ตอนที่ 2076 คู่ต่อสู้ในศาสตร์ปรุงยา

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2076 คู่ต่อสู้ในศาสตร์ปรุงยา

 

“น้องชายฟู่?” หลิงฮันมองไปยังฟู่เยว่ที่กําลังเหม่อค้างด้วยความตกตะลึง

 

ร่างของฟู่เยว่แข็งทื่อเป็นหิน แม้หลิงฮันจะโบกมือตรงหน้าเขาก็ยังไม่รู้สึกตัว

 

หลังจากผ่านไปพักหนึ่ง จู่ๆ ร่างของฟู่เยว่ก็กระโดดขึ้นกลางอากาศราวกับสุนัขถูกเหยียบหาง และรีบไปคว้าร่างของคนที่เล่าเมื่อครูมาถาม “เจ้าแน่ใจว่าคนที่เจ้าว่าชื่อหลิงฮัน?”

 

ชายคนนั้นหวาดผวา แต่ตัวเขาเป็นเพียงนิรันดร์สามนิพพานเท่านั้น จึงไม่มีทางที่จะต่อต้านพละกําลังของฟู่เยว่ได้ เขารีบกล่าวตอบด้วยน้ําเสียงสั่นเครือ “ชะ… ใช่แล้ว ชื่อของคนคนนั้นคือหลิงฮัน มีข่าวลือว่าคนผู้นั้นมีร่างกายที่สูงใหญ่ถึงเจ็ดฟุต มีแขนยาวถึงเข่าและมีอวัยวะเพศแข็งเหมือนหิน แถมยังโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก…”

 

หลิงฮันตกตะลึง จะถือว่าเขาร่างสูงใหญ่เจ็ดฟุตหรืออะไรก็ช่าง แต่ที่ว่าแข็งเหมือนหินนั่นมันเรื่องบ้าอะไรกัน?

 

“ฮ่าๆๆ!” ฮูหนิวหัวเราะ “หลิงฮัน นี่เจ้าร่างสูงใหญ่และแขนยาวขนาดนั้นเลยรึ?”

 

แม้แต่จักรพรรดินีเองก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

 

“พี่ชายหลิง ท่านเป็นคนทําจริงๆ รี?” ฟู่เยว่ปล่อยมือจากชายคนนั้นและเอ่ยถามหลิงชั้น

 

“ข้าก็บอกเจ้าไปแล้ว แต่เข้าไม่เชื่อเอง” หลิงฮันยิ้ม

 

“พระเจ้าช่วย!” ฟู่เยว่เอามือกุมหัว “ท่านเป็นเพียงจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางแท้ๆ!”

 

“แล้วมันทําไมล่ะ?”

 

“มันทําไมน่ะรึ? หากพี่ชายหญิงบรรลุระดับตัดวิญญาณหยาง ไม่ใช่ว่าพี่ชายหลิงจะสังหารได้แม้กระทั่งตัวตนระดับตําหนักอมตะเลยงั้นรี!” ฟู่เยว่เผลอตะโกนออกมา เขาคิดว่าคนโหดเหี้ยมที่สามารถสังหารพวกเทียนชิงเย่ทั้งสี่คนได้จะต้องเป็นสัตว์ประหลาดระดับตัดวิญญาณสวรรค์ที่มีพรสวรรค์สูงส่งกว่าทั้งสี่คนแท้ๆ

 

แต่ดูเหมือนว่าจินตนาการของเขาจะยังไม่มากพอ เพราะสัตว์ประหลาดที่ว่ายังมีพลังเพียงระดับติดวิญญาณหยางเท่านั้น

 

ในขณะที่กลุ่มของพวกเขาทั้งห้ากําลังพูดคุยกัน พวกเขาก็เดินขึ้นไปยังชั้นที่สองของร้าน ทิ้งให้ชายคนสองที่พูดคุยกันเมื่อครูอ้าปากค้างอย่างโง่งม

 

รุ่นเยาว์คนเมื่อครู่… คือหลิงฮันผู้โหดเหี้ยมที่สังหารพวกเทียนชิงเย่อย่างนั้นรี?

สวรรค์!

