ตอนที่ 2508 เก่งกาจจนแทบไม่อาจหายใจ

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เขาศิลานิลนั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของเขาแห่งถงเทียนไม่ไกลและเดิมทีมันเป็นที่พำนักของเต๋าบรรพกาลไฟคนก่อน

เวลานี้เมื่อเต๋าบรรพกาลไฟตายลงไปแล้วที่แห่งนี้มันจึงได้กลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าเทวา

หลังจากสงครามสิ้นโลกจบไปแล้วเย่หยวนก็ได้ยอมรับการย้ายขึ้นมาบนมหาพิภพถงเทียนของเผ่าเทวาจนทำให้เกิดการอพยพครั้งใหญ่

และรูปปั้นทั้งแปดของเผ่าเทวา แปดจอมเทพเองก็ได้ถูกอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่นี่ด้วย

ที่แห่งนี้มันเปี่ยมล้นไปด้วยพลังวิญญาณหนาแน่นทำให้รูปปั้นทั้งแปดนั้นยิ่งดูเหมือนจะมีชีวิตมากกว่าเก่า

และในเวลานี้เย่หยวนก็ได้มาเยือนที่ด้านนอกของเขาศิลานิล

เผ่าเทวาทั้งเผ่านั้นต่างเข้าสู่สภาพพร้อมรบทันทีที่สัมผัสถึงตัวตนของเย่หยวน!

“เย่หยวน เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” เทียนชิงนั้นถามเย่หยวนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“วันนี้ใครกล้าขวางข้า ข้าจะสังหารมันสิ้น หากเทพมาขวางข้าก็จะสังหารเทพ หากพระโพธิสัตว์มาขวางข้าก็จะสังหารพระโพธิสัตว์!” เย่หยวนกล่าวออกมาอย่างไม่แยแส

เทียนชิงนั้นหน้าถอดสีลงทันทีเพราะความกดดันที่สัมผัสได้จากร่างของเย่หยวน

เย่หยวนในวันนี้มีสภาพเย็นเยือกต่างจากปกติไปมาก มันเป็นความเย็นเยือกที่แทงเสียดทะลุกระดูกผู้คน

เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นจึงก้าวขึ้นมาปิดทางเย่หยวนไว้ก่อนจะกล่าวขึ้น “หากข้าขวางทางเจ้า เจ้าจะฆ่าข้าด้วยหรือ?”

เย่หยวนหรี่ตาลงมองด้วยสีหน้าหนักใจ

“ลี่เอ๋อ อย่าได้บังคับข้า!”

เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นตอบกลับมาอย่างไม่คิดยอมถอย “เจ้าจะทำอะไรต่างๆ นาๆ เพื่อช่วยพี่หลินเสวียข้าไม่เคยคิดว่าสักนิด แต่หากเจ้าคิดทำลายแปดจอมเทพลงแล้วข้าคงไม่อาจยอม! แปดจอมเทพนั้นคือผู้ที่ปลุกตัวตนที่แท้จริงของข้าให้ได้ตื่นขึ้นมาเต็มตา!”

เยวี่ยเมิ่งลี่นั้นเข้าใจเย่หยวนดีเพราะฉะนั้นหลังจากเห็นเขาได้หยาดชีวาไปและกลายสภาพเป็นเช่นนี้นางจึงเดาได้ว่าหยาดชีวามันคงไม่อาจช่วยมู่หลินเสวียได้

และการที่เขาเลือกจะมาเยือนเผ่าเทวาในทันทีเช่นนี้มันก็เป็นเพราะว่าเขาคิดว่าแปดจอมเทพนั้นอาจจะเป็นทางรอดใหม่ของมู่หลินเสวีย!

เย่หยวนขมวดคิ้วแน่นถามขึ้น “ไร้สาระ! ใครมันปลุกตัวตนใดของเจ้า? มันมีแต่ต้องทำลายแปดจอมเทพนั้นลงเท่านั้นที่จะช่วยเหลือเจ้าได้! และทำเช่นนั้นมันก็อาจจะมีหวังช่วยหลินเสวียด้วย!”

