ตอนที่ 2458 จะพาเจ้ากลับบ้าน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ยอดฝีมือที่มีล้นฟ้าดินนั้นค่อยๆ ตายตกลงไปตามๆ กัน

ที่ใดที่เย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นั้นพุ่งผ่านมันจะไม่มีชีวิตใดเหลือรอด!

คนทั้งหลายนั้นต่างพยายามหนีไปทางเทียนชิงหวังเพียงแค่ว่าอยากจะมีขาอีกสักสองข้างเพื่อจะวิ่งได้เร็วขึ้น

ในเวลานี้พลังของเย่หยวนตาขาวขุ่นนั้นมันแสดงออกมาอย่างถึงที่สุด!

เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าทำไมเทียนชิงจึงได้สั่งไม่ให้ไปรบกวนท้าทายเย่หยวนผู้นี้

เพราะผลที่ตามมามันมากเกินจะรับได้!

แต่ขณะที่คนทั้งหลายยังคงอกสั่นขวัญหายไปกับพลังของเย่หยวนตาขาวขุ่นนั้นเองมิติที่แตกสลายลงไปก่อนหน้าตรงจุดที่จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนเคยยืนอยู่มันก็ปรากฏก้อนแสงสีเทาขึ้นมาและค่อยๆ ก่อเป็นร่างกายของคน

จิตศักดิ์สิทธิ์สีเทาของเย่หยวนนั้นมันปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง!

เทียนชิงนั้นรู้สึกถึงมันได้และต้องหันหน้ากลับมามองพร้อมอ้าปากค้าง

“นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร? การโจมตีของบรรพกาลผู้นี้ต่อให้จะเป็นเต๋าบรรพกาลเองก็คงรับไว้ไม่ได้แน่! มัน… มันกลับไม่เป็นอะไรเลย?” เทียนชิงนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างตกตะลึง

เขานั้นได้ทำลายจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนลงไปกับมือแล้ว

แต่เวลานี้จิตศักดิ์สิทธิ์นั้นมันกลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง!

เย่หยวนตาขาวขุ่นผู้นั้นก็หยุดมือลงด้วยเช่นกัน

เขานั้นไม่รู้ว่าจิตหลักไปพบเจอเรื่องราวใดมาแต่เมื่อก่อนหน้าได้เห็นว่าเย่หยวนหลักถูกสังหารเขาจึงลงมือสังหารด้วยเวลาที่เหลือของตน

แต่เวลานี้แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังตกตะลึง

เพราะภายใต้พลังโจมตีระดับนั้นตัวเย่หยวนยังกลับมามีชีวิตได้!

ที่สำคัญไปกว่านั้นสภาพของจิตศักดิ์สิทธิ์ในเวลานี้มันกลับไม่มีร่องรอยความเสียดายใด!

เรื่องราวเช่นนี้แม้แต่ตัวเย่หยวนตาขาวขุ่นเองก็ยังไม่อาจจะเข้าใจได้

แน่นอนว่าความตกตะลึงของเผ่าเทวาที่อยู่ตรงนั้นยิ่งเหนือล้ำไปกันใหญ่

ใครจะไปคิดฝันว่าเสี้ยวจิตศักดิ์สิทธิ์นั้นมันกลับจะมาก่อร่างได้อย่างไม่มีร่องรอยเสียดายใดๆ แม้ต้องเผชิญการโจมตีของท่านเทียนชิง?

เรื่องนี้มันเหมือนราวนิทานหลอกเด็ก!

เย่หยวนมองดูเทียนชิงด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมมันจะมีประโยชน์จริง อืม เท่านี้มันก็ยืนยันได้แล้วว่าไม่มีใครในมหาพิภพถงเทียนนี้ที่จะสังหารข้าลงได้อีก เจ้าว่าอย่างนั้นไหมเล่า?”

เทียนชิงต้องอ้าปากคิดอยากเถียงกลับไป

แต่เขานั้นกลับได้พบว่าคำพูดของเย่หยวนมันสมเหตุสมผลเกินกว่าจะเถียงได้

เพราะแม้แต่ตัวเขาเองยังฆ่าเย่หยวนไม่ได้ แล้วใครจะยังฆ่าเขาได้?

นี่มันคือความอมตะไม่มีแตกสลายอย่างแท้จริง!

แม้ว่าตัวเทียนชิงเองนั้นจะถูกยกย่องเป็นยอดคนอันดับหนึ่งไม่มีวันตายแตกดับลงแต่เขาก็ยังเกรงพลังของเหล่าเต๋าบรรพกาลทั้งหลายไม่น้อย

หากต้องสู้กันจริงๆ แล้วมันก็อาจจะถึงตายได้เช่นกัน

แต่เย่หยวนนั้นเป็นอมตะไม่มีวันแตกสลายอย่างแท้จริง!

เวลานี้ต่อให้เย่หยวนจะยืนให้เขาฆ่าสังหารตัวเขาก็อาจจะพอทำลายร่างของเย่หยวนได้ แต่คงไม่มีทางใดที่จะไปทำลายจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนได้!

เพราะจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นมันเป็นอมตะไม่มีวันแตกสลาย!

นี่มันน่ากลัวจนเกินไป!

เย่หยวนนั้นมีจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ประหลาดเสียยิ่งกว่าร่างกาย!

“เจ้า… เจ้าได้ไปเจออะไรในดินแดนบรรพบุรุษมากันแน่?” เทียนชิงถามขึ้น

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ต่อให้ข้าบอกพวกเจ้าก็คงไม่เชื่อ! แต่พวกเจ้าวางใจเถอะ วันหนึ่งข้าจะกลับมาช่วยเหลือเผ่าเทวาของพวกเจ้าแน่!”

เทียนชิงนั้นตอบกลับมาด้วยใบหน้าดำมืด “บ้าบอ! เผ่าเทวาข้านั้นอยู่เหนือทุกสิ่งอย่างบนโลกหล้า ทำไมพวกเรานี้ถึงต้องให้ใครมาช่วยเหลือด้วย?”

เย่หยวนที่ได้ยินต้องส่ายหัวออกมาด้วยเสียงหัวเราะ “จะว่าไปแล้วพวกเจ้าทั้งหลายนี้ก็ช่างน่าสงสาร เทียนชิง พวกเจ้านั้นจะอยู่ร่วมกับเผ่าอื่นอย่างสันติไม่ได้หรือ? มหาพิภพถงเทียนนั้นมันแสนจะยิ่งใหญ่ดินแดนรกร้างให้พวกเจ้าไปตั้งหลักปักฐานก็มีมากมาย ทำไมเจ้าต้องมาทำสงครามกวาดล้างเผ่าพันธุ์กันเช่นนี้ด้วย?”

เย่หยวนนั้นรู้ดีว่าต่อให้เขาพูดเรื่องที่ได้เจอมาเทียนชิงก็คงไม่มีทางเชื่อถือ

เพราะว่าเรื่องของลี่เอ๋อนั้นมันจึงทำให้เย่หยวนมีความแค้นใหญ่หลวงกับเผ่าเทวา

แต่เวลานี้ความแค้นมันกลับค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความสงสาร

เผ่าเทวานั้นเป็นคนน่าสงสารที่ถูกจับเป็นทาสผู้คนอย่างที่ตัวเองไม่รู้เสียด้วยซ้ำไป

ส่วนเรื่องต้นกำเนิดของรูปปั้นทั้งแปดนั้นมันยังต้องสืบสาวเรื่องราวต่อไปกันอีกครั้ง

แต่เย่หยวนนั้นมั่นใจว่ารูปปั้นทั้งแปดนั้นมันต้องเกิดขึ้นมาจากมือของตัวตนที่อยู่ระดับเหนือเต๋าบรรพกาลขึ้นไป!

โชคยังดีที่รูปปั้นแปดเทพนั้นมันถูกหลอมจนแทบไม่เหลือเค้าความทรงจำใดๆ

แน่นอนว่าทางตัวเทียนชิงย่อมจะหัวเราะเย้ยขึ้นเมื่อได้ยิน “เผ่าเทวาข้านั้นจะไม่มีทางอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์อื่น! เรานั้นคือผู้ปกครองมหาพิภพถงเทียน! เราต้องเอาสิ่งที่เป็นของเราคืนมา!”

เย่หยวนจึงยักไหล่ตอบกลับไป “บางทีในวันหน้า เจ้าอาจจะคิดเปลี่ยนใจ”

หลังพูดจบตัวเย่หยวนก็หันไปมองที่เย่หยวนตาขาวขุ่นก่อนจะยิ้มขึ้น “จะมาเองหรือต้องให้ข้าปูพรมเชิญเล่า?”

เย่หยวนตาขาวขุ่นในเวลานี้ยังมีสีหน้าเย็นเยือกเปี่ยมจิตสังหารแต่ไม่นานเขาก็เริ่มเปลี่ยนท่าที

เย่หยวนตาขาวขุ่นนั้นเริ่มจะกลับมาตั้งสติได้

เย่หยวนตาขาวขุ่นนั้นเห็นแล้วว่าตัวจิตศักดิ์สิทธิ์เย่หยวนในเวลานี้มันสุดแสนแข็งแกร่งอย่างที่เขาไม่อาจเทียบเคียง

ด้วยความเย็นเยือกของเย่หยวนตาขาวขุ่น เขาย่อมจะตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว

ร่างของเย่หยวนพุ่งตัวลงมาก่อนจะค่อยๆ ผสานเข้ากับจิตศักดิ์สิทธิ์ของตน

เย่หยวนได้กลับมาอีกครั้ง!

เมื่อจิตศักดิ์สิทธิ์ได้กลับเข้าร่างเย่หยวนก็รู้สึกแตกต่างจากเดิมไปสิ้นเชิง

ในเวลานี้มันเหมือนเขานั้นได้เข้าใจทั้งโลกหล้า

มันมิใช่แค่พลังบ่มเพาะของเขาเท่านั้นที่เหนือล้ำโลกแต่รวมไปถึงจิตศักดิ์สิทธิ์ของเขาที่เหมือนดั่งจะสื่อสารกับฟ้าดินได้ ภาพที่เขาเห็นนั้นมันแตกต่างจากเมื่อปีก่อนอย่างสิ้นเชิง

เมื่อก่อนนั้นมันเหมือนเขาต้องเงยหน้ามองเต๋าสวรรค์ แต่ในวันนี้มันเหมือนเขาได้ขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับเต๋าสวรรค์แล้ว!

