ตอนที่ 1991 ยี่

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1991 ยี่

 

“โอ้?” ชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าเผยประหลาดใจ ก่อนจะเผยสีหน้าเหยียดหยาม “เจ้าว่าอย่างไรนะ?”

 

“พี่ชายเชิงหยวน หมอนั้นกล่าวว่าพวกเราสองคนเป็นเศษสวะ!” ชายหนุ่มอีกคนยิ้มและเอ่ยแทรก

 

ทั้งสองหันมองหน้ากัน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

ช่างน่าขันนัก จอมยุทธจากอาณาเขตสวรรค์ที่อ่อนแอ กล้าบอกว่าพวกเขาเป็นเศษสวะงั้นรึ? หากพวกข้าเป็นเศษสวะ แล้วคนอื่นๆ จะเป็นอะไร?

 

“ข้าคือหลัวเชิงหยวน จักรพรรดิอันดับเก้าของอาณาเขตสวรรค์ซานถู!” ชายหนุ่มชุดคลุมฟ้าชี้นิ้วไปยังหน้าอกของตนเอง และกล่าวอย่างภาคภูมิใจ

 

อาณาเขตสวรรค์ซานถูคือ อาณาเขตสวรรค์ระดับกลาง การที่เขาสามารถอยู่ในอันดับเก้าได้ย่อมหมายความว่าพลังต่อสู้ของ หลัวเชิงหยวนนั้นแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก และไม่น่าแปลกใจที่ทําไมเขาถึงมีความมั่นใจขนาดนั้น

 

“ซือปิน จักรพรรดิอันดับสิบของอาณาเขตสวรรค์ซานถู!” ชายหนุ่มอีกคนกล่าว

 

“ข้าไม่ได้สนใจหรืออยากรู้” ยี่สะบัดและจดจ้องด้วยสีหน้าดูถูก

 

“ช่างเป็นคนที่อวดดีอะไรอย่างนี้” ซือปินกล่าวอย่างเย็นชา

 

“ถ้างั้นก็สังหารเขาเลย!” หลัวเชิงหยวนเผยจิตสังหารอันรุนแรงออกมา

 

“นั่นสินะ สังหารไปเลยก็ดี!” ซือปินก้าวเดินขึ้นหน้า “ครืน ครืน” เพียงแค่การย่ําเท้าของเขาผืนแผ่นดินก็เกิดการสั่นสะเทือน

 

นี่คืออัจฉริยะที่แท้จริง ทุกๆ การเคลื่อนไหวของเขาสามารถ ทําให้สวรรค์และปฐพีสั่นสั่นไหวได้

 

“ซือปินคือจักรพรรดิอันดับสิบของอาณาเขตสวรรค์ซานถู ที่หากไปอยู่ในอาณาเขตสวรรค์รอบด้านอาณาเขตใด เขาก็ย่อมเป็นอัจฉริยะที่แข็งแกร่งที่สุดของที่นั่น”

 

“คู่ต่อสู้ของเขาเป็นใครกันนะ ช่างโชคร้ายนัก”

 

“นั่นก็ไม่แน่เสมอไป เพราะอีกฝ่ายคือย”

 

“อัจฉริยะอันดับหนึ่งของอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋งนะ?”

 

“ใช่แล้ว”

 

“ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่อาณาเขตกว่างล๋ง และอาณาเขตสวรรค์ไท่อัน ก็อ่อนแอเป็นอันดับสุดท้ายของ ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกอยู่ดี ต่อให้เป็นจักรพรรดิอันดับหนึ่งก็เถอะ ความแข็งแกร่งของเขาจะมีเท่าไหนกันเชียว?”

 

“นั่นสิ ข้าเองก็เอนเอียงไปทางซือปินมากกว่า”

 

“ข้าด้วย”

 

ผู้คนกระซิบกระซาบคุยกัน หลังจากที่มหาสมุทรวิญญาณหยางเปิดออกแล้ว ทุกคนจะต้องมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใครก็ตามที่ได้รับวาสนา จากสวรรค์และปฐพีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็จะบรรลุเป็นระดับแบ่งแยกวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุด

 

เพราะงั้น ต่อให้เป็นคนสองคนที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน พวกเขาก็มีโชคชะตาจะต้องเป็นศัตรูกัน

 

ยี่แสยะยิ้มเยาะเย้ย พร้อมกับลงมือโจมตีใส่ซือปิน มือที่ใหญ่และหนาของเขาถูกผลักออกไปปราณก่อเกิดถูกควบแน่นกลายเป็นมือขนาดมหึมา และอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ได้แปรสภาพกลายเป็นโซ่ พุ่งทะลวงเข้าหาซือปินพร้อมๆ กัน

