บทที่ 1700 พลอยลำบากไปด้วย + ตอนที่ 1701 ถูกคนอื่นแย่งไปอีกแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1700 พลอยลำบากไปด้วย

 

เจียงจื้อหรู่สะอึกไปทันที เขารู้อยู่แล้วว่าฉีฉีเก๋อโดนลักพาตัวไปด้วยแต่ในท้องของสวีจื่อเซวียนมีผลผลิตจากความรักของพวกเขาอยู่ จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นไม่ได้!

 

“เรื่องนี้ฉัน…รู้…ฉัน…” เจียงจื้อหรู่พูดเสียงอ้ำ ๆอึ้ง ๆ ไม่รู้ควรพูดอะไรดี

 

เหมยเหมยคร้านจะฟังต่อเลยวางสายไปอย่างไม่เกรงใจก่อนให้ลุงเหลาพาเธอไปหาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยน แม้ฉีฉีเก๋อไม่สวยอย่างสวีจื่อเซวียนแต่ก็เป็นหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งแถมยังเป็นสาวบริสุทธิ์อีกต่างหาก ใครจะไปรู้ว่าสัตว์เดรัจฉานอย่างเฉินหมิงจะทำอะไรกับฉีฉีเก๋อบ้าง!

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนอยู่ในซอยหลังมหาวิทยาลัยที่ดูสภาพมอซอรองเท้าหลุดไปหนึ่งข้าง ผมเผ้าสยายยุ่งเหยิง พอเห็นเหมยเหมยก็น้ำตาคลอเบ้า น้ำตาน้ำมูกไหลเปรอะเปื้อนเต็มหน้า

 

อีกอย่างอิงจวี้กังเองก็อยู่ด้วย เพียงแต่อยู่ในสภาพหัวแตกเลือดออกท่าทางเจ็บตัวไม่เบา เหมยเหมยรีบให้พวกเขาขึ้นรถส่งตัวอิงจวี้กังไปทำแผลที่โรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยขณะที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนยังไม่หยุดร้องไห้

 

“หยุดร้องไห้ได้แล้ว รีบเล่าเรื่องให้ละเอียดเลย” เหมยเหมยตวาดใส่

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดพร้อมสะอื้นไปด้วย ดูท่าทางเธอจะขวัญเสียอย่างจัง ไม่ได้ดูใจกล้าเหมือนปกติแต่เหมือนระแวงอยู่ตลอดเวลา

 

ที่แท้หลายวันมานี้เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนนอนหอพักทุกวัน หนึ่งก็เพื่อเดินทางไปกว่างซีกับเพื่อนได้สะดวก สองเพื่อจับตาดูฉีฉีเก๋อเพราะกลัวเธอเข้าไปยุ่งเรื่องสวีจื่อเซวียน แต่จะคิดได้อย่างไรว่าตัวเธอกลับเข้าไปพัวพันด้วยเช่นกัน

 

อยู่ ๆหัวค่ำสวีจื่อเซวียนพูดขึ้นว่าอยากทานอาหารบ้านเกิดแต่ไม่อยากไปคนเดียวเลยชักชวนฉีฉีเก๋อกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปด้วย จอมตะกละสองคนนี้หิวพอดีเลยคิดว่าทานข้าวด้วยกันสักมื้อคงไม่เป็นไรเลยไปด้วยกัน ระหว่างทางยังเจออิงจวี้กังอีกคน

 

ทั้งสี่คนยังเดินทางไม่ถึงร้านอาหารเลยก็ถูกอันธพาลหลายคนดักไว้ รุดหน้ามาจับตัวสวีจื่อเซวียนที่แม้จะมีฉีฉีเก๋อกับอิงจวี้กังเข้าไปห้ามแต่ปรากฎว่าฉีฉีเก๋อก็โดนจับตัวไปด้วย อิงจวี้กังโดนทำร้ายจนหัวแตก

 

