ตอนที่ 2075 ร้อยมังกรชําระล้างกายา
“ครืนนน” แสงสว่างหลั่งไหลออกมาจากแผ่นหินและพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า แสงสว่างที่พุ่งออกมานี้ได้ปกคลุมไปร่างของทั้งหลิงฮันกับจี่อู๋หมิง และในขณะเดียวกันนั้นเอง แสงสว่างจากลานก็หลั่งไหลออกมาและพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าไปตามๆ กัน เพียงแต่เมื่อเทียบกับแท่งแสงของแผ่นหินแล้วแท่งแสงจากลานนั้นดูหม่นหมองกว่ามาก
วาสนาร้อยมังกรชาระล้างกายาเริ่มขึ้นแล้ว!
เนื่องจากหลิงฮันกับจี่อู๋หมิงอยู่ในแผ่นหินด้วยกัน และไม่มีใครไล่อีกฝ่ายให้ออกจากแผ่นหินไปได้ ทั้งสองคนจึงได้รับวาสนาร้อยมังกรชาระล้างกายาเก้าสิบเก้ส่วนร่วมกัน ในขณะที่คนอื่นๆ อีกเจ็ดคนได้รับวาสนาเพียงหนึ่งส่วนที่เหลือ
หลิงฮัน จี่อู๋หมิงและคนยอื่นๆ นําผงกระดูกมังกรสวรรค์ออกมา เศษขี้เถ้ากระดูกสีขาวลอยพริ้วไหวไปตามคลื่นแสง และแปรสภาพกลายเป็นมังกรเหิน
มังกรเหินเหล่านี้มีขนาดเล็กมาก ร่างของพวกมันยาวไม่เกินหนึ่งฟุต พวกมันส่งเสียงคํารามที่ดังก้องจนแทบจะทําให้ผู้คนหูหนวกออกมา
มังกรเหินเหล่านี้คดตัววนรอบร่างกายหลิงฮัน และต้องการจะเข้าไปในร่างกายของเขา
ด้วยที่รู้ว่ามังกรเหล่านี้คือวาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายา หลิงฮันจึงไม่ต่อต้านและผ่อนปรนร่างกายยอมรับมังกรเหินเหล่านี้เข้าสู่ร่างกาย
“ฮึ่ม” เมื่อมังกรเหินตนแรกเข้าไปภายในร่างกายของเขา พลังอันท่วมท้นก็พรั่งพรูออกมาและขัดเกลากายหยาบของเขาทุกส่วน รวมไปถึงช่วยเสริมทดแทนส่วนที่ขาดหายไปในวิถีวรยุทธของเขาด้วย
สิ่งนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกับหยกต้นกําเนิดวิถีสวรรค์เล็กน้อย ในส่วนที่ช่วยเติมเต็มรากฐานวรยุทธที่หายไปให้บรรลุสู่จุดสมบูรณ์
หลิงฮันนั่งขัดสมาธิและทําการดูดซับวาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายาให้ได้มากที่สุด
หืม?
เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่ภายในร้อยมังกรชําระล้างกายานั้นมีร่องรอยของอํานาจแห่งกฎเกณฑ์วารอยู่ด้วย ทําให้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพวารีพลังหยินเร้นลับรู้สึกผ่อนคลาย และได้รับการขัดเกลาไปด้วย
เมื่อเวลาผ่านพ้นไปจํานวนของมังกรเห็นก็ค่อยๆ ลดลง และหลังจากสามวันผ่านพ้นไป มังกรเห็นทั้งหมดก็ถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายอย่างสมบูรณ์ พร้อมกันนั้นเองแห่งแสงที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าก็เริ่มหม่นแสงลงและหายไปในที่สุด
วาสนาร้อยมังกรชําระล้างกายาสิ้นสุดแล้ว
“พรึบ” พวกหลิงฮันทั้งเก้าคนรู้สึกว่าร่างกายถูกบีบรัดและทิวทัศน์เบื้องหน้าก็เปลี่ยนไป ภายในพริบตาร่างของพวกเขาก็กลับออกมาปรากฏขึ้นที่เมืองร้อยมังกร และประตูทางเข้าเขตแดนลี้ลับก็ค่อยๆ ปิดตัวลงอย่างช้าๆ
“หือ แล้วเทียนชิงเย่กับยี่หวาฉิงล่ะ?”
“เซี่ยโหวถงกับจู้ฮุ่ยหยินก็ไม่อยู่เหมือนกัน”
“จักรพรรดิที่แข็งแกร่งเหลืออยู่เพียงผู้เส่าจวิ้น หม่าเฉิงและฟานอี่สามคนเท่านั้น!”
“แต่พวกตู้เส่าจวิ้นทั้งสามคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเทียนชิงเย่แน่นอน เป็นไปได้อย่างไรที่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่จะหายไปทั้งหมดเลยแบบนี้?”
จอมยุทธที่เข้าไปมีมากกว่าหมื่นคน แต่จํานวนคนที่กลับมาเหลือแค่สามพันกว่าคนเท่านั้น แถมสุดยอดอัจฉริยะมากมายยังหายไปกันหมดด้วย ซึ่งความเป็นไปได้เดียวก็คือพวกเขาได้สิ้นชีพอยู่ภายในเขตแดนลี้ลับร้อยมังกร
แต่เรื่องแบบนั้นจะเป็นไปได้อย่างไร?
ถ้าจะบอกว่าในเขตแดนลี้ลับมีภัยอันตรายถึงขนาดที่ทําให้สุดยอดจักรพรรดิสิ้นชีพได้นั้นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่นี่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่ได้ตกตายไปพร้อมกัน แต่จักรพรรดิที่อ่อนแอกว่ากลับมีชีวิตรอดออกมาเสียได้
“เกิดอะไรขึ้นกัน?”
คนที่อยู่นอกเขตแดนลี้ลับกล่าวด้วยความสงสัย
เพียงแต่คนที่เข้าไปยังหุบเขาเทพมังกรและกลับออกมานั้นมีเพียงแค่พวกหลิงฮันเก้าคนเท่านั้น เพราะงั้นมีรึที่คนอื่นจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น? จอมยุทธที่ออกมาจากเขตแดนลี้ลับทําได้แค่หันมองหน้ากันและไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
แต่ไม่ว่าอย่างไรการที่สุดยอดจักรพรรดิทั้งสื่อย่างพวกเทียนชิงเย่ เสียชีวิตลงในเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรนั้นจะต้องก่อให้เกิดพายุที่อลหม่านขึ้นแน่นอน
…ขุมอำนาจที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา ไม่มีทางยอมรับการหายไปของผู้สืบทอดของตนเองโดยไม่ทราบสาเหตุเด็ดขาด ถ้าหากผู้สืบทอดของพวกเขาถูกสังหารโดยสัตว์อสูรหรือชนเผ่าในเขตแดนลี้ลับ เหล่าขุมอํานาจเบื้องหลังก็คงไม่มีทางทําอะไรได้
แต่ถ้าหากทั้งสี่ถูกสังหารโดยคู่แข่งที่เป็นจอมยุทธจากภายนอกเหมือนกัน ไม่มีทางที่ขุมอํานาจของทั้งสี่คนปล่อยไปง่ายๆ แน่นอน
“พี่ชายหลิง พี่ชายหลิง! ฟู่เยว่วิ่งเข้ามาหาพวกหลิงฮัน “ช่างน่าแปลกจริงๆ เลยว่าไหมที่แม้แต่จักรพรรดิระดับแนวหน้า อย่างพวกเทียนชิงเต่กับเซียโหวถงก็ยังเสียชีวิตอยู่ภายในเขตแดนลี้ลับ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าคนที่ทำเช่นนั้นได้จะต้องเป็นคนที่โหดเหี้ยมขนาดไหน”
“แต่จะว่าไปพี่ชายหลิง ท่านกระตุ้นสะพานมังกรแบบใดได้งั้นรึ?”
“แต่ก็คงเป็นสะพานมังกรธรรมดานั่นล่ะ ถึงแม้ข้าจะรู้ว่าพี่ชายหลิงแข็งแกร่งมากก็เถอะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็คงด้อยกว่าพวกเทียนชิงเย่อยู่ดี ถ้าให้ข้าเดาล่ะก็ พี่ชายหลิงน่าจะกระตุ้นสะพานมังกรได้ราวๆ เจ็ดหรือแปดสะพานสินะ?”
