ตอนที่ 2914

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,914 : ฆ่า ขุนนางอมตะ 10 ทิศ!

 

พอรับทราบว่าต้วนหลิงเทียนก็เป็นถึงตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศอันทรงพลัง ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไป๋หวู่จี้ ก็ตระหนักได้ทันทีว่า วันนี้คงยากจะจัดการต้วนหลิงเทียนผู้นี้ได้แล้ว เพราะถึงแม้บรรพบุรุษทั้ง 3 จะเป็นขุนนางอมตะ 10 ทิศเช่นกัน ก็ไม่แน่ว่าจะล้อมฆ่าอีกฝ่ายได้สำเร็จ

 

นอกจากนั้น ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่ยังอายุไม่ถึงร้อยปี จะไร้พื้นเพความเป็นมาจริงๆน่ะเหรอ?

 

ตัวตนที่อยู่เหนือสามัญสำนึกเช่นนี้ จะเป็นผู้ฝึกตนไร้สังกัดได้?

 

เรื่องนี้ทำให้ไป๋หวู่จี้บังเกิดความวิตกอย่างหนัก

 

เพราะเหตุนี้เอง มันจึงรู้ดีแก่ใจว่านิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไม่อาจจัดการต้วนหลิงเทียนได้ ต่อให้พวกมันจะมีพลังสามารถจัดการต้วนหลิงเทียนได้จริง แต่นิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ไม่อาจไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาหลังจากนั้น

 

ด้วยเหตุนี้มันก็เลยคิดหาทางสมานฉันท์กับต้วนหลิงเทียน หมายจบเรื่องราวอย่างละมุนละม่อม…

 

มันก็เลยเสนอให้ต้วนหลิงเทียนเอ่ยความต้องการออกมา

 

แต่ไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนจะขอให้มันมอบ ไป๋อวี่ซวน บุตรชายคนเดียวของมันออกไป! ซึ่งทำให้มันบังเกิดอาการลังเล ยากจะตัดสินใจได้!!

 

ด้านหนึ่งก็คือไป๋อวี่ซวน ลูกชายเพียงคนเดียวของมัน กระทั่งพยัคฆ์ร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง นับประสาอะไรกับที่อีกฝ่ายเป็นดั่งแก้วตาดวงใจของมัน ไหนเลยจะทำใจส่งอีกฝ่ายออกไปตายอย่างไม่รู้สึกรู้สา!

 

กลับกัน ตัวมันก็รู้ดีแก่ใจ ว่าถ้าหากมันไม่ยอมรับข้อเรียกร้องดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน น่ากลัววันนี้เรื่องราวคงจะไม่ได้จบลงด้วยดี!

 

เช่นนั้นมันจึงลังเลทั้งยังลำบากใจเป็นที่สุด ไม่อาจตัดสินใจได้จริงๆ!

 

“หึ!”

 

ในขณะที่ประมุขนิกายอมตะสววรรค์ลี้ลับไป๋หวู่จี้กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความกังวล ด้วยจนใจจะตัดสินใจเลือกทางใด ก็เป็น 1 ใน 3 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสววรรค์ลี้ลับ ชายวัยกลางคนในชุดเขียวขี้ม้าหนึ่งในคู่แฝดก็พ่นล่มสบถออกมาเสียงเย็น

 

“ปรมาจารย์โอสถต้วน ประมุขให้เจ้าเสนอข้อเรียกร้องออกมาก็นับว่าไว้หน้าเจ้ามากแล้ว…เจ้าก็อย่าให้มันมากเกินไปนัก!”

 

หลังสบถคำเสียงเย็น ชายวัยกลางคนชุดเขียวขี้ม้าก็มองจ้องต้วนหลิงเทียนด้วสายตาเย็นชา กล่าวออกเสียงแข็ง!

 

มันย่อมรู้ดี ว่าไป๋หวู่จี้กำลังตกที่นั่งลำบาก กลืนไม่เข้าคายไม่ออก!