เยวี่ยเมิ่งลี่ส่ายหัวออกมาอย่างหนักแน่น “หากเจ้าคิดอยากทำลายแปดจอมเทพลงแล้วก็ข้ามศพข้าไปก่อนเถอะ!”

เมื่อเทียนชิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจยาวออกมา

เขานั้นเข้าใจเย่หยวนไม่น้อย รู้ดีว่าหากมีเยวี่ยเมิ่งลี่ขวางอยู่เช่นนี้เย่หยวนเองก็คงไม่กล้าทำอะไรมากมาย

แต่ใครจะไปคิดว่าเย่หยวนนั้นกลับสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะตอบกลับมาด้วยใบหน้าหนักแน่น “เช่นนั้นแล้ว… ค่ายกลดาบเอกภพ จงเปิดออก!”

ครึม!

พริบตาเดียวนั้นมันก็ปรากฏค่ายกลใหญ่ยักษ์กินพื้นที่นับหมื่นๆ กิโลเมตรโดยมีเย่หยวนเป็นศูนย์กลางปกคลุมทุกสิ่งอย่างไปด้วยพลังของปราณดาบ

เวลานี้เหล่ายอดฝีมือชาวเทวานั้นได้แต่ต้องกางพลังออกมาจนถึงที่สุดเพื่อปกป้องร่างกาย

เทียนชิงเองก็หน้าซีดขาวลงด้วยความตื่นตะลึงไม่แพ้คนอื่นๆ

“นี่มัน… นี่มัน… มันคือค่ายกลดาบที่ผสานพลังของสี่กฎ! เต๋าค่ายกลของเจ้า… มันก็พัฒนาไปถึงระดับกฎแล้ว?”

เวลานี้จิตใจของเทียนชิงนั้นมันตกตะลึงจนยากจะหาคำอธิบาย

เพราะเมื่อตกอยู่ในค่ายกลดาบนี้แล้วเทียนชิงไม่กล้าแม้แต่จะขยับปลายนิ้ว!

ความอันตรายของมันนั้นแทบทำให้เขาหายใจไม่ออก!

เป็นเวลานี้เองที่เขาได้เข้าใจว่าเย่หยวนนั้นมีพลังมากพอที่จะสังหารเขาได้ในพริบตาไปแล้ว!

ในศึกหน้าเขาแห่งถงเทียนนั้นเย่หยวนปะทะและกดดันเต๋าบรรพกาลชาวเผ่าเทวาทั้งห้าลงพร้อมกัน

แต่นั่นมันกลับยังมิใช่พลังสุดตัวของเขา!

พวกเขานั้นไม่อาจจะทำให้เย่หยวนเอาจริงได้เสียด้วยซ้ำ!

การเผชิญหน้ากับห้าเต๋าบรรพกาลนั้นแค่ผสานสามแนวคิดมันก็มากพอจะรับมือ

แต่เวลานี้ด้วยความขุ่นเขืองในจิตใจของเย่หยวนเขาจึงได้แสดงไม้ตายออกมาอย่างแท้จริงทำเอาคนทั้งหลายแทบหยุดหายใจลง!

ค่ายกลดาบเอกภพวิชานี้มันเป็นการสร้างค่ายกลขึ้นมาด้วยเอกภพ

มันคือค่ายกลดาบที่ผสานไปด้วยพลังของสี่กฎที่เย่หยวนบรรลุขึ้นมาได้และยังผสานไปด้วยพลังเต๋าสวรรค์จากโลกใบน้อยของเขาเอง!

เรียกว่านี่มันคือสุดยอดวิชาที่จะดึงพลังของกฎออกมาใช้ได้อย่างถึงที่สุดก็ว่าได้

กำลังเช่นนี้มันเหนือล้ำกว่าที่คนทั้งหลายจะเข้าใจสิ้น!

เย่หยวนนั้นไม่คิดลังเลแม้แต่น้อยเปิดใช้งานค่ายกลดาบขึ้นมา!

