หลังจากที่กินข้าวเที่ยงเสร็จ หวังเจิ้งกางก็ได้เตรียมรถบรรทุกไว้หนึ่งคัน ส่งดอกแดฟโฟดิลมาหนึ่งคันรถบรรทุก

ดอกแดฟโฟดิลที่เขาส่งมา ล้วนแต่เป็นพันธุ์ที่มีคุณภาพสูงที่งอกงามอย่างเขียวขจีมาก และทำตามเงื่อนไขของเย่เฉิน แต่ละต้นยังไม่มีการออกดอก

ดอกแดฟโฟดิลพืชแบบนี้ เติบโตมาคล้ายกับกุยช่ายมาก ตอนที่ไม่ออกดอกก็ยิ่งเหมือนมาก

คนในเมืองเองเกี่ยวกับการวิเคราะห์พืชพันธุ์ก็ใช่ว่าจะเข้าใจเป็นอย่างดีขนาดนั้น บวกกับคนส่วนใหญ่ที่เคยกินกุยช่าย เคยเห็นกุยช่ายที่ตัดมาแล้ว แต่ไม่เคยเห็นกุยฉายที่งอกจากพื้นดิน เพราะงั้นทำให้ง่ายต่อการเข้าใจผิดระหว่างกุยช่ายและดอกแดฟโฟดิล

กุยช่ายเป็นผักที่ผู้คนนิยมชมชอบ ไม่ว่าจะเป็นผัดผักหรือว่าปรุงซุป หรือว่าทำเป็นไส้ของเกี๊ยว ล้วนเป็นวัตถุชั้นดีที่จำเป็นต้องมีเลย

แต่ดอกแดฟโฟดิลสิ่งนี้ มันไม่สามารถนำมากินได้

ทำไมถึงกินไม่ได้น่ะเหรอ?เพราะดอกแดฟโฟดิลมีโคลชิซินผสมอยู่ด้วย

และในตัวโคลชิซินก็มีพิษชนิดแอลคาลอยด์

เย่เฉินได้ยินหม่าหลันพูดว่า นายหญิงใหญ่เซียวชอบกินกุยช่ายทันใดนั้นก็คิดถึงต้นออทัมโครคัสพืชชนิดนี้ขึ้นมาทันที

เขารู้ว่าหลังจากที่นายหญิงใหญ่เซียวขโมยผักครั้งแรกได้สำเร็จ ก็จะต้องมาขโมยอีกแน่นอน และจะต้องมาขโมยบ่อยๆแน่

ดังนั้นเขาจึงให้หวังเจิ้งกาง เตรียมคนงานนำต้นออทัมโครคัสเหล่านี้มาปลูกที่ข้างกำแพงทั้งหมด

แบบนี้ นายหญิงใหญ่เซียวที่อยู่นอกรั้วเหล็ก เมื่อยืนมือเข้าก็สามารถจับกำใหญ่ ขโมยได้ง่ายดายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ถ้าหากเธอขโมยดอกแดฟโฟดิลเหล่านี้ไป และคิดว่าดอกแดฟโฟดิลเหล่านี้เป็นกุยช่ายแล้วกินลงท้องไปล่ะก็ งั้นจุดจบของเธอคงน่าอนาถมากแน่ๆ

แม้ว่าจะไม่ถึงขนาดที่สามารถพรากชีวิตไปได้ แต่ก็ต้องแอดมิทที่โรงพยาบาล 3-4วัน คาดว่าคงหลีกเลี่ยงไม่ได้

ความคิดของเย่เฉินก็คือ รอให้ครอบครัวของเธอกินดอกแดฟโฟดิลจนเข้าโรงพยาบาลก่อน ใช้โอกาสตอนที่พวกเขาแอดมิทโรงพยาบาล ตัวเองก็จะให้คนเปลี่ยนรั้วเป็นรั้วกำแพงทั้งหมด หลังจากนั้นก็สร้างสวนผักของตัวเองเป็นห้องกระจก ทำแบบนี้ต่อไปก็ไม่ต้องกลัวคนจะมาขโมยแล้ว

ตอนที่รถบรรทุกเข้ามาถ่ายสินค้า นายหญิงใหญ่เซียวที่อยู่ระเบียงชั้น 3 ข้างๆบ้านเห็นเข้าพอดี

ตอนที่เธอเห็นคนงานขนย้ายพืชใบเขียวยาวกอแล้วกอเหล่า ก็รู้สึกตาสว่างขึ้นมาทันที!

คิดไม่ถึงว่าเป็นกุยช่าย!

อีกอย่างเป็นกุยช่ายที่สดใหม่เช่นนี้!

เธอก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงอาหารมื้อกลางวันที่แสนอร่อยนั่น เพราะว่ามีผักที่ขโมยมาจากบ้านของเย่เฉินแล้ว ดังนั้นอาหารทั่วๆไปมื้อนี้ กินได้อย่างเอร็ดอร่อยมาก ถึงขนาดที่ว่ารู้สึกมีสุขภาพที่ดีมาก

ตอนนี้เห็นที่บ้านของเย่เฉินมีกุยช่ายที่สดใหม่มากมายขนาดนี้มาอีกแล้ว นายหญิงใหญ่เซียวก็รู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมาก เพราะผักที่เธอชอบมากที่สุดคือกุยช่าย!

และในช่วงเวลานี้เธอก็พลัดถิ่นฐานบ้านเกิด พบเจอกับความเปลี่ยนแปลงมากมาย ถูกส่งไปยังสถานกักขังกว่าหลายวันอีก ไม่ได้กินเกี๊ยวยัดไส้กุยช่ายกับไข่มานานมากแล้ว!

ในเวลานี้สายตามองเห็นที่บ้านของเย่เฉินมีกุยช่ายชั้นดีที่สดใหม่ขนาดนี้ ความคิดแรกในสมองของเธอก็คือรีบนำมีดไปตัดมาสักสองกอ นำมาทำเกี๋ยวยัดไส้กุยช่ายกับไข่ กลางคืนจะได้กินอย่างเอร็ดอร่อยและเพลิดเพลินไปเลย!

……

บ่ายสี่โมงกว่า นายหญิงใหญ่เซียวตื่นจากการงีบหลับ สิ่งแรกที่ทำก็คือเดินมายังระเบียง ดูว่ากุยช่ายที่บ้านของเย่เฉินเป็นอย่างไรบ้างแล้ว

เห็นว่าเย่เฉินได้ปลูกกุยช่ายไว้ริมรั้วเหล็กทั้งหมดแล้ว ในใจของนายหญิงใหญ่เซียวก็ดีใจอย่างมาก

มันสะดวกกับตัวเองพอดีเลยไม่ใช่เหรอ?

ดังนั้น เธอจึงรีบเดินลงมาด้านล่าง

ในเวลานี้ เซียวฉางเฉียนและสมาชิกในบ้านอีกสี่คนกำลังนั่งดูทีวีที่ห้องรับแขก

เซียวฉางเฉียนนำทีวีในห้องว่างจากชั้นล่างย้ายขึ้นไปข้างบน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ใหญ่เท่าเครื่องนั้นที่ขายไป แต่มันก็ดีมากแล้ว

นายหญิงใหญ่เซียวพูดกับเฉียนหงเย่นว่า : “หงเย่น แกออกไป ซื้อไข่ไก่มาสักแผงนะ แล้วก็แป้งมาหนึ่งถุงด้วยนะ”

————