ตอนที่ 2044 สี่ยอดจักรพรรดิ

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2044 สี่ยอดจักรพรรดิ

 

“ลุย!”

 

เงาของร่างมากมายพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและหายเข้าไปในประตูทางเข้า

 

อีกฝั่งของประตูคือเขตแดนลี้ลับ

 

หลิงฮันและพวกจักรพรรดินีเองก็ทะยานร่างพุ่งเข้าสู่ประตูทางเข้าเช่นกัน

 

“พรึบ” ร่างของแต่ละคนราวกับกําลังผ่านเข้าสู้หลุมโคลนดูด พวกเขาขยับตัวได้อย่า งเชื่องช้าไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อผ่านประตูเข้าไปแล้ว ความรู้สึกโล่งสบายก็หวนกลับมาสู่ร่างกายของพวกเขาอีกครั้ง

 

หลิงฮันพบว่าตนเองกําลังยืนอยู่บนหน้าผา ที่มีสะพานมากมายทอดยาวออกไป เมื่อลองนับแล้วจะเห็นว่าสะพานตรงหน้าที่จํานวนสามพันเส้นทางไม่ขาดไม่เกิน

 

สะพานเหล่านี้คือเส้นทางแห่งเต๋ทั้งสามพัน

 

หลิงฮันพบว่าเส้นทางทั้งสองพันสองร้อยเก้าสิบเส้นทางนั้นธรรมดาเป็นอย่างมาก ในขณะที่อีกสิบเส้นทางที่เหลือนั้นพิเศษ

 

ในสิบเส้นทางที่เหลือนั้น เก้าเส้นทางเป็นสีทอง ในขณะที่อันสุดท้ายเป็นสีดําทมิฬ

 

“ในจํานวนปีที่ผ่านมานับไม่ถ้วน มีเพียงสามร้อยสี่สิบเอ็ดคนเท่านั้นที่สามารถก้าวเหยียบไปยังสะพานสีทองทั้งเก้าได้ หรือหากคิดเฉลี่ยแล้วในหนึ่งครั้งที่เขตแดนลี้ลับเบิดออกจะมีเพียงหนึ่งคนเท่านั้น” ฟู่เยว่กล่าว “พี่ชายหลิง ท่านคิดว่านานเท่าไหร่แล้วที่เขตแดนลี้ลับเริ่มเปิดออก?”

 

“อย่างน้อยหนึ่งยุคสมัย!”

 

“ใครที่สามารถก้าวไปยังเส้นทางแห่งเต๋สีทองได้นั้น ทุกคนล้วนแต่บรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับห้าได้เป็นอย่างน้อย!”

 

หลังจากเวลาผ่านมานานเป็นยุคสมัย คนที่เหยียบย่ําเส้นทางแห่งเสีทองทั้งเก้าได้กลับมีเพียงสามร้อยยี่สิบเอ็ดคน ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่ามันยากลําบากขนาดไหน

 

“เส้นทางแห่งเต๋เหล่านี้ ไม่ใช่ว่าอยากจะเดินไปก็สามารถไปได้ ทุกคนต้องกระ ตุ้นพลังของตนเองเสียก่อน เส้นทางแห่งเต๋ที่เชื่อมโยงกับทักษะบ่มเพาะของแต่ละคนมากที่สุดถึงจะตอบสนองขึ้นมา ไม่เช่นนั้นหากใครเดินไปยังเส้นทางที่ไม่ได้ตอบสนอง คนผู้จะร่วงหล่นหน้าผาลงไปทันที”

 

“ที่แห่งนี้ไม่สามารถเหาะเหินได้ และสําหรับคนที่ตกลงไป ก็ไม่เคยมีใครได้ยินมาก่อนว่าสามารถมีชีวิตรอดกลับขึ้นมาได้”

 

ฮูหนิวรู้สึกสงสัย นางชี้ไปยังสะพานสีดําและกล่าว “แล้วเส้นทางนั้นล่ะ?”

 

“สะพานสีดําคือเส้นทางที่เรียกว่า เส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุด ที่ไม่มีใครเคยก้าวไปถึงมาก่อน” ฟู่เยว่กล่าว

 

เส้นทางแห่งเต๋าสวรรค์สูงสุด!

