ตอนที่ 1968 คางคก

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1968 คางคก

 

เพื่อแก่นแท้แห่งเต๋าแล้ว อาณาเขตสวรรค์กว่างลิงกับอาณาเขตสวรรค์ไต่อัน จึงยอมหยุดความเป็นปฏิปักษ์กันชั่วคราว

 

“เกิดอะไรขึ้นกับถังหมิงหลงกัน เหตุใดเขาถึงยังไม่มาอีก!” ซูหย่าหรงขมวดคิ้ว ซูหย่าหรงคือจอมยุทธที่มีพลังใกล้เคียงกับนางเป็นอย่างมาก หากมีอีกฝ่ายเพิ่มมาด้วย โอกาสสําเร็จย่อมมีมากขึ้น

 

แต่จะให้รอไปตลอดก็ไม่ได้ ตอนนี้ก็มีหลิงฮันกับฮูหนิวอยู่ด้วยแล้ว อย่างน้อยพลังของทั้งสองก็น่าจะทดแทนถังหมิงหลงได้บ้าง

 

นี่คือสิ่งที่นางคิด

 

“ฟังคําสั่งจากข้า” ซูหย่าหรงรับหน้าที่เป็นผู้นํา ซึ่งทําให้จักรพรรดินีและฮูหนิวไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ทําไมข้าต้องเชื่อฟังนางด้วย?

 

หลิงฮันไม่คิดอะไรมาก เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นการร่วมมือกันแค่ชั่วคราวเท่านั้น ใครจะเป็นคนสั่งการก็เหมือนกัน

 

“ลงมือ!”

 

ซูหย่าหรงก้าวนํา และนําดาบออกมา ทันทีที่ดาบของนางถูกกวัดแกว่งออกไป อํานาจแห่งกฎเกณฑ์อันไร้ที่สิ้นสุดก็พรั่งพรูออกมา ราวกับแม้แต่สวรรค์และปฐพีก็ต้องถูกสะบั้นดาบ ปราณดาบพุ่งทะยานจู่โจม โดยทิ้งหลุมดําเอาไว้เบื้องหลัง

 

ทุกคนเองก็ลงมือตาม เหล่าอัจฉริยะเกือบนับร้อยโจมตีผสานกัน

 

โฮกกกก!” คางคกยักษ์ที่กําลังนอนอยู่อย่างเกียจคร้าน เมื่อมีคนรุกล้ําเข้ามายังอาณาเขต ดวงดาวสีแดงฉานราวกับโลหิตของมันก็เปิดกว้าง และปลดปล่อยจิตสังหารอันไร้ที่สิ้นสุดออกมาทันใด

 

ร่างของมันสั่นสะท้านเล็กน้อย พร้อมกับแท่งหนามมากมายได้พุ่งออกไปทั่วท้องฟ้า และกวาดใส่ร่างของทุกคน

 

แท่งหนามทุกแท่งอัดแน่นไปด้วยปราณพิฆาตอันน่าสะพรึงกลัว ที่ราวกับสามารถบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่ง

 

จะบดขยี้ได้ทุกสรรพสิ่งหรือไม่นั่นหลิงฮันไม่รู้ แต่ที่เขารู้คือแท่งหนามเหล่านี้สามารถสังหารนิรันดร์ห้านิพพานได้อย่างง่ายดาย!

 

หลิงฮันรีบพุ่งตัวไปด้านหน้าจักรพรรดินี ฮูหนิวและธิดาโร่วอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโคจรคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ เพื่อรีดเค้นพลังป้องกันถึงขีดสุด

 

“ตูม ตูม ตูม” แห่งหนามอย่างน้อยเจ็ดแท่งกระทบใส่ร่างของเขาพร้อมกัน อํานาจแห่งกฏเกณฑ์สังหารปลดปล่อยคลื่นแสงสีดําทมิฬ เพื่อทะลวงผ่านการป้องกันของหลิงฮัน เพียงแต่ด้วยอํานาจของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ที่โคจรเอาไว้แล้ว ต่อให้เป็นตัวตนระดับตําแหน่งอมตะก็ต้องขมวดคิ้วว เพราะงั้นอย่างน้อยตัวตนระดับตัดวิญญาณสวรรค์ก็ไม่สามารถทําลายการป้องกันได้อย่างแน่นอน

