บทที่ 1459 ชีวิตประจำวันของแม่ลูกอ่อน

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1459 ชีวิตประจำวันของแม่ลูกอ่อน

เส้นหมี่แสร้งทำเป็นไม่รู้ จึงกล่าวต่อว่า : “ดิฉันเป็นแม่ของรินจังค่ะ คือแบบนี้นะคะ ดิฉันได้ยินมาว่าลูกสาวของคุณก็อยากจะไปเรียนที่โรงเรียนเชื้อพระวงศ์ที่เมืองYใช่ไหมคะ?” “หา? ไม่…..ไม่มีเรื่องแบบนี้นะคะ ที่นั่น พวกเราไม่กล้าคิดหรอกค่ะ ไม่น่าจะเข้าไปได้นะคะ” “หากพวกคุณอยากไปละก็ พวกเราสามารถให้โควตาได้ค่ะ แต่เรื่องค่าใช้จ่าย ทางคุณต้องหาทางกันเองนะคะ คุณว่าอย่างไรคะ?” เส้นหมี่กล่าวอย่างตรงไปตรงมา โอกาสเช่นนี้ อันที่จริงนับว่ากรุณามากแล้ว โรงเรียนแบบนั้น ถึงแม้ทางครอบครัวจะมีเงิน แต่หากไม่มีเส้นสาย คนในประเทศก็ไม่มีทางเข้าไปได้ เป็นไปตามคาด โทรศัพท์ทางนั้นไม่มีเสียงใดๆ ดูแล้วเหมือนกำลังปรึกษากันอยู่ เส้นหมี่เพื่อลูกสาวแล้วจึงอดทนรอสักครู่ แต่อย่างไรก็คาดไม่ถึงว่า หลังจากผ่านไปสองสามนาที ทางฝั่งนั้น แม่ของเด็กสาวได้กล่าวมาประโยคหนึ่งว่า : “ไปสถานที่แบบนั้น น่าจะแพงมากนะคะ ครอบครัวเราคงจะ……” “เช่นนั้นต้องขอโทษด้วยนะคะ คุณแม่จ๊ะจ๋า รบกวนวันหลังอย่ายุยงให้เพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มมาตีตัวออกห่างลูกสาวของดิฉันนะคะ หากดิฉันทราบว่ามีเรื่องเช่นนี้อีก ดิฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ” เส้นหมี่กล่าวอย่างเย็นชา “ตึง”แล้ววางโทรศัพท์ทันที เจอกับคนประเภทนี้ พวกเขาอดทนได้ถึงเวลานี้ เพื่อลูกแล้ว นับว่าไม่เลวแล้วจริงๆ

ตกกลางคืน เพื่อที่จะให้ลูกสาวยอมไปโรงเรียน แสนรักจึงให้คนพาเด็กคนหนึ่งเข้ามา “หนูรินจัง หนูมาดูหน่อย น้องชายคนนี้ เป็นเด็กที่ปู่ทวดของหนูหามาจากพื้นที่ห่างไกล เดิมทีเขาต้องไปเข้าโรงเรียนพื้นฐานกับชินจังพี่ชายของหนู แต่เพราะปัญหาทางสุขภาพที่ไม่สามารถทนต่อสิ่งของที่มีความถี่สูงได้ ดังนั้น แด็ดดี้เลยจะให้เขาไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนั้นกับหนู หนูพาเขาไปด้วยได้ไหม?” “หา?” เด็กสาวที่จิตใจอ่อนโยน เมื่อได้ฟังเช่นนั้น ดวงตาคู่โตที่กระจ่างใสก็มองไปที่เด็กชายตัวน้อยทันที อันที่จริงก็ไม่น้อยแล้ว สิบปี น้อยกว่าเธอสองปี ทว่าตั้งแต่เขาเข้ามา ก็ไม่ได้พูดอะไรเลย เขายืนอย่างเงียบๆอยู่ตรงนั้น ใบหน้าเล็กๆที่มองดูแล้วค่อนข้างผอมแห้ง แต่มีเค้าโครงที่สมบูรณ์แบบ มองมาที่เธออย่างตึงเครียด “งั้น……ถ้าเขาไม่ไปกับหนู จะเป็นอย่างไรคะ?” “เช่นนั้นก็ต้องถูกส่งกลับไป พวกเขาที่นั่นยากจนมาก สุขภาพเขาก็ไม่ดี เพราะตอนที่แม่เขาอุ้มท้องเขานั้น ไม่ได้กินดีอยู่ดี” แสนรักบอกกับลูกสาวอย่างตรงไปตรงมา ทันทีที่พูดจบ ใบหน้าของเด็กสาวก็แสดงออกมาว่าไม่สามารถทนได้ “ได้ค่ะ หนูจะพาเขาไป” สาวน้อยที่อ่อนโยนจึงเดินไปหาเด็กชาย “เธอชื่ออะไรจ๊ะ? ฉันชื่อรินจัง” เธอจับมือน้อยๆเขาอย่างเป็นธรรมชาติพร้อมกับเอียงคอถาม เด็กชายหน้าแดง เขาก้มหน้าลง เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จึงได้ยินเสียงเบาๆตอบมาว่า “สิบหก” สิบหก? หนูรินจังเบิกตากว้าง นึกว่าตนเองฟังผิดไป เส้นหมี่และแสนรักสองคนเฝ้ามองอยู่ข้างๆ เมื่อเห็นว่าเด็กทั้งสองได้พูดคุยกันแล้ว พวกเขาก็วางใจ จึงหันหลังกลับขึ้นชั้นสองไป

