ตอนที่ 2503 รับกรรมที่ก่อ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“อ่า? เช่นนั้นหรือ?”

แม้ได้ยินคำขู่ของหลินเฉาเถียนนั้นเย่หยวนกลับไม่คิดสนใจและยังเดินเข้าไปใกล้

หลินเฉาเถียนนั้นแสดงสีหน้าหวาดกลัวออกมาก่อนจะค่อยๆ ก้าวถอยไป “เจ้า… เจ้าอย่าได้เข้ามา! เดินไปให้ไกลไม่เช่นนั้นบรรพกาลผู้นี้จะทำลายมันลงกับมือเสีย!”

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจและยังคงก้าวเดินเข้าไปเรื่อยๆ

“หลินเฉาเถียน เจ้านั้นก็ยืมเขาน้อยแห่งถงเทียนไปนานแล้ว มันถึงเวลาคืนให้เจ้าของเดิมได้แล้ว! แล้วก็หยาดชีวานี้เย่ผู้นี้จะรับมันไว้เอง!” เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาราวกับไม่เกรงกลัวว่าหยาดชีวานั้นจะถูกบดขยี้ลงใดๆ

หลินเฉาเถียนนั้นยังคงก้าวถอยไปเรื่อยๆ ด้วยความกลัวเย่หยวน

เย่หยวนนั้นมันมีวิชาประหลาดจนทำให้เขาไม่อาจจะหลบหนีไปที่ใดได้ทั้งสิ้น

แต่ว่าหลินเฉาเถียนเองก็มิใช่คนขี้ลังเลใดๆ

เมื่อถูกเย่หยวนกดดันหนักเช่นนี้หลินเฉาเถียนก็หัวเราะขึ้นมาลั่น “เช่นนั้นหรือ? เช่นนั้นหากเจ้ามีปัญญาก็ลองมาเอาหยาดชีวาไปจากมือบรรพกาลผู้นี้เถอะ!”

พูดจบหยิบเฉาเถียนก็กัดฟันปล่อยคลื่นพลังปราณเทวะออกมาคิดทำลายหยาดชีวาลง

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่เย่หยวนก็ได้กล่าวคำพูดหนึ่งขึ้น

“หยุด!”

หลินเฉาเถียนนั้นหยุดร่างลงทันที

เขานั้นพยายามใช้ทุกสิ่งอย่างที่มีรวมไปถึงพลังของกฎทั้งสอง

แต่มันราวกับว่าเวลาได้หยุดลงไปจริงๆ!

พลังแห่งกฎของเขานั้นมันไม่อาจจะส่งไปถือมือได้แม้แต่น้อย

มันเหมือนกับว่าเขานั้นถูกหยุดไว้ด้วยโซ่เพชร

“คำบัญชาเต๋าสวรรค์! เขา… เขากลับบ่มเพาะแนวคิดแห่งกาลเวลาขึ้นถึงระดับกฎแล้วด้วย?” เทียนชิงนั้นร้องขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเข้าใจภาพตรงหน้า

เวลาเดือนเดียวนี้เย่หยวนได้บรรลุสองยอดแนวคิดขึ้นมาถึงระดับกฎพร้อมๆ กัน?

เขานั้นแทบลืมจะหายใจ!

ในสายตาของเขานั้นเยวี่ยเมิ่งลี่ย่อมจะเป็นยอดคนมากพรสวรรค์ที่สุดนับแต่บรรพกาลมา

แต่เยวี่ยเมิ่งลี่เองก็ยังไม่อาจจะไปเทียบเคียงใดๆ เย่หยวนได้!

เวลาชะงักวิชานี้เย่หยวนไม่ได้ใช้มันออกมาแสนนานแล้ว

มันมิใช่ว่าเขาลืมที่จะใช้แต่เป็นเพราะว่าศัตรูของเขาแต่ละคนนั้นต่างแข็งแกร่งกว่าตัวเขาไปมากมายสิ้น วิชานี้มันจึงไม่มีประโยชน์ใดๆ

เพราะแม้ว่ามันจะเป็นทักษะเทวะภายในที่เหนือล้ำปานใดสุดท้ายความรุนแรงวรยุทธนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับระดับของผู้ใช้

ด้วยกำลังก่อนๆ ของเย่หยวนนั้นการจะไปหยุดตัวเต๋าบรรพกาลลงมันคงมิใช่เรื่องที่ฉลาดนัก

ด้วยพลังแห่งกฎนั้น นอกจากว่าเขาจะไม่อาจหยุดอีกฝ่ายลงได้แล้วมันจะกลายเป็นเขาที่ถูกหยุดเอง

แต่เวลานี้มันไม่ใช่!

เพราะแนวคิดแห่งมิติเวลาของเขามันขึ้นไปจนถึงระดับของกฎได้สิ้น

ร่างกายของเขาเองก็ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของระดับเก้า!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้มันคงมีแต่เต๋าสวรรค์ที่เขาไม่อาจหยุดลงได้

ไม่เช่นนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นใครมันก็คงไม่อาจจะหลุดพ้นจากคำบัญชาเต๋าสวรรค์นี้ได้!

