ตอนที่ 1978 ไม่มีดาบที่เก้า?

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1978 ไม่มีดาบที่เก้า?

 

หลิงฮันฉุกคิดขึ้นมาได้ทันที ว่าแผ่นหินตรงหน้านี้กําลังทําหน้าที่ส่งทอดทักษะ จุดประสงค์ที่มันโจมตีก็เพื่อส่งต่อทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์

 

ทําไมอักขระแถวที่สามถึงไม่ส่องแสง หลังจากสิ้นสุดอักขระที่สองแล้วน่ะรึ?

 

นั่นเพราะแผ่นหินมีประสงค์ต้องการที่จะสอนเก้าดาบพินาศสวรรค์ อักขระแถวที่สามจะไม่มีวันส่องแสงขึ้นมา หากไม่ใช้ทักษะเดียวกันในการตอบโต้

 

เพราะงั้นตอนนี้เมื่อหลิงฮันเริ่มใช้เก้าดาบพินาศสวรรค์ คลื่นดาบที่เกิดจากอักขระแถวที่สองก็มีความอ่อนโยนลง ราวกับอาจารย์กําลังชี้นําลูกศิษย์

 

เมื่อหลิงฮันตระหนักเรื่องนี้ได้ เขาก็บอกให้จักรพรรดินีกับฮูหนิวได้รับรู้ “ใช้ทักษะดาบที่เจ้าเพิ่งเรียนรู้มา”

 

สตรีทั้งสองเข้าใจสิ่งที่หลิงฮันต้องการจะสื่อในทันที ยิ่งพวกนางเชื่อใจในตัวหลิงฮันด้วยแล้วสตรีทั้งสองจึงเปลี่ยนวิธีการโจมตีในทันที

 

แต่ถึงแม้ความโหดเหี้ยมของคลื่นดาบจะกลายเป็นอ่อนโยน ร่างของพวกหลิงฮันทั้งสามคนก็ยังถูกทําให้ล่าถอยอยู่ดี

 

หลิงฮันไม่หวั่นไหว เขานึกถึงรูปแบบแรกของทักษะดาบเอาไว้ในใจ พร้อมกับนําดาบอสูรนิรันดร์ออกมาเพื่อปลดปล่อยทักษะดาบ

 

ทุกๆ ครั้งที่ร่างของเขาถูกทําให้ล่าถอย เขาก็ยิ่งเชี่ยวชาญในทักษะดาบยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

 

มีบางครั้งที่เขาเข้าออกหอคอยทมิฬเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นสังสารวัฏ

 

เมื่อเขาทําเช่นนี้ แน่นอนว่าจักรพรรดินีกับฮูหนิวเองก็เช่นกัน

 

หลังจากเวลาผ่านไปเจ็ดวัน พวกเขาทั้งสามคนก็ผ่านอักขระแถวที่สองไปได้แทบจะพร้อมๆ กัน “พรึบ” แสงของอักขระแถวที่สามส่องสว่างขึ้นมา และควบแน่นรวมกัน กลายเป็นร่างมนุษย์สามร่างที่ถือดาบอยู่ในมือ

 

ร่างทั้งสามเหล่านั้นไม่พูดพร่ำทําเพลง พวกมันทั้งสามพุ่งทะยานออกมา และกวัดแกว่งดาบในมือในทันที

 

หลิงฮันหัวเราะ ก่อนจะสะบั้นดาบอสูรนิรันดร์เข้าตอบโต้

 

“เคร้ง เคร้ง” เสียงดาบสองเล่มกระทบกันดังขึ้น ทั้งๆ ที่ดาบของร่างเงา เป็นเพียงดาบที่สร้างขึ้นจากคลื่นแสงแท้ๆ

 

พวกหลิงฮันทั้งสามคนยังคงทําเช่นเดิม พวกเขาทั้งเดินหน้าและหยุดเดินเป็นระยะ เพื่อเข้าไปฝึกฝนทักษะดาบภายในหอคอยทมิฬ ด้วยการที่ความต่างของเวลาที่หนึ่งวันเทียบเท่าหนึ่งร้อนวันพัฒนาของพวกเขาจึงเป็นไปอย่างก้าวกระโดด

 

เมื่อพวกเขาผ่านการตอบโต้ดาบมาจนถึงอักขระแถวที่ห้า ในที่สุดเอี๋ยนเซียนลู่ก็มาถึงอักขระแถวที่สอง

 

ส่วนธิดาโร๋วนั้นไม่ต้องเอ่ยถึง นางยังคงยืนอยู่ที่เดิม โดยมีการพัฒนาขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

