เมื่อเห็นโกวเยว่เดินออกมา เม่ยเหนียงก็รีบเข้าไปถามว่า “ท่านอ๋องเป็นอะไรไป?”
โกวเยว่มองไปที่ผู้หญิงกลุ่มนี้ แต่ละคนในดวงตาเป็นไปด้วยความกังวล ท่าทางเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง เขารู้ว่าผู้หญิงเหล่านี้กังวลอะไร อย่างไรเสียตอนนี้ก็เป็นช่วงสงครามใหญ่ จู่ๆ ท่านอ๋องก็เป็นอย่างนี้ จะไม่ให้ผู้หญิงกลุ่มนี้กังวลก็คงยาก ถึงอย่างไรความร่ำรวยของทั้งตระกูลก็ล้วนพึ่งพาท่านอ๋อง และการที่ท่านอ๋องไม่อยากจะคุยอะไรกับพวกนาง เกรงว่าคงจะพูดอะไรไม่ออก
โกวเยว่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรพูดอะไรกับพวกนาง แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ปิดบังไม่ไหวแล้ว ช้าเร็วก็ต้องเผชิญหน้า ถอนหายใจเบาๆ แล้วตอบว่า “สิ้นไร้อนาคตแล้ว!”
คำตอบเพียงไม่กี่คำนี้ทำให้คนกลุ่มนี้รู้สึกราวกับโดนฟ้าผ่า มีคนตกใจจนหน้าซีด บางคนก็ตื่นตระหนกหวาดกลัวถึงขีดสุด
เรื่องบางเรื่องถ้ายังมาไม่ถึงตัวก็ยังไม่รู้จักกลัว ก่อนหน้านี้เห็นคนอื่นเศร้าวิเวกเพราะบ้านแตกสาแหรกขาดจนชินแล้ว พอรู้ว่าตัวเองอาจจะเปลี่ยนจากใช้ชีวิตหรูหราสุขสบายกลายเป็นคนจนตรอกเทียบหมูสุนัขไม่ติด ความหวาดกลัวอะไรที่สิ้นสุดก็โจมตีหัวใจ
เม่ยเหนียงประสานสองมือตรงหน้าอก ถามเสียงสั่นว่า “จะเป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง ยังไม่ได้รบกันไม่ใช่หรอ? ทำไมถึงสิ้นไร้อนาคตแล้ว?”
โกวเยว่ถอนหายใจอีก จะให้เขาอธิบายสิ่งนี้ได้อย่างไร ยามปกติผู้หญิงพวกนี้ไม่ได้คลุกคลีกับเรื่องนี้ ใช้เวลาประเดี๋ยวเดียวจะอธิบายให้เข้าใจได้อย่างไร ถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับสถานการณ์ แค่เปิดเผยให้รู้นิดเดียวก็เข้าใจแล้ว คนที่ไม่มีความรู้ก็จะสงสัยทุกจุด เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้โดยใช้เวลานิดเดียว
เขาเองก็ไม่อยากอธิบายให้ผู้หญิงกลุ่มนี้รู้ว่าท่านอ๋องยอมแพ้โดยไม่สู้
สี่อ๋องสวรรค์ในปีนั้น อิ๋งจิ่วกวงแม้ตัวตายก็ไม่ยอมแพ้ โค่วหลิงซวีแม้ตัวตายก็ไม่ยอมแพ้ ฮ่าวเต๋อฟางหวังเพียงความตาย มีเพียงท่านอ๋องที่ยอมแพ้โดยไม่สู้ เกรงว่าแม้แต่ท่านอ๋องเองก็ยังเผชิญหน้ากับตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ตอนนี้ก่วงลิ่งกงยกอำนาจให้เขาจัดการทุกอย่าง สถานการณ์ด้านนอกไม่ยอมให้เขาเสียเวลากับผู้หญิงกลุ่มนี้อีก เขาต้องแก้ไขปัญหาและพยายามปกป้องผลประโยชน์ของตระกูลเอาไว้ให้ได้มากที่สุด หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ก็บอกกับเม่ยเหนียงว่า “ทัพใหญ่ของหนิวโหย่วเต๋อล้อมที่นี่ไว้แล้ว สามารถบุกโจมตีได้ทุกเมื่อ เหนียงเหนียง หนิวโหย่วเต๋อบอกว่าอยากได้คุณหนู!”
“อยากได้เม่ยเอ๋อร์?” เม่ยเหนียงหายใจถี่กระชั้น สีหน้าแย่มาก ถามว่า “อย่าบอกนะว่าแม้แต่ประมุขชิงและประมุขพุทธะก็แพ้ให้กับหนิวโหย่วเต๋อด้วย?”
“ยังขอรับ” โกวเยว่ส่ายหน้า
เม่ยเหนียงไม่ยอม “แล้วทำไมต้องยอมศิโรราบให้หนิวโหย่วเต๋อ?”
แล้วจะให้โกวเยว่อธิบายสิ่งนี้อย่างไร?
กำลังพลทั้งสองฝั่งเริ่มทยอยมาทางนี้ เป็นเพราะกำลังพลสามร้อยล้านในมือท่านอ๋องคือกุญแจสำคัญของศึกตัดสินระหว่างชิงพุทธะและหนิวโหย่วเต๋อ เพราะหนิวโหย่วเต๋อมีกำลังพลเจ็ดพันล้านกว่า ชิงและพุทธะมีกำลังพลสองพันล้านกว่า ถ้ามารวมกับกำลังพลสามร้อยล้านในมือท่านอ๋องได้ ก็จะกลายเป็นทัพใหญ่ห้าพันล้าน อีกทั้งในมือชิงและพุทธะยังกักตุนอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก สามารถนำมาให้กำลังพลของท่านอ๋องได้ ถึงตอนนั้นด้วยระดับความเก่งกาจและความได้เปรียบด้านอาวุธ ก็เพียงพอที่จะทำศึกตัดสินกับทัพใหญ่ของหนิวโหย่วเต๋อได้แล้ว ถ้าท่านอ๋องไปเข้าข้างฝั่งหนิวโหย่วเต๋อ ก็ไม่ต้องคิดแล้วว่าใครจะมีอำนาจตัดสินใจในใต้หล้านี้
อธิบายรายละเอียดเหล่านี้ให้พวกนางรู้ก็ไม่มีความหมายอะไร ยิ่งเจ้าอธิบาย พวกนางก็ยิ่งมีคำถามเยอะ แล้วไม่มีเวลามาค่อยๆ อธิบายเพื่อเกลี้ยกล่อมด้วย มีหลายคำถามที่ไม่สามารถอธิบายกับผู้หญิงเหล่านี้ได้ ในภายหลังค่อยอธิบายกับพวกนางอีกทีดีกว่า เขาบอกพวกนางเพียงว่า “เหนียงเหนียง ทัพใหญ่ของหนิวโหย่วเต๋อสามารถบุกโจมตีได้ทุกเมื่อ พวกเรามีเวลาจำกัดแล้ว ถ้าเริ่มบุกโจมตีเมื่อไหร่ พวกเราตรงนี้ก็จะไม่มีใครรอดได้สักคน! เหนียงเหนียง ส่งตัวคุณหนูออกมาเถอะ!”
เม่ยเหนียงส่ายหน้า นางไม่มีทางจินตนาการได้เลยว่าลูกสาวของตัวเองจะได้รับความอัปยศอย่างไรบ้าง นางหันตัววิ่งเข้าห้องไปแล้ว ต้องการจะไปหาก่วงลิ่งกง
ใครจะคิดว่าตอนที่เพิ่งวิ่งมาถึงประตู ก็ได้ยินเสียงอันทุ้มลึกของก่วงลิ่งกงดังมาว่า “ไปบุกเข้ามา ประหาร!”
เม่ยเหนียงตัวสั่นทันที นางหยุดฝีเท้า ก้าวถอยหลังช้าๆ น้ำตาไหลพรากเต็มหน้าในชั่วพริบตาเดียว
ผ่านไปไม่นาน ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งก็กรูกันเข้ามา ดึงแขนเม่ยเหนียงมาด้านข้างแล้วล้อมเกลี้ยกล่อมนาง
“น้องสาว เจ้าเป็นนายหญิงของตระกูลนะ ต้องพิจารณาเพื่อทั้งตระกูลสิ!”
“น้องสาว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานึกถึงแต่ตัวเอง จะใช้อารมณ์ตัดสินใจไม่ได้ ต้องคำนึงถึงภาพรวมสิ!”
“พี่สาว หนิวโหย่วเต๋อกำลังจะได้ครองใต้หล้าแล้วนะ เม่ยเอ๋อร์อยู่กับหนิวโหย่วเต๋อก็ไม่ใช่ความอัปยศ…”
ผู้หญิงกลุ่มนี้พากันเปลี่ยนวิธีการต่างๆ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เม่ยเหนียงส่งลูกสาวไป เรียกได้ว่าพูดจนปากเปียกปากแฉะ ถึงขั้นวิงวอนด้วย บางคนก็ยิ่งปาดน้ำตาแล้ว
กำลังจะมีดพร้าจะมาถึงตัวอยู่แล้ว ดีไม่ดีอาจจะหัวหลุดด้วย แล้วคนที่ส่งไปก็ไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง ถ้าก่วงเม่ยเอ๋อร์คนเดียวสามารถปกป้องชีวิตของคนทั้งตระกูลได้ เหตุใดจึงไม่ยินดีทำล่ะ?
โกวเยว่ได้แต่มองดูอยู่ข้างๆ เห็นผู้หญิงกลุ่มนี้แสดงธาตุแท้ออกมาต่างๆนานา คิดจริงหรือว่าหนิวโหย่วเต๋อจะแยแสกับก่วงเม่ยเอ๋อร์แค่คนเดียว? เรื่องส่งก่วงเม่ยเอ๋อร์ให้หนิวโหย่วเต๋อคือการตัดสินใจของเขา เขาถึงวิสาสะตัดสินใจแทนก่วงลิ่งกง เขาก็แค่ต้องส่งคนให้หนิวโหย่วเต๋อเพื่อแสดงท่าที เหตุผลที่อยู่ในนั้นไม่มีค่าพอที่จะอธิบายกับพวกนาง ผลลัพธ์ที่ดีต่างหากคือสิ่งที่ผู้หญิงกลุ่มนี้ต้องการ
กระทั่งโกวเยว่ออกมาจากถ้ำอีกครั้ง ก็มีก่วงเม่ยเอ๋อร์ที่สวมชุดสีขาวทั้งตัวและมีท่าทางเย็นชาไร้ความรู้สึกเดินตามหลังออกมาด้วย นางหดหู่อ้างว้าง ทางซ้ายและขวามีสาวใช้ติดตามมาด้วยสองคน
พวกเขาเหาะขึ้นไปบนฟ้า ไปตรงหน้าทัพใหญ่ที่กำลังล้อม หลังจากค้นตัวผ่านแล้วก็ไปหาชิงเยว่กับหยางเจาชิงโดยตรง
สายตาของกำลังพลทัพใหญ่จับจ้องไปบนตัวก่วงเม่ยเอ๋อร์ แต่ละคนแอบชมในใจ ว่าเป็นสุดยอดความงามที่หาพบได้ยากในโลกนี้จริงๆ…
เหมียวอี้ที่กำลังเร่งเดินทางได้รับรายงาน สายวอกของลั่วหม่าง สายมะเมียของหวงฮ่าว สายมะแมของกูอวี้เฉิงนำทัพมาสวามิภักดิ์มีความจริงใจแล้ว มีเพียงก่วงลิ่งกงที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ และไม่เห็นใครของฝั่งนั้นด้วย แต่ก่วงลิ่งกงกลับส่งก่วงเม่ยเอ๋อร์มาให้เขาแล้ว
หมายความว่าอะไร? เหมียวอี้ถูกทำให้งงนิดหน่อย
มีการฮุบกลืนกำลังพลอย่างต่อเนื่องแบบนี้ คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดก็คือลูกน้องเก่าจากทัพใต้ของเหมียวอี้ ต่อให้เป็นบรรดาคนที่ตามเสี่ยงอันตรายไปกับเรื่องที่เหมียวอี้ก่อขึ้น เบื้องล่างก็มีคนไม่น้อยที่ได้เลื่อนตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง ที่บอกว่าจะได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับกองทัพที่ยอมสวามิภักดิ์ มันเป็นคำโกหกทั้งนั้น จะปฏิบัติอย่างเท่าเทียมได้อย่างไร เจ้าเพิ่งจะมาสวามิภักดิ์ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เจ้าจะได้เลื่อนขั้น ใช่ไหมล่ะ? เมื่อเจ้ายอมมาสวามิภักดิ์ต่อฝั่งนี้ ก็เท่ากับว่าข้าก็ได้สร้างผลงานแล้ว ข้าย่อมได้เลื่อนขั้น เหมียวอี้ยังต้องอาศัยลูกน้องเก่าเหล่านั้นเพื่อมาควบคุมกำลังพลกลุ่มใหญ่ให้ตัวเอง ย่อมต้องปฏิบัติด้วยอย่างดี และลูกน้องเก่าพวกนี้ก็ได้ทะยานขึ้นพรวดพราดตามเหมียวอี้ตลอดทาง เป็นเวลาที่ตื่นเต้นคึกคัก ต้องคุ้มครองและสนับสนุนเหมียวอี้อย่างสุดกำลังแล้ว ไม่อย่างนั้นสิ่งที่เสียหายก็คือผลประโยชน์ของพวกเขาเอง
และทางเหมียวอี้ก็ได้รับข่าวแล้ว ว่าชิงกับพุทธะแบ่งกำลังพลหนึ่งพันล้านมาที่นี่แล้ว ศึกใหญ่รอบตัดสินครั้งสุดท้ายกำลังจะมาถึงแล้ว!
งานใหญ่กำลังจะมาถึง ปัญหายิบย่อยเหล่านั้นสามารถโยนไว้ข้างหลังก่อนแล้วค่อยจัดการก็ได้ ปัญหาของก่วงลิ่งกงสามารถวางไว้ก่อนได้ แต่เขาก็ยังสั่งให้หยางเจาชิงแจ้งต่อกำลังพลทัพตะวันตกยอมสวามิภักดิ์ ว่าจะแต่งตั้งก่วงเม่ยเอ๋อร์ให้เป็นสนมสวรรค์อันเล่อ!
นี่คือสนมสวรรค์คนแรกหลังจากที่เหมียวอี้ประกาศตนเป็นราชัน การปลอบขวัญทัพตะวันตกคือเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง ก่วงลิ่งกงปกครองทัพตะวันตกมาหลายปี เหมียวอี้จินตนาการได้เลยว่าลูกน้องเก่าที่มาสวามิภักดิ์เหล่านี้รู้สึกผิดต่อก่วงลิ่งกง มีหลายคนที่จิตใจยังเอียงไปหาก่วงลิ่งกง ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์บีบบังคับ เกรงว่าคงไม่ยอมสวามิภักดิ์แน่นอน นั่นก็หมายความว่าบารมีในการระดมพลของก่วงลิ่งกงยังคงอยู่ ไม่เหมือนฮ่าวเต๋อฟางกับโค่วหลิงซวีที่ตัวตายไปแล้ว ในเวลานี้เขาไม่อยากให้เกิดความวุ่นวายใดๆ อีก
สาเหตุที่แต่งตั้งก่วงเม่ยเอ๋อร์เป็นสนมสวรรค์ ก็เพราะอยากจะบอกกำลังพลของทัพตะวันตก ว่าพวกเจ้าสามารถวางใจได้ ข้าจะไม่ปฏิบัติต่อก่วงลิ่งกงอย่างไรความยุติธรรม พวกเจ้าสามารถทำงานรับใช้ข้าอย่างไร้ความกังวลได้เลย!
ขณะเดียวกันก็ต้องการจะบอกกับทุกคนของทัพตะวันตกด้วยว่า ก่วงลิ่งกงยอมสวามิภักดิ์ต่อข้าอย่างเป็นทางการแล้ว!
“สนมสวรรค์อันเล่อ!”
ในชัยภูมิถ้ำสวรรค์ เม่ยเหนียงที่น้ำตาไหลอย่างปวดใจไม่หยุดอึ้งไป นางยังกังวลว่าส่งลูกสาวจะไปเป็นเครื่องบรรณาการแล้วจะได้รับความอัปยศ ใครจะคิดว่าเพิ่งจะส่งตัวไปก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นสนมสวรรค์แล้ว อาศัยแค่นามว่า ‘อันเล่อ ก็รู้ถึงท่าทีที่หนิวโหย่วเต๋อต้องการจะแสดงออกแล้ว
“เหมือนจะเป็นสนมสวรรค์คนแรกที่หนิวโหย่วเต๋อแต่งตั้งใช่ไหม?”
“เม่ยเอ๋อร์ช่างมีวาสนาดีจริงๆ!”
“พี่สาว ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลแล้วสินะ!”
อย่าไปดูถูกผลกระทบของการแต่งตั้งตำแหน่งที่มีต่อทัพตะวันตก อาศัยแค่การแต่งตั้งนี้ อย่างน้อยก็ทำให้บรรดาผู้หญิงที่อยู่ในชัยภูมิถ้ำสวรรค์โล่งใจเหมือนโยนก้อนหินลงพื้นแล้ว รู้ถึงเจตนาของหนิวโหย่วเต๋อแล้ว อีกฝ่ายไม่ได้ทำให้พวกนางลำบาก ดังนั้นผู้หญิงกลุ่มนี้จึงมารุมล้อมอยู่ข้างกายเม่ยเหนียง เดี๋ยวก็ประจบเดี๋ยวก็ยินดี เม่ยเหนียงก็ร้องไห้ไม่ออกแล้วเช่นกัน กลับรู้สึกเก้อเขินนิดหน่อย แอบดีใจเล็กน้อย
ภายนอกประจบสรรเสริญ แต่ที่จริงแล้วมีคนไม่น้อยที่แอบอิจฉาริษยาอยู่ในใจ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นอย่างนี้ ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าจะเกิดผลลัพธ์นี้ ก่อนหน้านี้ควรจะฉวยโอกาสตอนเม่ยเหนียงไม่เต็มใจ แล้วส่งลูกสาวของตัวเองไปแทน
สนมสวรรค์เชียวนะ! แค่ดูจากดูสนมสวรรค์หรูอี้ก็รู้แล้ว
มีผู้หญิงไม่น้อยที่ก่อนหน้านี้ยังครุ่นคิดอยู่ว่า ถึงอย่างไรตระกูลก่วงก็ตกต่ำแล้ว ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องเกรงใจเม่ยเหนียงอีก จะได้หาโอกาสล้างความอัปยศที่เกิดจากความไม่พอใจก่อนหน้านี้ก่อนหน้านี้เสียที ใครจะคิดว่าชั่วพริบตาเดียวลูกสาวของอีกฝ่ายจะได้กลายเป็นสนมสวรรค์แล้ว กลายเป็นที่พึ่งของทางตระกูลก่วง ยังจะมีใครกล้าชักสีหน้าใส่เม่ยเหนียงอีกล่ะ?
ต้องข่มความคิดคับแคบเอาไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้ม แต่ในใจกลับแอบร้อง ทำไมสองแม่ลูกดวงดีขนาดนี้!
ทัพอารักขาสองพันล้านของก่วงลิ่งกงไม่ได้รับคำสั่งให้สวามิภักดิ์ ยังคงเฝ้าอยู่ตามแนวภูเขา
เหมียวอี้ไม่ได้ใช้กำลังวังชาไปกับเรื่องการโจมตี เพียงสั่งให้ชิงเยว่ทิ้งกำลังพลห้าร้อยล้านเอาไว้จับตาดู ส่วนกำลังพลแปดพันกว่าล้านที่เหลือก็ให้รีบเร่งไปรับศึกกับชิงและพุทธะ ในจำนวนนั้นมีกำลังพลสองพันล้านที่รีบไปช่วยเหยียนซู่
ในมือมีกำลังทหารเพียงพอแล้ว ทั้งยังแก้ปัญหาที่จะตามมาจากทัพตะวันตกได้ด้วย เหมียวอี้เตรียมจะทำสึกพร้อมกันสองเส้นทาง จัดการกับทัพใหญ่ของชิงและพุทธะในรวดเดียว!
เมื่อได้ยินรายงานของซือหม่าเวิ่นเทียน กำลังพลที่เร่งเดินทัพอยู่ในดาราจักรก็รีบหยุดอย่างกะทันหัน
ขั้นตอนการจัดระเบียบทัพตะวันตกใหม่ เหมียวอี้ควบคุมอย่างเข้มงวดมาก รักษาความลับไม่ให้ข่าวหลุด แต่ในบรรดาคนในครอบครัวที่อยู่ข้างกายก่วงลิ่งกง กลับมีสายลับของหน่วยตรวจการซ้ายอยู่ด้วย ตอนนี้ก่วงลิ่งกงเหมือนจะไม่มีอารมณ์มาแยแสสิ่งนี้แล้ว ปล่อยให้สายลับของหน่วยตรวจการซ้ายช่วยโอกาสปล่อยข่าวไป
“ก่วงลิ่งกงไร้ความหยิ่งในศักดิ์ศรีขนาดนี้ จะเอาหน้าที่ไหนไปเจออิ๋งจิ่วกวง ฮ่าวเต๋อฟางกับโค่วหลิงซวี!” ประมุขชิงโมโหจนกระทืบเท้า
ประมุขพุทธะก็เริ่มมีสีหน้าบึ้งตึงเช่นกัน เชิญหน้ากับหนิวโหย่วเต๋อที่มาพร้อมกำลังทหารมหาศาลขนาดนี้ ฝั่งนี้ไม่มีโอกาสชนะเลย รู้ต่อไปกำลังจะเกิดปัญหายุ่งยากแล้วจริงๆ
ทั้งสองปรึกษากันเล็กน้อย อยากจะนำกำลังทหารกลับไปรวมกับอู๋ฉวี่แล้วกำจัดกำลังพลของเหยียนซู่ก่อน แต่ก็คำนึงถึงเทพสตรีผู้พิทักษ์เผ่าหงส์ แล้วก็ยังมีเทพมังกรอะไรนั่นอีก อาจจะทำให้งานของพวกเขาพังก็ได้ ดังนั้นจึงตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไป ใช้กำลังพลหนึ่งพันล้านไปทำศึกตัดสินกับหนิวโหย่วเต๋อ
แม้จะรู้ว่าโจมตีไม่ชนะ แต่เป้าหมายของพวกเขาก็คือพยายามกำจัดกำลังพลของหนิวโหย่วเต๋อ ทั้งสองต้องการเอาชีวิตหนิวโหย่วเต๋อทำกลางกองทัพนับพันล้าน
ต่อให้กำลังพลของทั้งสองไม่มีแล้ว ต่อให้สังหารหนิวโหย่วเต๋อไม่ได้ แต่พวกเขาก็เชื่อว่าตัวเองมีความสามารถที่จะปลีกตัวออกจากทัพอันยุ่งเหยิงได้ ตราบใดที่หนิวโหย่วเต๋อตายไป กำลังพลที่หนิวโหย่วเต๋อฮุบกลืนได้ก็ซับซ้อนเกินไป นอกจากหนิวโหย่วเต๋อก็ไม่มีใครคุมได้แล้ว ฝูงมังกรที่ไร้หัวจะต้องเกิดความขัดแย้งภายในแน่นอน ใต้หล้าจะแตกแยกเป็นอำนาจกลุ่มน้อยกลุ่มใหญ่ยิ่งกว่าในอดีต หลังจากจบเรื่องแล้ว อาศัยบารมีในการระดมพลของทั้งสองคน ก็สามารถตั้งกำลังพลทีละกลุ่มแล้วนำมารวมกันได้ทุกเมื่อ
ส่วนพวกที่หนีทัพและพวกที่ยอมสวามิภักดิ์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในตัวเลือกของทั้งสอง ต่อให้อ่อนแอแค่ไหน แต่ก็ต้องสู้กับหนิวโหย่วเต๋อให้รู้ดำรู้แดงจนถึงที่สุด เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมยกใต้หล้าให้แต่โดยดี!