เมื่อเซียวชูหรันได้ยินว่าคุณย่ามาขโมยเก็บผักจากสวนที่บ้าน ก็ยิ่งถอนหายใจอย่างจนใจพร้อมพูดว่า : “แม่ ในเมื่อคุณย่ามาเก็บ งั้นถ้าเธออยากเก็บก็ให้เธอเก็บไปเถอะนะ ก็แค่ผักพวกนี้เท่านั้นเอง”

หม่าหลันโพล่งพูดออกไปว่า : “จะพูดแบบนี้ก็ไม่ได้นะ ย่าของลูกเคยให้อะไรพวกเราบ้าง?ลูกลืมไปแล้วเหรอว่าก่อนหน้านี้เธอทำอะไรกับพวกเราไว้บ้าง?ในเวลานี้ยังมีหน้ามาขโมยเก็บผักที่บ้านของเราอีก แม่คงทนไม่ได้หรอกนะ !”

เซียวชูหรันส่ายหน้าอย่างจนใจ : “แม่ก็ไม่ต้องคิดเยอะขนาดนั้นแล้ว คุณย่าก็เห็นแค่ว่าผักที่บ้านของเรามีของดีทั้งนั้น ดังนั้นก็อยากจะเก็บผักเหล่านี้ไปกินสักมื้อ เราก็ไม่ต้องขี้เหนียวขนาดนี้”

หม่าหลันพูดอย่างผิดหวัง : “ตลอดมาลูกก็รู้แค่ว่าเห็นขี้ดีกว่าไส้ เห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนในครอบครัว”

พูดจบ เธอก็หันหลังเดินขึ้นไปชั้นบนแล้ว

แต่ว่า หม่าหลันยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเสียเปรียบอย่างมาก ผักที่ดีขนาดนี้ แม้แต่ผักอันเดียวเย่เฉินก็จะให้นายหญิงใหญ่เซียวขโมยไปไม่ได้นะ !แม่ว่าลูกสาวก็คิดว่าอะไรก็ได้!หากยอมให้นายหญิงใหญ่ขโมยได้หนึ่งครั้ง เธอจะต้องมาขโมยเป็นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 และขโมยครั้งที่ 100 อย่างแน่นอน

เพราะงั้นหม่าหลันจึงรีบเดินออกมาจากในห้อง มาถึงประตูห้องครัว ทักทายกับเย่เฉินหน่อย พูดว่า : “เย่เฉิน ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับแก ขอคุยด้วยหน่อย”

เย่เฉินพยักหน้า เดินมาถึงหน้าประตู

หม่าหลันรีบพูดด้วยน้ำเสียงที่กดต่ำว่า : “เย่เฉิน แม่ขอเตือนแกด้วยความหวังดีนะ แกทำสวนผักให้ชูหรันซะดิบดีขนาดนี้ จะต้องระวังปกป้องการขโมยนะ ฉันอยู่ร่วมกับนายหญิงใหญ่มาหลายปีขนาดนี้ เธอเป็นคนยังไง ฉันเข้าใจดี ถ้าแกยังไม่จัดการเธอ พรุ่งนี้เธอก็คงมาขโมยจนหมดเกลี้ยง”

จริงๆแล้ว เย่เฉินอยู่ที่ตระกูลเซียวมาสามปีกว่า รู้จักทุกคนในตระกูลเซียวเป็นอย่างดี

เขารู้จักนิสัยของแต่ละคนในตระกูลเชียวว่าเป็นยังไงเป็นอย่างดี

ทั้งตระกูลเซียวจากที่เขาดูแล้วนั้น นอกจากเซียวชูหรันภรรยาของเขาที่เป็นคนดีตั้งแต่เกิดแล้ว มีเพียงเซียวฉางควนที่ยังพอเยียวยาได้ ส่วนคนอื่นๆนั้น ล้วนแต่เป็นขยะทุกคน

นี่ก็รวมถึงหม่าหลันด้วย และนายหญิงใหญ่เซียว

ดังนั้น เขาก็รู้จักเป็นอย่างดี ถ้าหากตัวเองไม่ตอบโต้ออกไป นายหญิงใหญ่เซียวจะต้องเป็นอย่างที่หม่าหลันพูดอย่างแน่นอน ขโมยไปครั้งแรก ก็จะต้องมีครั้งที่สอง

ดังนั้น ในใจของเขาก็มีหนึ่งแผนการแล้ว

ตามมาด้วย เย่เฉินถามหม่าหลันว่า :“คุณรู้หรือไม่ว่านายหญิงใหญ่เซียวชอบกินผักอะไรมากที่สุด?”

หม่าหลันคิดๆดูแล้ว พูดว่า : “ถ้าพูดว่าชอบกินมากที่สุดล่ะก็ น่าจะเป็นกุยช่ายนะ!ทั้งชีวิตนี้นายหญิงใหญ่เซียวไม่ทำกับข้าว แต่ถ้าหากบอกว่าจะห่อเกี๊ยวกุยช่ายกับไข่ เธอจะลงครัวมาผสมไส้ด้วยตัวเอง ผักที่อบกินมากที่สุดก็คือกุยช่าย!”

“โอเค” เย่เฉินพยักหน้า ชอบกินกุยช่ายเหรอ งั้นก็ดีเลย

หลังจากนั้น เขาก็เดินไปที่ที่ไม่มีคนอยู่ โทรศัพท์หาหวังเจิ้งกาง

เมื่อโทรติด หวังเจิ้งกางก็เอ่ยถามเขาว่า : “อาจารย์เย่ สวนผักที่ทำเมื่อคืน ภรรยาของคุณพึงพอใจไหมครับ?”

“พึงพอใจมาก” เย่เฉินพูดว่า: “ที่ฉันโทรศัพท์มาหานาย ก็เพราะอยากจะให้นายช่วยเป็นธุระให้หน่อย”

หวังเจิ้งกางรีบพูดว่า : “อาจารย์เย่รีบออกคำสั่งมาเลยครับ”

เย่เฉินพูดว่า : “นายช่วยไปหาดอกแดฟโฟดิลที่ดีที่สุดสักสิบกว่ากระถางมาให้ฉันหน่อย แล้วก็เอาที่ดอกไม้ยังไม่บานนะ เอาแบบที่ใบยังเป็นสีเขียวนะ”

หวังเจิ้งกางคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดว่า : “อาจารย์เย่ ดอกแดฟโฟดิลนี้มีพิษนะครับ ถ้าคุณต้องการน้อยๆหน่อย คาดว่าก็ยังพอเห็นด้วยหน่อย ถ้าหากต้องการเยอะขนาดนี้ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ”

เย่เฉินยิ้มเล็กน้อย : “ฉันรู้ว่ามันมีพิษ แต่ว่านายไม่ต้องเป็นกังวลไป จัดเตรียมให้ฉันก็พอแล้ว จะต้องนำมาให้ฉันก่อนบ่ายนี้นะ”

เมื่อหวังเจิ้งกางได้ยินประโยคนี้ ก็รีบตอบตกลงทันที : “โอเคครับอาจารย์เย่ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

……

หลังจากที่นายหญิงใหญ่เซียวกลับจากการขโมยผักที่บ้านของเย่เฉินไปหนึ่งตะกร้า เฉียนหงเย่นก็มาพอดีเลย

ดังนั้น เธอก็ถามเฉียนหงเย่นว่า : “ให้แกไปซื้อเนื้อ แกซื้อมาแล้วหรือยัง?”

เฉียนหงเย่นพยักหน้า : “ไม่เพียงแค่ซื้อเนื้อนะ ยังซื้อผักมาอีกเยอะแยะเลย”

——-