ตอนที่ 2085 …สําเร็จ
ห้องหลอมเม็ดยาของพานลั่วหลิงมีบางอย่างผิดปกติ จากภายนอกจะสามารถมองเห็นภาพได้อย่างพร่ามัวเท่านั้น ถึงแม้จะมองเห็นรูปลักษณ์ได้ว่าเป็นนางแต่ก็มองเห็นอย่างอื่นไม่ชัด
ใครบางคนร้องเรียนแต่คําตอบที่ได้รับจากคนของหอโอสถบรรพกาลก็คือถึงแม้จะมีปัญหาเล็กน้อยเกิดขึ้นกับห้องหลอมเม็ดยา แต่การประลองก็ใกล้จะเริ่มแล้วจึงเป็นไปได้ที่จะหยุดกลางคันเพราะจะไปกระทบกับผู้เข้าประลองคนอื่น
เพราะอย่างไรปัญหาก็แค่ภาพที่เห็นพร่ามัวเท่านั้น ไม่ได้ผลกระทบอันใดกับสถานการณ์โดยรวม
แม้คําตอบเช่นนี้จะไม่น่าพึงพอใจแต่ใครกันจะกล้าตั้งคําถามกับคนของหอโอสถบรรพกาล?
หลังจากมีค่าสั่งลงมาการประลองกลุ่มสุดท้ายก็เริ่มขึ้น
หลิงฮันฝึกฝนเม็ดยาสี่ดาวมาเป็นเวลานานแล้วและได้รับคําชี้แนะมากมายมาจากปรมาจารย์จ่อเฉิง ทําให้ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากความสําเร็จอีกเพียงก้าวเดียว
เขานําสมุนไพรนิรันดร์ออกมาก่อนจะสูดหายใจลึกและไม่รีบลงมือหลอมเม็ดยา
ห้องหลอมเม็ดยามีการไหลของเวลาเร็วถึงหนึ่งร้อยเท่าเวลาจึงมีอยู่เหลือเฟือ ระยะเวลาการประลองก็คือสิบวันในโลกภายนอกหรือก็คือราวๆสามปีในห้องเร่งเวลา หากจะหลอมเม็ดมีดาวล่ะก็ถือว่ามีเวลาให้ล้มเหลวได้อยู่หลายครั้ง
หลิงฮันสงบสติอารมณ์อยู่เจ็ดวันเต็มก่อนจะเริ่มขยับมือ
การเคลื่อนไหวของเขานั้นรวดเร็วและเฉียบคมราวกับอสนี
ภายใต้การเร่งของกระแสเวลา วันเวลาก็ผ่านไปสามเดือนอย่างรวดเร็ว
ตูม!
เตาหลอมเกิดการระเบิดและใบหน้าของหลิงฮันกลายเป็นสีดําทมิฬ
“ยังเหลือโอกาสอีกสองครั้ง” หลิงฮันพึมพํา ไม่ใช่ว่าเวลาไม่พอแต่เป็นวัตถุดิบในมือของเขาต่างหากที่เหลือให้หลอมได้อีกแค่สองครั้ง
เขาไม่รีบลงมือหอมครั้งที่สองต่อแต่ปิดตาลงเพื่อทบทวนความล้มเหลว
น่าเสียดายที่ต่อหน้าสาธารณชนเช่นนี้เขาไม่สามารถเข้าไปในหอคอยทมิฬได้ ไม่เช่นนั้นด้วยการช่วยเหลือจากต้นสังสารวัฏการทบทวนจะเสร็จสิ้นได้ในพริบตา
เขานั่งแน่นิ่งไปเป็นเวลานานถึงครึ่งปีก่อนจะเริ่มลงมือหลอมเม็ดยาอีกครั้ง
การหลอมครั้งที่สองนี้ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งผ่านไปห้าเดือนเตาหลอมก็เกิดการระเบิดอีกครั้ง
“ห่างจากจุดที่จะหลอมเม็ดยาสําเร็จอีกนิดเดียว” หลิงฮันรู้สึกเสียดาย “ถ้าหากยังมีวัถุดิบเหลืออยู่อีกสามชุดล่ะก็ข้ามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าจะหลอมเม็ดยาได้สําเร็จอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้… ข้าเหลือโอกาสอยู่แค่ครั้งเดียวเท่านั้น”
“จะสําเร็จหรือล้มเหลวก็ต้องลอง!”