ดาบแสงมากมายพุ่งผ่านร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่ไปจนพรุ่น

มันทำให้นางสิ้นเรี่ยวแรงลงในทันที

เย่หยวนนั้นพุ่งตัวเข้าไปรับร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่มาไว้ในอ้อมอก

เขานั้นเป็นผู้สำเร็จวิชาโอสถถึงขั้นสุด แน่นอนว่าเขาย่อมรู้ว่าลงมือแค่ไหนถึงจะพอดีไม่หนักเกินไป เวลานี้เขาแค่โจมตีเยวี่ยเมิ่งลี่ให้สลบลงไปและผนึกพลังของนางไว้เท่านั้น ไม่ได้ทำร้ายนางแต่อย่างใด

ด้วยกำลังฝีมือของเย่หยวนในตอนนี้เขาสามารถทำมันได้อย่างง่ายดาย

เมื่อจับตัวเยวี่ยเมิ่งลี่ได้แล้วเย่หยวนก็หันหน้าไปมองหน้าคนทั้งหลาย “เอาล่ะ ตอนนี้ใครยังจะคิดขวางข้าอีกไหม?”

เทียนชิงนั้นพยายามอ้าปากแต่ก็ไม่รู้จะกล่าวอะไรออกมาได้

เพราะเย่หยวนในเวลานี้มันเหนือล้ำกว่าความเข้าใจของเขาไปมากล้นแล้ว

เย่หยวนนั้นมีความเก่งกาจอย่างที่ทำให้เขาแทบไม่อาจหายใจ!

ฟุบ!

เย่หยวนเก็บค่ายกลดาบเอกภพลงก่อนจะอุ้มร่างของเยวี่ยเมิ่งลี่เดินลึกเข้าไปในเขาโดยไม่มีเผ่าเทวาคนใดกล้ามาขวางทาง

เขานั้นไม่ต้องให้ใครมานำทางเพราะตัวเขาสามารถสัมผัสได้ชัดเจนว่าแปดจอมเทพนั้นมันตั้งอยู่ที่ใด

เหล่ายอดฝีมือเผ่าเทวาทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ทำหน้าเหยเก

“ท-ท่านเทียนชิง มัน… มันแข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไรกัน?”

“ใช่แล้ว พลังของมันนั้นเรียกได้ว่าเกินคำว่าสัตว์ประหลาดไปแล้วด้วยซ้ำ! ข้านั้นรู้สึกราวกับว่ามันนั้นเป็นเทพจากสวรรค์! ความรู้สึกเช่นเดียวกับที่ข้ารู้สึกเมื่อได้เห็นแปดจอมเทพ!”

“เย่หยวนผู้นี้มันน่ากลัวเกินไปแล้ว! ด้วยความประหลาดของมันนี้แปดจอมเทพนั้น… คงไม่เกิดอะไรขึ้นจริงๆ ใช่ไหม?”

เสียงของเขานั้นยังไม่ทันจางหายเทียนชิงก็กล่าวขึ้นมาขัด “ไม่มีทาง! แปดจอมเทพนั้นคือของขวัญจากสวรรค์ต่อเผ่าเทวาเรา พวกท่านนั้นมีกำลังดั่งสวรรค์! ไม่ว่าเย่หยวนมันจะเก่งกาจสักเท่าใดมีหรือที่จะเหนือล้ำกว่าสวรรค์ไปได้?”

คนทั้งหลายหยุดคิดไปพักหนึ่งและก็เริ่มรู้สึกเห็นด้วยขึ้นมา

ในความคิดของเผ่าเทวานั้นแปดจอมเทพมันคือตัวตนระดับเดียวกับเต๋าสวรรค์!

การจะแตะต้องแปดจอมเทพนั้นมันก็เท่ากับแตะต้องเต๋าสวรรค์ มีหรือที่เต๋าสวรรค์จะยอมรับได้?

