ตอนที่ 2063 ปะทะเทียนชิงเย่

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2063 ปะทะเทียนชิงเย่

 

“ครืนนน” แสงสว่างซัดผ่านไปทั่วบริเวณ และคลื่นผันผวนที่ขัดแย้งกันของอานาจแห่งกฎเกณฑ์ของสวรรค์และปฐพี่ได้ระเบิดออกมา

 

นอกจากอ่านาจแห่งกฎเกณฑ์ปฐพี อ่านาจแห่งกฎเกณฑ์สีธาตุทั้งสี่กําลังขัดแย้งกันอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นคลื่นปะทุที่น่าสะพรึงกลัว

 

ส่วนซื้อค่งฮ่าวน่ะ?

 

ภายใต้คลื่นระเบิดที่เกิดขึ้น กายหยาบและดวงวิญญาณของเขาได้แหลกสลายหายไปแล้ว

 

นับว่าน่าเหลือเชื่อมาก ที่ราชาในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางแม้แต่น้อย!

 

ใครกันจะทําให้เชื่อได้ลง?

 

ในยุทธภพจะมีจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางที่แข็งแกร่งขนาดนี้อยู่ได้อย่างไร?

 

แววตาของเทียนชิงเย่กลายเป็นเยือกเย็นและโหดเหี้ยม

 

ก่อนหน้านี้การโจมตีของหลิงฮันอ่อนแอว่าซื้อค่งฮ่าวเล็กน้อย ซึ่งนั่นทําให้เขารู้สึกว่าความแข็งแกร่งของหลิงฮันทัดเทียมกับตัวเขาเองในระดับพลังเดียวกันเท่านั้น หรือต่อให้ถ้าหากพลังบ่มเพาะของหลิงฮันยกระดับขึ้นมาเป็นระดับตัดวิญญาณสวรรค์เหมือนกันเขาก็ยังมั่นใจอยู่ดีว่าตนเองนั้นต้องแข็งแกร่งกว่าอีกฝ่ายเล็กน้อย

 

แต่ทว่าการที่หลิงฮันสามารถสังหารซื้อค่งอ่าวได้ในหนึ่งกระบวนท่าด้วยพลังบ่มเพาะระดับตัดวิญญาณหยางนั้นได้ทําให้ความมั่นใจของเขาพังทลายไม่มีชิ้นดี

 

เขาไม่คิดว่าตนเองในระดับดวิญญาณหยางจะทําเช่นนั้นได้

 

หากเขาทําไม่ได้แต่หลิงฮันท่าได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าความต่างชั้นของเขากับอีกฝ่ายมันชัดเจนสุดๆเลยหรอกรี?

 

“ฮีม ช่างกลนัก!” ที่ด้านหลังเทียนซึ่งเย่ ผู้ติดตามคนหนึ่งหายจากอาการตกตะลึงและชี้นิ้วค่ารามไปยังหลิงฮัน

 

เขาไม่ใช่แค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไป แต่มีศักยภาพเป็นถึงราชาในหมู่ราชา

 

ในความคิดของเขา ถึงแม้ดูจากการโจมตีเมื่อครู่นี้เขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงฮัน แต่หากถูกการโจมตีแบบเมื่อครู่โจมตีใส่ อย่างน้อยเขาก็คงไม่ถึงตายแต่ได้รับบาดเจ็บเท่านั้น เพราะงั้นตราบใดที่เขาสามารถต้านทานการโจมตีของหลิงฮันได้และไม่ตายทันทีเทียนชิงเต่ก็จะต้องออกหน้าแทนเขาแน่นอน

 

“ซื้อคงฮ่าวแค่ต้องการแลกเปลี่ยนวรยุทธกับเจ้าเท่านั้น แต่เจ้ากลับเลือกที่จะสังหารเขาช่างมีจิตใจที่โหดเหี้ยมนัด!” ผู้ติดตามคนเดิมกล่าวต่อ

 

“งั้นรึ?” หลิงฮันส่ายหัว การโจมตีครั้งแรกซื้อค่งฮ่าวแค่ต้องการสร้างความอัปยศให้เขาจริงๆแต่ในการโจมตีครั้งที่สองเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายโจมตีด้วยจิตสังหารที่รุนแรง ซึ่งยังนับว่าเป็นการแลกเปลี่ยนวรยุทธอยู่อีกรี?

