บทที่ 1402 ความเงียบสงบของพายุฝนอันโหมกระหน่ำ

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1402 ความเงียบสงบของพายุฝนอันโหมกระหน่ำ

ตอนที่เส้นหมี่ตื่นขึ้นมาในเช้าของวันที่สอง ก็พบว่าลูกชายไม่ได้อยู่บบนเตียงแล้ว

“ชินชิน?”

เธอรีบลุกขึ้นมาแล้วออกไปจากในห้องนอน

เพราะว่าหอพักใหม่นี้ก็ไม่ได้อยู่ไกลมากจากราตรี พวกเขาทางนั้น ตึกเดียวกันเกี่ยวข้องกันก็คือชั้นบนชั้นล่าง ฉะนั้น ต่อไปลูกของเธอก็จะถูกเรียกไปหาพวกเขาที่นั่นอีก

แต่ที่ทำให้คนต้องประหลาดใจก็คือ เมื่อเธอมาถึงหน้าประตูหอพักของสองสามีภรรยาคู่นี้ ราตรีเห็นเธอแล้วกลับมีสีหน้างวยงง

“เปล่านะ วันนี้ตอนเช้าฉันยังไม่เห็นลูกเธอมาเลย ยังคิดจะไปถามพวกเธอด้วยซ้ำว่าจะมากินอาหารเช้าด้วยกันไหม?”

เธอถือซาลาเปาที่เพิ่งทำเสร็จถาดหนึ่งอยู่ในมือ แล้วพูดอย่างประหลาดใจ

เส้นหมี่: “…….”

ไม่มานี่เหรอ?

เธอเริ่มกังวลใจเล็กน้อย หันหลังกลับแล้วไปตามหาอีกครั้ง

ราตรี ก็เดินตามมาข้างหลังด้วย

กลับพบว่า ครั้งนี้เมื่อกลับไปแล้ว เธอเจอลูกชายอยู่ในหอพักแล้ว และในเวลานี้ มือเล็กๆ ของเขาก็กำลังหิ้วถุงเล็กถุงใหญ่อย่างละใบอยู่ บนโต๊ะอาหารของในหอพักยังมีนมอุ่นๆ สองแก้ววางอยู่อีกด้วย

เส้นหมี่: “ชินชิน ลูกไปไหนมา? แล้วของเหล่านี้คือ?”

“หม่ามี๊ ซื้อจากข้างล่าง รีบมากินเถอะ”

หนุ่มน้อยเห็นหม่ามี๊กลับมาแล้วก็ดีใจมาก เรียกหม่ามี๊ให้เธอรีบมากิน

เส้นหมี่งงเล็กน้อย

เจ้าเด็กนี้ที่แท้ก็ไปซื้ออาหารเช้ามาแต่เช้าตรู่?

แต่ทำไมเขาไม่บอกเธอเลยสักคำ? อีกทั้งของมากมายขนาดนี้ เขาถือกลับมายังไงไหว?

เส้นหมี่เดินเข้ามาอย่างสงสัย ราตรี ก็เดินตามอยู่ข้างหลัง

“ชินชิน หนูไปที่โรงอาหารคนเดียวเหรอ? ของมากขนาดนี้หนูถือมาได้ยังไง?” เธอก็สงสัยในเรื่องนี้เหมือนกัน หลังจากที่เข้ามาแล้วก็เริ่มซักถามขึ้นมา

แต่พอชินจังได้ยินที่เธอถาม ใบหน้าเล็กๆ อันหล่อเหลาก็กลับเป็นเย็นชาภายในทันที

คือไม่คิดจะสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย

ราตรี: “…….”

เส้นหมี่: “อาจจะให้คนงานของโรงอาหารชั้นล่างช่วยเอามาส่งให้เขา น้าตรี ขอโทษด้วยค่ะ รบกวนคุณอาแต่เช้าเลย”

เธอรีบแก้ไขสถานการณ์ให้กับลูกชาย

ราตรี เห็นแล้ว หลังจากที่เหลือบมองดูสองแม่ลูกนี้อย่างอายๆ แล้วก็ออกไป

“หม่ามี๊ ต่อไปอย่าไปสนใจเขาเลย”

“หา?”

เส้นหมี่ที่เพิ่งจะนั่งลง ได้ยินลูกชายพูดประโยคนี้ก็อึ้งไปนิดหน่อย

“ทำไมเหรอ? ลูกไม่ชอบเธอเหรอ? แต่เมื่อก่อนหม่ามี๊ได้ยินน้าภาของลูกบอกว่า ลูกยังกินข้าวที่บ้านเธอมาโดยตลอด เธอก็ดูแลลูกดีมาก ทำไมจู่ ๆ ถึงให้หม่ามี๊อย่าไปสนใจเขาล่ะ?”

เส้นหมี่แปลกใจเป็นอย่างมาก

เพราะถึงแม้ว่าเด็กคนนี้นิสัยไม่ได้ดีเหมือนคิวคิวกับหนูรินจัง แต่การอบรมเลี้ยงดูที่ดีที่แด๊ดดี้ของเขาสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก ทำให้น้อยมากที่เขาจะพูดตรงๆ กับใครคนหนึ่งว่าไม่ชอบเขา

ถ้าอย่างนั้น ราตรี คนนี้ทำอะไรเอาไว้กันแน่?