“แล้วเธอล่ะเป็นอะไร?” เหมยเหมยถาม

 

“ฉันอยากไปแย่งตัวยายบื้อสองคนนั่นกลับมาแต่กระชากไม่ไหวแล้วยังโดนอันธพาลพวกนั้นทำร้าย…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนร้องไห้ไปก็นวดคลึงหน้าท้องไปพลาง โดนคนพวกนั้นกระทืบใส่ที่ท้อง เจ็บชะมัดเลย

 

เหมยเหมยเลิกเสื้อผ้าด้านหน้าของเธอขึ้นพบว่าเป็นรอยฟกช้ำใหญ่ที่ดูท่าทางสาหัสไม่เบา สีหน้าถมึงทึงในฉับพลัน

 

ป้าฟางพาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไปทำแผล ลุงเหลาถาม “โทรหาคุณชายหมิงไหมครับ?”

 

ตอนนี้เฉินหมิงก็เหมือนหมาบ้า จะปล่อยให้คุณหนูไปเกี่ยวพันด้วยไม่ได้เด็ดขาด

 

เหมยเหมยรีบส่ายหน้า “ไม่ต้อง อย่าเอาเรื่องพวกนี้ไปกวนใจพี่หมิงซุ่นเลย ฉันโทรหาอาเมิ่งแล้วกัน”

 

เรื่องนี้รอช้าไม่ได้หากช้าไปหนึ่งวินาทีฉีฉีเก๋อก็อันตรายเพิ่มอีกหนึ่งวินาที เธอไม่อยากเห็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยโดยเฉพาะอีกฝ่ายคือเพื่อนของเธอ

 

แต่ช่างบังเอิญที่เสี่ยวเมิ่งผู้อยู่ติดบ้านเสมอกลับไม่อยู่สวนฟาร์ม ออกไปข้างนอกพร้อมกับเฮ่อเหลียนชิงโดยไม่มีใครทราบว่าไปที่ไหน จะกลับมาเมื่อไรก็ไม่ทราบเช่นเดียวกัน

 

ทีนี้จะทำอย่างไรดีล่ะ?

 

เหมยเหมยกัดฟัน เห็นทีคงต้องไปเองเสียแล้ว ดีที่มีฉิวฉิวกับฉาฉาอยู่ ถ้าพาลูกน้องไปมากหน่อยน่าจะไม่เป็นไรสินะ?

 

“ไม่ได้นะครับคุณหนู ในมือเฉินหมิงมีปืนอยู่ อีกอย่างลูกน้องก็เยอะ ถ้าคุณหนูไปต้องเสี่ยงแน่ ๆ” ลุงเหลาห้ามเธอไว้ เขาไม่สนใจความเป็นความตายของฉีฉีเก๋อหรอกเพราะหน้าที่ของเขาคือปกป้องคุณหนู

 

“แต่ฉีฉีเก๋ออยู่ในมือของเฉินหมิง ฉันต้องไปช่วยเขา!” เหมยเหมยเองก็ลังเลเช่นกัน จะให้เธอทนมองดูเพื่อนโดนย่ำยีรังแกเธอทำไม่ได้หรอก แต่ไปช่วยก็เสี่ยงอันตรายมากเช่นกัน เธอเองก็กลัวไม่น้อย

 

เธอกลัวว่าถ้าเป็นอะไรไปก็ไม่สามารถอยู่เคียงข้างเหยียนหมิงซุ่นได้อีก อีกอย่างเธอยังไม่ได้เป็นคุณนายเหยียนเลย!

 

“คุณหนูอยู่บ้านรอก่อน ผมพาคนไปดูลาดเลาก่อน”

 

ลุงเหลาพูดทิ้งท้ายไม่กี่ประโยคก็ขอตัวไปก่อนโดยให้ป้าฟางอยู่บ้านจับตาดูเหมยเหมยเอาไว้ห้ามให้เธอออกไป ไม่นานลุงเหลาก็กลับมาด้วยสีหน้าที่ยากจะอ่านความคิดออกได้

 

…………………….