 

“ข้าสังหารใครแล้วจะทําไม?” หลิงฮันกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น ในเมื่ออีกฝ่ายลงมืออย่างโหดเหี้ยมก่อนก็ไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องปรานี

 

“ในเมื่อเจ้าเป็นคนฆ่า… ก็ต้องแลกคืนด้วยชีวิต!” ผู้ติดตามคนเดิมกล่าวอย่างเย็นชา

 

“มอบชีวิตของเจ้ามา!” ผู้ติดตามคนอื่นๆ เองก็ส่งเสียงตะโกนตาม

 

เทียนชิงเยี่ยังคงแน่นิ่งไม่กล่าวอะไร แต่ดวงตาของเขาได้ส่องประกายอย่างเย็นชาและโหดเหี้ยม

 

ถ้าพลังต่อสู้ของหลิงฮันคืออย่างในตอนแรก เขาก็คงไม่แยแสต่อหลิงฮันอยู่ดี เพราะเขามั่นใจว่าในระดับพลังเดียวกันตัวเขาย่อมไม่แพ้ใคร เพียงแค่หลังจากที่ได้เห็นพลังต่อสู้ที่แท้จริงของหลิงฮันแล้วเทียนชิงเต่ก็ไม่มีความมั่นใจที่ว่าเหลืออีกต่อไป

 

หากให้สู่ในระดับพลังเดียวกัน… เขาจะต้องแพ้หลิงฮันอย่างแน่นอน!

 

อย่าเพิ่งเอ่ยถึงในระดับพลังเดียวกันเลย ตราบใดที่หลิงชั้นยกระดับพลังบ่มเพาะขึ้นมาเป็นระดับตัดวิญญาณหยินเกรงว่าอีกฝ่ายก็คงแข็งแกร่งพอที่จะก่าราบเขาได้แล้ว

 

ความเป็นจริงนี้ทําให้จิตสังหารของเขาพลุ่งพล่าน ในฐานะจักรพรรดิไร้พ่าย การที่ต้องมาถูกคนอื่นกําราบเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจทําใจยอมรับได้

 

“ใครที่สังหารคนของข้า ไม่มีวันได้กลับออกไปครบสามสิบสอง!” เทียนชิงเย่กล่าว “จงพลีชีพตนเองซะอย่างน้อยข้าก็จะยอมให้เจ้าหลงเหลือซากศพเอาไว้ในสภาพที่สมบูรณ์

 

หลิงฮันหัวเราะ “แค่สังหารสุนัขที่ดีแต่เห่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไรกัน?”

 

“ถ้างั้นก็ถือว่าเจ้าเลือกความตายให้ตนเองเสียแล้ว!” เทียนซึ่งเย่เค้นเสียงและเคลื่อนไหวร่างกายไปปรากฏที่ด้านหน้าหลิงฮันพร้อมกับกางนิ้วทั้งห้าคว้าไปจับล่าคอ

 

เขาเป็นจักรพรรดิในระดับตัดวิญญาณสวรรค์ นิ้วที่ยืนออกไปถึงรวดเร็วและเด็ดขาดมากอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ที่น่าสะพรึงกลัวสั่นสะท้านออกมาอย่างรุนแรง จนต่อให้ศัตรูเป็นราชาในหมู่ราชาระดับตัดวิญญาณสวรรค์ก็สามารถถูกกราบได้ในพริบตา

 

หลิงฮันตอบโต้อย่างไม่ลังเล เขาคํารามเสียงต่ําพร้อมกับโคจรแก่นพลังมหาพินาศระเบิดพลังออกมาจากหน้าอก

 

ถึงแม้เทียนชิงเย่จะรับรู้แล้วว่าแก่นพลังมหาพินาศนั้นเป็นการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว แต่เขาก็ไม่คิดจะล่าถอยมือขวาของเขายังคงยื่นออกไปปะทะกับแก่นพลังมหาพินาศ

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

คลื่นพลังของอานาจแห่งกฎเกณฑ์ระเบิดเป็นวงกว้างอย่างบ้าคลั่ง และแปรสภาพกลายเป็นตราประทับมากมายที่ส่องสว่างไปทั่วพื้นที่

 

หลิงฮันและเทียนชิงเต่ล่าถอยหลังพร้อมกันคนละหนึ่งร้อยก้าว แต่พริบตาต่อมาก็ทั้งสองก็พุ่งทะยานเข้าทํานั่นกันอย่างดุเดือด

 

ชั้นบรรยากาศถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ จนมีช่องว่างมิติปรากฏขึ้นมามากมาย บริเวณโดยรอบกลายเป็นสีดําสนิทแต่ทุกครั้งที่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสองเข้าปะทะกัน คลื่นแสงที่ส่องสว่างจะปะทุออกมาและพรั่งพรูเจิดจรัสไปถึงสวรรค์ชั้นฟ้า

 

ผู้ติดตามของเทียนชิงเต่ตกตะลึงจนพูดไม่ออก ที่เป็นการต่อสู้ระหว่างจอมยุทธระดับตัดวิญญาณจริงๆรี?

 

ช่างน่าเหลือเชื่อมากที่เจ้าหนูผู้นั้นสามารถต่อสู้อย่างทัดเทียมกับเทียนชิงเต่ได้ ทั้งๆ มีระดับพลังเพียงตัดวิญญาณหยาง!