เขานั่งทบทวนความล้มเหลวอีกครั้งโดยที่เวลาผ่านไปถึงครึ่งปี หลิงฮันถึงจะลืมตาขึ้นมาด้วยความมั่นใจ
ครั้งนี้เขาจะต้องหลอมสาเร็จ
ตอนนี้เขาไม่มีที่ให้ล่าถอยแล้ว แต่ก็ใช่ว่าเขาจะวิตกกังวลหรือกระวนกระวายอะไร กลับกันเลยต่างหาก ตอนนี้จิตวิญญาณของเขาลุกโชนราวกับเปลวเพลิงและความมั่นใจพุ่งทะยานสูงเสียดฟ้าว่าเขาจะต้องหลอมเม็ดสาเร็จ
“มาลุยกัน!”
เขาเริ่มหลอมเม็ดยาครั้งสุดท้าย หากครั้งนี้ยังล้มเหลวอีกเขาก็คงต้องหลอมเม็ดยาสามดาวอย่างเดียว
ที่ด้านนอกผู้เข้าแข่งขันเริ่มทยอยออกมาทีละคน
ยังมีบางคนที่หลอมเม็ดยาเสร็จนานแล้วแต่ก็ยังรู้สึกไม่พอใจจึงเลือกที่จะหลอมเม็ดยาต่อไป
แต่พอเวลาด้านนอกมาถึงวันที่แปดผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่ก็หลอมเม็ดยาที่ตนเองพึงพอใจได้เสร็จสิ้น เมื่อเดินออกมาจากห้องหลอมพวกเขาก็น่าเม็ดยาไปยื่นตรวจสอบ
“ปัง” ประตูห้องหลอมเม็ดยาบานหนึ่งถูกเปิดออก พร้อมกับร่างของรุ่นเยาว์ผอมเพรียวได้เดินออกมา
“ดูนั่น! อู่จื่อซวออกมาแล้ว!”
“เขาหลอมเม็ดยาอะไรกันนะ?”
“ใช้เวลานานขนาดนี้ต้องเป็นเม็ดยาสี่ดาวไม่ผิดแน่”
“อาจจะไม่ใช่เช่นนั้นเสมอไป อาจจะเป็นเม็ดยาสามดาวก็ได้แต่ที่นานเป็นเพราะหลอมหลายครั้งจนพอใจ”
เมื่อทุกคนเริ่มถกเถียงกัน อู่จื่อซวีก็ก้าวเดินออกจากห้องหลอมด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
เขาทําสําเร็จ!
แทนที่จะถูกแรงกดดันครอบงําเขาได้กําวข้ามตนเองและเปิดประตูสู่นักปรุงยาสี่ดาวได้สําเร็จ จากนี้เป็นต้นไปเขาจะถูกเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์แห่งศาสตร์ปรุงยาที่แท้จริง
เขายื่นเม็ดยาให้นักปรุงยาที่อยู่ด้านนอกห้องหลอมทําการตรวจสอบ ก่อนจะพาดมือไว้ที่ด้านหลังอย่างมั่นใจ
“เม็ดยาครึ่งเสี้ยววิถี ระดับของเม็ดยาคือสี่ดาวและมีคุณภาพอยู่ในระดับทั่วไป” นักปรุงยาที่ตรวจสอบกล่าวประเมิน
ทันใดนั้นเองผู้คนรอบด้านก็ส่งเสียงเอะอะ
เม็ดยาสี่ดาว!
