ตอนที่ 1958 หอกทะลวง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1958 หอกทะลวง

 

หลิงฮันคํารามลากเสียงยาว เขาพุ่งทะยานร่างขึ้นหน้า โดยเมินเฉยต่อการโจมตีทางดวงวิญญาณอย่างสิ้นเชิง

 

“ช่างไม่ประมาณตน!” เฟ่ยหยุนแสยะยิ้ม

 

เคียวแห่งความตายถูกสะบั้นออกไป ฉัวะ เสื้อคลุมของหลิงฮันถูกสะบั้นตัดขาดเป็นรอยมากมายทันที

 

ต้องรู้ก่อนว่าเสื้อที่เขาสวมใส่อยู่นั้นไม่ใช่เสื้อคลุมธรรมดา แต่เป็นเสื้อคลุมที่ถูกถักทอด้วยเส้นไหมนิรันดร์และเส้นใยโลหะกิ่งนิรันดร์ ด้วยความทนทานอันน่าอัศจรรย์ของมันก็ถูกตัดขาดได้ ช่างเป็นการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวนัก

 

แต่สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าก็คือหลิงฮัน ที่พุ่งทะยานร่างโดยไม่รับผลกระทบใดๆจากการโจมตี และยังคงง้างหมัดโจมตีใส่หน้าเฟ่ยหยุน

 

อะไรกัน!

 

เฟ่ยหยุนอ้าปากค้างและอุทานในใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ

 

อีกฝ่ายป้องกันการโจมตีของเขาอย่างง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร?

 

แต่ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ หมัดของหลิงฮันก็พุ่งเข้ามายังใบหน้าของเขาแล้ว

 

“ฮึ่ม!” เฟ่ยหยุนกวัดแกว่งเดียวในมือตอบโต้ คิดจะใช้มือเปล่าปะทะกับอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์งั้น

 

ช่างน่าขันนัก อย่ามองแค่ว่าเคียวเล่มนี้เป็นเพียงอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สี่ดาว เนื่องจากมันมีเศษเสี้ยวอํานาจของราชานิรันดร์หลงเหลืออยู่ ทําให้ใบมีดของเคียวมีความแหลมคมเกินพรรณนา และช่วยยกระดับพลังต่อสู้ขึ้นไปอีกขั้น

 

หลิงฮันจ้องมอง เขายังคงปล่อยหมัดออกไปเช่นเดิม แต่ได้โคจรอํานาจของวารีพลังหยินเสริมขึ้นมา

 

“ตูม!”

 

ใบมีดของเคียวเข้าปะทะกับข้อมือของหลิงฮัน อํานาจแห่งเต๋าและอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ระเบิดออกอย่างไร้ที่สุดสิ้น แต่หมัดของหลิงฮันกลับยังคงอยู่ในสภาพเดิม และพุ่งทะยานเข้าใส่ใบหน้าของเฟ่ยหยุน

 

สะ.. สัตว์ประหลาด!

 

คราวนี้เฟ่ยหยุนตกตะลึงอย่างแท้จริง ทั้งๆที่ถูกอํานาจของราชานิรันดร์โจมตีใส่ซึ่งๆหน้า แต่ข้อมือของหลิงฮันก็ยังไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย นี่เจ้าเป็นราชานิรันดร์หรืออย่างไรกัน?

 

ตูม!

 

เฟ่ยหยุนถูกหมัดของหลิงฮันซัดเข้าใส่จนร่างลอยกระเด็น หลิงฮันขยับตัวพุ่งทะยานไล่ตามไป และปล่อยหมัดอีกครั้ง “ตูม” ร่างของเฟ่ยหยุนถูกขัดลอยกระเด็นขึ้นฟ้า

 

“ฟุบ” หลิงฮันยังคงไล่ตามและกระหน่ําปล่อยหมัดต่อไป

 

เฟ่ยหยุนนั้นไม่ใช่จักรพรรดิระดับแนวหน้าก็จริง แต่พลังต่อสู้ของเขาก็ถือว่าใกล้เคียงอย่างมาก เขาทําการขดตัวเองให้กลมเหมือนลูกบอล เพื่อป้องกันใบหน้าและจุดสําคัญตามร่างกาย

 

การทําเช่นนี้ย่อมช่วยให้เขาหลบหลีกจากบาดแผลสาหัสได้พ้น

 

หลิงฮันมีวิธีมากมายในการทําลายการป้องกันประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นเพลิงเก้าสวรรค์ วารีพลังหยินเร้นลับ หรืออํานาจแห่งกฎเกณฑ์ทั้งสามของหอคอยทมิฬ เพียงแต่แค่การจัดการกับเศษสวะเช่นนี้ เหตุใดจะต้องทุ่มเทใช้ทักษะระดับสูงขนาดนั้น?

 

เขาเตะเท้าออกไป “ปัง” ร่างของเฟ่ยหยุนลอยกระเด็นขึ้นสู่ท้องฟ้า ซึ่งทันทีหลังจากนั้น หลิงฮันก็ได้นําหอกเหล็กออกมา หอกเล่มนี้เป็นอาวุธที่โม่ซวงมอบให้เขาจากการชนะเดิมพัน ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่ามันเป็นอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์ระดับใด

 

“พรึบ” หลิงฮันชี้นําพลังเข้าสู่ตัวหอก เขาพุ่งทะยานร่างเข้าประชิดตัวเฟ่ยหยุนพร้อมกับจ้างหอกเล็งไปยังบริเวณก้นของอีกฝ่าย

 

“ไม่!” ถึงแม้เฟ่ยหยุนจะขดตัวเป็นลูกบอล แต่สัมผัสสวรรค์ของเขาก็ยังทํางานแทนดวงตาอยู่

 

หอกเล่มนั้นกําลังจะแทงเข้าใส่รูทหารของเขา!

 

ใบหน้าของเฟ่ยหยุนเปลี่ยนเป็นสีเขียว หากเขาถูกหอกแท่งเข้าใส่ก้นต่อหน้าสาธารณชนล่ะก็ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

 

เขารีบขยับแขนขาออกจากการขดตัวทันที ต่อให้ต้องถูกหอกแทงเข้าที่น่องขา หรืออวัยวะส่วนใด ก็ยังดีกว่าต้องถูกหอกแทงเข้าที่รูทหาร

 

เพียงแต่ทันทีที่เขาอ้าตัวออก หอกก็ทะลวงถึงเป้าหมายของมันเสียแล้ว “ซวบ” หอกครึ่งด้ามจมหายไปภายในการแทงครั้งเดียว

 

“อ้ากกกก” เฟ่ยหยุนร้องโอดครวญ ร่างกายของเขายืดตรงราวกับไม้บรรทัด

 

“น่าขยะแขยง!” หลิงฮันสะบัดมือเหวี่ยงร่างของเฟ่ยหยุน

 

“ตูม” เฟ่ยหยุนร่วงจากท้องฟ้าลงมากระแทกเข้าใส่พื้นดิน ก่อให้เกิดฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปทั่ว เขาพยุงร่างของตนเองให้อยู่ในท่าคุกเข่า เนื่องจากหอกยังคงทิมคาอยู่กัน

 

เฟ่ยหยุนไม่ได้หมดสติไป เนื่องจากการโจมตีประเภทนี้ไม่ได้รุนแรงพอที่จะทําให้เขาบาดเจ็บสาหัสได้ แต่ปัญหาก็คือศักดิ์ศรี หลังจากนี้เขาคงไม่กล้าสบตากับใครอีก

 

ตัวเขาเป็นถึงจักรพรรดิแท้ๆ แถมยังเป็นถึงอัจฉริยะอันดับหกของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง ใครจะไปคาดคิดว่าต้องมาถูกทะลวงก้นต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้?

 

ในชั่วพริบตา จอมยุทธทุกคนในอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งได้กลายมามีศัตรูร่วมกัน สายตาของพวกเขาจดจ้องไปยังหลิงฮันด้วยความโกรธ การกระทําของหลิงฮันราวกับเป็นการสร้างความอัปยศให้กับทั่วทั้งอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง

 

เพียงแต่ต่อให้จะโกรธแค้นสักแค่ไหน ก็ไม่มีใครก้าวออกมาท้าประลองหลิงฮันสักคน

 

เฟ่ยหยุนเป็นตัวอย่างให้เห็นแล้ว

 

“เหตุใดผู้อาวุโสยถึงยังไม่มาอีก?”

 

“แล้วจูซิ่วเอ๋อล่ะ?”

 

“ถังหมิงหลงอยู่ไหนกัน?”

 

เหล่าอัจฉริยะของอาณาเขตสวรรค์กว่างพุ่งตะโกนเสียงดัง

 

“ยี่” คืออัจฉริยะอันดับหนึ่งในระดับโลกียนิพพานของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง ไม่ว่าใครรู้ว่า “” เป็นแซ่ ชื่อ หรือว่านามแฝงของเขากันแน่ เนื่องจากคนผู้นี้ลึกลับเป็นอย่างมาก แต่พลังต่อสู้กลับแข็งแกร่งอย่างน่าอัศจรรย์ จนได้กลายเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างไรข้อกังขา

 

ซูหย่าหรง คือสตรีที่งดงามที่สุดของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง และเป็นอัจฉริยะอันดับที่สองในระดับโลกียนิพพาน โดยที่ถังหมิงหลงเป็นอันดับที่สาม

 

เนื่องจากพลังต่อสู้ของทั้งสามคนนี้แข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิคนใดๆ เหล่าจอมยุทธจากอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง จึงเชื่อว่าตราบใดที่หนึ่งในสามคนนี้ลงมือ หลิงฮันจะต้องถูกกําราบอย่างแน่นอน

 

ท่ามกลางเสียงตะโกนอันศึกคะนอง ไม่มีใครสังเกตเห็นเลยว่า เฟ่ยหยุนได้ขุดหลุมที่พื้นและคลานหนีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

หลิงฮันเดินกลับมา และพบเห็นเอี้ยนเซียนพู่กับจอมยุทธคนอื่นๆ กําลังเผยสีหน้าตื่นเต้นอย่างไม่อาจปิดบัง

 

“พี่ชายหลิง!”

 

“น้องชายหลิง!”

 

“ผู้อาวุโสหลิง!”

 

ช่างแข็งแกร่ง! ทีนี้อาณาเขตสวรรค์ไม่อันก็จะสามารถลืมตาอ้าปากได้เสียที อย่างที่รู้กันว่าที่ผ่านๆมา คนของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งนั้นดูเหมือนพวกเขาขนาดไหน

 

แล้วพอมาตอนนี้ล่ะ?

 

ขนาดจักรพรรดิอันดับหก กับอันดับเก้าก็ยังถูกกําราบ โชคดีที่ชื่อซิวเหวินหนีไปเสียก่อน ไม่เช่นนั้นตอนนี้ก้นของเขาถูกทะลวงด้วยอีกคนแล้ว