 

เมื่อขึ้นไปยังห้องอาหารที่ชั้นสอง ฟู่เยว่ก็ดื้อถามเรื่องการต่อสู้ระหว่างหลิงฮันกับพวกเทียนชิงเย่ จนหลิงฮันทนไม่ไหวและต้องเล่าออกไปเพื่อทําให้ฟู่เยว่หายสงสัยทั้งๆ ที่เขาก็ไม่ได้อย่างโอ้อวดตนเองแท้ๆ

 

ในขณะที่ฟังเรื่องราว ฟู่เยว่ได้สูดลมหายใจเข้าออกถี่หลายครั้ง และถึงขนาดเผลอกระโจนทุกครั้งที่ตกตะลึง

 

“พี่ชายหลิง ท่านช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!” ฟู่เยว่ยกนิ้วโป้งชื่นชม “แต่จะอย่างไรก็เถอะ งานประลองแห่งศาสตร์ปรุงยาใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว ข้าได้ยินมาว่าในการประลองครั้งนี้ไม่ใช่แค่นักปรุงยาหน้าเก่าที่มีชื่อเสียงเลื่องลือมานานหลายปีจะเข้าร่วม แต่นักปรุงยาหน้าใหม่มากมายก็มาเข้าร่วมเพื่อสร้างชื่อให้ตนเองด้วยเช่นกัน”

 

“พี่ชายหลิง การประลองครั้งนี้เกรงว่าท่านจะติดหนึ่งในสามอันดับแรกได้ยากเสียแล้ว”

 

ฟู่เยว่ยกนิ้วขึ้นมานับ “มาพูดถึงนักปรุงยาหน้าเก่ากันก่อน ครั้งนี้นักปรุงยายื่อหยางก็เข้าร่วมด้วย คนผู้นี้บรรลุเป็นนักปรุงยาสามดาวเมื่อสิบล้านปีก่อน และมีคํากล่าวว่าเขาได้บรรลุห้วงจิตปรับแต่งไปถึงระดับสี่แล้ว”

 

“ส่วนในหมู่นักปรุงยาหน้าใหม่ ก็มีอัจฉริยะเกิดขึ้นมามากมายจริงๆ”

 

“อู๋จื่อซวีแห่งเมืองหลัวหยุน เขาบรรลุเป็นนักปรุงยาสามดาวด้วยอายุที่น้อยกว่าสิบล้านปี แถมเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังบรรลุห้วงจิตปรับแต่งระดับสี่อีกด้วย ด้วยพรสวรรค์ระดับนั้นบวกกับห้องบ่มเพาะกาลเวลา อีกไม่นานทักษะห้วงจิตปรับแต่งของเขาก็อาจจะบรรลุเป็นระดับห้าก็เป็นได้”

 

“เซี่ยเล่อจางแห่งเมืองไป่ฮวา ถึงแม้เขาจะไม่โดดเด่นเท่าอู๋จื่อซวี แต่พัฒนาการของเขานั้นสม่ําเสมอเป็นอย่างมาก เขาใช้เวลาหนึ่งพันล้านปีในการบรรลุเป็นนักปรุงยาหนึ่งดาว จึงไม่มีใครให้ความสนใจกับเขาในตอนแรก แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งพันล้านปีเขาก็บรรลุเป็นนักปรุงยาสองดาว และหลังจากนั้นอีกหนึ่งพันล้านปีเขาก็บรรลุเป็นนักปรุงยาสามดาว”

 

“ในการประลองครั้งนี้บังเอิญครบหนึ่งพันล้านปีหลังจากที่เขาบรรลุเป็นนักปรุงยาสามดาวพอดี ทุกคนจึงคาดการณ์เอาไว้ว่าเขาอาจจะบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวแล้ว”

 

“พานลั่วหลิงแห่งเมืองจุ่ยยี่ นางเป็นสตรีที่งดงามราวกับเทพธิดา ซึ่งมีคํากล่าวว่านางนั้นได้รับวาสนาเป็นความทรงจําของนักปรุงในยุคบรรพกาล ทําให้ระดับศาสตร์ปรุงยาของนางยกระดับขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าอัศจรรย์ ในการประลองครั้งนี้นางจะต้องเป็นคู่แข่งที่สมน้ําสมเนื้อของพี่ชายหลิงอย่างแน่นอน”

 

“ไม่สิ อันนี้จริงนางน่าจะได้รับสิทธิ์ผู้ชนะไปแล้วด้วยซ้ํา แต่แค่ยังไม่ถูกประกาศออกมา”

 

หลิงฮันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจึงเอ่ยถาม “การทดสอบยังไม่ทันเริ่ม ทําไมเจ้าถึงได้กล่าวแบบนั้น?”