 

ตอนที่ 1701 ถูกคนอื่นแย่งไปอีกแล้ว

 

“สถานการณ์ทางนั้นเป็นไงบ้างคะ?” เหมยเหมยถามลุงเหลา

 

“คนของเราไม่อยู่ในมือเฉินหมิงแล้วครับ ถูกบุคคลนิรนามแย่งชิงไปแล้ว” ลุงเหลาก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย นี่มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า

 

เหมยเหมยเองก็รู้สึกถึงความผิดปกติเหนือคาด ซ้ำเธอยังคิดว่าเฉินหมิงกำลังเล่นละครอยู่เสียอีก แต่ลุงเหลาเป็นถึงคนที่เหยียนหมิงซุ่นเลือกด้วยตัวเองยิ่งไม่ต้องสงสัยในความสามารถเลย ในเมื่อเขาพูดมาแบบนี้พวกฉีฉีเก๋อคงจะไม่อยู่ในมือของเฉินหมิงจริง ๆแล้วล่ะ

 

“สืบหาได้ไหมว่าใครชิงตัวไป?” เหมยเหมยกังวลมาก เพราะกลัวว่าจะเป็นศัตรูของเฉินหมิง และคงไม่ใช่พวกคนดีอะไร นั่นจะยิ่งเป็นอันตรายต่อฉีฉีเก๋อ

 

ลุงเหลาส่ายหน้า “ตอนนี้ยังสืบไม่ได้เลย ผมให้คนไปตามสืบเพิ่มเติมแล้วครับ”

 

เจียงจื้อหรู่โทรเข้ามาอีกครั้งยังตามตอแยไม่ลดละ เหมยเหมยอารมณ์ไม่ดี ไม่มีความอดทนพอที่จะปล่อยผ่านจึงพูดออกไปตรง ๆ “เป็นเพราะสวีจื่อเซวียน ครั้งก่อนหนูถึงได้บาดหมางกับเฉินหมิง ซ้ำยังนำพาความเดือดร้อนครั้งใหญ่มาให้หนูกับคู่หมั้นอีกแต่กลับไม่ได้รับคำขอบคุณจากสวีจื่อเซวียนเลยแม้แต่น้อย การทำดีแต่ไม่มีใครเห็นคุณค่าเช่นนี้ ทำไปแค่ครั้งเดียวก็น่าสะอิดสะเอียนเกินพอแล้ว!”

 

“สวีจื่อเซวียนไม่เข้าใจพวกหลักคุณธรรมหนี้บุญคุณอะไรหรอก แต่ที่จริงเขารู้สึกตื้นตันใจมากนะ…เหมยเหมยเธออย่าทะเลาะกับคนที่ไม่ค่อยรู้ความเลย ถ้าเธอไม่ช่วยเขา เขาต้องตายแน่!”เจียงจื้อหรู่ขอร้องไม่หยุด

 

“ถ้าหนูยุ่งกับเรื่องไร้สาระมากไปกว่านี้ ตัวหนูเองนี่แหละที่จะวุ่นวาย อาจารย์เจียงคะ มิตรภาพระหว่างหนูกับสวีจื่อเซวียนไม่ได้ดีถึงขั้นที่จะต้องเสี่ยงตายแทนกันได้นะคะ”

 

เหมยเหมยประชดประชัน หน่ายที่จะต้องฟังเขาพล่ามอีกจึงวางสายไปทันที

 

ฉีฉีเก๋อหายไปอย่างไร้ร่องรอย เธอก็วุ่นวายจะตายอยู่แล้ว ไหนเล่าจะเหลือเวลามาฟังเขาบ่นอีก

 