 

หลิงฮันมองอย่างถี่ถ้วนและเห็นว่าความจริงนั้น สะพานแต่ละสะพานนั้นมีรูปร่างเป็นมังกร หางของพวกมันจะทําหน้าที่เป็นทางเชื่อม และตัวสะพานก็คือร่างของมังกร

 

แต่เส้นทางแห่งเต๋าสีทองนั้นต่างออกไป สะพานทั้งเก้าแต่ละอันมีรูปร่างเป็นมังกรทั้งเก้าที่พัวพันเข้าหากัน และกางกรงเล็บออกอย่างน่าเกรงขาม

 

ที่พิเศษที่สุดแน่นอนว่าเป็นเส้นทางแห่งเต๋าสีดํา ที่มีรูปร่างเป็นการพัวพันของมังกรทั้งเก้าสิบเก้าตัว ราวกับจ้าวแห่งมังกร

 

ในขณะที่พวกหลิงฮันกําลังคุยกัน ใครหลายคนก็เริ่มก้าวเดินไปยังสะพานมังกรเรียบร้อยแล้ว

 

ซึ่งก็เป็นอย่างที่ฟู่เยว่กล่าว ไม่มีใครเลยที่สามารถกระตุ้นให้สะพานมังกรสีทองตอบสนองได้

 

ในยุคสมัยหนึ่ง มีเพียงอัจฉริยะไม่กี่ร้อยคนเท่านั้นที่สามารถทําได้โดยที่พวกเขาเหล่านั้นล้วนแต่เป็นจักรพรรดิในหมู่จักรพรรดิ

 

แต่แน่นอนว่าเพราะเขตแดนลี้ลับจะเปิดออกในทุกๆ หนึ่งร้อยล้านปี และจํากัดอายุของผู้เข้าร่วมไม่เกินสิบล้านปี ทําให้อัจฉริยะระดับแนวหน้ากว่าเก้าในสิบส่วนเสียโอกาสไป ไม่เช่นนั้น ตามหลักแล้ว จํานวนของคนที่สามารถไปถึงสะพานมังกรสีทองได้ก็สมควรจะเพิ่มขึ้นอีกเก้าเท่า

 

“พรึบ” ทันใดนั้นเอง กลิ่นอายอันทรงพลังก็พัดผ่านเข้ามา พร้อมกับร่างของคนผู้หนึ่งปรากฏตัวจากด้านบน

 

คนผู้นี้เป็นชายร่างผอมสวมชุดฟ้าที่ดูมีสง่าราศี

 

“เทียนชิงเย่!”

 

“เป็นเทียนชิงเย่จริงๆ ไม่นึกว่าเขาเองก็จะมาที่นี่ด้วย”

 

“พระเจ้า นี่นะหนึ่งในสี่สุดยอดจักรพรรดิแห่งอาณาเขตสวรรค์ผ่อน!”

 

การปรากฏตัวของตัวตนที่ทรงพลังย่อมสีไม่พ้นการตกเป็นจุดสนใจ หลิงฮันที่ฟังอยู่หันมองไปยังเทียนชิงเย่

 

คนผู้นี้ ลึกล้ําและไม่ธรรมดา

 

“เจ้ารู้จักคนผู้นั้นรึเปล่า?” หลิงฮันถามฟู่เยว่ ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ได้เป็นคนของอาณาเขตสวรรค์เดียวกัน แต่เทียนชิงเย่ก็ดูเหมือนจะมีชื่อเสียงมาก บางที่ฟู่เยว่อาจจะรู้อะไรบ้างก็เป็นได้

 

ทว่าฟู่เยว่กลับส่ายหัว แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ไม่สามารถไปทุกอาณาเขตสวรรค์ได้อย่างทั่วถึง ยิ่งจอมยุทธตัวจ้อยเช่นเขายิ่งไม่ต้องพูดถึง

 

“เทียนชิงเยว่คืออัจฉริยะที่มีพลังบ่มเพาะระดับติดวิญญาณสวรรค์สูงสุด หลังจากสิ้นสุดเขตแดนลี้ลับร้อนมังกรครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าเขาจะทําการทะลวงผ่านสู่ระดับตําหนักอมตะ” เสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลังหลิงฮัน

 

เมื่อหลิงฮันหันหน้าไปมอง ก็พบกับปู่เส่าจวิ้น

 

อีกคนเป็นคนของอาณาเขตสวรรค์ผู้อัน และเป็นจักรพรรดิเหมือนกัน แน่นอนว่าต้องรู้จักเทียนชิงเย่เป็นอย่างดี

 

“ตัดวิญญาณสวรรค์สูงสุดงั้นรึ?” หลิงฮันพึมพํา

 

เขามั่นใจในพลังของตนเองมากก็จริง แต่ก็ไม่ได้หลงตัวเองถึงขนาดตามืดมัวมองสถานการณ์ไม่ออก พลังต่อสู้ของเขาในตอนนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก ยิ่งหลังจากที่ฝึกฝนแก่นพลังมหาพินาศสําเร็จ พลังต่อสู้ที่สามารถระเบิดออกมาในชั่วขณะหนึ่งยิ่งน่าสะพรึงกลัวขึ้นอีกไปหลายเท่า

 

แต่ถึงอย่างนั้นจะสามารถโค่นจักรพรรดิในระดับตัดวิญญาณสวรรค์สูงสุดได้หรือไม่นั้น ก็ยังเป็นคําถามที่ตัวเขาเองก็ไม่มั่นใจ

 

“อยากลองประลองกับเขาดูจริงๆ”

 

“พรึบ” ทันใดนั้นแสงสว่างของประตูทางเข้าบนท้องฟ้าส่องสว่าง พร้อมกับใครอีกคนได้เข้ามายังเขตแดนลี้ลับ และสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนเช่นเดียวกัน

 

“เซี่ยโหวถง!”

