ตอนที่ 1312 กองทุนอาณานิคมระบบดาวเคราะห์

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ณ มหานครนิวยอร์ก

ใจกลางนครแมนฮัตตัน

ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นส่องแสงสะท้อนวอลสตรีทตามปกติ แต่สิ่งที่ต่างไปจากอดีตคือความวุ่นวายและความเป็นระเบียบถูกรบกวนโดยข่าวที่ไม่คาดคิด

ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่หัวมุมถนน

คนส่วนใหญ่ที่นั่งที่นี่เป็นพนักงานที่ทำงานอยู่แถวนี้ ถึงแม้ว่ามันเป็นสถานที่เล็กๆ ที่มีอาหารราคาถูก ด้วยความสะดวกและอาหารคุณภาพสูง คนมีชื่อเสียงจากวอลสตรีทหลายคนมาเยือนที่นี่

พนักงานบริษัทสองคนในชุดสูทและรองเท้าหนังนั่งตรงหน้าต่าง พวกเขากินแพนเค้กระหว่างที่พูดคุยกัน

“คุณได้ยินไหม?”

“ได้ยินอะไรเหรอ?”

“เทาเซติ! พาดหัวข่าวจากวอลสตรีทเจอร์นัล! กองทุนอาณานิคมดวงดาวได้เรี่ยไรเงินหนึ่งหมื่นล้านแล้ว! พระเจ้า คุณไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ เหรอ?”

อะไรคือเทาเซติวะ?

ชายที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขาดูไม่เข้าใจเลย แต่เมื่อได้ยินถึงตัวเลขหมื่นล้านเขารู้สึกช็อก เขาแทบทำส้อมในมือหล่น

“อะไรนะ… หมื่นล้าน? ล่าอาณานิคม? เกิดอะไรขึ้น?”

“ศาสตราจารย์ลู่ ชายคนที่ค้นพบทฤษฎีไฮเปอร์สเปซเมื่อไม่นานมานี้ ผู้ได้รับรางวัลโนเบลปีที่แล้ว! เขาได้ลงทะเบียนกองทุนด้วยสเกลเงินหมื่นล้านหยวน โดยมีเป้าหมายที่จะตั้งรกรากดาวเคราะห์เทาเซติ เป้าหมายคือการตั้งรกรากภายนอกระบบสุริยะภายในเวลาสองร้อยปี…”

พนักงานคนนี้พูดต่อ

“ผมไม่เคยได้ยินแผนการลงทุนที่ทะเยอทะยานขนาดนี้… โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมความเสี่ยงสูง อย่างเช่น อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และถ้ามีคนอื่นได้ตั้งรกรากที่เทาเซติ หรือถ้าไม่มีดาวเคราะห์ที่อาศัยได้ตรงนั้น มันจะไม่เป็นการผลาญเงินไปเปล่าๆ เหรอ?”

แน่นอนว่าถึงแผนตั้งรกรากที่เทาเซติจะไม่สามารถทำได้สำเร็จ พวกเขาก็สามารถปรับกลยุทธ์ได้ พวกเขาสามารถตั้งรกรากที่อัลฟ่าเซนทูรี่หรือชำระเงินทุนที่เหลือ

มันไม่เหมือนเงินทุนเท่าไหร่ มันเป็นเหมือนผลิตภัณฑ์สินเชื่อมากกว่า จ่ายเงินตอนนี้และกำหนดผลประโยชน์ในอนาคต คนที่คิดแผนนี้ขึ้นมาเป็นอัจฉริยะสุดเพี้ยน…

เพื่อนร่วมงานที่นั่งตรงข้ามฟังเขาอย่างตั้งใจ จากนั้นเขาพูดว่า “แปรรูปดาวเคราะห์? มันเป็นไปได้เหรอ?”