เวลาค่อย ๆผ่านไปจนตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่ม ห่างจากเวลาที่พวกฉีฉีเก๋อถูกลักพาตัวไปสามชั่วโมงแล้ว อิงจวี้กังพันศีรษะเสร็จสรรพก็ตามไปที่บ้านของเหมยเหมยด้วย พร้อมกันนั้นยังมีฉางชิงซง เขาได้รู้เรื่องจากเพื่อนร่วมชั้นที่เห็นเหตุการณ์จึงวิ่งแจ้นมาถามถึงสถานการณ์และอยู่เพื่อรอฟังข่าว

 

“รออยู่แบบนี้คงไม่ใช่วิธีที่ดีนัก พวกเราแจ้งความดีไหม?” ฉางชิงซงมีท่าทีร้อนรน หลังจากมาถึงที่นี่ก็นั่งไม่ติด เดินไปเดินมาไม่หยุดจนทุกคนเวียนหัว

 

หัวของอิงจวี้กังถูกพันพันด้วยผ้าก๊อซซึ่งดูเหมือนบาดเจ็บรุนแรงไม่เบา เขาพยักหน้า “นั่นสิ ขอให้ตำรวจช่วยตามหา พวกเรารออยู่แบบนี้ก็เสียเวลาเปล่า”

 

“เพี๊ยะ!”

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฟาดฝ่ามือลงบนแผ่นหลังเขา อิงจวี้กังกัดฟันกรอดอย่างเจ็บปวดจนหน้าเหยเก โมโหมากแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร ได้แต่ขยับไปยืนข้าง ๆอย่างน้อยใจเพื่ออยู่ให้ห่างจากยัยบ้าอำนาจนี่

 

“แจ้งความจะมีประโยชน์อะไร? ลุงเหลาคนเดียวก็ล้มตำรวจได้เป็นสิบ พวกเราต้องทำตามที่เขาบอกรออยู่ที่บ้านนี่แหละ เจ้าทึ่มฉีฉีเก๋อมีความโชคดีอยู่ ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก”

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนมีประโยคหนึ่งที่ไม่กล้าพูด หากไอ้พวกโจรนั่นข่มขืนขึ้นมาจะต้องเข้าหาแต่สวีจื่อเซวียนแน่

 

ไม่ว่าจะยังไงแม่นั่นก็สวยกว่าฉีฉีเก๋อมาก ต่อให้พวกผู้ชายปิดตาไว้ก็ต้องเลือกสวีจื่อเซวียนอยู่ดี หากว่าฉีฉีเก๋อมีไหวพริบหน่อยคงจะพ้นจากการข่มขืนไปได้

 

ส่วนสวีจื่อเซวียนนั่นแหละที่สร้างความเดือดร้อน แล้วเธอจะไม่คิดเอาตัวเข้าไปปกป้องใครจากเคราะห์ร้ายเลยเหรอ?

 

ฉางชิงซงใจเย็นขึ้นมาบ้าง รู้ว่าเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดถูก ไปหาตำรวจก็ไม่มีประโยชน์คงทำได้แค่รอข่าวจากลุงเหลา

 

เขาแอบอธิษฐานในใจ ขอให้หญิงสาวผู้น่ารักอย่างฉีฉีเก๋อกลับมาได้อย่างปลอดภัยทีเถอะ!

 

ลุงเหลาได้รับข่าวมาแล้ว “คุณหนู คนที่ชิงตัวไปคือสองลุงหลานโอหยางปินกับโอหยางสยง เพื่อนคุณหนูอยู่ในกำมือของพวกมัน”

 

เหมยเหมยกรีดร้องในใจว่าซวยแล้ว หากเป็นคนอื่นยังสามารถใช้ชื่อเหยียนหมิงซุ่นมาข่มขู่ได้ แต่พวกโอหยางปินเป็นคนของเฮ่อเหลียนเช่อ เดิมทีก็เป็นศัตรูคู่แค้นของเหยียนหมิงซุ่นอยู่แล้วเป็นเรื่องยุ่งยากเสียแล้วสิ!

 

………………………………………………………………….