สิ่งที่หลัวเหวินเซวียนกังวลถึงไม่ได้เกิดขึ้น
ไม่มีใครคิดจริงจังกับคำพูดระหว่างเพื่อนในโอกาสส่วนตัวแบบนี้
แล้วก็ในฐานะเลขาแห่ง ILHCRC ผลงานของเขาค่อนข้างน่าชื่นชม
ลู่โจวพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังในการกล่าวพูดในพิธีทางการของงานเลี้ยง เขาแสดงความซาบซึ้งต่อบุคคลและกลุ่มที่ได้สร้างผลงานโดดเด่นให้ ILHCRC และช่วยพิสูจน์ทฤษฎีไฮเปอร์สเปซ
“…นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของยุคมิลเลเนียม ความสำเร็จครั้งใหญ่ทั้งหมดของเราในด้านฟิสิกส์มาจากพลังของการร่วมมือกัน ถ้าขาดผู้คนที่ยอดเยี่ยมจำนวนมากนี้ไป งานของเราจะยากเข็ญหรืออาจจะไม่สามารถทำให้เสร็จได้เลย”
“ต้องขอขอบคุณคนเหล่านี้ที่มีส่วนร่วมกับเป้าหมายที่สูงส่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานที่น่าเบื่อหรือดูเล็กน้อย ผมเชื่อว่างานทุกอย่างต่างมีคุณค่าและได้พบกับสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวกนั้น และวันหนึ่งอาจจะพรุ่งนี้หรือในอนาคต มนุษยชาติจะเจอกับการค้นพบเหล่านี้”
“ถึงแม้ว่าชื่อเสียงและความร่ำรวยไม่ใช่เป้าหมายของเราในด้านนี้ ถ้าจะมีอนุสรณ์ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลานี้ ผมหวังว่าชื่อของพวกเราทุกคนจะถูกจารึกไว้บนนั้น!”
เสียงปรบมือดังก้องไปทั่วห้อง
บรรยากาศของงานไปถึงจุดสูงสุดแล้ว
ผู้คนชนแก้วเพื่อเฉลิมฉลองและแสดงความยินดีกับช่วงเวลานี้ในประวัติศาสตร์
นักวิชาการลู่ผมเทาที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคนยกแขนเสื้อมาเช็ดขอบตาเบาๆ ศาสตราจารย์หรี่หรงเอินแห่งภาคฟิสิกส์ที่มหาวิทยาลัยจินหลิงเดินไปยืนข้างชายชราและพูดกับเขาพร้อมรอยยิ้ม
“คุณคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนไหม?”
นักวิชาการลู่รีบลดมือลงและพูดตอบหลังจากกระแอมลำคอ
“คิดถึงเรื่องอะไร?”
“ว่าลูกศิษย์ของคุณจะโตมาถึงจุดนี้ในสักวันหนึ่ง”
ศาสตราจารย์หรี่หรงเอินมีรอยยิ้มบนใบหน้า นักวิชาการลู่นิ่งเงียบไปสักพักจากนั้นเขาถอนหายใจ
เขาพูดด้วยความตื่นเต้น
“ผมเคยคิดว่าเด็กคนนี้มีอนาคตไกล ผมจึงพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อล่อให้เขาเข้ามหาวิทยาลัยของผม แต่ผมไม่คิดว่า…”
เขามองดูที่เวทีและใบหน้าของชายหนุ่ม รอยยิ้มโล่งใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักวิชาการลู่
“ผมไม่ได้คิดว่าเขาจะสำเร็จเกินที่ผมคาดหวังกับเขาไว้สองเท่าในวัยยี่สิบปี”
…
นักวิชาการลู่คนชราไม่ใช่คนเดียวที่ไม่ได้คาดคิดในสิ่งนี้ คนส่วนใหญ่ก็เช่นกัน
ลู่โจวเพิ่งได้รับรางวัลโนเบล และในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีเขาก็ประสบความสำเร็จระดับรางวัลโนเบล
ความสำเร็จนี้ได้เหนือว่าการค้นพบอนุภาคฮิกส์และอนุภาคซี โดยมันได้เหนือกว่าสองความสำเร็จนี้รวมกัน ซึ่งต่างจากรางวัลโนเบลอื่นๆ
ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการรางวัลโนเบลจึงตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
เขาเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลเมื่อปีก่อนมีคนจำนวนมากต่อแถวรออยู่ มีหลายคนที่ได้ทุ่มเทจนเสียชีวิตและไม่ได้แม้แต่จะได้ต่อคิวด้วยซ้ำ มันช่างดูไม่สมเหตุสมผล
แล้วก็จากแนวปฏิบัติของชุมชนฟิสิกส์ ถ้ารางวัลถูกมอบให้ด้านฟิสิกส์ทฤษฎีเมื่อปีก่อน รางวัลของปีนี้จะต้องถูกมอบให้ฟิสิกส์สสารควบแน่น การให้รางวัลฟิสิกส์ทฤษฎีสองปีติดกันไม่ใช่ไอเดียที่ดี
แต่การค้นพบไหนล่ะที่เหมาะสมกับการได้รับรางวัลมากกว่าทฤษฎีไฮเปอร์สเปซ?