หรืออย่างน้อยๆ หลินเฉาเถียนก็ทำไม่ได้!

ฟุบ!

ดาบแสงพุ่งผ่านมือของหลินเฉาเถียนไปจนเหลือแค่ข้อ

เย่หยวนนั้นยื่นมือออกมารับหยาดชีวาไว้อย่างนุ่มนวล

ได้หยาดชีวามานี้เย่หยวนก็ยิ้มกว้างขึ้น “ข้าลองดู… และเหมือนมันจะสำเร็จจริง!”

หลินเฉาเถียนนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตกตะลึงและหวาดกลัว

แนวคิดแห่งมิติเวลา!

มิติ เวลา ดาบทั้งสามแนวคิดนั้นมันกลับก้าวขึ้นถึงระดับของกฎได้สิ้น!

ในที่สุดเขานั้นก็ได้เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนจึงได้มีท่าทีเมินเฉยต่อเขา

เพราะเขาเวลานี้เย่หยวนนั้นได้ก้าวผ่านตัวมหาบรรพกาลมิติเวลาซ่างเหิงในอดีตไปแล้วเสียด้วยซ้ำ!

เขานั้นคือนักบุญฟ้าคราม!

เขานั้นคือยอดคนอันดับหนึ่งของทุกยุคสมัย!

เขานั้นคือผู้ปกครองของเผ่ามนุษย์อย่างแท้จริง!

ผู้ปกครองนั้นไม่ต้องอวดอ้างตนว่าเป็น แต่ใช้พลังฝีมือแสดงถึงตำแหน่งของตนอย่างชัดเจน!

เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายนั้นต่างต้องอ้าปากค้าง

กำลังของเย่หยวนนั้นมันสั่นสะท้านทั้งสามยุคสมัย!

ในจุดเริ่มต้นของยุคนี้เขาได้ส่งเต๋าบรรพกาลผู้เก่งกาจให้ไร้ค่ากลายเป็นแค่เศษฝุ่นดิน!

“ข้าไม่นึกเลยว่าการกำเนิดแห่งเต๋าบรรพกาลในครั้งนี้มันกลับจะยังมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นได้!”

“ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นเป็นยอดคนอันดับหนึ่งอย่างเป็นนิรันดร์โดยแท้!”

“คิดมาถึงตรงนี้หลินเฉาเถียนที่วางท่าอวดดีก่อนหน้ามันก็ดูราวกับเป็นแค่ตัวตลกโดยแท้!”

คนทั้งหลายต่างต้องส่ายหัวออกมาตามๆ กันเพราะกำลังของหลินเฉาเถียนนั้นมันทำให้พวกเขาหวาดกลัวกันอย่างมาก

ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ตัวเขายังวางท่าเหนือล้ำฟ้าดินไม่สนใจชีวิตใด

เขานั้นคิดว่าเย่หยวนไร้ค่าใดที่จะมาต่อต้านเขาได้

นักบุญฟ้าครามนั้นมันเป็นได้แค่ตำนาน

แต่เวลานี้ความเป็นจริงกลับได้ตามมาชำระแค้นกับเขา

เขานั้นไร้ค่าใดๆ ต่อหน้าเย่หยวน!

เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายได้เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนจึงไม่ได้คิดสนใจจะหลอมเอาพลังของผลึกแห่งกฎมา

เพราะเขานั้นไม่ต้องใช้มันเลย!

ผสานสามยอดแนวคิดนั้นมันย่อมจะสุดแสนรุนแรง

แต่เทียบกับเต๋าบรรพกาลแล้วเรื่องนั้นมันย่อมไร้ค่าใด

เพราะว่าการผสานสามแนวคิดขึ้นไปถึงระดับกฎนั้นมันคือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

แต่เย่หยวนกลับทำเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ขึ้นมา!

เวลานี้เขามีมิติ เวลาและดาบสามยอดเต๋าพัฒนามันขึ้นสู่ระดับกฎพร้อมๆ กัน!

เต๋าบรรพกาลใดๆ จะยังมีค่าอีกหรือ?

หลินเฉาเถียนนั้นสลัดหลุดจากคำบัญชาเต๋าสวรรค์ออกมาได้ในที่สุดแต่เวลานี้ร่างกายของเขามันอาบไปด้วยเหงื่อเย็นเยือก

พลังแห่งกฎทั้งสามนั้นมันยังคงพุ่งพล่านทำร้ายในร่างของเขา

มือที่ขาดของเขานั้นก็ยังคงมีเลือดไหลไม่อาจจะหยุดลงได้

เขานั้นหันไปมองดูเย่หยวนด้วยใบหน้าซีดขาวอย่างหวาดกลัว “เจ้า… เจ้ามันมิใช่คน! จ-เจ้าทำมันได้อย่างไรกัน?”

เย่หยวนหันไปมองหลินเฉาเถียนก่อนจะกล่าวขึ้นมา “หลินเฉาเถียน ข้าจะไม่สังหารเจ้าหรอก!”

ได้ยินเช่นนั้นหลินเฉาเถียนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที

เขานั้นไม่นึกฝันว่าเย่หยวนจะกลับยังปล่อยเขาไว้!