พนักงานบริษัทส่ายหน้าและตอบว่า “ทำไมจะไม่ล่ะ? มันไม่มีรัฐบาลบนดาวเคราะห์ดวงอื่นเพราะว่าไม่มีใครเคยไปที่นั่น! กฎหมายในอีกร้อยปีอาจจะไม่อนุมัติสิ่งนี้ แต่จากกฎหมายในปัจจุบันมันไม่ผิดกฎหมาย ในท้ายที่สุดกองทุนนี้ไม่ได้เปิดต่อสาธารณะ แม้ว่าเป้าหมายจะแปลกไปหน่อยแต่มันก็เป็นแค่การลงทุน… กฎหมายประเด็นนี้มันยืดหยุ่น”

แล้วก็ศาสตราจารย์ลู่ถูกมองว่าเป็นนักวิชาการหมายเลขหนึ่งในจีน และกฎที่ปกครองคนและบริษัททั่วไปไม่ได้ปรับใช้กับเขาทั้งหมด

สำหรับเรื่องที่กองทุนจะยังอยู่ในอีกหนึ่งร้อยปีจากนี้หรือไม่…

มันขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้จัดการกองทุน

หลังจากได้ยินสิ่งนี้เพื่อนร่วมงานที่นั่งตรงข้ามเขาเอากำปั้นขวาทุบโต๊ะและพูดด้วยความผิดหวังบนใบหน้า

“ไม่เปิดขายต่อสาธารณะ? ให้ตายเถอะ! ชายคนนี้อยากเก็บให้ตัวเองคนเดียว!”

พนักงานบริษัทเลิกคิ้วขึ้นในขณะที่เขาถามว่า “อะไรนะ? คุณสนใจงั้นเหรอ?”

“ไม่สำคัญแล้ว…ผมจะทำอะไรได้ ถึงถ้าผมเกิดสนใจ?” เพื่อนร่วมงานส่ายหน้าและพูดต่อ “ถ้ามีคนอื่นเกี่ยวข้อง ผมคิดว่าเป็นมุกตลกเมษาโกหก แต่นี่คือศาสตราจารย์ลู่!”

พนักงานบริษัทถามพร้อมรอยยิ้ม “คุณรู้ได้อย่างไรว่าศาสตราจารย์ลู่ไม่ได้ล้อเล่น?”

เพื่อนร่วมงานที่นั่งตรงข้ามถามเชิงโวหาร “คุณเคยเห็นเขาล้อเล่นมาก่อนไหมล่ะ?”

“…”

เฟเรนนั่งอยู่ใกล้ๆ ที่อีกโต๊ะหนึ่งและได้ฟังบทสนทนานี้ เขารู้สึกอึ้งสนิท เมื่อพนักงานสองคนนี้เดินออกไป เขาถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้แตะแซนด์วิชสักนิดเลย

เขาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มาสิบปีแล้ว

ถึงเขาไม่ใช่ผู้เล่นรายใหญ่เท่าไหร่ เฟเรนได้เรียนรู้และเห็นมามาก

แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินว่ามีกองทุนซึ่งธุรกิจหลักคือการ ‘สำรวจดวงดาวใหม่และขายสิทธิ์ตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อย’ ซึ่งรวมถึงการโฟกัส ‘การตั้งรกรากที่ดาวห่างไกลและสิทธิ์ในการพัฒนา’ ด้วยมีเงินลงทุนหลายสิบล้าน

ถ้าเกิดศาสตราจารย์ลู่จริงจัง…

ด้วยเหตุบางประการ จู่ๆ เขานึกถึงทฤษฎีไฮเปอร์สเปซที่สร้างปรากฏการณ์ในโลกเมื่อไม่นานมานี้

สื่อนับไม่ถ้วนให้ความเห็นว่ามันเป็นอีกหนึ่งทฤษฎีพลิกโลกหลังจากยุคแห่งสัมพันธภาพ แม้แต่ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์พลังงานสูงซึ่งเคยปรากฏในนิตยสารไทม์ก็ได้บอกว่าทฤษฎีนี้จุดประกายยุคอินเตอร์สเตลล่า สิ่งนี้ทำให้เกิดความเป็นไปได้ของการเดินทางความเร็วปีแสง

ถ้าเกิดศาสตราจารย์ลู่จริงจัง มันน่าจะมาจากที่เขาได้พบสิ่งที่ไม่มีใครมี!

