ตอนที่ 1992 จักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสอง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1992 จักรพรรดิที่แข็งแกร่งที่สุดทั้งสอง

 

ยี่พุ่งทะยานโจมตีอย่างโหดเหี้ยม ดวงตาสีเงินและทอง ปลดปล่อยคลื่นแสงของตราประทับแห่งเต๋ออกมาราวกับเป็นเทพอสูรที่สามารถบดขยี้ได้แม้แต่สวรรค์และปฐพี เบื้องหลังอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่พรั่งพรูออกมาจากด้านหลังของเขา แปรสภาพกลายเป็นคลื่นเปลวเพลิงและปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า

 

“สองเนตรทลายโลกา!” สีหน้าของซูหนิวเปลี่ยนเป็นจริงจัง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่หายากมาก

 

“โอ้?” หลิงฮันเองก็ทําสีหน้าเคร่งขรึม การที่ศูหนิวแสดงท่าทีระมัดระวังเช่นนี้ แสดงว่ายี่ผู้นี้อมไม่ธรรมดา เพียงแต่ถึงแม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสัยว่า สองเนตรทลายโลกาคืออะไร แต่การโจมตีของอีกฝ่ายก็พุ่งเข้ามาใกล้แล้ว

 

ศัตรูเช่นนี้พบเจอได้ยากยิ่ง

 

ตูม!

 

หลิงฮันปล่อยหมัดเข้าตอบโต้ หมัดของเขากับยีเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง

คลื่นพลังของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์พรั่งพรูออกมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด จนเกิดเป็นคลื่นแสงที่ส่องสว่างไปทั่วสารทิศ

 

ต่อหน้าสายตาที่จดจ้องของทุกคน ร่างของหลิงฮันและยืนอยู่ห่างจากกันสามเมตรกว่าโดยที่หมัดของพวกเขาไม่สัมผัสโดนกัน แต่สิ่งที่กําลังน้ํานั่นกันอยู่คืออํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่ปลดปล่อยของมาจากหมัดของทั้งคู่

 

จากการปะทะกันในกระบวนท่านี้ของทั้งคู่ ถือว่าทั้งสองคนเสมอกัน และยากที่จะด่วนตัดสินว่าฝ่ายไหนกันแน่ที่แข็งแกร่งกว่า

 

“อื้ม!” ทั้งสองเค้นเสียงคํารามพร้อมกัน พวกเขาปลดปล่อยพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมาและทะยานร่างเข้าใส่กัน

 

“บัง บัง บัง” ทั้งสองล่าถอยออกห่างกันสิบฟุตพร้อมกัน และหยุดยืนนิ่งกลางอากาศ

 

ผ่านไปหลายกระบวนท่า แต่ทั้งสองก็ยังสูสีกัน

 

เหลือเชื่อ!

 

“เรื่องแบบนี้เป็นไปได้อย่างไร!”

 

“แม้แต่หลัวเชิงหยวน กับซื้อบินก็ยังถูกยี่เอาชนะได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่าพลังของยีนั้น น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง แต่คนผู้นี้กลับสามารถต่อสู้ทัดเทียมกับยี่ได้”

 

“คนผู้นั้นมาจากอาณาเขตสวรรค์ไต่อัน ชื่อของเขาคือหลิงฮัน เขามีสถานะเป็นนักปรุงยาที่นักปรุงยาคนอื่นๆ มากมายเรียกเขาว่าปรมาจารย์”

 

“ว่าไงนะ นักปรุงยาจะมีความสามารถในศาสตร์วรยุทธ ทัดเทียมกับจักรพรรดิได้อย่างไร?”

 

“ข้าไม่เชื่อ!”

 

“ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกัน!”

 

“นอกจากนี้ก็ยังมีชายลึกลับที่ชื่อจีอูหมิงอยู่อีก มีคํากล่าวว่าคนผู้นี้เองก็มาจากอาณา เขตสวรรค์กว่างสิ่งหรืออาณาเขตสวรรค์ไม่อันเช่นกัน”

 

ทุกคนอุทานด้วยความตะลึง อาณาเขตสวรรค์ไต่อัน และอาณาเขตสวรรค์กว่างลง คือสองในสามอาณาเขตสวรรค์ที่อ่อนแอที่สุด ซึ่งไม่ว่าใครก็ตระหนักรับรู้ในเรื่องนี้ดี แต่ด้วยการปรากฏตัวของหลิงฮันกับยี่ในตอนนี้ ทําให้สามัญสํานึกที่ของทุกคนพังทลายอย่างสิ้นเชิง

 

“ฮ่าๆๆ!” หลิงฮันหัวเราะ พร้อมกับกระหน่ําปล่อยหมัดราวกับห่าฝน ดวงตาของเขาส่องประกายและจิตวิญญาณสู้รบได้ถูกจุดประกายจนถึงขีดสุด

 

“น่าสนุก” ยี่แสยะยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย ก่อนที่แสงสีเงินและทองจะพรั่งพรูออกมาจากมือหมัดของเขาถูกปกคลุมไปด้วยตราประทับแห่งเต๋ และระเบิดพลังอย่างไร้ที่สิ้นสุด

 

ตูม!

 

หลังจากแลกหมัดกันอีกครั้ง ร่างของหลิงฮันก็ถูกส่งลอยกระเด็นราวกับอุกกาบาต

“รู้ผลแล้วหลิงฮันเป็นฝ่ายแพ้”

 

“ข้าก็บอกแล้วไงว่า ในอาณาเขตสวรรค์ไม่อันกับกว่างสิ่งที่อ่อนแอ จะมีสุดยอดอัจฉริยะอยู่ถึงสองคนได้อย่างไร?”