แม้แต่อนุภาคฮิกส์ก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับทฤษฎีไฮเปอร์สเปซ
ในท้ายที่สุดการค้นพบโบซอนนี้ได้เพียงแต่เติมช่องว่างในโมเดลมาตรฐานและรักษาตึกที่กำลังถล่ม การค้นพบทฤษฎีไฮเปอร์สเปซเทียบเท่ากับการรีเฟรชความเข้าใจของผู้คนเรื่องโลกมิติสูงและคอนเซ็ปต์ของกาลอวกาศโดยตรง
จากการใช้คุณสมบัติกายภาพพิเศษนี้ มนุษย์ได้หวังว่ามวลจะสามารถมีความเร็วมากกว่าความเร็วแสง
การที่บอกว่ามันพลิกหน้าประวัติศาสตร์ก็เป็นการพูดน้อยไป
แต่ลู่โจวไม่ได้ทำให้กรรมการรางวัลโนเบลลำบากใจ
ระหว่างการสัมภาษณ์สื่อหลังงานเลี้ยง นักข่าว BBC ยื่นไมโครโฟนให้เขาและถามว่าทฤษฎีไฮเปอร์สเปซจะทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ครั้งที่สองหรือไม่ ลู่โจวตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“มันจะดีกว่าที่ให้เงินเก้าล้านโครเนอร์และเหรียญรางวัลกับคนที่ต้องการมากกว่า ผมไม่ควรถูกพิจารณาเป็นผู้เข้าชิง เอาจริงแล้วผมไม่ต้องเกียรติยศเพื่อพิสูจน์อะไรอีก”
เมื่อเขาพูดแบบนี้นักข่าวที่ล้อมเขาอยู่รู้สึกช็อก
นักข่าว BBC ที่ถามคำถามก่อนหน้านึกว่าเขาฟังลู่โจวพูดผิดไป นักข่าวรีบถามว่า “คุณพูดจริงใช่ไหม? คุณรู้ไหมว่าคณะกรรมการรางวัลโนเบลอาจจะได้ยินสิ่งนี้ ถ้าเกิดว่ามีการเข้าใจผิดเกิดขึ้น บางที—”
“ผมดูเหมือนกำลังล้อเล่นเหรอ?”
ลู่โจวยิ้มสู้ไมโครโฟนที่จ่อสัมภาษณ์และกล้องนับไม่ถ้วนแล้วพูดว่า “แน่นอนครับ ผมพูดจริง ผมหวังว่าพวกเขาสามารถพิจารณาคนอายุน้อยมากขึ้นเนื่องจากผลการวิจัยของพวกเขาต้องการการยอมรับและการสนับสนุนมากกว่า เอาจริงๆ แล้ว ถ้าเกิดพวกเขาไม่มีแผนจะทำแบบนี้ ผมจะพิจารณาจัดตั้งรางวัลเพื่อทำสิ่งนี้เอง”
บรรยากาศแตกตื่นขึ้น
ถ้าคนอื่นพูดแบบนี้ มันจะดูยโสโอหังไปเสียหน่อย
แต่สิ่งนี้ออกมาจากปากลู่โจว ไม่มีใครคิดว่าเขาจะเย่อหยิ่ง ผู้คนคิดว่าเขาเป็นคนถ่อมตัว
ถ้าเขาอยากชิงรางวัลโนเบลครั้งต่อไปไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะชนะแน่นอน คณะกรรมการรางวัลโนเบลคงจะให้รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ปี 2024 ให้กับเขา
ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้เป็นการค้นพบที่จะเปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ นับตั้งแต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพแล้วไม่มีทฤษฎีไหนที่พลิกโลกได้เท่านี้
แต่ตอนนี้หลังจากลู่โจวได้ประกาศจุดยืน คณะกรรมการรางวัลโนเบลคงต้องพิจารณาใหม่
ถ้าลู่โจวไม่ได้เข้าร่วมการคัดเลือก เหว่ยฮงและศาสตราจารย์ด็อบริกที่คิดค้น ‘สูตรความผันผวนแรงโน้มถ่วงอนุภาคซี’ จะต้องเป็นผู้เข้าชิงแถวหน้าของรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ ปี 2024 โดยไม่ต้องสงสัย พวกเขาน่าจะเป็นกลุ่มคนที่ได้แบ่งปันเงินรางวัลเก้าล้านโครเนอร์นี้
ท้ายที่สุดแล้วความสำคัญของสูตรนี้ถูกรับรู้โดยลู่โจวเอง ข้อสรุปในงานวิจัยนี้ยังถูกอ้างอิงในงานเขียนไฮเปอร์สเปซของลู่โจว
ถ้าพวกเขาไม่สามารถให้รางวัลกับทฤษฎีไฮเปอร์สเปซได้ การให้รางวัลกับงานวิจัยอื่นในด้านนี้ก็เป็นการจดจำในทางอ้อม
น่าเสียดายที่หลัวเหวินเซวียนจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งนี้
ถ้าเขาได้เข้าร่วมโปรเจกต์วิจัยเร็วกว่านี้ เขาอาจจะได้รับส่วนแบ่งเงินเก้าล้านโครเนอร์
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เขาเข้าร่วมช้าไป เขาแทบไม่มีเวลาได้สร้างผลวิจัยที่ค่อนข้างสำคัญ เขามองดูที่ด้านข้างในขณะที่ลู่โจวได้เปิดเผยศักยภาพทั้งหมดของสาขาการวิจัยนี้
นักข่าวตรงนี้และนักฟิสิกส์ที่อยู่ใกล้เคียงต่างก็ช็อกกับคำพูดเผื่อแผ่ของลู่โจว ข่าวนี้แพร่กระจายไปทั่วโลกผ่านหลายช่องทางสื่อ
ยิ่งมันแพร่กระจายไปมาแค่ไหน เรื่องมันก็ยิ่งถูกต้องน้อยลง…