 

“ในการประลองครั้งนี้มีนักปรุงยาจากหอโอสถบรรพกาลเข้าร่วมด้วย ซึ่งคนผู้นั้นเป็นหลานชายของผู้อาวุโสหยวนที่มีชื่อว่า หยวนถงกวาง ข้าเห็นเขาอยู่กับพานลั่วหลิงเมื่อไม่กี่วันก่อน”

 

“ท่านจะบอกว่าด้วยการสนับสนุนจากหลานชายของผู้อาวุโส พานลั่วหลิงชัยชนะไปได้อย่างง่ายดายงั้นรึ?” ฟู่เยว่กล่าว “แต่จะอย่างไรก็เถอะ พี่ชายหญิง ท่านได้สังหารเทียนชิงเย่และสุดยอดจักรพรรดิคนอื่นไปแล้ว ข้าว่าขุมอำนาจเบื้องหลังพวกเขาไม่มีทางยอมปล่อยท่านไปง่ายๆ แน่”

 

หลิงฮันยิ้ม “ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่เท่าไหร่ยิ่งดี”

 

ยิ่งเหตุการณ์บานปลายมากขึ้นเท่าไหร่ หรี่ไห่หรงก็อาจจะได้รับรู้ข่าวและมารับพวกเขาก็เป็นไปได้ เพราะไม่อย่างนั้นเขาก็ไม่รู้แล้วว่าเมื่อไหร่จะได้ไปยังตําหนักมัจฉาวายุภักษ์

 

ฟู่เยว่กลายเป็นไร้ค่าพูด เขาไม่รู้ว่าที่หลิงฮันสร้างปัญหาใหญ่แบบนั้นได้นี่เป็นเพราะเขากล้าหาญเกินไป หรือเพราะเป็นคนไม่คิดอะไรเลยกันแน่

 

การทดสอบศาสตร์ปรุงยานั้นไม่เหมือนกับเขตแดนลี้ลับร้อยมังกร เนื่องจากสามารถให้ผู้อื่นรับชมการประลองได้ เพราะงั้นการประลองนี้จึงได้กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนในเมือง และมีหลายคนทําการเดิมพันว่าใครกันจะได้เป็นสามอันดับแรก

 

“รางวัลของผู้ชนะอันดับหนึ่งคืออะไร?” หลิงฮันถาม

 

ฟู่เยว่อ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก

 

เขาเพิ่งบอกหลิงฮันไปแท้ๆ ว่ามีอัจฉริยะมากมายเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แถมคนเหล่านั้นก็ยังมีความสามารถมากพอที่จะคว้าชัยอีกด้วย นี่อีกฝ่ายไม่แม้แต่จะสนใจสิ่งที่เขาเดือนไปเลยงั้นรี?

 

ฟู่เยว่ส่ายหัวและกล่าว “รางวัลของผู้ชนะอันดับหนึ่งในครั้งนี้เป็นแผนที่นําทางไปยังเขตแดนลี้ลับโบราณเห็นว่าเขตแดนลี้ลับแห่งนั้นอาจจะมีสมุนไพรล้ําค่าที่มีอายุมากถึงแสนล้านปี!”

 

สมุนไพรอายุแสนล้านปี!

 

นับว่าน่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วสมุนไพรนิรันดร์จะถือว่าโตเต็มที่แล้วและใช้หลอมเม็ดยาได้ เมื่อมีอายุถึงหมื่นปี และสมุนไพรอายุหนึ่งแสนล้านปีก็ไม่สามารถนําสมุนไพรอายุหมื่นล้านปีสิบต้นมาเทียบได้ เพราะมูลค่าของมันนั้นสูงกว่าถึงหลักร้อยหรือพันเท่า

 

ความรู้สึกตื่นเต้นพลุ่งพล่านขึ้นภายในจิตใจของหลิงฮัน