 

ใบหน้าของซือปินเปลี่ยนไปทันที

 

ในฐานะที่เป็นจักรพรรดิ แน่นอนว่าเขาย่อมมีศักดิ์ศรีที่สูงเทียมฟ้า แต่ถ้าหากแม้แต่มองไม่ออกว่าศัตรู แข็งแกร่งหรือไม่นั้น เขาคงไม่ใช่อัจฉริยะแต่เป็นตัวโง่งมที่สุดภายใต้สวรรค์

 

“ประกายเพลิงอัคคีสามจันทรา!” เขาพึมพําเสียงเบา “พรึบ” ทันใดนั้นเองทั่วร่างของเขา ก็พรั่งพรูไปด้วยเปลวเพลิงนิรันดร์ และแปรสภาพกลายเป็นตระประทับแห่งเต๋ แพร่กระจายไปทั่วทิศทาง

 

“ทักษะของราชานิรันดร์หมิงฮัวงั้นรึ?” ยี่แสยะยิ้ม เขาไม่ดึงมือขนาดใหญ่ของตนเองกลับ และยังคงผลักเข้าหาซือปินต่อไป

 

ตูม!

 

การบวนท่าแรกของทั้งสองเข้าปะทะกันอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะพุ่งทะยานเข้าหากัน และเกิดเป็นการต่อสู้อันดุเดือด

 

“ปัง ปัง ปัง ปัง” การโจมตีของทั้งสองคนรวดเร็วเป็นอย่างมาก เพียงแค่พริบตา กระบวนท่าหลายสิบก็ถูกปลดปล่อยออกมานั่นกัน

 

ทุกคนจ้องมองตาแข็งค้าง และมองไม่ออกแม้แต่น้อยว่า ฝ่ายใดคือฝ่ายที่กําลังได้เปรียบ หรือ เสียเปรียบ

 

“สวรรค์…. นั่นคือจอมยุทธจากอาณาเขตสวรรค์กว่างลงจริงๆ รึ เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะแข็งแกร่งขนาดนั้น?”

 

“ต่อให้เขาพ่ายแพ้ให้กับซือปิน แต่พลังของเขาก็เพียงพอที่จะสร้างชื่อไปทั่วดินแดนแห่งเซียนแล้ว”

 

“ไม่คาดคิดว่าอาณาเขตสวรรค์กว่างล๋ง จะมีจักรพรรดิที่แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่ด้วย!”

 

“เจ้าลืมไปแล้วว่า ในอาณาเขตสวรรค์กว่างลิงเองก็มีราชานิรันดร์ระดับแปดอยู่จํานวนหนึ่ง ซึ่งในตอนที่คนเหล่านั้นยังเป็นจอมยุทธระดับโลกียนิพพาน ใครบ้างที่ไม่ใช่สุดยอดอัจฉริยะแห่งยุค?”

 

“ถูกของเจ้า”

 

“เพียงแต่ต่อหน้าจอมบ้าคลั่ง ทุกอย่างก็ไม่นับเป็นอันใดได้”

 

“จอมบ้าคลั่งคือจอมยุทธที่แข็งแกร่งที่สุด!”

 

“ถูกแล้ว ทั้งที่เป็นแบบนั้นแต่ก็ยังมีคนพูดมาได้ ว่าจอมบ้าคลั่งพ่ายแพ้ให้กับชายลึกลับที่ชื่อ จี่อู๋หมิง ช่างน่าขันนัก เรื่องเช่นนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร?”

 

ตูม!

 

ในขณะที่ทุกคนกําลังพูดคุยกันอยู่นั่นเอง ร่างหนึ่งก็ถูกซัดลอยกระเด็น และผลลัพธ์การต่อสู้ก็ถูกตัดสิน ร่างที่ลอยกระเด็นชนทะลุเข้าไปในโขดหิน ทําให้ไม่สามารถมองเห็นได้ว่าร่างนั้นเป็นใคร

 

เพียงแต่ต่อให้ไม่เดินไปดูถึงในโขดหิน พวกเขาก็ยังรู้ได้อยู่ดีว่าใครเป็นฝ่ายชนะ เพราะยังมีอีกร่างหนึ่งที่ยืนอยู่ในจุดเดิม

 

ยี่

 

ถึงแม้ทุกคนจะทําใจเชื่อไม่ลง แต่ความจริงตรงหน้าก็คือหลักฐานที่ชัดเจนยิ่งกว่าคําพูดบอกเล่า

