ตอนที่ 2502 เจ้าดูกลัวๆ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ภายใต้สายตาของผู้คนนั้นเพลิงสวรรค์ทิ้งเถ้าที่ลุกไหม้บนร่างของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ มอดดับลง

ส่วนเจ้าเพลิงอเวจีโมฆะอันแสนน่าหวาดหวั่นนั้นตั้งแต่มันมุดลงร่างเย่หยวนไปมันก็ไม่ปรากฏใดๆ ขึ้นมาอีกเลย

นึกย้อนกลับไปนั้นแม้แต่แปดยอดไฟสวรรค์นั้นเองมันก็ยังไม่อาจจะหลอมไหม้เย่หยวนลงได้และทำให้เย่หยวนบรรลุได้รับวิญญาณโกลาหลดั่งเดิมมาแทน

แม้ว่าเพลิงอเวจีโมฆะมันจะดูน่ากลัวแต่เทียบกันกับแปดยอดไฟสวรรค์นั้นแล้วมันย่อมห่างกกันคนละโลก มีหรือที่เย่หยวนในเวลานี้จะยังหวั่นกลัวใด?

แปดยอดไฟสวรรค์นั้นมันเป็นได้แค่เรื่องตลกสำหรับเขา!

และเย่หยวนนั้นยังมีร่างกายที่สุดแสนจะแข็งแกร่งที่สุดเท่าที่มหาพิภพถงเทียนจะมีได้

วรยุทธการบ่มเพาะของเผ่ามังกรและกายทองคำเก้าอหัตถ์สัมบูรณ์ บนโลกนี้มันจะยังมีไฟใดที่เผาไหม้ร่างกายนี้ลงได้?

ที่สำคัญไปกว่านั้นหากให้พูดถึงเรื่องไฟแล้วเย่หยวนนั้นคงเรียกได้ว่าเป็นมหาบรรพกาลแห่งการเล่นกับไฟ!

แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้คิดบ่มเพาะแนวคิดแห่งไฟ ไม่อาจจะใช้ไฟรุนแรงใดๆ ออกมาโจมตีผู้คนได้

แต่ว่าวิชาการควบคุมไฟของเขานั้นมันพัฒนาจนถึงระดับสมบูรณ์แบบไปแล้ว

หากคิดอยากเผาเขาลงนั้นมันคงยากเกินมือหลินเฉาเถียน!

เดิมทีนั้นคนทั้งหลายต่างคิดอยากเห็นว่าเย่หยวนนั้นจะใช้สุดยอดวิชาใดออกมารับการโจมตีของไฟในตำนานทั้งสองนี้

แต่ไม่มีใครคิดฝันว่าเย่หยวนกลับไม่คิดปัดป้องใดๆ!

เขานั้นไม่สนใจมันแม้แต่น้อย!

เทียนชิงนั้นได้แต่ต้องเบิกตาโพลงขึ้นมา พยายามมองดูให้แน่ชัดแก่ตา

“เขา… เขากลับไม่บาดเจ็บใดๆ เลย! ไม่เป็นอะไรเลย! นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไรกัน? นั่นมันคือเพลิงสวรรค์ทิ้งเถ้าและเพลิงอเวจีโมฆะ! เขานั้นกลับไม่แม้แต่จะปล่อยปราณเทวะออกมารับ? ข้าไม่ได้ฝันอยู่ใช่หรือไม่?”

เขานั้นรู้สึกว่าจิตสำนึกของตนมันกำลังจะพังทลายลงไป

ไฟทั้งสองนี้มันคือตำนานที่ไม่อาจจะเห็นกันได้ง่ายๆ

แต่ผลลัพธ์ที่ออกมามันกลับเหนือล้ำยิ่งกว่าตำนาน

“บ-บ้าน่า? ข้าที่อยู่ตั้งไกลยังรู้สึกแทบจะละลายลงไปแต่ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นกลับไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อยหรือ?”

“สองไฟในตำนานนั้นกลับไม่อาจทำอันตรายใดๆ ท่านนักบุญฟ้าครามได้เลยหรือ?”

“จะบ้าเกินไปแล้ว! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านนักบุญฟ้าครามถึงได้เมินหลินเฉาเถียนมันมาตลอด ที่แท้แล้วท่านไม่ต้องสนใจมันจริงๆ!”

ยอดฝีมือทั้งหลายนั้นต่างได้แต่กล่าวชมไม่ขาดปาก

เพราะต่อให้พวกเขาจะไม่เข้าใจถึงต้นกำเนิดหรือหลักการของไฟทั้งสองอย่างนั้นแต่พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวจากลูกไฟทั้งสองนั้นอย่างชัดเจน

แต่เย่หยวนนั้นกลับย่างทำให้คนทั้งหลายตกตะลึงสุดใจ

แน่นอนว่าคนที่ตกตะลึงมากที่สุดนั้นมันคงมิใช่ใครนอกจากหลินเฉาเถียนเอง

เพราะเขานั้นใช้ไม้ตายที่รุนแรงที่สุดออกมาด้วยความโกรธ

แต่สุดท้ายเย่หยวนกลับไม่ต้องยกมือขึ้นมาปัดป้องเสียด้วยซ้ำไป!