 

“มากเกินไป? ฮ่าๆๆๆ!!”

 

ดิ้นคำพูดดุดันของชายวัยกลางคนชุดเขียวขี้ม้า ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังร่า

 

“เจ้าหัวเราะอันใด!?”

 

พอเห็นว่าต้วนหลิงเทียนถึงกับกล้าหัวเราะออกมาจริงๆ สีหน้าชายวัยกลางคนก็แปรเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ปั้นยากทันที อีกทั้งใบหน้าอัปลักษณ์ดูไม่ได้ของมัน ยังคล้ายจะฉาบเคลือบไว้ด้วยม่านน้ำแข็ง!

 

“ข้าหัวเราะอะไร…จำเป็นต้องรายงานเจ้าด้วย?”

 

ได้ยินคำถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่องของชายวัยกลางคน ต้วนหลิงเทียนก็เหลือบมองไปที่มันผ่านๆ จากนั้นก็กล่าวถามออกมาอย่างแดกดัน

 

ได้ยินวาจาแดกดันของต้วนหลิงเทียน ชายวัยกลางคนก็ฉุนขาด! โทสะในลูกตาของมันลุกโชนขึ้นมาปานเพลิงไฟ ร้อนแรงปานจะผลาญเผาได้ทุกสิ่ง!!

 

ตลอดชั่วชีวิตที่ผ่านมา จวบจนกลับกลายเป็นบรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ มันเคยมีโทสะถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

“เจ้า…นับเป็นตัวอะไร?”

 

ต้วนหลิงเทียนยังคงถามสืบต่อ

 

และเป็นวาจาประโยคนี้เอง ที่ทำให้ฟางอารมณ์เส้นสุดท้ายของชายวัยกลางคนชุดเขียวขี้ม้าขาดผึง! โทสะเข้าครอบงำจิตใจมันหมดสิ้น คนคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “ข้าโจวหมิงอยากเห็นนัก ว่าอาศัยสารเลวน้อยขนอุยที่อายุไม่ถึงร้อยปีเช่นเจ้า อาศัยความกล้าแต่ที่ใดถึงกล้ามาพูดจาสามหาวกับข้าเช่นนี้!!”

 

แผดเสียงคำรามกราดเกรี้ยวจบคำ ทั่วร่างชายวัยกลางคนชุดเขียวขี้ม้าก็ปะทุไปด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันเกรี้ยวกราด! มองไปคนยังคล้ายตกอยู่ในบอลไฟลูกเขื่อง! จากนั้นเพลิงพลังของมันก็ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีม่วง เห็นชัดว่ามันใช้ออกด้วยเวทย์พลังก้นหีบของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ…ปราณม่วงบูรพา! และเป็นเวทย์พลังที่ต้วนหลิงเทียนชนะเดิมพันได้มาจากนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ!!

 

“สารเลวน้อย รับดาบข้า!!”

 

ทันใดนั้น ชายวัยกลางคนพลันคำรามออกมาดังลั่นอีกครา พร้อมกันนั้นคนก็พุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้า มวลพลังสีม่วงที่ลุกโชนปานเพลิงไฟ ก็เริ่มพวยพุ่งหลั่งไหลออกไปควบรวมก่อเกิดดาบพลังเล่มมหึมาเหนือร่าง!!

 

ขณะที่เสียงคำรามของมันยังดังไม่ทันจบคำดี ชายวัยกลางคนก็จี้ 2 นิ้วมายังต้วนหลิงเทียน! ทันใดนั้นทุกผู้คนพลันได้ยินเสียงอากาศแตกระเบิดดัง ปง ชัดถนัดหู! จากนั้นดาบพลังเล่มเขื่องก็พุ่งแหวกฟ้าลงมาฉับไว้ จี้แทงไปทางต้วนหลิงเทียนด้วยสภาวะพลังเกรี้ยวกราด ทิ้งเงาดาบพร่ามัวตามรายทาง สร้างความตกตะลึงให้กับผู้ที่ดูชมนัก!