 

“ที่เจ้าพูดก็มีเหตุผล

 

ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย เพียงแต่พริบตาต่อมาดวงตาของพวกเขา ก็ต้องเบิกกว้างด้วยความตะลึง

 

นั่นเพราะหลิงฮันยังคงลุกขึ้นยืนได้อย่างมั่นใจ และพุ่งทะยานกลับมาด้วยพลังที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิมหลายสิบเท่า

 

“ปัง ปัง ปัง” สุดยอดอัจฉริยะทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดอีกครั้ง ร่างของพวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วราวกับอสนี้ ทําให้แม้แต่ราชาในหมู่ราชาก็ไม่สามารถมองตามทัน และสามารถจับการเคลื่อนไหวได้จากร่องรอยของตราประทับแห่งเต๋เท่านั้น

 

แข็งแกร่ง! แข็งแกร่งมาก!

 

ทุกคนตกตะลึงอ้าปากค้าง และสั่นสะท้านไปทั่วร่าง

 

ใต้ดวงตะวัน ไม่ได้มีจอมยุทธระดับโลกียนิพพานที่ทรงพลังอย่างน่าสะพรึงกลัวอยู่แค่คนเดียวแต่กลับมีถึงสองคน! ยิ่งกว่านั้นสองคนที่ว่าก็ยังเป็นจอมยุทธ จากอาณาเขตสวรรค์ที่อ่อนแออย่างอาณาเขตสวรรค์ไม่อันและกว่างลงด้วย

 

เหลือเชื่อจนไม่อาจทําใจเชื่อได้ลง

 

จิตวิญญาณของซูหย่าหรงถูกการต่อสู้ตรงหน้าดึงดูด ช่วงชีวิตก่อนของนางเป็นถึงราชานิรันดร์ระดับเจ็ด ทําให้สายตาของนางสูงส่งเป็นอย่างมาก ซึ่งจักรพรรดิอย่างหม่าถงกวางนั้นไม่มีคุณแม้แต่จะให้นางชําเลืองมองด้วยซ้ํา

 

แต่ตอนนี้แม้แต่นางก็ต้องยอมรับว่า ต่อให้เป็นนางในชีวิตก่อน หรือร่างกําเนิดใหม่ในตอนนี้ที่มีประสบการณ์ของระดับราชานิรันดร์ ก็ไม่อาจมีพลังต่อสู้เทียบเท่ารุ่นเยาว์สองคนนี้ในระดับโลเกียนิพพานได้

 

นอกเสียจากว่านางจะใช้ไฟลับที่ปกปิดเอาไว้เท่านั้น ถึงจะมีโอกาสสังหารรุ่นเยาว์ทั้งสองนี้ได้

 

“ฮ่าๆๆๆ!” หลิงฮันหัวเราะและกระหน่ําปล่อยหมัด ตัวเขาในตอนนี้สัมผัสได้ถึงความรู้สึกอึดอัดบางอย่าง ที่ราวกับบางสิ่งภายในร่างกายต้องการจะออกมา แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามันคืออะไร

 

“ตัวเจ้าในตอนนี้สามารถทะลวงผ่าน ระดับแบ่งแยกวิญญาณได้ตลอดเวลาแล้ว เพียงแต่เจ้าจําเป็นต้องครอบครองแก่นวิญญาณให้ได้เสียก่อน ถึงจะแยกวิญญาณออกมาจากกายหยาบได้”หอคอยน้อยกล่าว

 

หลิงฮันพยักหน้า ที่ระดับแบ่งแยกวิญญาณมีชื่อเรียกเช่นนี้ ก็เพราะจําเป็นต้องแยกวิญญาณออกมาจากร่างกาย ซึ่งทั้งสี่ขั้นพลังย่อย จําเป็นต้องแยกวิญญาณออกมาทั้งหมดสี่ครั้งเพียงแต่การจะแยกวิญญาณออกมานั้น ไม่สามารถทําได้ด้วยพลังของตัวเอง แต่ต้องพึ่งพาอํานาจจากสวรรค์และปฐพี

 

ด้วยเหตุนี้หากใครต้องการทะลวงผ่านระดับตัดวิญญาณหยาง ทุกคนจึงต้องเข้าไปยังมหาสมุทรวิญญาณหยาง

 

ปัง!

 

จักรพรรดิทั้งสองแลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันอีกครั้ง ก่อนจะล่าถอยหลัง เว้นระยะห่างกันราวๆร้อยฟุต

 

“เจ้ามีคุณสมบัติจะเป็นสหายของข้า” ไม่ลงมือต่อ เขาพยักหน้าให้กับหลิงฮันด้วยสีหน้าหนักแน่น

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “แล้วเจ้าแน่ใจได้อย่างไร ว่าข้าอยากเป็นสหายกับเจ้า?”

“ข้าเชื่อว่าเจ้าเป็นคนประเภทเดียวกันข้า” ยี่แสยะยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย

 

หลิงฮันยอมรับว่าคนผู้นี้ถึงแม้จะบ้าบินมาก แต่ก็มีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ และเป็นคนตรงไปตรงมา เขาพยักหน้าและยิ้ม “ข้าชื่อหลิงฮัน”

 

ทั้งสองมองหน้ากัน และระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกัน ราวกับพวกเขาเป็นสหายกันมานานหลายปี