มีความคิดบ้าคลั่งเกิดขึ้นในหัวของเฟเรน

เขากินอาหารบนจานที่เหลือจนหมด เขาวางธนบัตรร้อยดอลลาร์บนโต๊ะก่อนที่จะรีบออกจากร้านไป

เขารับเดินไปแผงขายหนังสือพิมพ์ที่อยู่ใกล้ๆ เขาหาเศษเหรียญในกระเป๋าเงินเจอในที่สุดและโยนมันไว้บนโต๊ะ

“วอลสตรีทเจอร์นัลฉบับล่าสุด!”

“คุณมาได้ถูกเวลาพอดี” ชายชราที่นั่งตรงแผงขายหนังสือพิมพ์ฉีกยิ้มและหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับล่าสุดออกมาจากชั้น เขาพูดว่า “ฉบับนี้ขายดีมาก มันเหลืออยู่เล่มสุดท้ายแล้ว”

“ขอบคุณครับ”

หลังจากหยิบหนังสือพิมพ์ไป เฟเรนรีบกลับไปที่ออฟฟิศของบริษัทและกางหนังสือพิมพ์ที่โต๊ะ

เขาไม่ต้องหาเลย ภาพกาแล็กซี่พร้อมเครื่องหมายคำถามตรงกลางถูกพิมพ์เป็นพาดหัวข่าวบนหน้าแรกของหนังสือพิมพ์

ข้อความที่ติดอยู่กับมันเป็นการอธิบายเนื้อหาอย่างกระชับ

[กองทุนอาณานิคมระบบดาวเทาเซติ กองทุนสำรวจอวกาศแรกของโลกมูลค่าหลายร้อนล้านเกิดขึ้นแล้ว!]

เนื้อหาพูดถึงการลงทะเบียนกองทุนนี้และรายการข้อมูลเกี่ยวกับเทาเซติ เนื้อข่าวยังพูดถึงความเห็นของแวดวงวิชาการเรื่องจำนวนดาวเคราะห์ในระบบเทาเซติและความเป็นไปได้ที่จะมีดาวเคราะห์พื้นดินในกลุ่มดาวพวกนั้น

ถ้าลู่โจวเลือกดาวดวงนี้ นั่นหมายความว่าจะต้องมีดาวเคราะห์ที่มีค่าตรงนั้น!

หลังจากที่อ่านพาดหัวข่าวคร่าวๆ เฟเรนรีบอ่านเนื้อหาหลัก

เขาไม่อาจละสายตาได้

“เวร… ไอเดียยอดเยี่ยมมาก”

เขาเห็นโอกาสทางธุรกิจซึ่งต่างจากพนักงานบริษัทสองคนที่นั่งพูดคุยกันริมหน้าต่าง

โอกาสทางธุรกิจที่อาจทำให้เขาร่ำรวย!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข่าวนี้ซึ่งปรากฏขึ้นที่หน้าหนึ่งของวอลสตรีทเจอร์นัลจะสร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่รอบโลก เมื่อดูจากความกระตือรือร้นของคนต่อการบินและอวกาศ เงินทุนจำนวนมากจะถูกเทไหลไปที่อุตสาหกรรมอวกาศ

ลมหายใจของเฟเรนค่อยๆ เร็วยิ่งขึ้นในขณะที่ตาของเขาเป็นประกาย

ถ้าเขาคิดถึงเรื่องนี้ได้ คุณอื่นก็จะคิดเรื่องนี้ได้เช่นกัน!

จะเสียเวลาไม่ได้แล้ว!

เขารีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ โทรหาหัวหน้าแผนก และขอลางานสองวัน

หลังจากนั้นเขาวางสายและรีบเก็บของบนโต๊ะ

มีเพียงสิ่งเดียวที่เขาหวัง

นั่นคือการกระทำของเขาเร็วพอ

หวังว่าจะไม่มีใครมีไอเดียเหมือนกับเขา…