแต่ละคนนั้นมีความสัมพันธ์ดั่งคู่แข่ง แต่ตอนนี้ในเมื่อมีการขัดแย้งระหว่างอาณาเขตสวรรค์สองอาณาเขต พวกเขาจึงหวังให้เฟยหยุนสังหารหลิงฮันให้ได้

 

เฟยเฟยหยุนปลดปล่อยการโจมตีอีกครั้ง เคียวสีดําขนาดถูกกวัดแกว่งออกไป เคียวเล่มนี้แม้จะเป็นเพียงอาวุธที่ถูกควบแน่นขึ้นมา แต่มันกลับปลดกลิ่นอายเย็นยะเยือกราวกับโลหะของจริง

 

หลิงฮันยกมือขวาขึ้น และกําหมัดโจมตีเข้าใส่อากาศที่ว่างเปล่า

 

“ตูม”

 

เสียงสนั่นราวกับอสนีบาตตกกระทบปฐพีดังขึ้น พร้อมกับชั้นมิติปรากฏรอบแตกร้าว และคลื่นพลังได้ระเบิดออกไปรอบทิศทาง

 

เคียวแห่งความตายได้รับผลกระทบจากอํานาจหมัดทันที ตัวเคียงค่อยๆ ปรากฏร่องรอยเสียหายก่อนที่จะแหลกสลายกลายเป็นเศษซากลอยไปตามลมในที่สุด

 

เมื่อได้เห็นอํานาจของหมัดนี้ ทุกคนต่างสูดหายใจลึกด้วยความหวาดผวา แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเองก็เผยสีหน้าตกตะลึงออกมาอย่างปิดไม่มิด

 

การโจมตีอันทรงพลังของเฟยหยุนถูกหมัดลวกๆ ของหลิงฮันทําลายทิ้งได้อย่างง่ายดายนี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าพลังต่อสู้ของหลิงฮันนั้นทรงพลังขนาดไหน

 

“เจ้าเทียบกับซื้อซิวเหวินไม่ได้จริงๆ” หลิงฮันมั่นใจยิ่งกว่าเดิม

 

เฟยหยุนกําหมัดแน่น บนศีรษะของเขามีเส้นเลือดปูดบวมขึ้นมาด้วยความโกรธ

 

“เจ้ารนหาที่ตายเอง!” เขากล่าวอย่างโหดเหี้ยม มือขวาของเขาสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนที่เคียวสีดําที่คล้ายคลึงกับเคียวแห่งความตาย ได้ปรากฏขึ้นมาอยู่ในมือของเขา

 

พริบตาต่อมาเขาได้ทําการโคจรทักษะลับบางอย่าง ด้านหลังของเขาค่อยๆ มีเงาของมนุษย์ยักษ์ปรากฏขึ้นมา โดยที่ร่างเงานี้ได้ถือเคียวแห่งความตายเอาไว้

 

“สะบั้นวิญญาณ!” เขาคํารามพร้อมกับกวัดแกว่งเดียวในมือ ที่เหนือหัวของเขา ร่างเงามนุษย์ยักษ์ก็กวัดแกว่งเดียวให้ความตายตามเช่นกัน

 

“ครื้นนน” พลังอํานาจผันผวนที่แปลกประหลาด ตกกระทบเข้าใส่ร่างหลิงฮัน

 

“โอ้?” หลิงอันประหลาดใจเล็กน้อย “สะบั้นวิญญาณงั้นรึ? การโจมตีนี้เป็นการโจมตีด้วยอํานาจแห่งกฎเกณฑ์อย่างเดียว ทําให้สามารถเมินเฉยพลังป้องกันของกายหยาบได้อย่างสมบูรณ์ แต่ สร้างความเสียหายต่อดวงวิญญาณได้โดยตรง”

 

“แต่น่าเสียดายที่พลังของมันยังอ่อนแอเกินไป”

 

หลิงฮันเผยสีหน้าผิดหวัง ถึงแม้พลังต่อสู้ของเฟยหยุนจะด้อยกว่าซื้อซิวเหวินเพียงเล็กน้อยแต่ความต่างเพียงเล็กน้อยนี้ ก็ทําให้หลิงฮันหมดกะจิตกะใจจะสู้ด้วยไปแล้ว