ตอนที่ 1380: โจมตี (3)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1380: โจมตี (3)

“หลานชาย มานี่” เสียงที่คุ้นเคยที่บ่งบอกถึงความรักใคร่ดังขึ้น เจียงหยางซูเซียวยิ้มให้เจี้ยนเฉิน เขามองเจี้ยนเฉินด้วยความรักและความภาคภูมิใจ

เจียงหยางซูหยวนเซียวและ เจียงหยางซูอวี้หยวนจ้องมองเจี้ยนเฉิน พวกเขาสองคนไม่เคยคิดว่าเจี้ยนเฉินจะสามารถเติบโตได้อย่างน่าตกใจ ในสถานะที่เซียนจักรพรรดิของทั้งทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะดูหวาดกลัวเขามาก

เจี้ยนเฉินจับมือเสี่ยวจินเมื่อเขาไปถึงข้าง ๆ เจียงหยางซูเซียว เสี่ยวหลิงติดตามอยู่ข้างหลังเขา เขาโค้งคำนับในฐานะคนที่อายุน้อยกว่าและกล่าวว่า “คารวะท่านปู่ทวดและท่านย่า”

ทั้งเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยวนเซียวนั้นอาวุโสกว่าเจี้ยนเฉินมาก มันผ่านไปกว่าสิบรุ่นตั้งแต่เขาก่อตั้งตระกูลเจียงหยาง มันเป็นผลให้พวกเขาเป็นปู่ทวดและย่าของเจี้ยนเฉิน

เจียงหยางซูเซียว, เจียงหยางซูหยวนเซียว และเจียงหยางซูอวี้หยวนยิ้มอย่างมีความสุข แม้แต่ก่อนการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน พวกเขาก็ไม่สามารถซ่อนความภาคภูมิใจที่พวกเขารู้สึกได้

เซียนราชาต่างอิจฉาตาร้อนเมื่อพวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินคำนับต่อทั้งสามคน เจี้ยนเฉินเป็นเซียนจักรพรรดิที่แท้จริงในสายตาของพวกเขาในตอนนี้ การที่เซียนจักรพรรดิโค้งคำนับให้เซียนราชาถือเป็นเรื่องที่มีเกียรติมาก

พวกเขาอิจฉาอย่างมากเมื่อพวกเขาค้นพบว่าจิตวิญญาณม่านพลังไว้ใจเจี้ยนเฉินมากเพียงใด

อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเสี่ยวจิน ไม่มีใครสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะมีปฏิกิริยาตกตะลึงหากพวกเขาพบว่าจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมไว้ใจเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ที่คลุมหน้ามองเจี้ยนเฉินจากระยะไกลจากภายในกลุ่มคน ดวงตาที่มีเสน่ห์ของนางจะเปลี่ยนทิศทางไปยังเสี่ยวจินเป็นครั้งคราว นางแอบกัดฟันเมื่อจ้องมองเขาเข้าไป แม้แต่มือของนางที่ถือพิณปิศาจร่ำไห้ก็ยังเกร็งเล็กน้อย

“หลานชาย ทิ้งเด็กไว้ในโถงศักดิ์สิทธิ์ จะมีเซียนจักรพรรดิจำนวนมากจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งเข้าร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ เราจะไม่สามารถดูแลเขาได้เมื่อเราเริ่มต่อสู้ ” เจียงหยางซูเซียวมองเสี่ยวจินก่อนที่จะดึงโถงศักดิ์สิทธิ์ออกมาเพื่อปกป้องเขา

เขาเดาว่าเสี่ยวจินอาจเป็นลูกของเจี้ยนเฉิน เขาไม่รู้ว่าทำไมเจี้ยนเฉินพาเด็กมาที่นี่ แต่ด้วยสถานะพิเศษของเจี้ยนเฉิน มันจึงไม่สะดวกที่จะถาม

เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไรกับสิ่งที่เจียงหยางซูเซียวพยายามทำ เมื่อเขาต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นระเบิดที่รุนแรงก็กำลังพุ่งพรวดออกมาจากคูพร้อมกับกระแสน้ำ