 

วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม! วู้ม!

 

 

หลังจากดาบพลังเล่มเขื่องพุ่งมาฉับไว้ จนทิ้งเงาดาบเลือนรางไว้ในความว่างเปล่า ตัวดาบอยู่ๆก็ปะทุพลังเกรี้ยวกราดออกมากลางหาว! และทันใดนั้นเองดาบพลังเล่มเขื่อง อยู่ๆก็แตกตัวเป็นดาบพลังขนาดเล็กนับหมื่นพัน พร่างพราวไปทั่วฟ้าดั่งหาพิรุณ!

 

อย่างไรก็ตาม ห่าพิรุณดาบพุ่งลงมาต่อได้ไม่ทันไร ก่อนที่จะถึงตัวต้วนหลิงเทียน ดาบพลังนับหมื่นพันดังกล่าวก็ได้พุ่งวูบเป็นเงาเลือ มาหลอมรวมผสานกลับกลายเป็นดาบพลังหนึ่งเล่ม!

 

ทว่าดาบพลังหนึ่งเล่มนี้ กลับมิได้ใหญ่โตเหมือนกับดาบพลังที่ปรากฏออกมาตอนแรกสุดแต่อย่างไร กระทั่งขนาดของมันยังเทียบไม่ได้แม้แต่ 1 ใน 1,000 ของดาบพลังเล่มแรกที่ปรากฏออกมาด้วยซ้ำ! แถมสีสันของดาบพลังในปัจจุบันหาได้เป็นสีม่วงอีกต่อไป แต่มันกลับเป็นสีม่วงเข้มจนแทบกลายเป็นสีดำ เปล่งแสงทะมึนออกมาเรืองสลัวๆ แลดูทรงพลังน่ากลัวนัก!!

 

ฟั่ฟฟฟฟ!!

 

และดาบพลังที่เกิดจากการควบรวมผสานนั้น ความเร็วในการพุ่งทะยานสังหารของมันก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างอัศจรรย์ เรียกว่าเหนือล้ำกว่าความเร็วในการโจมตีของตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 10 ทิศทั่วไปมากโข! สภาวะพลังทวีความดุร้ายเกรี้ยวกราดขึ้นในบัดดล เข่นฆ่าสังหารจี้ไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างอำมหิต!!

 

บัดนี้มีเพียงบรรพบุรุษที่เหลืออีก 2 คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับเท่านั้น ที่สามารถมองเห็นการลงมือของชายวัยกลางคนชุดเขียวขี้ม้าได้ชัดเจน!

 

ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ไป๋หวู่จี้ ในฐานะตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 9 ตำหนัก กลับทำได้แค่มองเห็นประกายแสงสีม่วงเข้มลากตัดฟ้าไปฉับไวเท่านั้น!

 

สำหรับผู้อาวุโสฉีตัวตนขอบเขตขุนนางอมตะ 8 ชะตา ทำได้แค่เห็นประกายแสงสีม่วงเข้มวาบฟ้าผ่านตาไปวูบหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่มันจะอันตรธานหายไปในพริบตา

 

“ดี ดี…ดีมาก!!”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่คิดมาก่อนว่า โจวหมิง 1 ใน 3 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับจะเป็นฝ่ายเป็นฉากสังหารเข้ามาก่อน สองตาเขาทอประกายเยียบเย็นวาบหนึ่ง จากนั้นมุมปากก็เริ่มแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม เห็นชัดว่าไม่สบอารมณ์ขึ้นมาแล้ว!

 

“สวรรค์มีทางไม่ยอมเดิน นรกไร้ประตูเจ้าดันทุรังมุดมา ข้าจะสงเคราะห์ให้เจ้าเอง!”