หลิงฮันหันกลับไปมองดูเป็นครั้งคราว และถอนหายใจในใจ แต่เดิมธิดาโร๋วนั้นเป็นเพียงราชาทั่วไปเท่านั้น ทว่าหลังจากที่นางได้ซึมซับศิลาต้นกําเนิดวิถีสวรรค์ รากฐานพลังบ่มเพาะที่ผ่านๆ มาของเขาก็ถูกขัดเกลา จนศักยภาพยกระดับขึ้นเป็นราชาในหมู่ราชาแนวหน้า

 

เพียงแต่ต่อให้เป็นราชาในหมู่ราชาแนวหน้า ก็ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะฝึกฝนทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์!

 

อย่างมากขีดจํากัดของนางก็คงจะอยู่ที่อักขระแถวแรก ซึ่งเป็นเพียงส่วนแรกของทักษะดาบเท่านั้น

 

ราชานิรันดร์ที่สร้างทักษะดาบนี้ขึ้นมานั้น จะต้องเป็นตัวตนที่หยิ่งทะนงเป็นอย่างมาก เพราะงั้นทักษะดาบของเขา จึงต้องได้รับการสืบทอดโดยจักรพรรดิเท่านั้น

 

นอกจากนี้ในอดีตเกรงว่าราชานิรันดร์ผู้นี้ ก็คงเป็นราชานิรันดร์ระดับสูงเช่นกัน บางทีเขาอาจจะเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับเจ็ด ระดับแปด หรืออาจจะระดับเก้า

 

แต่ยิ่งคิดหลิงฮันก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ ในที่แห่งนี้เขามีโอกาสได้พบเจอ ร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์มากมาย ซึ่งกล่าวก็คือในอดีตพวกเขาได้สิ้นชีวิตลงในฐานะราชานิรันดร์ ซึ่งเรื่องเช่นนี้มันแตกต่างกับเรื่องราวของดินแดนแห่งเซียน ที่เขาเคยได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง

 

ราชานิรันดร์คือตัวตนที่สมควรจะอยู่คงกระพันไปตลอดกาลแท้ๆ

 

เขาเก็บความสงสัยในเรื่องนี้เอาไว้ในใจ และกลับมาตั้งสมาธิกับการฝึกฝนทักษะดาบ เรื่องใดก็ตามที่เขาไม่เข้าใจ เมื่อระดับพลังสูงขึ้นเขาก็จะได้รู้คําตอบเอง

 

ยิ่งก้าวเดินขึ้นหน้ามากเท่าไหร่ ร่างแสงที่เกิดจากแผ่นหินที่ยิ่งทรงพลังขึ้น

 

เมื่อเวลาผ่านไปสามปี หลิงฮันก็หยุดมือและหันไปมองด้านหลัง

 

ใครบางคนมาที่นี่ กลุ่มของซูหย่าหรง

 

ดูเหมือนในที่สุดพวกนางจะวิเคราะห์หาเส้นทางที่ถูกต้องได้แล้ว แต่น่าเสียดายที่เพราะทางแยกมากมาย ทําให้พวกนางเสียเวลาไปเกินกว่าสองปี

 

เมื่อเห็นว่าหลิงฮันมองมา จอมยุทธทั้งเจ็ดคนของกลุ่มซูหย่าหรงก็เผยสีหน้าเกรี้ยวกราด

 

หากพวกเขาสามารถเดินตามหลิงฮันมาได้ล่ะก็ พวกเขาก็จะมาถึงจุดหมายตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนแล้ว

 

ทั้งเจ็ดคนมองในมุมมองของตนเองเท่านั้น โดยไม่คิดเลยว่าตนเองเป็นฝ่ายผิดหรือไม่ แถมยังไม่นึกเลยว่า ทําไมหลิงฮันจะต้องยอมให้พวกเขาติดตามมาด้วย

 

หลิงฮันยิ้มและเลิกสนใจกลุ่มคนเหล่านี้

 

แน่นอนว่าพวกซูหย่าหรงเองก็พบเห็นแผ่นหินเช่นกัน และเริ่มทําการตอบโต้คลื่นดาบอย่างรวดเร็ว

 

เพียงแต่น่าเสียดายที่นอกจากซูหย่าหรงแล้ว กลุ่มของนางคนอื่นๆนั้น ไม่ได้รู้แจ้งในอํานาจแห่งกฏเกณฑ์สังหารจากแก่นแท้แห่งเต๋ หากไม่มีพรสวรรค์ติดตัวที่อยู่ในระดับท้าทายสวรรค์ล่ะก็ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะเรียนรู้ทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ได้สําเร็จ