หลังจากกระแสน้ำพุ่งออกมา พลังแห่งการมีอยู่อันยิ่งใหญ่แผ่ก็ออกมาจากคู มันพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ในขณะที่กลุ่มเซียนจักรพรรดิจาก โลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัวของพวกเขากวาดไปรอบ ๆ ทำให้เกิดพื้นดินยุบและโลกหมุน เพียงแค่พลังแห่งการมีอยู่ของพวกเขาอย่างเดียวก็ทำให้เซียนราชาหลายคนต้องถอยหลัง

” ตั้งค่ายกล” ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างตะโกน เสียงของเขาดังสนั่น มันดังก้องไปไกลถึง 10,000 กิโลเมตร

ค่ายกลไม่ถ้วนปรากฏขึ้นทั้งบนพื้นดินและบนท้องฟ้า ค่ายกลเหล่านี้ล้วนเป็นค่ายกลที่แข็งแกร่งที่สุดซึ่งถูกวางโดยจอมยุทธ์ที่เชี่ยวชาญพิเศษยิ่งใหญ่ในทวีปเทียนหยวนด้วยความมุ่งมั่น พวกเขายังซ่อนกับดักและค่ายกลที่อันตรายที่สุดจากตระกูลโบราณไว้ด้วยเช่นกัน

ทันทีที่ค่ายกลปรากฏขึ้น หลากหลายค่ายกลก็ผสมผสานไปในบริเวณรอบ ๆ มันปรากฏขึ้นหลายชั้นและกระพริบด้วยสีที่แตกต่างกัน พลังงานฉีกมิติได้อย่างง่ายดาย ความมืดปกคลุ่มไปทุกหนทุกแห่ง

เซียนจักรพรรดิจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งซึ่งออกมาคนแรกถูกขัง ค่ายกลเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน แม้ว่าเซียนราชาคือคนที่สร้างมันขึ้นมา ค่ายกลที่เชื่อมโยงหลายรูปแบบก็ยังเพียงพอที่จะดักหรือทำร้ายเซียนจักรพรรดิได้หลายคน

มีเซียนจักรพรรดิทั้งหมด 500 คนที่มาคราวนี้ หลายสิบคนถูกขังในค่ายกลในขณะที่คนอื่น ๆ บางส่วนเริ่มโจมตีทันทีเมื่อเห็นว่าคนในกลุ่มของพวกเขาติดกับดัก พวกเขาโจมตีค่ายกลจากภายนอกเพื่อช่วยเหลือผู้คนภายในให้หลุดพ้น

เซียนจักรพรรดิคนอื่นพุ่งออกมารอบ ๆ พวกเขาต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ทั้งสี่

” ใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ! ” ผู้อาวุโสสูงสุดจากตระกูลผู้พิทักษ์ตะโกนและรวมพลังของเขากับคนอื่นเพื่อควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิให้ต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิต่างโลก

ตระกูลผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ควบคุมอาวุธโบราณอันทรงพลังของตัวเองเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้หลังจากเห็นสถานการณ์

ก่อนหน้านี้พวกเขาเก็บยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของพวกเขาเพื่อให้ผู้อาวุโสูงสุดเทียนเจี้ยนสามารถสร้างค่ายกลสังหารที่ทางเข้าสู่โลกอื่น แต่หลังจากเขาออกไปปรับแต่งโถงศักดิ์สิทธิ์ของเมืองทหารรับจ้าง เขาก็ไม่ได้ปรากฏตัวตั้งแต่นั้นมา นี่คือเหตุผลที่พวกเขายอมแพ้ต่อความคิดในการสร้างค่ายกลสังหาร

ผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างถอนหายใจ เขานำจอมยุทธ์ทั้งหมดของเมืองทหารรับจ้างเข้าสู่สนามรบ คนต่างโลกบุกเข้ามาเร็วมาก พวกเขายังไม่ได้เตรียมตัวไม่เสร็จ ผู้อาวุโสสูงสุดยังคงปรับแต่งโถงศักดิ์สิทธิ์ในขณะที่ฮุสตันซึ่งเพิ่งกลายมาเป็นเซียนจักรพรรดิก็หายตัวไปเช่นกัน กำลังเสริมจากอาณาจักรทะเลก็ยังมาไม่ถึง เซียนจักรพรรดิทั้งสามแห่งเผ่าพันธุ์ทะเลก็ยังไม่มาปรากฏตัว