แต่หลังจากที่เธอพูดประโยคนี้ออกไปแล้ว เด็กน้อยกลับไม่พูดอะไรอีกครั้ง

บางที เขาอาจจะตระหนักได้ว่าสิ่งที่ตัวเองพูดแบบนี้มันไม่ถูก ดังนั้นถึงแม้เขาไม่อยากให้หม่ามี๊ไปสนใจผู้หญิงแก่คนนั้น แต่เขาก็ไม่ได้พูดข้อเสียของคนอื่นออกมาอีก

เส้นหมี่: “……”

จนกระทั่งลูกชายถูกพาไปที่ฐานวิจัยอีกครั้ง เธอรออยู่ในหอพักก็เอาแต่คิดถึงเรื่องนี้

“หมี่ ลูกไปที่ฐานวิจัยแล้วเหรอ? พวกเราไปซื้อกับข้าวกันเถอะ”

“กำลังคิดอยู่ ด้านนอกก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังลอยมา ราตรี มานัดเธอไปซื้อกับข้าวด้วยกัน

เส้นหมี่ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง

“ได้ค่ะ น้าตรี น้ารอฉันสักครู่ค่ะ” เธอตอบตกลงแล้วหิ้วตะกร้าใบหนึ่งออกมา

อีกครึ่งชั่วโมงต่อมา ในร้านซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กร้านหนึ่งของที่นี่

สถานที่นี้เนื่องจากมีเพียงบุคลากรของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์อาศัยอยู่ ปริมาณความต้องการในชีวิตประจำวันก็ไม่ได้มากมายขนาดนั้น ดังนั้น ทั้งฐานวิจัยก็เลยมีเพียงร้านซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็กร้านเดียวที่ขายกับข้าวและของใช้ในชีวิตประจำวัน

เส้นหมี่หิ้วตะกร้าแล้วเดินตามผู้หญิงคนนี้เข้าไป

“เอ๊ะ? ผักวันนี้ใช้ได้เลยทีเดียว มีของสดมาเยอะแยะมากมายเลย หมี่ เธอซื้อกุ้งสดๆ นี้ไปสิ ลูกชายของเธอชอบกินไข่ม้วนห่อกุ้งมาเลยแหละ”

“เหรอคะ?”

เส้นหมี่ก็เดินมา

กุ้งอยู่ในโซนของสดแถมยังกระโดดอยู่จริงๆ ด้วย

“ยังมีผักโขมนี่ก็สดมาเลย ฟักทอง ใช่อันนี้ก็ดี สามารถทำแพนเค้กฟักทองให้ลูกของพวกเธอกินได้นะ”

ราตรี ดีใจมากเป็นพิเศษ ชี้ไปที่ผักสดๆ เหล่านี้แนะนำให้เส้นหมี่ไม่หยุดปาก

ตอนแรกเส้นหมี่ก็ไม่อะไรมาก แต่หลังจากที่หยุดเดินแล้ว สีหน้าของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย โดยเฉพาะถึงตอนสุดท้ายที่ผู้หญิงคนนี้ยังชี้บอกให้เธอซื้อมะเขือเทศสองลูกใหญ่นั้น

ในที่สุดเธอก็ทนไม่ไหวแล้ว แววตาเย็นเฉียบสองข้างก็กวาดมองไปที่ผู้หญิงคนนี้

“น้าตรี ก่อนหน้านี้ของเหล่านี้น้าทำให้ลูกชินชินของพวกเรากินบ่อยใช่ไหม?”

“ใช่สิ เด็กเล็กต่างก็ชอบกินของเหล่านี้ โดยเฉพาะไข่ม้วนห่อกุ้ง ทุกครั้งที่เขามาก็จะกินหมดเป็นจานใหญ่ ฉะนั้นทุกครั้งที่เขามาฉันก็จะทำเอาไว้เยอะเลย”

ราตรี พูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า

ความอบอุ่นเพียงน้อยนิดในดวงตาของเส้นหมี่หายไปจนหมดเกลี้ยงแล้ว

“น้าตรี น้าวิจัยอะไรอยู่ที่สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์เหรอคะ?” ทันใดนั้น เธอเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แล้วถามถึงเรื่องนี้

ราตรี ตะลึง

“ฉันเหรอ? ฉันไม่เก่งเหมือนคุณอามัตถ์ของเธอหรอก ฉันก็วิจัยของพวกพื้นฐานบางอย่าง”

“งั้นน้าคงจะเก่งเรื่องเคมีกับชีววิทยาใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่า คนของสถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ต่างก็เป็นนักเรียนสายวิทยาศาสตร์ สองวิชานี้จะต้องมีววิชาหนึ่งที่เก่งมากอย่างแน่นอน”

เส้นหมี่ก็พูดถึงอีกเรื่องหนึ่ง และพอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ในดวงตาของเธอก็แสดงถึงความชื่นชมและอิจฉามากยิ่งขึ้น