 

หลิงฮันตั้งสมาธิกลับมาและเริ่มตอบโต้ร่างแสงตรงหน้าต่อ

 

เวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี และธิดาโรัวก็มีการพัฒนามายังอักขระแถวที่สอง ส่วนทางด้านของอาณาเขตสวรรค์กว่างสิ่งนั้น นอกจากซูหย่าหรงแล้ว ไม่มีใครเลยที่ผ่านอักขระแถวแรกไปได้

 

เพียงแต่ซูหย่าหรงนั้นไม่ใช่แค่เป็นอัจฉริยะอันดับสองของอาณาเขตสวรรค์กว่างสิ่ง แต่ยังเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์อีกด้วย นางผ่านมาถึงอักขระขั้นที่สามได้ ซึ่งทัดเทียมกับเอี๋ยนเซียนลูในตอนนี้

 

ณ เวลานี้ หลิงฮัน จักรพรรดินี และฮูหนวกําลังตอบโต้ทักษะดาบอยู่ในอักขระแถวที่แปด ซึ่งหากทั้งสามผ่านอักขระแถวนี้ไปได้ พวกเขาก็จะเรียนรู้ทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ทั้งเก้าส่วนเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์

 

“ตูม!”

 

หลิงฮันเป็นคนแรกที่นําไปก่อน เขาสะบั้นดาบอสูรนิรันดร์บดขยี้ร่างเงาแหลกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาก้าวเดินเข้าไปส่วนของอักขระแถวที่เก้า ในขณะที่ทั่วร่างอัดแน่นไปด้วยปราณพิฆาตอันไร้ที่สิ้นสุด

 

แต่ทว่าอักขระในแถวที่เก้ากลับไปส่องสว่างขึ้นมา

 

เกิดอะไรขึ้นกัน?

 

หลิงฮันประหลาดใจ เขาก็ผ่านมาถึงจุดนี้ด้วยทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์แท้ๆ เหตุใดแผ่นหินถึงไม่มีการตอบสนองกัน?

 

เขามองตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน และในที่สุดก็พบว่าอักขระแถวที่เก้าบนแผ่นหินนั้นไม่สมบูรณ์

 

มันถูกทําลายงั้นรึ?

 

เขากวาดสายตามองอีกฝ่าย ก่อนจะส่ายหัว ไม่ใช่ว่าอักขระแถวที่เก้าถูกทําลาย แต่มันไม่สมบูรณ์มาตั้งแต่แรกแล้ว

 

บางทีราชานิรันดร์อาจจะไม่ได้สร้างทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์ส่วนที่เก้าขึ้นมา หรือบางทีเขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่คิดส่งต่อทักษะส่วนที่เก้าให้ใคร

 

หลิงฮันไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดอยู่แค่ตรงนี้ และในขณะนั้นเอง ครืน” จู่ๆ แผ่นหินก็พังทลายลงมา ราวกับเมื่อสิ้นสุดการสืบทอดทักษะแล้ว มันก็จะได้หลับใหลอย่างสงบสุขเสียที

 

“พรึบ พรึบ พรึบ” คลื่นดาบมากมายและร่างแสงสลายหายไป

 

“อะไรกัน นี่เจ้าทําอะไรลงไป?” จักรพรรดิผู้หนึ่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างลิงคํารามใส่หลิงฮัน เขามีชื่อว่าหม่าลู่ทั้ง อัจฉริยะอันดับแปด

 

ข้าทําอะไรลงไปงั้นรึ?

 

หลิงฮันลูบจมูก อันที่จริงการที่แผ่นหินพังทลายก็นับว่าเป็นฝีมือของเขาได้เช่นกัน เพียงแต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น แต่คนที่ตัดสินใจให้เป็นแบบนี้ก็คือรชานิรันดร์ ตราบใดที่มีคนฝึกฝนทักษะดาบส่วนที่แปดได้สําเร็จ แผ่นจะทําลายตัวเองทันที

 

เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขาเลย

 

ไม่ใช่แค่เขาจะไม่รู้ว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะกลายเป็นเช่นนี้ หรือต่อให้เขารู้คิดว่าเขาจะใจดี รอให้คนเหล่านี้ฝึกฝนทักษะเก้าดาบพินาศสวรรค์จนเสร็จ?

 

ช่างน่าขัน

 

“ข้าไม่ได้คิดจะดูหมิ่นพวกเจ้านะ แต่เศษสวะอย่างพวกเจ้าไม่มีคุณสมบัติจะเรียนรู้ทักษะดาบนี้” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง