“ให้ตายสิ! ให้ตายสิ! ให้ตาย! มันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน?”
ในสวนของเมืองจักรพรรดินั้นกู่เม่ากำลังนั่งร้องลั่นอย่างโกรธแค้น
เพราะเรื่องราวในวันนี้มันกลับไม่เป็นไปดั่งที่เขาวาดหวัง!
เดิมทีนั้นเขาคิดจะไปสมน้ำหน้าคนจึงได้คิดออกเดินทางไปดูความล่มสลายของเย่หยวนและตระกูลถัง
วันต่อมาเขาก็ได้เดินทางไปยังบ้านตระกูลถังจริงๆ แต่กลับพบว่าบ้านตระกูลถังนั้นยังตั้งอยู่ดีและตัวถังจินหัวและถังหยูนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนทั้งๆ ที่กำลังด่าว่าตัวเขาอยู่
จนสุดท้ายแล้วพวกเขาก็ไล่ตัวกู่เม่าออกจากโถงหทัยธวัลไป!
กู่เม่านั้นได้แต่อ้าปากค้างนั่งฟังคำด่าว่า เพราะหากไม่มีเขาแล้วตระกูลถังเองก็คงต้องเสียหายอย่างหนักเป็นแน่!
ในตอนนั้นเขาจึงได้ด่าสวนกลับไปบอกว่าตระกูลถังเองก็จะไม่มีทางอยู่รอดในเมืองจักรพรรดิไปได้
แต่ใครจะไปคิดว่าวันต่อมานั้นมันกลับมีนักหลอมโอสถสวรรค์เลื่องชื่อ เจียงยู่เดินทางมาพักที่บ้านตระกูลถัง!
เจียงยู่นั้นไม่ได้เก่งกาจหรืออ่อนแอไปกว่ากู่เม่ามากมายนัก
ที่สำคัญนั้นคือเจียงยู่นั้นมีตำแหน่งพิเศษ เขานั้นคือนักหลอมโอสถสวรรค์ผู้ทำหน้าที่หมอส่วนตัวขององค์ชายรอง!
นี่คือความแตกต่างระหว่างคนทั้งสอง!
เพราะการทำเช่นนี้มันก็เท่ากับว่าองค์ชายรองนั้นได้ประกาศออกมาว่าตระกูลถังนั้นคือคนขององค์ชายรอง ห้ามใครแตะต้องเป็นอันขาด!
เรื่องนั้นมันทำให้ตระกูลถังมีคนเข้ามากราบคารวะไม่ขาดสายอยู่นาน
และด้วยการช่วยเหลือของเจียงยู่มันจึงทำให้ตระกูลถังสามารถลบล้างอำนาจเก่าก่อนของกู่เม่าลงไปได้สิ้น
เวลานี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ไม่อาจจะกระทบตระกูลถังได้อีก!
หลังจากผ่านไปได้ระยะหนึ่งเขาก็ได้เห็นชัดเจนว่านอกจากตระกูลถังจะไม่ตกต่ำลงแล้วมันมีแต่จะเจริญขึ้นวันแล้ววันเล่าจนเริ่มข้ามหน้าตระกูลใหญ่อื่นๆ ไป
กู่เม่านั้นสิ้นหวัง!
เวลานี้คู่ค้าเก่าก่อนของกู่เม่าต่างทิ้งเขาไปหาทางตระกูลถังสิ้น
เป็นเวลานั้นเองที่กู่เม่าต้องร่ำร้องขึ้นมาด้วยความคับแค้นสุดใจ
แต่วินาทีเดียวกันนั้นเขาก็ต้องชะงักขึ้นมา ใบหน้าของเขานั้นมันแดงก่ำ
เวลานี้ร่างกายของกู่เม่านั้นมันสั่นสะท้านอย่างไม่อาจหยุด
พิษไฟมันปะทุขึ้นมา!
เขานั้นรีบใช้พลังของหยกหทัยน้ำแข็งขึ้นมากดดันพลังของพิษไฟลงไป
แต่ในเวลานี้พิษไฟมันกลับสุดแสนจะร้อนแรงจนเหมือนสัตว์ร้ายที่หลุดออกจากกรง เขานั้นกลับไม่อาจ… จะกดมันไว้ได้อีกต่อไป!
วินาทีนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเย่หยวนขึ้นมา
ยิ่งกดไว้มากเท่าไหร่มันก็จะยิ่งปะทุแรงขึ้นเท่านั้น!
เวลานี้เส้นเลือดภายในร่างของเขานั้นเปี่ยมล้นไปด้วยพิษไฟอย่างปวดร้าวจนเขาแทบอยากจะตายลงเสียให้มันจบๆ ไป
“เร็ว! รีบพาข้าไปตระกูลถังเร็วเข้า! ไป… ไปบ้านตระกูลถัง!” กู่เม่าร้องขึ้นมา
เหล่าคนสนิทของเขานั้นรีบหามร่างของเขามุ่งหน้าไปยังตระกูลถังแต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดจะออกมาพบเจอและฝากมาบอกแค่ว่า “คนเรานั้นมีศักดิ์ศรีได้แต่จะหลงตัวไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการหลงตัวอย่างโอหังนั้น! เรื่องบางอย่างโอกาสมันมีครั้งเดียว ผ่านไปแล้วมันก็จะผ่านเลยไปตลอดกาล!”
ในห้วงความสิ้นหวังนั้นพิษไฟในร่างของกู่เม่าก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เวลานี้นอกจากเขาจะไม่มีทางหลอมโอสถสวรรค์ได้แล้วเขายังเสียพลังบ่มเพาะไปอย่างมากอีกด้วย
พิษไฟในร่างของเขานั้นมันรุนแรงกว่าก่อนๆ อย่างมากล้น
ยอดนักหลอมโอสถสวรรค์คนหนึ่งต้องวางมือลงไปเพราะเช่นนี้
เพราะจริงๆ แล้วเย่หยวนนั้นไม่ต้องหลอมโอสถสวรรค์ใดๆ ก็สามารถจะช่วยเหลือกู่เม่าได้
ด้วยวิชาการควบคุมปราณเทวะที่ละเอียดอ่อนของเย่หยวนนั้น การจะส่งปราณเข้าไปกำจัดและดึงพิษไฟออกจากร่างมันย่อมจะมิใช่เรื่องที่เกินมือ
น่าเสียดายแค่ว่าก่อนหน้านั้นกู่เม่าวางตัวเหนือหัวท่านและสุดท้ายก็ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้
…
ส่วนตัวเย่หยวนเองนั้นเมื่อเรื่องต่างๆ สงบลงแล้วเขาก็ย่อมจะเข้าสู่การเก็บตัวยาวอีกครั้ง
เขานั้นมีเรื่องต้องทำมากจนล้นมือ
เขานั้นคิดอยากฝึกฝนสัญชาตญาณของตนให้ถึงที่สุดเพื่อเอามันมาแทนที่ความเข้ากันได้!
แต่เวลานี้ด้วยความช่วยเหลือของเจียงยู่ เย่หยวนจึงสามารถเข้าใจส่วนประกอบของสรรพคุณต่างๆ ของสมุนไพรสวรรค์พื้นฐานต่างๆ ได้
ด้วยการฝึกฝนที่บ้าคลั่งนั้นความเร็วในการพัฒนาของเขามันยิ่งจะพุ่งทะยานล้ำ
จะว่าไปแล้วหลังจากที่เจียงยู่มาถึงตระกูลถังนั้นเขาก็แทบจะไม่อยากจากไปอีกแล้วด้วยซ้ำ
เพราะเขาและเย่หยวนนั้นได้กลายเป็นสหายที่พูดคุยกันได้อย่างถูกคอ
เย่หยวนนั้นกระหายความรู้อย่างที่เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนและมีความต้องการที่จะเข้าใจสมุนไพรสวรรค์ต่างๆ อย่างมากมาย
เพราะฉะนั้นเขาจึงจะมาถามความเห็นและคำแนะนำของเจียงยู่อยู่เสมอ
ก่อนที่จะมานั้นหลู่หยุนเองก็ได้สั่งไว้แล้วว่าให้เขาตีสนิทกับเย่หยวนเข้าไว้
ไม่ว่าเย่หยวนจะมีคำถามใด เขาก็ย่อมจะตอบเท่าตามที่ตัวเองรู้ไปสิ้น
แต่ว่าเมื่อเวลาผ่านไปเจียงยู่กลับได้พบว่าตัวเองกำลังเริ่มรู้สึกชื่นชมเย่หยวนขึ้นทุกวัน
เพราะเดิมทีมันเป็นแค่การถามหาความรู้ ไม่ทราบว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่การพูดคุยของเขากับเย่หยวนมันได้กลายเป็นการอภิปรายความรู้และข้อคิดเห็นไป
เจียงยู่นั้นได้พบว่ามุมมองของเย่หยวนนั้นมันแปลกประหลาดจนแทบเรียกได้ว่าเป็นสัตว์ประหลาด!
แม้ว่าเขานั้นจะไม่ได้รู้เรื่องของโอสถสวรรค์ใดๆ แต่ด้วยวิชาการโอสถที่ฝังอยู่ในกระดูกของเขานั้น ตัวเขากลับสามารถจะให้มุมมองที่เปิดเส้นทางใหม่ให้แก่เจียงยู่ได้เสมอๆ
เช่นนี้เจียงยู่จึงปฏิบัติเหมือนเย่หยวนเป็นสมบัติล้ำค่าขึ้นมาทันที
ตราบเท่าที่เย่หยวนมีเวลาว่างเจียงยู่ก็จะลากตัวเย่หยวนไปนั่งสนทนาความรู้กันเสมอ
และด้านเย่หยวนเองก็ยังไม่มีความรู้ในวิชาการโอสถสวรรค์มากมาย เขาย่อมจะไม่คิดปฏิเสธ
ทำไปทำมาเช่นนี้แม้ว่าเย่หยวนจะยังไม่ได้ทดลองหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาแต่เขาก็เริ่มมีความมั่นใจว่าจะหลอมโอสถสวรรค์ได้อย่างไรขึ้นมา
ทั้งสองฝ่ายนั้นต่างได้รับสิ่งที่ตนเองต้องการ
ส่วนอีกด้านทางนิกายสวรรค์หยกแท้ที่นำมาโดยเฉิงฉงชานนั้นก็ยิ่งกดดันราชวงศ์หนักกว่าเก่า
จักรพรรดิตะวันออกนั้นทำงานตลอดวันคืนจนไม่มีเวลาจะพักแม้แต่น้อย
ป่าหมึกเรืองนั้นมันยิ่งใหญ่เกินไป เกินกว่าที่จะหาได้ทั่วทั้งป่า
เขานั้นใช้พลังเท่าที่ราชวงศ์มีแล้วแต่แม้จะผ่านไปถึงสามปีมันก็ยังไม่มีร่องรอยใดๆ ปรากฏขึ้นมา
เมื่อไม่มีทางเลือกใดจักรพรรดิจึงได้แต่ต้องส่งมอบองค์หญิงให้เป็นนางบำเรอแก่เฉิงฉงชานและยังส่งสมบัติล้ำค่ามากมายไปให้คนที่เหลือทั้งสองจนทำให้พวกเขาเริ่มจะใจเย็นลงบ้าง
แท้จริงแล้วมีหรือที่พวกเฉิงฉงชานจะไม่เข้าใจว่าการตายของจุนเถียนนั้นมันคงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับราชวงศ์?
แต่พวกเขานั้นออกมาแล้ว มีหรือที่จะกลับไปเช่นนี้ได้?
การตายของนักบวชนิกายนอกนั้นมันไม่ได้นับเป็นเรื่องใหญ่โตมากมายแก่นิกายสวรรค์หยกแท้
นิกายสวรรค์หยกแท้นั้นออกคำสั่งตามหาคนร้ายมาก็เพียงแค่จะรักษาหน้าเท่านั้น
แต่เรื่องนั้นมันก็ไม่ได้ต่างอะไรจากงมเข็มในมหาสมุทร มิใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆ
เพราะฉะนั้นพวกเขาทั้งสามจึงได้พักอยู่ที่อาณาจักรตะวันออกและกดหัวคนเล่นไปวันๆ
แต่เป็นฝ่ายองค์ชายใหญ่ที่มองเห็นถึงเป้าหมายที่แท้จริงนั้นและคิดจะสร้างสายสัมพันธ์กับคนทั้งหลายไว้
ความคิดเรื่องที่ส่งองค์หญิงไปบำเรอนั้นเองก็เป็นเขาที่เสนอขึ้นไป
เพราะเขานั้นรู้ดีว่าคำพูดของคนทั้งสามมันจะต้องกดดันพ่อของเขาได้อย่างมากแน่
หลังจากผ่านไปได้อีกห้าปีในที่สุดมันก็เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาในอาณาจักรตะวันออกอีกครั้ง!
เพราะมันได้มีนักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้มกำเนิดขึ้นมา!
หลังผ่านไปได้ถึงยี่สิบหกปี ในที่สุดเย่หยวนก็ตัดสินใจหลอมโอสถสวรรค์เม็ดแรกขึ้นมา!
แน่นอนว่าคุณภาพของโอสถสวรรค์นี้มันแสนจะต่ำต้อยและยังเป็นแค่โอสถพื้นฐานสุดๆ ชนิดหนึ่ง แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นมันก็ยังเป็นโอสถสวรรค์อย่างไม่ต้องสงสัย!
เรื่องนี้มันย่อมจะกลายเป็นประเด็นให้คนพูดถึงทั้งอาณาจักรตะวันออกไปตามๆ กัน
เวลานี้ทั้งเมืองต่างมีแต่คนพูดถึงเรื่องนี้กันสิ้น!
“พวกเจ้าได้ยินมาหรือไม่? ผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งแต้มจากตระกูลถังนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้จริง!”
“พระเจ้าช่วย มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์! วงการโอสถของสามสิบสามสวรรค์อาจจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะเรื่องนี้ก็ได้!”
“ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าเขาทำได้อย่างไร มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งแต่ทำอย่างไรจะหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นมาได้กัน?”
…
ความเข้ากันได้หนึ่งนั้นมันย่อมจะเท่ากับเป็นผู้ถูกสวรรค์ทอดทิ้งในวงการโอสถสวรรค์
แต่เย่หยวนนั้นกลับใช้ความพยายามยี่สิบหกปีเข้ามาทดแทน!
เรื่องราวในครั้งนี้มันย่อมจะนับได้ว่าเป็นเรื่องราวสุดแสนใหญ่โต
เมื่อเจียงยู่ได้เห็นเย่หยวนหลอมโอสถสวรรค์จนสำเร็จนั้น เขาถึงกับต้องยืนนิ่งไปกว่าสิบห้านาทีก่อนที่จะตั้งสติได้
มันมิใช่เพียงแค่เขาเท่านั้น คนทั้งตระกูลถังที่ได้ยินเรื่องนี้ต่างต้องอ้าปากค้างนิ่งไปตามๆ กัน!
มีความหวังและทำได้ตามที่หวังนั้นมันแตกต่างกันสิ้นเชิง
เพราะจะอย่างไรเสียการหลอมโอสถสวรรค์นั้นมันก็ยากยิ่งกว่าการหลอมหญ้ากระดูกมังกรนับพันนับหมื่นเท่า!
………………………