 

เผชิญหน้ากับดาบพลังทะลวงฟ้ามาน่ากลัวของโจวหมิง ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนพลันปะทุมวลพลังสีม่วงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดปานเพลิงไฟ เผยกลิ่นอายพลังอันน่าสยดสยองกดดันบีบคั้นไปในบรรยากาศ!

 

ทันใดนั้นต้วนหลิงเทียนที่ถูกเพลิงพลังสีม่วงลุกโชนท่วมร่าง ก็เริ่มเคลื่อนไหวลงมือ!

 

ร่างคนอันตรธานสาบสูญไปจากสายตาทุกคนทันที!

 

กระทั่งบรรพบุรุษทั้ง 3 ของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ รวมถึงไป๋หวู่จี้ ประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็ไม่อาจมองเห็นได้แม้แต่เงาร่างของต้วนหลิงเทียน! ประหนึ่งต้วนหลิงเทียนหายสาบสูญไปในความว่างเปล่าโดยสมบูรณ์!!

 

“นี่…!”

 

“ได้…ได้อย่างไร!?”

 

“ต้วนหลิงเทียนมันมีทักษะหายตัวหรือ?!”

 

 

และในขณะที่อยู่ๆต้วนหลิงเทียนก็อันตรธานสาบสูญไปจากสายตาของทุกคน จนบรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับก็ไม่ทันได้ตอบสนองสิ่งใด ฉากเรื่องราวในสายตาของพวกมันก็บังเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เป็นดาบพลังสีม่วงเข้มที่พุ่งทะยานเข่นฆ่าไปทางต้วนหลิงเทียนนั้น ประหนึ่งถูกมือมหึมาที่มองไม่เห็นกอบกุมเอาไว้ มันหยุดชะงักค้างในความว่างเปล่าอย่างน่าฉงน!

 

ทันใดนั้นความว่างเปล่า ณ จุดที่ดาบพลังสีม่วงเข้มหยุดอยู่ ก็อุบัติระลอกพลังดั่งวงคลื่นกำจายออกมาในฉับพลัน กลิ่นอายพลังน่าพรั่นพรึงสะท้านแทรกซึมไปในบรรยากาศ!

 

จากนั้นพวกมันก็เห็นอีกว่า…

 

ดาบพลังสีม่วงเข้มที่เต็มไปด้วยรัศมีพลังสลัวสีม่วงคล้ำนั้น หยุดลงเพียงเสี้ยวพริบตาก่อนจะเปลี่ยนทิศทางไปอย่างแปลกประหลาด ตัวดาบชี้เฉียงขึ้นไปบนฟ้าพิกล!

 

“เป็นต้วนหลิงเทียน!”

 

“ไฉนมันรวดเร็วถึงเพียงนี้!?”

 

“มันถึงกับจับดาบพลังของน้องหมิงด้วยมือเปล่า?!”

 

 

เมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆดาบพลังสีม่วงเข้มก็เปลี่ยนทิศทางไปอย่างกะทันหัน เหล่าบรรพบุรุษอีก 2 คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ รวมถึงประมุขนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับไป๋หวู่จี้ ก็ประหลาดใจครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อพบว่าข้างๆดาบพลังได้ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาปานภูตผี!

 

เป็นต้วนหลิงเทียนที่อันตรธานร่างหายไปก่อนหน้า!

 

พอต้วนหลิงเทียนปรากฏตัวอีกครั้ง คนก็ไปจับดาบพลังสีม่วงเข้มไว้ด้วยมือเปล่าเสียแล้ว! และไม่ว่าดาบสีม่วงจะเรืองสว่างเปล่งอานุภาพพลังรุนแรงแค่ไหน ก็ไม่อาจหลุดพ้นออกไปจากฝ่ามือเขาได้เลย!

 

ดาบพลังสีม่วงเข้ม บัดนี้คล้ายมังกรร้ายติดบ่วง ดิ้นรนพยศเท่าไหรก็ยากจะหลุดพ้นไปได้!