หลิงฮันยิ้ม “เจ้าเดาได้แม่นมาก”
ฟู่เยว่ไม่ได้เข้าไปภูเขาเทพมังกรด้วย จึงไม่มีทางรู้ว่าหนึ่งในคนร้าย” ที่เป็นต้นเหตุให้พวกเทียนชิงเย่กับจู้ฮุ่ยหยินหายไปนั้นก็คือเขานั่นเอง ไม่เช่นนั้นหากรู้ล่ะก็อีกฝ่ายคงจะตกตะลึงจนขี้หดตดหายแน่นอน
“เอาล่ะ พวกเรากลับไปพักผ่อนกันเถอะ”
กลุ่มของพวกเขาหาโรงเตี้ยมกันอีกครั้ง ตอนนี้สิ้นสุดช่วงของเขตแดนลี้ลับร้อยมังกรแล้ว และช่วงต่อไปคือ การประลองแข่งขันศาสตร์ปรุงยา
หลังจากพักอยู่ในโรงเตี้ยมอยู่พักหนึ่ง ฟู่เยว่ที่เป็นคนอยู่กับที่ไม่ได้ก็ออกไปตรวจดูสถานการณ์และเตร็ดเตร่อยู่สามวันกว่าจะกลับมา
“ข้าได้ยินผู้คนพูดคุยกันว่าพวกเทียนชิงเย่นั้นถูกใครบางคนสังหาร แถมคนที่ว่ายังอยู่ในกลุ่มคนที่เข้าไปในเขตแดนลี้ลับครั้งนี้ด้วย” ฟูเยว่กล่าวอย่างออกรส “พี่ชายหญิง ท่านคิดว่าใครกันที่แข็งแกร่งถึงขนาดสามารถสังหารสุดยอดจักรพรรดิทั้งสี่ได้?”
เขาชําเลืองมองไปยังหลิงฮัน แต่ก็ส่ายหัวอย่างและตบหน้าผากตนเอง “ถ้าพี่ชายหลิงมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับดัดวิญญาณสวรรค์ล่ะก็ ข้าคงเดาว่าพี่ชายหญิงเป็นคนทําแล้ว ฮ่าๆๆๆ!”
ฟู่เยว่นูพูดตลกออกมาและหัวเราะให้กับค่าพูดของตนเอง
หลิงฮันตบไหล่ฟูเยวและกล่าว “ข้าเป็นคนท่าเอง”
“พี่ชายหลิงช่างมีอารมณ์เสียจริง!” ฟู่เยว่ยิ้ม
หลิงฮันทําข้าเคร่งขรึมและกล่าวอีกครั้ง “ข้าไม่ได้โกหก!”
“ฮ่าๆๆๆ!” ฟู่เยว่กุมหน้าท้อง “พี่ชายหลังเลิกพูดได้แล้ว ข้าตลกจนจะทนไม่ไหวแล้ว”
หลิงฮันกลายเป็นไร้คําพูด ทําไมอีกฝ่ายถึงได้คิดว่าค่าพูดของเขาเป็นเรื่องตลกกัน?
ทั้งสองคนอยากจะพูดคุยกันต่อ แต่ฮูหนิวก็ลากพวกเขาไปยังร้านอาหารเพื่อกินอาหารเย็น
“โอ้ พี่ชายจาง ท่านได้ยินเรื่องที่จักรพรรดิไร้เทียมทานอย่างเทียนชิงเย่ จู้ฮุ่ยหยิน และอีกสองคนถูกสังหารแล้วรึยัง”
“แน่นอน นั่นเป็นข่าวใหญ่ที่ถูกพูดถึงกันในหลายวันมานี้เลย”
“แล้วพี่ชายจางรู้ไม่ว่าใครเป็นคนทํา?”
“อะไรกัน เจ้ารู้งั้นรึ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“ถ้างั้นก็เล่ามา!”
ในขณะที่พวกหลิงฮันเดินผ่านโต๊ะตัวหนึ่ง แขกสองคนที่กําลังกินอาหารอยู่ได้พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งเมื่อได้ยินฟู่เยว่ก็หูผึ่งทันที
“เหอๆ คนที่สังหารสุดยอดทั้งสี่มีอยู่สองคน คนหนึ่งมีชื่อว่าจี่อู๋หมิง และอีกคนมีชื่อว่าหลิงฮัน!”
พรวด!
ฟู่เยว่สำลักออกมาทันทีที่ได้ยิน