เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ถามอย่างแปลกใจว่า : “คือคุณไปตัดดอกแดฟโฟดิลที่คนอื่นเขาปลูกไว้ในบ้านงั้นเหรอ?”

“ใช่ไง!” นายหญิงใหญ่เซียวโพล่งพูดออกไปว่า : “เขาปลูกดอกแดฟโฟดิลไว้ตามกำแพงข้างหน้า ฉันคิดว่าเป็นกุยช่ายก็เลยตัดกลับมากินที่บ้าน แล้วก็โดนรับพิษแล้ว คุณว่าเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมเหรอ?”

เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์พูดอย่างจนใจว่า : “ขอโทษนะครับคุณผู้หญิง ในกฎหมายของเราไม่ได้สั่งห้ามไม่ให้ประชาชนปลูกดอกแดฟโฟดิลในลานบ้านของตัวเองนะ เพราะงั้นคนอื่นปลูกดอกแดฟโฟดิลในบ้านของตัวเองนั้นไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้น สิ่งสำคัญก็คือ ทำไมคุณต้องเข้าไปในลานบ้านของคนอื่นด้วย ตัดดอกแดฟโฟดิลบ้านคนอื่นไปกินเป็นกุยช่าย?คุณเข้าข่ายบุกรุกและขโมยทรัพย์สินในบ้านของผู้อื่นนะ”

“เล่นตลกอะไรกันเนี่ย?!” นายหญิงใหญ่เซียวเอ่ยถามอย่างโกรธเคืองว่า : “ตอนนี้ฉันได้รับพิษนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วยังกลายเป็นฉันที่เข้าข่ายอาชญากรรมเหรอ?”

เจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์พูดอย่างจริงจังว่า : “ถ้ามีคนเขาไปที่บ้านของคุณ ขโมยรถของคุณไป แล้วรถเกิดอุบัติเหตุ เขาก็สามารถฟ้องร้องว่ารถของคุณมีปัญหาได้งั้นเหรอ?”

“นี่……” นายหญิงใหญ่เซียวไร้คำพูดตอบกลับไปชั่วขณะ

เธอถึงจะตระหนักถึง เย่เฉินปลูกดอกแดฟโฟดิลในลานบ้านไม่ใช่ปัญหาอะไร ปัญหาอยู่ที่ตัวเองไม่สามารถไปขโมยดอกแดฟโฟดิลในบ้านของคนเขาได้

ดูเหมือนว่าเย่เฉินคนนี้จะคิดแผนการไว้ล่วงหน้าแล้ว จงใจเอาดอกแดฟโฟดิลที่มีลักษณะคล้ายกุยช่ายมาปลูกไว้ในลานบ้าน แล้วจงใจดึงดูดให้ตัวเองไปตัด และเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น!

คิดมาถึงตรงนี้ ในใจของนายหญิงใหญ่เซียวก็รู้สึกเกลียดชังมาก!

นี่ก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าถูกเย่เฉินคิดบัญชีครั้งนี้ได้อย่างโหดเหี้ยมแล้วไม่ใช่เหรอ?

และสมาชิกทั้งห้าคนของครอบครัวตัวเองก็มาโรงพยาบาลทั้งหมด ก็ทำได้เพียงถูกเอารัดเอาเปรียบ แต่ก็บอกใครไม่ได้ ไม่สามารถไปหาเรื่องเขาได้เลย!

ไอ้หมอนี่มันสารเลวจริงๆ!

หมอก็ฟังได้เข้าใจแล้ว ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง ในใจก็รู้สึกรังเกียจสมาชิกทั้งห้าคนในครอบครัวนี้อย่างมาก

คิดไม่ถึงว่าจะแอบไปขโมยตัดดอกแดฟโฟดิลที่บ้านของคนอื่น กินเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นกุยช่ายถึงได้รับพิษจนถูกหามส่งโรงพยาบาล น่าขายหน้าชะมัด

ดังนั้น เธอก็พูดอย่างเนิบๆว่า : “งั้นตอนนี้ฉันจะพูดอาการของพวกคุณแล้วกันนะ เพราะว่าฉันได้ทำการล้างท้องให้กับพวกคุณแล้ว เพราะฉะนั้นปัญหาใหญ่ๆไม่มีอะไร แต่ว่าดอกแดฟโฟดิลออกฤทธิ์ในเลือด ดังนั้นขั้นตอนต่อไปฉันจะต้องทำการให้น้ำเกลือกับพวกคุณ เพื่อทำการล้างพิษในเลือดของคุณ ”

เมื่อนายหญิงใหญ่ได้ยินประโยคนี้ ก็รีบพูดทันทีว่า : “ดีๆๆ คุณรีบจัดยามาให้พวกเราเลย ต้องการใช้ยาที่ดีที่สุด อย่าใช้ยาที่ไม่ได้คุณภาพทำแบบลวกๆให้เราเด็ดขาด ”

บุคลากรทางการแพทย์ชำเลืองมองนายหญิงใหญ่เซียวแวบหนึ่ง พูดอย่างเนิบๆว่า : “วางใจเถอะ โรงพยาบาลของเราเป็นโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน เข้มงวดกับการใช้ยา ไม่มีทางเกิดเรื่องของการใช้ยาที่ไม่ได้คุณภาพแน่นอน ”

นายหญิงใหญ่เซียวถอดหายใจอย่างโล่งอก : “งั้นก็ดี งั้นก็ดี……”

หลังจากนั้น ในเวลานี้ มีบุคลากรทางการแพทย์คนหนึ่งเดินเข้ามา ยื่นใบตรวจให้กับหมอท่านนั้น

หมอคนนั้นหยิบใบรายงานการตรวจขึ้นมา ขมวดคิ้วแน่นพร้อมเอ่ยปากถามว่า : “พวกคุณใครชื่อเฉียนหงเย่น?”

เมื่อได้ยินประโยคนี้ คนในตระกูลเซียวต่างก็อึ้งไปชั่วขณะ แล้วเฉียนหงเย่นก็เอ่ยปากถามด้วยความสงสัยว่า : “ฉันเอง ทำไมเหรอคะ?”

หมอคนนั้นมองไปยังเฉียนหงเย่น พูดอย่างจริงจังว่า : “คือแบบนี้นะ เพราะว่าต้องใช้ยาในการสังเคราะห์ดอกแดฟโฟดิลที่อยู่ในร่างกายของคุณ ดังนั้นเกี่ยวกับเรื่องการใช้ยาและผลข้างเคียง ฉันจะต้องอธิบายให้คุณฟังอย่างละเอียด เพราะว่าคุณเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อายุมาก สตรีที่มีครรภ์จะมีการควบคุมปริมาณยาอย่างเข้มงวด ไม่อย่างนั้นอาจจะส่งกระทบทำให้เด็กในท้องของคุณเกิดออกมาผิดปกติได้ ดังนั้นเราจึงใช้ยาในปริมาณที่น้อยมากให้กับคุณ ทำแบบนี้การฟื้นตัวของคุณก็อาจจะล่าช้ากว่าคนอื่นๆสักหน่อย”

เล่นตลกอะไรกันเนี่ย?

หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุมาก?!

——–