เส้นหมี่ : “ชื่อของเด็กคนนั้นทำไมแปลกจัง? ชื่อสิบหก?”

แสนรักพูดอย่างเฉยเมยว่า : “สถานที่เช่นนั้น ยากจน เด็กเกิดเยอะ มีชื่อเป็นตัวเลขก็ไม่เลวแล้ว”

เส้นหมี่ : “………………..”

ในที่สุด เรื่องนี้ก็สรุปตามนี้

สามวันต่อมา ภาสกรและม็อกโกสองคน ก็ได้พาเด็กทั้งสองคนนี้ออกเดินทาง เดิมทีภาสกรตั้งใจว่า เขาเพียงคนเดียวพาเด็กๆไปก็เพียงพอแล้ว แต่ม็อกโกกลับรู้สึกว่าคนคนนี้ไม่น่าจะพึ่งพาได้ ดังนั้นจึงตั้งใจดึงเวลาเพื่อจะได้ไปด้วย และในเวลานี้ หนูรินจังก็คุ้นเคยกับเด็กชายที่ชื่อสิบหกคนนี้เป็นอย่างมากแล้ว “สิบหก ไปกันเถอะ พวกเราออกเดินทางกัน” มือน้อยๆของเธอจูงมือเขาโดยที่ไม่บ่ายเบี่ยงแม้แต่น้อย แต่สายตาอันแหลมคมของเส้นหมี่กลับมองเห็น ว่าในขณะที่ลูกสาวยื่นมือไป เด็กชายคนนั้นยังหดมือ เหมือนรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะ หรืออาจจะเพราะเขาไม่สะดวกใจ จนท้ายที่สุดเด็กทั้งสองก็ขึ้นรถไป เด็กชายเช่นนั้น คงจะใสซื่อมากเช่นกัน สามารถได้รับการคัดเลือกมาที่เมืองหลวงได้ ไอคิวน่าจะสูงมากทีเดียว เส้นหมี่รู้สึกพอใจกับการจัดการเช่นนี้เป็นอย่างมาก

เพียงแต่ หลังจากนั้นสี่สิบนาที สองสามีภรรยาทางนี้ ก็ได้รับข่าวคราวที่ม็อกโกส่งมา เล่าว่าหลังจากที่พวกเขาไปถึงสนามบินแล้ว เห็นเด็กหญิงที่ชื่อจ๊ะจ๋า พ่อแม่ของเธอก็ส่งเธอมาเช่นกัน

เส้นหมี่ : “…………….”

ใจนึกอยากจะไปด่าสักตั้ง ทว่าท้ายที่สุด จากรูปที่ม็อกโกส่งมาใบนั้น เมื่อเห็นว่าลูกกอดเด็กสาวคนนั้นจนแน่น ก็หมดปัญญา เธอจำต้องยินยอม ดังนั้นเรื่องที่หนูรินจังไปโรงเรียน ก็กลายเป็นสามคนไปเสียแล้ว เมื่อส่งลูกสาวแล้วก็เหลือคิวคิวลูกชายอีกคน ซึ่งเป็นเด็กที่ไม่ต้องเป็นกังวลด้วยเลยอย่างสิ้นเชิง สองสามีภรรยาจึงได้เข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ณ เดอะวิวซีแห่งนี้ คนหนึ่งเริ่มรับช่วงเศรษฐกิจในประเทศ ส่วนอีกคนหนึ่งรับผิดชอบดูแลเรื่องต่างๆในตระกูลเทวเทพ ส่วนแสงดาวแห่งเรดพาวิเลี่ยนนั้น ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลลูกเป็นหลัก อย่างไรเสียหนูดาราก็ยังอายุไม่ถึงสามขวบ ทว่าเพราะต้องดูแลลูก เธอจึงไม่ได้ทำอะไร ดังนั้นทั้งวันจึงได้แต่จับกลุ่มในวีแชทกับเชียนหยวนล๋ายเย่ที่อยู่เมืองA