 

เขาเป็นจักรพรรดิไร้เทียมทานอีกคนของอาณาเขตสวรรค์ผู้อันที่ทัดเทียมกับเทียนชิงเย่

 

“เซี่ยโหวถง!”

 

“เทียนชิงเย่!”

 

สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองมองหน้ากัน โดยต่างฝ่ายต่างเห็นจิตวิญญาณสู้รบกันเดือดดาลจากแววตาของอีกฝ่าย ราวกับการปะทะจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา

 

“ฮ่าๆ ข้าคงไม่ได้พลาดอะไรไปใช่หรือไม่?” เสียงหัวเราะลากยากดังขึ้น และรุ่นเยาว์อีกคนได้ปรากฏตัวขึ้นในเขตแดนลี้ลับ

 

“ยี่หวาฉิง!”

 

คนอื่นๆ อุทาน ช่างบังเอิญอะไรอย่างนี้ที่จักรพรรดิไร้เทียมทานทั้งสามจะปรากฏตัวขึ้นพร้อม

 

แต่ก่อนที่ทุกคนจะกลับมาหายใจได้ทั่วท้อง ใครอีกคนก็ปรากฏตัว

 

ครั้งนี้คนที่ปรากฏตัวคือสตรีที่งดงามดุจบุปผา เรือนร่างอันทรงเสน่ห์ของนางไม่อาจถูกปกปิดด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่ ทําให้ผู้คนที่จ้องมองดูหัวใจสั่นไหว

 

“จู้ฮุ่ยหยิน!”

 

การปรากฏตัวพร้อมกับของสี่สุดยอดจักรพรรดิเปรียบเสมือนการรวมตัวกันของตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในระดับแบ่งแยกวิญญาณของอาณาเขตสวรรค์ผู้อัน ถึงแม้ในอาณาเขตสวรรค์ผู้อันจะมีจักรพรรดิคนอื่นอยู่อีก แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่จะนํามาเทียบกับทั้งสี่คนได้

 

“นกโง่ย่อมต้องออกบินก่อน” ปู้เส่าจวิ้นกล่าว “น้องชายหลิง ถึงแม้พวกเราจะเทียบกับทั้งสี่คนนั้นไม่ได้ แต่เขตแดนลี้ลับร้อยมังกรไม่ใช่ว่าคนที่แข็งแกร่งที่สุดจะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย ทุกอย่างล้วนแต่ขึ้นอยู่กับวาสนาของแต่ละคน”

 

“หนึ่งก้าวเดินที่นําไปล่วงหน้า จะสร้างโอกาสให้แก่เจ้าได้”

 

เมื่อกล่าวจบเขาก็ทําการกระตุ้นสะพานมังกรทั้งสามพัน

 

ผ่านไปไม่นาน สะพานมังกรทั้งแปดก็ส่องแสงสว่าขึ้นพร้อมกัน

 

นี้หมายความว่าปู้เสาจวิ้นมีทางเลือกมากมายถึงแปดทาง

 

เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะเลือกสะพานมังกรที่อยู่ไกลออกไปฝั่งซ้ายสุด

 

สะพานมังกรทั้งแปดนี้มีความเชื่อมโยงกับอํานาจแห่งเต๋าธาตุวารี ซึ่งเป็นอํานาจแห่งเต๋าที่ปู้เส่าจวิ้นเชี่ยวชาญ เพราะงั้นพวกมันจึงส่องแสงสว่างออกมาพร้อมกันเพื่อเชื้อเชิญ

 

“สมกับเป็นปู้เส่าจวิ้น เขาสามารถเชื่อมโยงกับสะพานมังกรได้ถึงแปดสะพานพร้อมกัน”

 

น่าเสียดายที่ถ้าหากสามารถกระตุ้นสะพานมังกรได้มากกว่านี้อีกหนึ่ง เขาก็จะได้รับการยอมรับจากสะพานมังกรสีทองแล้ว

 

“นี่คือความแตกต่างระหว่างจักรพรรดิทั่วไป กับจักรพรรดิระดับแนวหน้า”

 

ปู่เสี่ยวจวิ้นก้าวเดินไปด้านหน้าและร่างกายค่อยๆ หายไปจนมองไม่เห็นในที่สุด

 

“ต่อให้ข้าเอง!” ฟู่เยว่กระโดดขึ้นหน้า