คืนนั้นภายในราชวังนั้นปกคลุมไปด้วยความเงียบงันมีเพียงเสียงฝีเท้าของทหารยามและแมลงกลางคืนทั้งหลาย
แต่แม้ว่าภายนอกของวังชีวานิรันดร์มันจะดูเปลี่ยวเพียงใดแต่ภายในนั้นมันกลับเปี่ยมล้นไปด้วยทหารทุกตารางเมตร
ด้านนอกห้องนอนขององค์ชายรองนั้นมันมีทหารพลังฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นปลายเดินตระเวนอยู่ไม่ขาด
และเหล่ายอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางนั้นยิ่งมีมากจนเกินนับได้
เวลานี้วังชีวานิรันดร์มันอยู่ในสถานะราวกับพร้อมรบศึก!
ในมุมห้องนอนทั้งสี่มุมนั้นมันมีทหารชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุดยืนประจำอยู่พร้อมดาบในมือ
หากมันมีการเคลื่อนไหวใดๆ ผิดแปลกนั้นพวกเขาย่อมจะสังหารผู้บุกรุกนั้นลงทันที!
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นมิใช่ทหารทั้งหลายนั้น
ที่พึ่งสำคัญที่สุดขององค์ชายรองนั้นมันคือหลู่หยุนที่อยู่ในห้องข้างๆ ต่างหาก!
ไม่มีใครเชื่อว่าจะมีใครหลุดรอดผ่านสายตาของหลู่หยุนเข้ามาได้!
แน่นอนว่าตัวองค์ชายรองย่อมจะนอนไม่หลับไปด้วยในคืนนี้
เขานั้นนั่งลงบนที่นอนอย่างนั้นด้วยสายตาเหม่อลอยอย่างไม่อาจคาดเดาได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ภายในหัว
“ทำไมองค์ชายไม่นอนเสียหน่อยเล่า? เวลานี้อาจารย์หยุนท่านเองก็ลงมาช่วยปกป้องแล้ว เจ้าวายร้ายนั้นย่อมจะไม่กล้าเข้ามาเป็นแน่!” คนรับใช้ขององค์ชายรองนั้นอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
องค์ชายรองจึงตอบกลับไปอย่างรำคาญใจ “เจ้าออกไปก่อน ให้ข้าได้อยู่เงียบๆ คนเดียว!”
คนรับใช้นั้นได้แต่ต้องส่ายหัวเดินจากไป
องค์ชายรองนั้นนั่งเหม่อมองดูด้านนอกด้วยความกังวลอย่างสุดหัวใจ
“ให้ตายสิ! อาจารย์หยุนเองก็อยู่แค่ห้องข้างๆ นี้ทำไมข้ายังรู้สึกกลัวจนตัวสั่นไม่หยุดเช่นนี้? หรือว่าเจ้าเด็กคนนี้มันจะมีพลังเหนือฟ้าทะลุดินได้จริง?” องค์ชายรองบ่นขึ้นมา
“ไม่ถึงขั้นเหนือฟ้าทะลุดินหรอก แต่แค่ราชวังนี้ข้าย่อมจะเข้ามาได้ราวกับเป็นบ้านตนเอง แน่นอนว่าการสังหารเจ้านั้น… มันยิ่งง่ายกว่าเสียด้วยซ้ำ! อย่าได้คิดขยับ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะตาย!”
ในเวลานั้นเองที่มันเกิดเสียงหนึ่งขึ้นมาตอบคำบ่นขององค์ชายรอง
สีหน้าขององค์ชายรองซีดขาวลงและกำลังจะลุกขึ้นยืนแต่เมื่อได้ยินคำเตือน ร่างของเขาก็ต้องหยุดเคลื่อนไหวลง
ขนบนร่างของเขามันลุกตั้ง
เสียงนี้มันย่อมจะเป็นเสียงเย่หยวนแล้ว
จากนั้นมันก็ค่อยๆ ปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้นมายิ้มให้แก่เขา
คนผู้นี้มันจะเป็นใครไปได้นอกจากเย่หยวน?
องค์ชายรองนั้นสั่นสะท้านไปทั้งใจ ก่อนจะหันไปมองดูหน้าทหารยามพลังชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นสุด
รอบๆ ห้องทั้งสี่มุมและกลับพบว่าพวกเขานั้นยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
นี่มัน… เป็นไปได้อย่างไร?”
และมิใช่แค่คนทั้งสี่นั้นแม้แต่อาจารย์หยุนที่อยู่ห้องข้างๆ นั้นเองก็ไม่คิดจะตอบสนองใดๆ ต่อการปรากฏตัวของเย่หยวน!
ความตกตะลึงของเขาในเวลานี้มันมากมายจนเกินกว่าที่จะอธิบายออกมาได้!
เย่หยวนนั้นยืนอยู่ตรงหน้าเขาแท้ๆ แต่จะบอกว่าคนทั้งหลายนั้นไม่เห็นหรือ?