เช่นนี้แล้วจะยังไม่กลัวได้อย่างไร?

เขานั้นกลัวจนแทบขาดใจ!

“จ-เจ้าเป็นมารปีศาจหรือ? นี่มัน… ทำไมเจ้ายังอยู่ดีได้กัน? บ้าน่า! เจ้า… เจ้าต้องฝืนทนมันไว้แน่!” หลินเฉาเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เวลานี้เย่หยวนจึงได้จ้องมองกลับมาหาหลินเฉาเถียนเป็นครั้งแรกก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้า… ดูจะกลัวๆ นะ!”

หลินเฉาเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมาด้วยท่าทางโมโห “กลัว? บรรพกาลผู้นี้คือยอดคนอันดับหนึ่งของเผ่าพันธุ์ เป็นผู้ปกครองมนุษย์ทั้งหลาย! ข้าจะยังต้องมากลัวใดๆ เจ้าที่ไม่เป็นแม้แต่เต๋าบรรพกาลอีก? เย่หยวน หากเจ้ามีปัญญาจริงก็มาต่อสู้กันตรงๆ ดูสักตั้งสิ!”

เขานั้นกลัวจริง!

แค่ได้ยินน้ำเสียงสั่นๆ ของเขานั้นมันก็ชัดเจนแล้วว่าภายในจิตใจของเขามันเป็นอย่างไร

ความรู้สึกที่เขาได้รับจากเย่หยวนนั้นมันประหลาดจนเกินไป!

เขานั้นอวดอ้างตนว่ารู้จักเย่หยวนอย่างดี

แต่เรื่องราวตรงหน้านี้มันได้ทำให้เขารู้สึกตัวขึ้นมาว่าเขานั้นแทบไม่ได้รู้จักอะไรเย่หยวนเลย

คนผู้นี้มันอยู่เหนือความเข้าใจ!

ทุกๆ ครั้งเขามักจะมีอะไรที่เหนือคาดมาเสมอ

ไม่ว่าจะวางแผนอย่างไรเรื่องราวมันก็จะไม่เป็นไปดั่งที่เขาต้องการ

เย่หยวนนั้นมองดูหลินเฉาเถียนด้วยรอยยิ้มจางๆ “ได้!”

รอยยิ้มนั้นมันแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน

หลินเฉาเถียนนั้นคลั่งขึ้นมาพร้อมใช้พลังของสองกฎจากมือทั้งสองข้าง

“กาทองควงสวรรค์! ถวายเพลิงอนันต์!”

หลินเฉาเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมาก่อนจะปล่อยนกสีทองพุ่งเข้าใส่กายเย่หยวน

แต่เย่หยวนนั้นกลับยังคงมุ่งหน้าเข้ามาอย่างใจเย็น

เขานั้นค่อยๆ ยกมือขึ้นมาจับคว้าความว่างเปล่าก่อนจะปรากฏเหมือนดาบล่องหนขึ้นในมือของเขานั้น

ได้เห็นเช่นนี้คนทั้งหลายต่างก็ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก

“นั่นมันคือดาบแห่งห้วงมิติหรือ?”

“บ้า! บ้าไปแล้วจริงๆ! ท่าน… ท่านกลับใช้ห้วงมิติมาเป็นดาบ!”

“นี่… เรื่องเช่นนี้มันก็ทำได้ด้วยหรือ?”

เวลานี้มันมีเสียงร้องอย่างตื่นเต้นขึ้นมาจากรอบด้าน

เทียนชิงนั้นหรี่ตาลงกล่าว “ห้วงมิติเป็นดาบ ห้วงมิติของเจ้าเด็กคนนี้มันคงถึงระดับกฎแล้วจริงๆ! แต่หากมันยังแค่กฎแห่งห้วงมิตินี้มันก็ยังไม่มากพอจะเป็นภัยต่อบรรพบุรุษผู้นี้หรอก!”

เขานั้นชั่งใจแล้วว่ายังไม่ควรจะเกรงกลัวเย่หยวน

เพราะจะอย่างไรเสียก่อนนั้นซ่างเหิงที่ผสานมิติเวลาเข้าด้วยกันก็ยังไม่อาจจะทำอันตรายใดๆ แก่ชีวิตกับเขาได้

เวลานี้เขาได้บรรลุเต๋าขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลอีกครั้ง พลังของเขามันย่อมจะเหนือกว่าตอนนั้นไปมาก

กฎแห่งเต๋าดาบ กฎแห่งห้วงมิติมันยังไม่มากพอจะเป็นภัยแก่เขาได้

ฟุบ!

ในเวลานี้เย่หยวนได้พุ่งร่างออกไปในที่สุด!

วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็มาถึงหน้าเจ้านกสีทองที่หลินเฉาเถียนปล่อยออกมา

เมื่อได้เห็นยอดฝีมือเข้ามาใกล้เจ้านกนั้นมันก็ร้องลั่นขึ้นมาพร้อมทำท่าราวกับจะกลืนเย่หยวนลงไป

ปีกทั้งสองของเจ้ากาทองนั้นมันกางออกใหญ่หุ้มร่างของเย่หยวนทันที

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มขึ้นมาที่มุมปากไม่ต้องปล่อยวิชาใดๆ ออกมาแค่พุ่งตัววิ่งผ่านเจ้านกทองนี้ไป

“จิ! จิ! จิ!”

เวลานั้นเองที่มันได้เกิดประกายพุ่งพล่านไปทั่วทิศ

เจ้านกทองนั้นมันถูกทุบแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไม่เหลือชิ้นดี

“นี่มัน… นี่มัน…”

หลินเฉาเถียนนั้นได้แต่ต้องอ้าปากค้างมองดูภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

เขานั้นใช้วิชานี้เทียบเคียงกับเทียนชิงมาได้!

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเย่หยวนนั้นมันกลับไม่มีค่าใดๆ ให้แม้แต่ต้องขัดขืน?

เย่หยวนนั้นมองดูหลินเฉาเถียนด้วยรอยยิ้มที่เย็นเยือก “นี่หรือคือพลังฝีมือของคนที่เรียกคนเองว่าเป็นผู้ปกครองเผ่าพันธุ์? เจ้าไม่กลัวว่าคนที่เขาได้ยินเขาจะหัวเราะกันจนฟันร่วงหมดปากหรือ?”

หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงด้วยสีหน้าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด

เขานั้นมิใช่คนโง่นัก เขาย่อมรู้ว่าท่าทางของเย่หยวนเวลานี้มันไม่ใช่การเสแสร้งใด!

เจ้าหมอนี่มันเก่งกาจอย่างแท้จริง!

แน่นอนว่าก่อนหน้านี้แนวคิดแห่งห้วงมิติของเขาย่อมจะยังไม่ก้าวถึงระดับสุดด้วยซ้ำ

แต่ในเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้แนวคิดแห่งห้วงมิตินั้นมันกลับพัฒนาขึ้นมาถึงระดับกฎ!

กฎเต๋าดาบและกฎแห่งห้วงมิติผสานเข้าด้วยกันนั้นมันย่อมทำให้เย่หยวนแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้!

กำลังของเย่หยวนในเวลานี้มันเรียกได้ว่าเก่งกาจอย่างไร้เหตุผล!

ในเวลานี้หลินเฉาเถียนคิดจะหนีไปให้ไกลแล้วจริงๆ

ฟุบ!

หลินเฉาเถียนปล่อยปราณเทวะที่มีออกมาจนถึงขีดสุดคิดพุ่งตัวหนีหายไป

แต่เย่หยวนนั้นเตรียมการรับมือเรื่องเช่นนี้มาก่อนแล้วจึงได้พุ่งไปหยุดดักหน้าหลินเฉาเถียนไว้ทันที

เขานั้นมุดมิติได้รวดเร็วกว่าวรยุทธการเคลื่อนที่ของหลินเฉาเถียนมากมายนัก

“ทำไมเล่า? ก่อนหน้าเจ้ายังดูโอหังพองลมอยู่เลยนี่? เจ้าบอกว่าจะปกครองเผ่าพันธุ์มิใช่หรือ? แล้วนี่ผู้นำเผ่าพันธุ์เราจะมาหนีข้าหางจุกตูดเช่นนี้?” เย่หยวนถามขึ้นด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน

หลินเฉาเถียนนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก

เขานั้นคิดว่าเมื่อขึ้นมาเป็นเต๋าบรรพกาลได้แล้วเขาก็ย่อมจะเหนือล้ำกว่าทุกผู้คนในเผ่าพันธุ์มนุษย์

ใครจะไปคิดฝันว่าเวลาแค่หนึ่งเดือนนี้เย่หยวนกลับจะแข็งแกร่งขึ้นได้จนน่ากลัวปานนี้!

แต่วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็รีบยกลูกแก้วน้อยๆ หนึ่งขึ้นมา

หยาดชีวา!

หลินเฉาเถียนกล่าวขึ้น “เย่หยวน หากเจ้ากล้าเข้ามาบรรพกาลผู้นี้จะทำลายหยาดชีวาลงเสีย! หยาดชีวานั้นมันเป็นของระดับกฎ ตราบเท่าที่มันถูกทำลายลงแล้วมันก็จะกลับสู่ฟ้าดินในทันที! หึ บรรพกาลผู้นี้เข้าใจดีว่ามันนั้นสำคัญกับเจ้ามากแค่ไหน เจ้ายังจะกล้าสังหารบรรพกาลผู้นี้หรือไม่!”

นี่มันคือไม้ตายที่แท้จริงของเขา!