 

แท่งหนามไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของหลิงฮันได้ก็จริง แต่คลื่นกระแทกอันรุนแรงก็ได้ส่งผลให้ร่างของหลิงฮันลอยกระเด็นไปด้านหลัง

 

“ปัง!”

 

ร่างของพวกหลิงฮันทั้งสี่คนกระแทกเข้ากับเนินยอดเขา นอกจากหลิงฮันแล้ว สตรีทั้งสามคนต่างกระอักโลหิตออกมา

 

ถึงแม้พวกนางจะไม่ได้ถูกโจมตีโดยตรงก็ยังได้รับบาดเจ็บ แต่หลิงฮันนั้นตรงกันข้าม ภายใต้การป้องกันของคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ ร่างของเขาไม่ปรากฏบาดแผลใดๆ

 

แต่การโจมตีเมื่อครู่ก็น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง

 

จอมยุทธคนอื่นนั้น บางคนถูกหนามทะลวงใส่เข้าที่หน้าท้อง บางคนถูกทะลวงเข้าที่แขน บางคนเป็นขา ซึ่งหนามเหล่านั้นได้ส่งผลกระทบไปยังห้วงจิตวิญญาณของพวกเขาโดยตรง และจําเป็นต้องรีบนําสมบัติล้ําค่าออกลบล้างปราณพิฆาตเพื่อยื้อชีวิต

 

หากจอมยุทธระดับโลกียนิพพาน ถูกอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารของระดับตัดวิญญาณสวรรค์ ทะลวงเข้าสู่ห้วงวิญญาณล่ะก็ดวงวิญญาณของพวกเขาจะถูกบดขยี้จนสิ้นชีวิตในเวลาไม่นาน

 

เพราะงั้นเพื่อรักษาชีวิตของตนเองแล้ว ใครกันจะยังลังเลไม่เอาสมบัติออกมาใช้?

 

ช่างเป็นการร่วมมือกันของจักรพรรดิและราชาในหมู่ราชานับร้อยที่น่าอนาถนัก นอกจากจะไม่สามารถอะไรศัตรูได้แล้ว ในหมู่พวกเขายังมีจอมยุทธเจ็ดคนที่ถูกสังหาร และอีกหลายสิบคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ซูหย่าหรงเป็นคนที่ได้รับบาดเจ็บน้อยที่สุด ถึงแม้นางจะอยู่ในแนวหน้า แต่ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิอันดับสองในระดับโลกียนิพพาน อย่างน้อยความสามารถในการป้องกันของนางก็นับว่าน่าอัศจรรย์

 

ตัวนางในตอนนี้รู้สึกไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก นางมีพลังที่สามารถบดขยี้ศัตรูตรงหน้าได้อย่างสิ้นซาก แต่ค่าตอบแทนในการใช้พลังที่ว่านั้นมหาศาลเกินไป และนางจะสูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะงั้นต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ นางจึงไม่สามารถใช้พลังที่ว่าได้ นอกเสียจากจะมีใครรับประกันความปลอดภัยให้นาง

 

แต่ในเสียดายที่ในที่นี้ มีใครบ้างที่นางจะเชื่อใจได้ถึงขนาดนั้น?