เทียนชิงนั้นหรี่ตาลงก่อนจะค่อยๆ เดินตามหลังเย่หยวนออกไป

ด้านหน้านั้นมันมีพลังปิดกั้นรุนแรงส่งพลังที่แม้แต่เจ้าฟ้าดินยังต้องขยาด

ฟุบ!

เย่หยวนชักดาบมิติออกมาฟันออกไปทำลายพลังปิดกั้นนั้นลงสิ้นด้วยดาบเดียว

ไม่อาจจะรับแม้แต่กระบวนท่า!

เมื่อเทียนชิงได้เห็นเช่นนั้นมุมปากของเขาก็ต้องกระตุกขึ้นมาทันที

ครืน…

พลังรุนแรงอีกสายหนึ่งมันค่อยๆ ไหลออกมาจากห้วงมิติ

เวลานี้รูปปั้นจอมเทพทั้งแปดนั้นมันได้ปรากฏขึ้นมาสู่สายตาคนทั้งสอง

และราวกับว่าพวกมันนั้นรับรู้ได้ถึงจิตร้ายของเย่หยวนพวกมันจึงได้จ้องมองมาด้วยดวงตาดุร้าย

ท่าทางของพวกมันนั้นดูเหมือนจะอยากฉีกร่างของเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ

“เด็กน้อย เจ้ามาอีกแล้ว! กล้ามาท้าทายสวรรค์อีกครั้งเช่นนี้เจ้าจะได้ตายแน่!” ภายในทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นมันได้มีเสียงหนึ่งส่งเข้ามา

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดจะมาเจรจาต่อรองยืดยาวจึงตอบกลับไปสั้นๆ “ข้าจะถามและเจ้าจงตอบ! แน่นอนว่าเจ้าจะเงียบปากไม่ตอบก็ได้แต่รูปปั้นทั้งแปดนี้ข้าจะทำลายมันลงสิ้นเสียวันนี้!”

เสียงนั้นจึงตอบกลับมาด้วยความเย้ยหยัน “หึ! แค่คนอย่างเจ้านั้นก็คิดจะทำลายแปดจอมเทพหรือ? หากมีปัญญานักก็เข้ามาลองดูเถอะ!”

แน่นอนว่าเขาต้องมั่นใจ

แต่ในเวลานั้นเองที่เทียนชิงได้เดินตามหลังมาจนถึงตัวเย่หยวนและกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “เย่หยวน แปดจอมเทพนั้นคือวัตถุศักดิ์สิทธิ์จากสวรรค์! แม้จะเป็นเจ้าแต่หากท้าทายอำนาจสวรรค์เจ้าก็จะได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝังเช่นกัน!”

เย่หยวนนั้นไม่คิดสนใจเทียนชิงใดๆ และยกมือขึ้นกำดาบทันที!

ฟุบ!

ดาบแสงนั้นพุ่งผ่านไปเล็งที่รูปปั้นตรงกลางทันที

แต่ในเวลานั้นเองที่เจ้ารูปปั้นนั้นมันกลับขยับสามง่ามในมือแทงสวนกลับมาด้วยพลังรุนแรงจนน่ากลัว

ตูม!

เย่หยวนนั้นรู้สึกจุกหน้าอกขึ้นมาก่อนจะต้องกระอักเลือดคำโต

เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง “ฮ่าๆๆ… เห็นหรือไม่? นี่แหละคือผลลัพธ์ของคนที่ต่อต้านสวรรค์! แค่มดปลวกอย่างเจ้านั้นก็กล้าจะมาต่อต้านอำนาจสวรรค์หรือ เปล่าประโยชน์ ตายให้พ้นๆ ไปเสียเถอะ!”

ด้านหลังนั้นตัวเทียนชิงก็หัวเราะขึ้นมาตาม “เย่หยวน ข้าก็บอกเจ้าไปแล้วว่าอำนาจสวรรค์นั้นมันไม่อาจท้าทาย! เวลานี้เจ้าได้ลิ้มรสของมันหรือยังเล่า? ถอยไปเสีย! ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ตายลงอย่างไร้ที่กลบฝัง!”

……………….