จิตศักดิ์สิทธิ์ของเขานั้นมันอยู่สูงกว่าสวรรค์เก้าชั้น มองดูโลกเบื้องล่างได้สิ้น!

ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดใดๆ กฎใดๆ นั้นมันต่างดูง่ายดายหากเขามองดูมันด้วยวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมที่เย่หยวนมีในตอนนี้

เดิมทีแล้วนั้นเขาต้องค่อยๆ วิเคราะห์และอนุมานการไปเรื่อยๆ กว่าจะเข้าใจ

แต่เวลานี้มันกลับเหมือนเขามองทุกสิ่งด้วยดวงตาของเต๋าสวรรค์ เข้าใจทุกอย่างได้โดยง่ายดาย

“นี่หรือคือวิญญาณโกลาหลดั่งเดิม? เยี่ยมจริงๆ!”

จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำจนไม่อาจจะหาคำใดมาอธิบาย

ความสุขของคนนั้นมันย่อมจะเกิดขึ้นที่จิตใจหากใช่ที่กาย

เวลานี้วิญญาณโกลาหลดั่งเดิมของเย่หยวนได้กลับมาเข้าร่างทำให้จิตของเขาพัฒนาขึ้นมาถึงระดับนี้!

นี่มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสถึงมาก่อน

ฟุบ!

เย่หยวนขยับตัวพุ่งไปหยุดตรงหน้าเยวี่ยเมิ่งลี่

ได้เห็นหน้าเยวี่ยเมิ่งลี่อีกครั้งคราวนี้เย่หยวนกลับไม่ได้รู้สึกปวดร้าวใจเหมือนก่อน

เขานั้นยกนิ้วขึ้นมาลูบผมของลี่เอ๋อทำให้นางกลัวจนแทบหมุนตัวหลบ

แต่เย่หยวนนั้นกลับจังตัวนางไว้และจูบเข้าที่ปาก

ภาพนี้ทำให้คนทั้งเผ่าเทวาต่างผงะหลังไปตามๆ กัน

นี่มัน… จะมาแสดงความรักต่อหน้าผู้คนหรืออย่างไรกัน?

แต่มันก็ช่างดูหวานจนเกินห้าม!

เวลานี้เหล่าสาวๆ ชาวเผ่าเทวานั้นต่างอดไม่ได้ที่จะมีใบหน้าแดงขึ้นตามๆ กัน

พวกนางนั้นต่างคิดอยากได้ชายที่เก่งกาจเหนือล้ำและพร้อมนำทางตนเสมอ

และผู้ชายของเยวี่ยเมิ่งลี่คนนี้เองก็เก่งกาจจนท่านเทียนชิงยังทำอะไรไม่ได้

คนระดับนี้ทำอะไรรุนแรงเสียหน่อยมันก็คงไม่ถือว่าเกินเลย

ลี่เอ๋อนั้นพยายามขยับตัวคิดหนีจากอ้อมกอดของเย่หยวน

แต่เวลานี้มันเหมือนราวกับว่านางกลายเป็นแค่เด็กสาวผู้หนึ่ง ไร้ซึ่งวรยุทธใดๆ

ไม่นานนักปากของคนทั้งสองก็แยกจากกัน

เย่หยวนนั้นยิ้มกล่าวขึ้นมา “รอข้าก่อนเถอะ อีกไม่นานข้าจะต้องมาพาเจ้ากลับบ้านแน่!”

ลี่เอ๋อตอบกลับมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ที่นี่คือบ้านข้า! ต่อให้ข้าจะกลับ มันก็คงเป็นสงครามแย่งชิงมหาพิภพถงเทียน! เย่หยวน เผ่าพันธุ์เรานั้นต่างกัน วันหน้า… ในวันหน้าขอเราอย่าได้มาเจอกันอีกเลย!”

พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาก็ค่อยๆ ไหลลงมาจากดวงตาของนางอย่างไม่อาจห้าม

แต่เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและยังคงยกมือขึ้นลูบผมของนาง “เด็กโง่ เจ้านั้นคือหญิงของข้า ของเย่หยวนผู้นี้ และจะเป็นหญิงที่ข้ารักตลอดไป! ข้าไม่สนหรอกว่าเจ้าจะเป็นคนเผ่าใดและไม่สนด้วยว่าตอนนี้เจ้าจะเป็นใครไป แต่เจ้านั้นคือหญิงที่เย่หยวนคนนี้รัก! ไม่มีใครจะมาเปลี่ยนเรื่องนี้ไปได้! หลังจากข้ากลับมาแล้วข้าจะทำลายรูปปั้นทั้งแปดนั้นลงเสียแล้วจะพาเจ้ากลับบ้านเราเอง!”