 

“สถานการณ์ไม่ดีแล้ว… ข้าว่าพวกเราไปหาพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธกันก่อนดีกว่า” ใครบางคนเสนอ

 

“ก็ดี งั้นเข้าก็ไปซะสิ” ใครบางคนตอกกลับในทันที

 

ไม่มีใครที่ต้องการไปจากที่นี่ เนื่องจากพฤกษาอสนีบาตเพลิงพิโรธนั้นอยู่ที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ในอาณาเขตหุบเขาที่กว้างใหญ่ มีรึที่จะตามหามันพบได้ง่ายๆ? ยิ่งกว่านั้น ต่อให้หาพบก็ใช่ว่าจะถูกแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเลือกเสียหน่อย

 

ไม่เหมือนกับแก่นแท้แห่งเต๋าตรงหน้า ที่แค่ได้มองก็สามารถขัดเกลาพลังต่อสู้ และได้รับผลประโยชน์ไปตลอดช่วงชีวิตแล้ว

 

“หนิวจัดการเอง!” ฮูหนิวปาดโลหิตที่มุมปาก ดวงตาของนางในตอนนี้ส่องประกายแสงอย่างโหดเหี้ยม

 

บังอาจนักที่มาทําให้นางได้รับบาดเจ็บ

 

หลิงฮันส่ายหัว “ไม่จําเป็น เก็บไพ่ลับของเจ้าเอาไว้ก่อน” เขาก้าวเดินขึ้นหน้าและตัดสินใจใช้พิษของไผ่ครามผลสีชาด

 

เขาวางแผนเอาไว้แต่แรกแล้วว่า หากการร่วมมือกันของทุกคนใช้ได้ผล เขาก็จะเก็บไผ่ครามผลสีชาดเอาไว้ก่อน เพราะหากเป็นไปได้เขาก็ไม่อยากหงายไพให้ใครเห็น แต่แก่นแท้แห่งเต๋าของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์สังหารนั้นน่าดึงดูดเกินไป

 

คางคงยักษ์ไม่ได้ไล่ตามมาโจมตีต่อ เพราะตราบใดที่ทุกคนออกมาจากอาณาเขตของมัน มันก็จะกลับไปนอนแน่นิ่งอย่างเกียจคร้าน

 

เมื่อหลิงฮันเดินเข้าไปในอาณาเขต ดวงตาของมันก็เปิดกว้างอีกครั้ง และจดจ้องไปที่หลิงฮัน

 

“ตุบ” ขาทั้งสีของมันออกแรงถีบด้วยความเร็วน่าอัศจรรย์ และมาปรากฏตัวที่หน้าหลิงฮันทันที ทั้งๆที่มันไม่ได้เคลื่อนที่ผ่านห้วงมิติแท้ๆ แต่ความเร็วกลับใกล้เคียงกันเป็นอย่างมาก ลิ้นสีแดงฉานของมันพุ่งออกมาจากปาก และม้วนเป็นเกลียวราวกับหอก พุ่งเข้าใส่ใบหน้าหลิงฮัน

 

ตูม!”

 

ลิ้นของมันทั้งเฉียบคมและรวดเร็ว หลิงฮันจึงไม่อาจหลบหลีกพ้น และถูกโจมตีเข้าใส่ใบหน้าทันที

 

เขารู้สึกร้อนที่ใบหน้าเล็กน้อย แต่หากไม่ใช่เพราะพลังป้องกันของคัมภีร์สวรรค์ล่ะก็ ใบหน้าของเขาคงถูกบดขยี้หายไปแล้ว

 

ถึงคราวของข้าบ้าง!

 

หลิงฮันสะบั้นดาบ แต่ทันทีที่เขายืดมือออกไป และยังดาบยังไม่ทันได้สัมผัสโดนเป้าหมาย ร่างของเขาก็ลอยกระเด็นเพราะแรงกระแทกเสียก่อน

 

ฮูหนิวและจักรพรรดินีกระโดดพร้อมกับ และรับร่างของหลิงฮันเอาไว้

 

“หลิงฮัน น้ําลายเปรอะหน้าของเจ้าเต็มไปหมดเลย หลังจากนี้หนิวจะจูบเจ้าดีรึเปล่าเนี่ย?” ฮูหนิวกล่าวด้วยท่าทางคิดไม่ตก