“จ-เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?” องค์ชายรองถามขึ้นมาอย่างหวาดกลัว
เขานั้นพยายามเร่งเสียงพูดให้คนทั้งหลายได้ยิน
แต่ว่ามันก็ยังไม่มีใครสนใจ!
มันเป็นไปได้อย่างไร?
เย่หยวนมองดูเขาด้วยรอยยิ้ม “แน่นอนว่าข้าก็แค่เดินเข้ามา! อย่าได้หวังพึ่งพวกมันเลย พวกมันไม่เห็นข้าหรอกและพวกมันก็ไม่เห็นเจ้าด้วยในเวลานี้! อ่า แล้วก็เฒ่าที่ห้องข้างๆ นี่เองข้าก็ไปเจอมาแล้ว แต่ดูเหมือนเขาเองก็จะไม่เห็นข้าเช่นกัน”
ตะลึง!
กลัว!
ไม่อยากเชื่อ!
องค์ชายรองนั้นแทบจะสิ้นสติลงไปเสียตรงนี้
เวลานี้สติของเขานั้นแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว!
คนผู้นี้ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแท้ๆ แต่คนอื่นๆ นั้นกลับทำเหมือนว่าเขาเป็นแค่อากาศธาตุ!
แต่วินาทีต่อมาเขาก็ต้องเบิกตากว้างร้องขึ้นมา “ก-กฎแห่งห้วงมิติ!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ใช่แล้ว มันคือกฎแห่งห้วงมิติ! วิชานี้มีนามว่าซ่อนมิติ ตราบเท่าที่ข้าไม่คิดปลดปล่อยคลื่นพลังของตนออกไปพวกเขาทั้งหลายก็ย่อมจะไม่มีทางหาข้าพบ! แล้วเวลานี้ตัวเจ้าเองก็อยู่ในซ่อนมิติเช่นกันพวกเขาทั้งหลายจึงไม่อาจจะได้ยินคำสนทนาของเรา ข้าเตือนเจ้าไว้ก่อนเลยว่าอย่าได้คิดปลดปล่อยพลังออกไป ไม่เช่นนั้นจะตายเอา”
องค์ชายรองที่กำลังคิดจะปลดปล่อยพลังของตนออกมาต้องหยุดตัวลงกลางอากาศทันทีที่ได้ยินคำเตือนของเย่หยวน
เขานั้นไม่กล้าจะขยับจริงๆ!
เย่หยวนกล่าวขึ้นมาต่อ “ข้านั้นแค่มาบอกว่ากฎแห่งห้วงมิติของข้ามันแข็งแกร่งแค่ไหน! จากนี้เจ้าจะไปจัดการตระกูลถังหรือส่งคนไปสังหารข้าก็แล้วแต่ แต่จำไว้เถอะว่าเจ้าจะได้ตายคาห้องนอนของตนเองเข้าสักวัน!”
สีหน้าขององค์ชายรองซีดขาวลงทันที คำขู่ของเย่หยวนนี้มันเหมือนตัวเขามีมีดจ่ออยู่ที่คอตลอดเวลา
คนผู้นี้มันอันตรายเกินรับมือ!
“เรื่องวันนี้เจ้าก็อย่าไปพูดบอกใครให้มากความ! ไม่เช่นนั้นข้าอาจจะทำอะไรเข้าก็ได้ อ่า จริงด้วย การเดิมพันของเรานั้นถือว่าข้าชนะแล้ว อย่าลืมให้คนเอาสมุนไพรไปส่งที่บ้านตระกูลถังด้วยเล่า ข้าไปก่อนล่ะ เจ้าเรียกคนมาได้แล้ว”
พูดจบร่างของเย่หยวนก็จางหายไปต่อหน้าต่อตา
วินาทีที่เย่หยวนจากไปนั้นองค์ชายรองก็สูดหายใจเข้าลึกทันที เป็นเวลานี้เองที่เขาได้สัมผัสว่าร่างกายของเขามันเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อแค่ไหน
แค่ไม่กี่อึดใจที่คุยกันนี้เย่หยวนก็ทำให้เขาแทบสิ้นสติลงได้!
เวลานี้ทหารยามทั้งสี่ที่ได้เห็นจึงต้องรีบวิ่งเข้ามาหาตัวองค์ชายรอง
“องค์ชายรองเป็นอะไรไปหรือ?” ทหารยามนั้นเข้ามาประคองร่างของเขาไว้
ในเวลาเดียวกันนั้นประตูจากห้องข้างๆ มันก็เปิดขึ้นก่อนจะปรากฏตัวหลู่หยุนพุ่งเข้ามาตรวจสอบภายในห้องนอนขององค์ชาย
เขานั้นมองดูรอบห้องก่อนจะหันไปมององค์ชาย “เกิดอะไรขึ้น?”
องค์ชายรองนั้นยิ้มแห้งๆ ตอบกลับหลู่หยุนไป “เขา… กลับไปแล้ว!”
สีหน้าของหลู่หยุนและทหารยามทั้งสี่นั้นเปลี่ยนสีไปทันทีก่อนจะร้องขึ้นมาพร้อมๆ กัน “เป็นไปไม่ได้!”
ทหารยามคนหนึ่งกล่าวขึ้นมา “ไม่มีใครปรากฏขึ้นในห้องนอนนี้ทั้งสิ้น มีหรือที่เขาจะมาและกลับไปแล้วได้?”
หลู่หยุนกล่าวขึ้นเสริม “ต่อให้เจ้าเด็กคนนั้นมันจะมากฝีมือหลบสายตาของพวกทหารมาได้แต่มันก็ย่อมจะไม่มีทางหลบสายตาของเฒ่าคนนี้ไปได้!”
องค์ชายรองยิ้มแห้งๆ ตอบกลับไป “มันคือ… กฎแห่งห้วงมิติ! เขานั้นยืนคุยอยู่กับข้าตรงนี้จริงๆ แต่ตอนที่ข้าพูดกับเขานั้นพวกท่านทั้งหลายกลับไม่มีใครได้ยินเสียงของเราเลย ไม่มีใครจะเห็นถึงตัวตนของเขาได้ด้วยซ้ำ! อาจารย์หยุน เขานั้นถึงขั้นบอกว่าเขาได้เดินไปสำรวจดูในห้องของท่านแล้วด้วยซ้ำ!”
หลู่หยุนหน้าซีดลงพร้อมด้วยจิตใจที่สั่นสะท้าน
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางคนหนึ่งเดินผ่านหน้าเขาแต่ตัวเขานี้กลับไม่อาจสัมผัสถึงได้?
มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
แต่สีหน้าขององค์ชายรองนั้นมันย่อมจะไม่อาจปิดบังได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังไม่ต้องมาโกหกอะไรไร้สาระเช่นนี้ด้วย
หรือว่าเจ้าหมอนั่นมันจะมาแล้วจริงๆ?
“กฎแห่งห้วงมิติ! แล้วมันต้องเป็นกฎแห่งห้วงมิติแบบใดที่หลบรอดสายตาของเฒ่าคนนี้ไปได้!” หลู่หยุนร้องขึ้นมาอย่างขุ่นเคืองใจ
เขานั้นรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้สู้
ในอาณาจักรตะวันออกนี้มันกลับยังมีคนที่มาหลอกล้อเขาเล่นได้เช่นนี้!
“อาจารย์หยุน ดูท่าองค์ชายผู้นี้จะไปหาเรื่องคนผิดเข้าเสียแล้ว! ช่างเถอะ ข้ายอมแพ้! วันพรุ่งนี้ข้าจะเอาสมุนไพรไปให้ตามที่สัญญาพร้อมขอโทษที่ล่วงเกินเขาไป!” องค์ชายรองนั้นกล่าวขึ้นมาอย่างหมดหนทาง
เพราะเขานั้นได้ไปเยือนประตูนรกมาแล้วจริงๆ
เขานั้นวางกำลังไว้มากเท่าที่ตนเองจะทำได้รอบๆ วังชีวานิรันดร์!
รอบๆ ไปจากห้องของเขานั้นมันมีแต่ทหารเดินเบียดกันแน่น!
แต่เย่หยวนนั้นกลับยังเดินผ่านคนทั้งหลายมาโดยไม่มีใครรู้ตัว
วิธีการของเขานั้นมันเหนือล้ำเกินความเข้าใจ
หลู่หยุนหรี่ตากล่าวขึ้นมาตาม “ได้ ข้าจะไปกับเจ้าด้วย! เฒ่าคนนี้เองก็อยากจะเห็นเหลือเกินว่ามันเป็นเด็กหนุ่มเช่นใดที่กล้าหาญมาล้อเล่นต่อหน้าเฒ่าคนนี้!”
…
คืนนี้ทางบ้านตระกูลถังเองก็มีแสงไฟสว่างจ้าทั่วทุกตึกเช่นกัน
เพราะคืนนี้มันคือคืนแห่งการตัดสินชะตาชีวิตของตระกูลถัง!
ภายในห้องทำงานนั้นเสียงของถังจินหัวดังขึ้นมาเป็นรอบๆ
“ถังหยู เจ้าลูกเลว! เจ้าทำอะไรลงไป! บอกพ่อมาหน่อยเถอะว่าทำไมเจ้าจึงได้คิดพาตระกูลถังเราสู่ความล่มจมเช่นนี้?” ถังจินหัวถามขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงก่ำ
เขานั้นไม่เข้าใจ ลูกชายของเขานั้นปกติแล้วฉลาดกว่าตัวเขาเสียด้วยซ้ำไป
แต่ทำไมถึงกลับไปทำความผิดพลาดที่แสนโง่งมเช่นนี้!
ถังหยูนั้นตอบกลับไปด้วยใบหน้าจริงจัง “ท่านพ่อ ข้านั้นไม่มีอะไรมามั่นใจได้ มีแต่ต้องเดิมพันเท่านั้น!”
………………………..