แต่ว่าคำพูดหลังจากนั้นของเย่หยวนมันได้ทำให้เขาแทบสิ้นสติลง

“วันนี้ข้าจะทำลายการบ่มเพาะของเจ้าลง! ผนึกเจ้าไว้ระหว่างเส้นแบ่งดินแดนของสองเผ่าพันธุ์ให้เจ้าได้ถูกตราหน้าเหยียดหยามตราบนานเท่านาน! ความอับอายนี้เจ้าเป็นคนก่อขึ้นมาเอง เพราะฉะนั้นก็เตรียมตัวรับกรรมที่ก่อเถอะ!”

พูดจบเขาก็ไม่คิดรอช้า เย่หยวนใช้คำบัญชาเต๋าสวรรค์ออกมาอีกครั้งทันทีอย่างไม่รอหลินเฉาเถียนตอบกลับใดๆ

หลินเฉาเถียนนั้นหยุดลงอีกครั้งหนึ่ง

จากนั้นฝ่ามือของเย่หยวนก็กระแทกซัดเข้ากลางอกของเขา

คลื่นพลังแนวคิดรุนแรงนั้นมันทะลวงผ่านทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์เข้าไปถึงโลกใบน้อยของเขาจนแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ

เย่หยวนนั้นโจมตีอย่างหนักหน่วงทำให้โลกใบน้อยของหลินเฉาเถียนนั้นแตกสลายลงอย่างหมดจนไม่มีทางใดที่จะฟื้นคืนกลับมาได้อีก

หลินเฉาเถียนนั้นมีใบหน้าสิ้นหวังก่อนดูเย่หยวนพร้อมกัดฟัน “เจ้า… เจ้ามารร้าย! เย่หยวน ต่อให้ข้าจะตายกลายเป็นผีข้าก็จะตามหลอกหลอนเจ้า!”

เย่หยวนจึงยิ้มขึ้นมาเมื่อได้ยิน “เช่นนั้นเจ้าต้องตายกลายเป็นผีให้ได้เสียก่อน! จงมา!”

เย่หยวนยกมือขึ้นเรียกก่อนที่เขาน้อยแห่งถงเทียนจะรีบพุ่งออกมาจากแหวนของหลินเฉาเถียนเข้ามือเย่หยวน

หลายปีมานี้แม้ว่าหลินเฉาเถียนจะได้ครองเขาน้อยแห่งถงเทียนไปแต่เขากลับไม่อาจจะหลอมมันได้เลยแม้แต่น้อย

สมบัติล้ำค่าอย่างเขาน้อยแห่งถงเทียนนั้นมันมิใช่สิ่งที่ใครๆ ก็จะสามารถควบคุมได้

จุดจบของหลินเฉาเถียนนั้นเย่หยวนได้วางแผนไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว

บาปของเขานั้นมันใหญ่เกินกว่าจะชดใช้ด้วยแค่ความตาย

แม้จะถูกเผ่าเทวารุกรานแต่หลินเฉาเถียนนั้นกลับคิดถึงแต่ตนเองและเกือบทำให้หายนะตกสู่ชีวิตน้อยๆ ทั้งหลาย

ความผิดบาปของเขานี้มันต้องได้รับการชดใช้ก่อนจะตายลงได้!

เวลานี้หลินเฉาเถียนนั้นยังคงเป็นเต๋าบรรพกาล เพียงแค่ว่าเขานั้นเป็นเต๋าบรรพกาลที่ไม่มีปราณเทวะจะใช้พลังแห่งกฎใดๆ

ตัวหลินเฉาเถียนในเวลานี้มันก็คงไม่ได้ต่างจากทารกที่ถือทองคำไว้ในมือ

ในหมู่คนทั้งหลายนั้นมันมีคนมากมายที่หันมาหมายตา

เต๋าบรรพกาล!

จะมีใครไม่อยากได้ตำแหน่งนั้นไป?

แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนได้กล่าวขึ้นมา “พวกเจ้าจะทุบตีด่าว่ามันอย่างไรก็ได้ แต่ห้ามสังหารมัน! ข้านั้นยังต้องการใช้งานผลึกแห่งกฎธาตุไฟอยู่!”

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายทิ้งความหวังลงทันที

ใครเล่าจะกล้าขัดคำของเย่หยวน?

สังหารหลินเฉาเถียนและก้าวขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลไฟนั้นมันง่ายแต่ แต่แล้วอย่างไรต่อเล่า?

เย่หยวนนั้นยังสังหารพวกเขาลงได้ด้วยมือข้างเดียว!

ผลึกแห่งกฎธาตุไฟนี้เย่หยวนย่อมคิดเก็บไว้ให้ภูตเพลิง

เพราะตั้งแต่ที่ภูตเพลิงออกจากเมืองอินทรีสวรรค์ไปนั้นเขาก็เก็บตัวในสถานที่ลึกลับตลอดมาและยังไม่ออกมาจนถึงทุกวันนี้

แต่ผลึกแห่งกฎธาตุไฟนี้มันย่อมจะไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่าภูตเพลิง