 

แค่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ได้ก็นับว่าน่าอัศจรรย์มากแล้วซึ่งคนที่ทําแบบนั้นได้มีแค่จักรพรรดิที่ไร้เทียมทานอย่างเทียนชิงเย่ หรือพวกเซียโหวถงเท่านั้นแต่คู่ต่อสู้ที่หลิงฮันกําลังเผชิญหน้าอยู่นั้นไม่ใช่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปแต่เป็นเทียนชิงเย่

 

สัตว์ประหลาด… นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!

 

จักรพรรดิไร้เทียมทานทั้งสองเข้าน้ํานั่นกัน ร่างของพวกเขาเคลื่อนไหวไปมาอย่างรวดเร็วจนแม้แต่จอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปที่มองดูอยู่ก็ยังรู้สึกมีนหัวอยากอาเจียน

 

“ปัง ปัง ปัง การปะทะส่งผลให้โลหิตสาดกระจายออกมา ซึ่งมีทั้งโลหิตที่เป็นของหลิงฮันกับเทียนชิงเย่

 

เหล่าผู้ติดตามทั้งแปดยิ่งตกตะลึงมากขึ้นไปอีก… เทียนชิงเต่ได้รับบาดเจ็บ!

 

หลังจากการปะทะผ่านไปหนึ่งน้อยกระบวนท่า จักรพรรดิไร้เทียมทานทั้งสองก็แยกห่างออกจากกันราวๆ ยสิบฟุตพวกเขาหันมองหน้ากันโดยที่ไม่ลงมือโจมตีต่อ

 

ที่เทียนชิงเต่ไม่ลงมือก็เพราะเขาตระหนักถึงสถานการณ์ของหลิงฮันดีกว่าใคร กายหยาบของศัตรูตรงหน้านี้แข็งแกร่งถึงขนาดที่แม้จะรับกระบวนท่าของเขาไปร้อยครั้งแล้ว ก็ยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นส่วนทางด้านของเขานั้น แม้เขาจะรับกระบวนท่าของหล็งฮันน้อยกว่าที่หลิงฮันรับกระบวนท่าของเขาไปแต่ด้วยความ แข็งแกร่งของกายหยาบที่ต่างชั้นเกินไปทําให้บาดแผลที่เขาได้รับก็ไม่ได้เบาไปกว่าหลิงฮัน

 

ถ้าหากยังสู้ต่อไป เขาอาจจะพ่ายแพ้และสิ้นชีพได้เลย!

 

แน่นอนว่าเขาไม่มีทางยอมให้เป็นแบบนั้นจึงได้หยุดโจมตี

 

ส่วนทางด้านหลิงฮันนั้น ที่เขาไม่ลงมือต่อก็เพราะปราณก่อเกิดถูกเผาผลาญไปในจํานวนมหาศาลจนไม่สา มารถใช้แก่นพลังมหาพินาศได้อีกต่อไป

 

ด้วยสถานการณ์ที่ลงเอยเช่นนี้ ทั้งสองจึงหยุดนิ่งและมองหน้ากัน

 

“นายท่านเทียนกําราบเจ้าหนูนั่นไม่ได้!”

 

“ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายเป็นเพียงตัวตนระดับตัดวิญญาณหยางเท่านั้น!”

 

“พระเจ้า… ในยุทธภพที่สัตว์ประหลาดแบบนั้นอยู่ได้อย่างไร?

 

ผู้ติดตามทั้งแปดเอามือกุมหัวและอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

 

“ข้าจะยอมปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อไปสักพัก และจะช่วงชิงชีวิตของเจ้าอีกครั้งในอนาคต!” เทียนชิงเย่กล่าวอย่างมืดมน

 

“เหอะ!” หลิงฮันยิ้มเหยียดหยาม “หากเป็นการต่อสู้ในระดับเดียวกัน ข้าสามารถบดขยี้เจ้าได้เพียงหนึ่งมือ!”

 

เทียนชิงเย่ชะงักเบาๆ นี่เป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะหลั่งฮันมีช่องว่างที่จะพัฒนาได้มากกว่าเขาจริงๆ จิตสังหารของเขาพรั่งพรูไหลทะลักออกมาทันที ศัตรูที่น่าหวาดหวั่นเช่นนี้จําเป็นต้องจํากัดทิ้งเสียแต่ๆเนิ่นๆ ไม่เช่นนั้นในอนาคดโอกาสเหลืออยู่อีกต่อไปแล้ว

 

และในจังหวะนั้นเอง กลุ่มคนที่อีกหนึ่งก็เดินมาถึงหุบเขา โดยมีผู้นํากลุ่มคือสตรีที่งดงามน่าหลงใหล