หม่าหลันคนทั้งคนโมโหจนแทบจะระเบิดออกมาแล้ว

เธอคิดไม่ถึงจริงๆว่า เมื่อเช้าตัวเองเพิ่งจะพูดเรื่องการป้องกันนายหญิงใหญ่กับเย่เฉินอยู่เลย ผลสุดท้ายเขาไม่เพียงแค่ไม่เอามาใส่ใจ กลับเป็นว่าซื้อกุยช่ายมาใหม่อีกมากมายแล้ว

ตอนนี้ก็ดีเลย นายหญิงใหญ่เอาไปได้หมดแล้ว

ถ้าเปรียบเทียบกับเมื่อก่อน หม่าหลันก็ไปด่าเย่เฉินตั้งนานแล้ว แต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีความกล้าหาญนี้แล้ว

ในเวลานี้ เซียวชูหรันอยู่ในห้องเอ่ยถามเย่เฉินว่า : “ที่รัก คืนนี้จะกินอะไร?”

เย่เฉินยิ้มพร้อมถามว่า : “ปกติแล้วคุณไม่สนใจเรื่องพวกนี้ไม่ใช่เหรอ?ทำไมวันนี้ถึงสนใจว่าจะกินอะไรละ?”

เซียวชูหรันยิ้มกริ่มพร้อมพูดว่า : “ฉันอยากจะไปเก็บผักที่แปลงผัก คุณบอกมาว่าคืนนี้จะทำกับข้าวอะไรฉันจะไปเก็บผักในสวนมาให้ เป็นยังไงบ้าง?โอเคไหม?”

เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “งั้นเราสองคนก็ไปด้วยกันเลย ก็เหมือนกับเมื่อเช้าไง”

เซียวชูหรันคิดถึงเรื่องเมื่อตอนเช้าที่โดยเย่เฉินขโมยจูบแรกไป ใบหน้าสวยก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นมา

เธอมองไปที่เย่เฉินอย่างเหยียดๆแวบหนึ่ง พูดอย่างเขินอายว่า : “เก็บผักน่ะได้ แต่ห้ามมารังแกฉันอีกนะ!”

เย่เฉินแสร้งทำเป็นถามอย่างไม่เข้าใจว่า : “ที่รักคุณหมายถึงอะไรเหรอ?ทำไมผมฟังไม่เข้าใจเลย รังแกอะไรกันเหรอ”

เซียวชูหรันทำเสียงไม่พอใจออกมา : “ถึงอย่างไรคุณก็รักษาระยะครึ่งเมตรเป็นต้นไปกับฉัน!”

พูดจบ ตัวเองก็หันหลังลงไปด้านล่างก่อน

เย่เฉินก็รีบตามลงไป

เมื่อสองคนมาถึงแปลงผัก เมื่อเซียวชูหรันเห็นกุยช่ายที่อยู่บนพื้นดิน ถามอย่างประหลาดใจมากว่า : “กุยช่ายนี้มาจากไหนกัน?เมื่อเช้ายังไม่มีเลยนะ”

เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “เมื่อกี้ให้เพื่อนเอามาส่งให้นะ”

เซียวชูหรันยิ้มพร้อมพูดว่า : “งั้นคืนนี้เรากินกุยช่ายผัดกุ้งกันนะ โอเคไหม?”

เย่เฉินรีบพูดว่า : “กุยช่ายยังโตไม่เต็มที่เลย ตอนนี้ยังกินไม่ได้นะ”

“ห๊ะ?” เซียวชูหรันถามอย่างประหลาดใจว่า : “ฉันก็เห็นว่าพวกมันเติบโตได้ดีเลยนะ ทำไมถึงกินไม่ได้ล่ะ?”

เย่เฉินพูดว่า : “คุณไม่เข้าใจหรอก กุยช่ายนี้มองจากตอนนี้มันดีมาก แต่ก็ยังไม่ถึงช่วงเวลาที่สามารถกินได้นะ คุณรออีกหน่อย”

เซียวชูหรันพยักหน้า พูดว่า : “งั้นก็ได้ งั้นคืนนี้เรามากินมะเขือย่างกันนะโอเคไหม?แล้วก็อยากกินหมูผัดไข่ แตงกวาใส่เห็ดหูหนู”

“โอเค” เย่เฉินยิ้มพร้อมพูดว่า : “ทั้งสวนผักแล้วนอกจากกุยช่ายที่ไม่สามารถกินได้ อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาอะไร”

สองสามีภรรยาเก็บผักเหล่านี้ นำกลับมาทำกับข้าวในครัว เซียวชูหรันก็ตกหลุมรักความรู้สึกแบบนี้แล้ว ทำอาหารกันชุลมุนภายในครัวกับเย่เฉิน ความรู้สึกแบบนี้มันดีมากเลยทีเดียวนะ

ในเวลานี้ตระกูลเซียวก็ยุ่งอย่างมาก

เพราะว่าคนเยอะ และนายหญิงใหญ่เซียวตัดกุยช่ายมาค่อนข้างเยอะ เพราะงั้นในเวลานี้ทั้งห้าคนต่างก็ยุ่งวุ่นวาย

นายหญิงใหญ่เซียวกำลังยุ่งอยู่กับแป้ง เซียวฉางเฉียนยุ่งอยู่กับการสับเนื้อหมูทำไส้เกี๊ยว เฉียนห่งเย่นยุ่งกับการผัดไข่ เซียวไห่หลงและเซียวเวยเวยยุ่งอยู่กับการล้างกุยช่าย

ก็แค่เซียวฉางเฉียนค่อนข้างหดหู่ เขาทำไส้หมูสับไปพลาง พูดบ่นไปพลางว่า : “ทำไมถึงไม่ซื้อหมูสับที่คนเขาทำไว้เสร็จแล้วมาละ ทำไมต้องซื้อเนื้อหมูมาทั้งชิ้นเพื่อมาสับเองด้วย?ตอนนี้แขนทั้งสองแขนของผมปวดเมื่อยไปหมดแล้ว”

เฉียนหงเย่นโพล่งพูดออกไปว่า : “แม่บอกว่าเนื้อหมูที่ออกมาจากเครื่องบด ไม่หอมอร่อยเท่าเนื้อหมูที่สับด้วยฝีมือของคนหรอกนะ”

“หยุดพูดไร้สาระ” เซียวฉางเฉียนพูดอย่างเบะปากดูถูกว่า : “เป็นเนื้อหมูเหมือนกันไม่ใช่เหรอ สับด้วยฝีมือของคนแล้วมันจะต่างแตกกันยังไง?”

ในเวลานี้ ก็ได้ยินเสียงด่าทอจากด้านหลังของนายหญิงใหญ่ว่า : “แกจะไปรู้เรื่องอะไร!แกไปถามคนที่มีอายุดูสิ ใครไม่รู้ว่า มีเพียงสับด้วยฝีมือคนถึงจะหอมอร่อย?”

————