นอกเหนือจากตระกูลเจียงหยางและสำนักดาบทรราช ตระกูลผู้พิทักษ์ต่างก็ใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเพื่อต่อสู้กับเซียนจักรพรรดิต่างโลก เมื่อยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ถูกนำไป จอมยุทธ์จากทั้งสองตระกูลจึงต้องใช้ทักษะลับที่ทรงพลังในการต่อสู้

โล่ขนาดใหญ่แขวนอยู่บนท้องฟ้าข้าง ๆ ร้อยเผ่าพันธุ์ มันอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรในขณะที่มันขวางทั้งภูมิภาคเหมือนกำแพง มันทนทานต่อการโจมตีจากเซียนจักรพรรดิหลายสิบคน

นี่คือสมบัติของคนแคระ ตั้งแต่สมัยโบราณ เกราะสวรรค์ มันถูกสร้างขึ้นโดยราชาคนแคระที่แข็งแกร่งที่สุด ผู้ซึ่งทุ่มเทชีวิตจิตใจของเขาลงไปในนั้น มันจึงทนทานมาก ความรุ่งโรจน์ของถูกแสดงออกมาในสงครามสมัยโบราณ อย่างไรก็ตามโล่ก็เริ่มเว้าแหว่งในระยะเวลาอันสั้นเนื่องจากการโจมตีที่ไม่หยุดยั้งของเซียนจักรพรรดิต่างโลก รอยแตกขยายออกไปอย่างช้า ๆ

ราชาคนแคระที่ควบคุมโล่หลั่งเลือดออกมา เขากระอักออกมาเป็นเลือดอีกทั้งยังมีอวัยวะออกมาอีกด้วย

ราชาคนแคระเป็นเพียงเซียนราชาขั้นสูงสุ การโจมตีที่เกราะสวรรค์ต้องเจอนั้นมีความรุนแรงเกินไป พลังบางส่วนถูกส่งไปยังราชาคนแคระ ตอนนี้เขาอ่อนแรงลงอย่างมาก เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาไม่สามารถทนได้นานกว่านี้อีกแล้ว

“เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ข้าไม่ได้เป็นเซียนจักรพรรดิ ถ้าข้ามีพลังของเซียนจักรพรรดิ ข้าคงไม่ถูกลดทอนให้มีรูปร่างอัปลักษณ์จากการขัดขวางการโจมตีของเซียนจักรพรรดิกว่าสิบคน” ราชาคนแคระถอนหายใจอย่างเสียใจ เขารู้สึกสิ้นหวังเมื่อเขาจ้องมองเซียนจักรพรรดินับร้อยจากโลกต่างแดน

ต้นไม้ใหญ่เติบโตขึ้นท่ามกลางร้อยเผ่าพันธุ์ มันส่องแสงสีเขียวขจีและเต็มไปด้วยชีวิต มันคือต้นไม้เทพเจ้าเอลฟ์ซึ่งมีต้นกำเนิดมาตั้งแต่สมัยโบราณ มันรอดพ้นจากภัยพิบัติโดยไม่ล้มลง

ต้นไม้เทพเจ้าเอลฟ์สูงหลายพันเมตรและเมื่อรวมกับลำต้น มันก็ดูเหมือนเสาที่ค้ำท้องฟ้า มันส่องแสงสีเขียวสว่างล้อมรอบสนามรบทั้งหมด คนที่บาดเจ็บจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเมื่อพวกเขาอาบแสงสีเขียว

กิ่งก้านนับร้อยนับพันจากต้นไม้พลิ้วไหวในท้องฟ้า กิ่งก้านสาขาทั้งหมดขยายไปเรื่อย ๆ ม้วนไปรอบ ๆ เซียนจักรพรรดิที่อยู่ใกล้ที่สุด กิ่งก้านจำนวนนับไม่ถ้วนแทงเข้าที่เซียนจักรพรรดิและได้พรากชีวิตไป