 

ฟุ่บบ!!

 

ต้วนหลิงเทียนที่มือกอบกุมดาบพลังสีม่วงเข้มเอาไว้ ได้วูบร่างเคลื่อนไหวอีกครั้ง คนพุ่งตรงไปยังโจวหมิง!

 

ต้วนหลิงเทียนในตอนนี้แม้ระดับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดในร่างจะอ่อนลงกว่าตอนที่อยู่ในนิกายอมตะสราญรมย์ แต่อย่างไรก็ยังเทียบได้กับราชาอมตะ 8 ชะตา! คิดสะกดพลังของบรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับที่เป็นแค่ขุนนางอมตะ 10 ทิศที่ไม่ได้ใช้อุปกรณ์อมตะใดๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องราวอันง่ายดายอย่างถึงที่สุด

 

ไม่เพียงแต่สามารถสะกดพลังอีกฝ่ายได้ เขายังผนึกพลังของโจวหมิงเอาไว้ ไม่ให้อีกฝ่ายสลายกระทั่งถอนรั้งพลังคืนกลับได้อีกด้วย!

 

‘พลังเซียนอมตะต้นกำเนิดขอบเขตราชาอมตะ มันช่างทรงพลังสุดที่พลังของขุนนางอมตะจะเทียบได้จริงๆ…ยิ่งไปกว่านั้นระดับพลังของข้าตอนนี้ก็ยังอยู่ในขอบเขตราชาอมตะ 8 ชะตา แล้วอาศัยพลังขุนนางอมตะ 10 ทิศอย่างโจวหมิงมันจะต่อต้านอะไรได้?’

 

ต้วนหลิงเทียนย่อมสัมผัสได้ชัดเจน

 

การดิ้นรนต่อต้านของดาบพลังโจวหมิงตอนนี้ สำหรับเขาก็แค่ทำให้รู้สึกเสมือนมียุงบินมาเกาะที่มือเท่านั้น ไม่อาจสั่นคลอนใดๆเขาได้เลย

 

พลังอำนาจของราชาอมตะ 8 ชะตา มากเกินพอจะบดขยี้พลังของขุนนางอมตะ 10 ทิศได้อย่างง่ายดายทุกทาง!

 

“ขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับหรือ มันก็เท่านั้น…”

 

ทันใดนั้นร่างต้วนหลิงเทียนที่วูบมาปรากฏเบื้องหน้าโจวหมิงปานภูตผี ก็เอ่ยคำทิ้งท้ายเสียงเย็นไว้ประโยคหนึ่ง

 

และพอต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำเขาก็ยกมือขวาที่ยังคงกอบกุมดาบพลังสีม่วงเข้มของโจวหมิงเอาไว้ขึ้นมาง้างอย่างไม่รีบไม่ร้อน จากนั้นเพียงฝ่ามือออกแรงบีบกำเบาๆ ดาบพลังสีม่วงเข้มในมือก็พลันแตกสลายกลับกลายเป็นละอองแสงหายไป! ถูกพลังที่เหนือชั้นกว่าบดขยี้ทำลายลงในพริบตา!!

 

ครู่ต่อมา

 

มือขวาต้วนหลิงเทียนนที่ยกขึ้นมาง้างแล้วกำมือหลวมๆ ก็ชกออกไปทางโจวหมิงอย่างไร้เรื่องราว

 

ทว่าในขณะที่หมัดชกออกไปส่งๆนั้นเอง นอกจากแสงพลังสีม่วงแล้ว ยังปรากฏเงาพลังสีทองหนึ่ง ควบรวมก่อเกิดเป็นหมัดพลังสีทองห่อหุ้มหมัดต้วนหลิงเทียนเอาไว้ในพริบตา!