 

ไม่หัวเราะอย่างภาคภูมิใจในชัยชนะ ท่าทีของเขายังคงสงบนิ่ง ราวกับคนที่เขาเพิ่งโค่นลงไป ไม่ใช่จักรพรรดิอันดับสิบของอาณาเขตสวรรค์ซานถู แต่เป็นเพียงขยะไร้ค่าคนหนึ่ง

 

“คนต่อไปคือเจ้าสินะ?” เขาชี้ไปยังหลัวเชิงหยวน

 

หลัวเชิงหยวนเผยสีหน้าอับอายและเกรี้ยวกราด อันดับของเขาสูงกว่าซือปินก็จริง แต่นั่นก็แค่อันดับเดียวเท่านั้น ซึ่งพลังต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าซือปินมากนัก ซึ่งหากต้องปะทะกับยี่ ความเป็นไปได้ที่เขาจะพ่ายแพ้ย่อมมีสูงมาก

 

ยี่แสยะยิ้มอย่างชั่วร้ายและกล่าว “กลัวงั้นรึ? จงนึกเสียใจซะ ที่เจ้ามาล่วงเกินข้า!”

 

“พรึบ” เขาพุ่งทะยานปลดปล่อยการโจมตี เข้าใส่หลัวเชิงหยวนอย่างไม่รีรอ

 

ครั้งนี้พลังต่อสู้ที่ยี่ปลดปล่อยออกมานั้น แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ราวกับว่าการต่อสู้เมื่อครู่เป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น

 

ยี่ผู้นี้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง ตราประทับแห่งเต๋จากอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ของเขาแปรเปลี่ยนกลายเป็นโซ่ และพัวพันทะลวงเข้าหาหลัวเชิงหยวน โซอํานาจแห่งกฎเกณฑ์เหล่านี้มีความแข็งแกร่ง เทียบเท่าอุปกรณ์กึ่งนิรันดร์สามดาว ที่ต่อให้เป็นตัวตนระดับตัดวิญญาณหยาง หรือตัดวิญญาณหยินก็ต้องหวาดผวา

 

หลัวเชิงหยวนนึกเสียใจในใจ อัจฉริยะที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ ปรากฏตัวขึ้นในอาณาเขตสวรรค์กว่างลงได้อย่างไรกัน? เรื่องแบบนี้มันช่างไร้เหตุผล และเหนือความคาดหมายนัก

 

ทุกคนสูดหายใจลึก พลังที่ยี่แสดงให้เห็นนั้น เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

 

ที่แท้อาณาเขตสวรรค์กว้างลิงก็มีจักรพรรดิที่แข็งแกร่งระดับนี้อยู่ด้วย!

 

ตูม!

 

หลังจากการแลกเปลี่ยนกระบวนท่า เชิงหยวนก็ถูกหมัดของยี่ซัดจนพ่ายแพ้ ครั้งนี้ยี่ระ เบิดจิตสังหารออกมา และไล่ตามไปเผด็จศึกสังหารหลัวเชิงหยวน แต่อีกฝ่ายก็ใช้ทักษะลับบางอย่างเคลื่อนที่ในพริบตาหลบหนีไปได้

 

“ต่อไปเป็นใครอีก?” จิตสังหารของยี่ยังคงไม่สลายไป ดวงตาสีเงินและทองของเขา ส่องประกายเจิดจ้าราวกับดวงตะวัน หลังจากกวาดสายตามองผู้คนมากมาย เขาก็ลงมือทุ่งโจมตีเข้าใส่คนเหล่านั้นทันที

 

“ตูม ตูม ตูม” พลังต่อสู้ของยี่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ทุกบริเวณที่ร่างของเขาเคลื่อนที่ผ่าน ร่างของผู้คนมากมายจะถูกซัดจนลอยกระเด็น โดยที่ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ มีบางคนถึงขนาดถูกสังหารในพริบตา ส่งผลให้โลหิตนองไปทั่วพื้นดิน

 

“ยี่ เจ้าบ้าไปแล้ว!” ซูหย่าหรงรีบโจมตีขัดขวาง เพื่อหยุดความโกลาหลที่เกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป อาณาเขตสวรรค์กว่างลงอาจจะถูกอัจฉริยะคนอื่นเพ่งเล็ง และ เกิดความเสียหายขึ้นได้

 

ยี่ไม่กล่าวตอบ ดวงตาสีเงินและทองของเขายังคงส่องประกายขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะจดจ้องไปที่หลิงฮัน และพุ่งยานทะยานโจมตีเข้าใส่