ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1397 ตระกูลหิรัญชาเกิดเรื่องแล้ว
หลังจากที่เส้นหมี่ได้ยินข่าวนี้แล้ว จึงจงใจไปที่บริษัทเพื่อหาคุณหนูใหญ่คนนี้
“พี่สาว ทำไมน้องชายพี่ถึงเรียกพี่มาล่ะ? เขาไม่กลับมาแล้วเหรอ?”
“เอ๊ะ เส้นหมี่เธอนี่ก็ถามแปลกๆ เธอไม่ถามสามีของเธอ วิ่งมาถามฉันทำไม?”
หญิงสาวที่ถูกบังคับให้มาดำรงตำแหน่งแบบเร่งด่วน หลังจากที่เห็นน้องสะใภ้คนนี้ยังกล้ามาถามคำถามนี้กับตัวเอง ก็โมโหเล็กน้อย
เส้นหมี่: “…….”
นี่เป็นคำพูดไร้สาระ
ถ้าเธอถามสาเหตุที่แท้จริงออกมาจากปากผู้ชายคนนั้นได้ ยังต้องวิ่งมาถามเธอเพื่อ?
ในท้ายที่สุดเส้นหมี่ก็ยังคงไม่ได้คำตอบจากคำถามนี้
แต่ในช่วงสองสามวันหลังมานี้ บนเกาะทางนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอะไรที่ไม่ดี ทุกครั้งที่โทรศัพท์ไปหาก็บอกว่าชินจังหายกลับเป็นปกติดีแล้ว แสนรักก็ยังถ่ายวิดีโอส่งมาให้เธอดูด้วย
เธอเองโล่งใจแล้ว
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกครึ่งเดือน
【หนูเย่: จะประกาศข่าวดีให้ทุกคนทราบนะคะ สามีฉันเขาได้ทำการสะกดจิตเป็นครั้งที่สองแล้ว ไม่เป็นอะไร! 】
เช้าตรู่ของวันนี้ ในกลุ่มของตระกูลก็มีคนที่มีรูปโปรไฟล์เป็นการ์ตูนโผล่ออกมา
ทันใดนั้น หลังจากที่คนอื่นๆ ได้เห็นข่าวดีนี้ต่างก็พากันออกมาด้วย
【อาจารย์ดิลก: ดีจังเลย ฉันได้ยินว่า แบบนี้เพียงแค่ทำการสะกดจิตผ่านแล้วก็ไม่เป็นอะไรแล้ว】
【เส้นหมี่: ใช่ค่ะ เพราะว่าโดยทั่วไปคนไข้จะกลัวการถูกสะกดจิตมาก หลังจากสะกดจิตแล้ว เขาจะได้เห็นฉากเหล่านั้นที่ทำให้จิตใจเขาบอบช้ำอย่างหนักหนาสาหัสในตอนนั้น บางครั้งก็หลุดออกมาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ】
【ม็อกโก: แบบนี้งั้นก็ถือว่าเป็นข่าวดีมากจริงๆ ข่าวหนึ่ง!】
【แสงดาว: แม่ง แล้วเขาจะกลับมาได้เมื่อไหร่? ฉันจะแบกไม่ไหวอยู่แล้ว แม่งเอ๊ย รายงานยอดขายของสัปดาห์นี้ลดฮวบลง 5% อีกแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?】
หัวข้อสนทนาเปลี่ยนไปทันที ผู้หญิงคนนี้กลับเริ่มบ่นเรื่องของบริษัทขึ้นมาในกลุ่ม
แสนรักไม่ปรากฏตัว คาดว่าคงจะเลี้ยงลูกอยู่
มีเพียงแค่คณาธิป หลังจากที่เห็นแล้วก็รีบโผล่ออกมาทันที
【คณาธิป: ส่งไฟล์มาให้ผมดูหน่อย】
【แสงดาว: ……..】
อย่างไรเสียก็เป็นคนในครอบครัว ผู้หญิงคนนี้จึงโยนรายงานที่เพิ่งได้รับจากบัญชีเมื่อสักครู่ออกมา
คณาธิปเห็นแล้ว เขาที่ยังอยู่ในห้องพักผู้ป่วย -–กดยอมรับ จากนั้นก็อ่านอย่างละเอียด
กลับไม่คิดว่า พออ่านดูแล้วสีหน้าของเขาก็ไม่สู้ดีนัก
“ที่รัก เป็นอะไรคะ? ที่บริษัทเกิดปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
เชียนหยวนล๋ายเย่ที่ในเวลานี้ชงนมแก้วหนึ่งเข้ามาให้เขาพอดี เห็นว่าจู่ ๆ สีหน้าเขาดูเคร่งขรึมมาก จึงรีบเดินมาถามด้วยความเป็นห่วง
คณาธิปขมวดคิ้ว: “ต่างก็ลดฮวบลงจริงๆ”
หา?
หญิงสาวเบิกตากว้างขึ้นมาในทันที
ต่างก็ลดฮวบลง นั่นคือผลิตภัณฑ์ของหิรัญชามีปัญหาหรือเปล่า? หรือว่าเป็นแข่งขันของเพื่อนร่วมอาชีพจนส่งผลให้เกิดเรื่องเลวร้ายนี้ขึ้น?
หญิงสาวผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านการเงินที่สูงมากเหมือนกัน ทันใดนั้นในสมองเล็กๆ ก็ผุดถึงความเป็นได้สองสามอย่างขึ้นมา
แต่ทว่า เมื่อเธอกดเปิดดูงบการเงินเหล่านั้นที่อยู่ในกลุ่มวีแชทแล้ว ทันใดนั้น เธอก็ลบล้างความเป็นไปได้ทั้งหมดที่ตัวเองคิดไว้
“ที่รัก นี่…. โครงการทั้งหมดของบริษัทก็ล่มหมดเลย นี่คงจะไม่ใช่ปัญหาบริษัท มันเหมือนกับ…..”
“ความผันผวนทางการเงิน คุณไปหยิบคอมพิวเตอร์ของผมมา ผมจะดูตลาดหุ้นทางนั้นหน่อย”
สีหน้าของคณาธิปดูไม่ค่อยสู้ดีมากนัก เขากำชับสาวน้อยคนนี้ให้รีบไปหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของเขามา
เชียนหยวนล๋าเย่ก็ออกไปทันที ไม่นานนัก เธอก็อุ้มคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คของสามีกลับเข้ามา
ความผันผวนทางการเงิน
ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้เพียงแค่เป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจในสาขานี้ก็สามารถดูออกได้
เส้นหมี่อยู่ที่เรืองรองก็มองดูออกแล้ว ดังนั้น หลังจากที่เธอเห็นว่าผู้ชายของตัวเองยังไม่เห็นโผล่ออกมาในกลุ่ม จึงเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาเอง
“ฮัลโหล? ที่รัก”
ในวินาทีที่โทรติด เสียงของผู้ชายที่คุ้นเคยและยังคงแฝงด้วยความขี้เกียจดังลอยมา
เส้นหมี่ได้ฟังแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทั้งโกรธและขำไปด้วย
“คุณทำอะไรอยู่เหรอ? ทำไมไม่เห็นโผล่มาในกลุ่มเลย?”
“อืม?”
บนเกาะกลางทะเล แสนรักที่กำลังพาลูกตกปลาอยู่ได้ฟังแล้ว จึงนำโทรศัพท์ลงมาวางลงตรงหน้าและเหลือบมองดู
“ผมกับชินจังกำลังตกปลากันอยู่ มีเรื่องอะไร?”
“……”
ผู้ชายคนนี้
โชคดีที่ไม่พูดในกลุ่ม ไม่อย่างนั้นจะถูกคนในกลุ่มรุมด่าอีก
“เมื่อสักครู่พี่สาวส่งงบการเงินของบริษัทมาให้ บอกว่ากำไรสัปดาห์นี้ลดฮวบลงอีก 5% เมื่อกี๊ฉันกดเข้าไปดูเหมือนว่าจะยุ่งยากนิดหน่อย เหมือนกับเป็นผลกระทบจากเศรษฐกิจต่างประเทศ”
“เศรษฐกิจต่างประเทศ?”
ชายหนุ่มคนนี้หรี่ตาลง
ในที่สุด เขาก็วางโทรศัพท์ลงอย่างจริงจัง กดเปิดรายงานนั้นแล้วก็อ่านขึ้นมาอย่างตั้งใจ
เส้นหมี่: “ฉันตรวจสอบดูที่วอลล์สตรีททางนั้น ในช่วงนี้หุ้นของบริษัทขนาดใหญ่หลายแห่งก็ร่วงลงเช่นกัน นี่ถือว่าเป็นสัญญาณอันตรายมากเลยทีเดียว”
“……”
ผ่านไปสองนาที ผู้ชายที่อยู่บนเกาะทางนี้ถึงได้ยินเสียงเขาเอ่ยปากพูดขึ้นหนึ่งประโยคว่า: “สงครามกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว”
“อะไรนะ?”
ทันใดนั้น เส้นหมี่ตื่นตกใจมาก
“คุณหมายความว่า?”
“คุณยังจำได้ไหมเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่คุณทำงานในมือของอีริคที่ศูนย์ธุรกรรมการเงิน มีครั้งหนึ่ง เขาให้คุณไปเจรจาธุรกิจหนึ่งที่ประเทศแห่งหนึ่ง ซึ่งสองคนนั้นเป็นเจ้าพ่อบ่อน้ำมัน”
ทันใดนั้นเขาก็ยกเรื่องราวในอดีตนี้ขึ้นมา
เส้นหมี่ย้อนคิดอย่างละเอียด สักพักหนึ่งก็พยักหน้า: “อืม ฉันจำได้ ตอนนั้นเจ้าพ่อน้ำมันคนนั้นหรูหราฟุ่มเฟือยมาก เซ็นบิลให้ฉันทันทีโดยไม่พูดอะไรมาก แต่ครั้งนั้นพวกเราก็เกือบตายอยู่ที่นั่น”