 

และหากสังเกตให้ดีจะพบว่า…

 

ไม่ทราบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนตอนนี้ได้ปรากฏเงาร่างสีทองหนึ่งห่อหุ้มคลุมกายเอาไว้หมดแล้ว หาใช่แค่หมัดขวาข้างเดียวไม่!

 

‘วรยุทธ์อมตะระดับขุนนางของนิกายอมตะสราญรมย์ ราชันไม่เคลื่อนไหว!’

 

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันกับที่ต้วนหลิงเทียนวูบร่างมาถึงเบื้องหน้าโจวหมิง และง้างหมัดชกออกไปส่งๆ บรรพบุรุษอีก 2 คนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ก็บังเกิดความคิดดังกล่าวแลบลั่นขึ้นในใจปานสายฟ้าฟาด!

 

“ปรมาจารย์โอสถต้วน โปรดเมตตาด้วย!!”

 

1 ใน 2 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ อันเป็นชายวัยกลางคนในชุดสีน้ำเงิน เร่งตะโกนร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าแววตาฉายชัดไปถึงความวิตกกังวลล้นปรี่!

 

อนิจจายังคงสายเกินไป

 

เปรี๊ยงงง!!

 

หนึ่งหมัดที่ชกออกไปตามอำเภอใจ หากแต่เปี่ยมล้นไปด้วยอานุภาพพลังสะท้านฟ้าพุ่งทะลวงความว่างเปล่า จี้ตรงเข้าหา โจวหมิง บรรพบุรุษนิกายอมะตสวรรค์ลี้ลับอย่างเกรี้ยวกราด มันที่ยังไม่ทันตั้งตัวและตกตะลึงกับการปรากฏตัวปานภูตผีของต้วนหลิงเทียนไม่หาย จึงไม่ทันได้ใช้ทักษะป้องกันอันใดทั้งสิ้น ถูกหมัดพลังเข่นฆ่าสังหารเข้ามาป่นร่าง กลับกลายเป็นหมอกโลหิตกลุ่มหนึ่งฟุ้งขจายไปทั่วฟ้า…

 

หลังโจวหมิงร่างระเบิดเป็นหมอกเลือด ก็คงเหลือแต่เพียงแหวนพื้นที่วงหนึ่ง ที่ถูกพลังดูดรั้งไปเข้ามือต้วนหลิงเทียนอย่างไร้เรื่องราว…

 

“ขุนนางอมตะ 10 ทิศของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ มันก็เท่านั้น…”

 

ขณะเดียวกันคนอื่นๆที่พึ่งได้ยินเสียงของต้วนหลิงเทียน ก็กลับมารู้สึกตัวอีกครั้ง

 

หลังจากฟื้นสติแล้วพวกมันก็มองไปยังฉากเรื่องราวเบื้องหน้าทันที แม้แต่ต้นจนจบต้วนหลิงเทียนจะลงมือฉับไวสุดที่สายตาพวกมันจะมองตามเรื่อราวใดได้ กระทั่งไม่อาจเห็นได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พวกมันก็ไม่ใช่จะเดาไม่ออกว่าบัดนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น…

 

“บะ…บ้าน่า…ท่านบรรพบุรุษโจวหมิง ถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายไปแล้วหรือ!?”

 

“ไม่…ไม่จริงน่า!?”

 

 

เหล่าศิษย์และอาวุโสหน่วยลาดตระเวนของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ บัดนี้ได้ถูกความหวาดกลัวเขาครอบงำจิตใจโดยสมบูรณ์

 

“น้องหมิง!!”

 

ขณะเดียวกันนั้นเอง 1 ใน 2 บรรพบุรุษของนิกายอมตะสวรรค์ลี้ลับ ชายวัยกลางคนในชุดคลุมสีน้ำเงิน ก็กรีดร้องโหยหวนออกมาด้วยความเศร้าโศกปานใจจะขาด ให้ทุกคนที่กำลังตกตะลึงได้ยินอย่างประจวบเหมาะ…