ในที่สุดในที่การประลองก็มีคนหลอมเม็ดยาสี่ดาวสําเร็จ
“สมกับเป็นอู่จื่อซวี ท่ามกลางแรงกดดันที่หนักหน่วงเขาสามารถก้าวข้ามขีดจํากัดตัวเองและบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวได้!”
“พระเจ้า เขาเพิ่งจะอายุเท่าไหร่กันเชียวแต่กลับเป็นนักปรุงยาสี่ดาวแล้ว”
“เป็นพรสวรรค์ที่พวกเราทําไม่ได้แม้แต่จะอิจฉาจริงๆ”
ทุกคนมองไปยังอู่จื่อซวีด้วยแววตาริษยา อันที่จริงนักปรุงยาที่มีคุณสมบัติแข่งขันในการประลองคือนักปรุงยาสามดาวเท่านั้น สําหรับนักปรุงยาสองดาวหรือหนึ่งดาวพวกเขาไม่มีคุณสมบัติจะแข่งขันเลยแม้แต่น้อย อย่างมากพวกเขาก็ทําได้แค่เพียงลองทดสอบความสามารถในการแยกแยะสมุนไพรของตนเองในการทดสอบแรกเท่านั้น
“อู่จื่อซวีจะต้องได้อันดับหนึ่งในการประลองครั้งนี้แน่”
“หลังจากการประลองครั้งนี้แต้มของเขาก็จะเสมอกับหลิงฮัน แต่ในเมื่อเขาบรรลุเป็นนักปรุงยาสีดาวแล้ว ทักษะห้วงจิตปรับแต่งก็ต้องยกระดับขึ้นเป็นขั้นห้าเช่นกัน เพราะงั้นเขาจะต้องเป็นคนที่คว้าชัยชนะในรอบที่สามได้อีกแน่”
“เป็นไงล่ะ ข้าบอกแล้วว่าอู่จื่อซวีต้องได้อันดับหนึ่งในการประลองครั้งนี้แน่”
“โชคดีที่ข้าลงเดิมพันข้างอู่จื่อซวี”
“ข้าเองก็สิ้นเนื้อประดาตัวเพื่อลงเดิมพันกับอู่จื่อซวีเช่นกัน”
ทันใดนั้นเองประตูห้องหลอมอีกห้องก็เปิดออกและชายชราหนวดเคราขาวโพลนก็ก้าวเดินออกมา
นักปรุงยายื่อหยาง
“จะเป็นอย่างไรบ้างนะ?”
ทุกคนรู้สึกสงสัยอีกครั้ง คนผู้นี้เป็นนักปรุงยารุ่นเก่าที่มีคํากล่าวมานานมากแล้วว่าจะได้กลายเป็นนักปรุงยาดาว แต่ถึงจะอย่างนั้นด้วยชื่อเสียงที่สั่งสมมานานจึงไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเขา
นักปรุงยายื่อหยางเผยรอยยิ้มและยื่นมือที่มีเม็ดยาสีม่วงออกมา
“เม็ดยาหยกม่วงสวรรค์ เม็ดยาระดับสี่ดาว!” นักปรุงยาที่ทําการตรวจสอบพูดโพล่งออกมา ก่อนจะผสานมือ คารวะไปยังนักปรุงยายื่อหยาง “ยินดีกับปรมาจารย์ยื่อหยางด้วยที่ในที่สุดก็บรรลุเป็นนักปรุงยาสีดาวได้สําเร็จ!”
นักปรุงยายื่อหยางยิ้มเล็กน้อยและลูบหนวดด้วยท่าที่ไม่แยแส แต่ที่หลอกไม่ได้คือมุมปากของเขาที่ค่อยๆยกขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความภาคภูมิใจ
“ตอนนี้สถานการณ์เริ่มยากจะตัดสิ้นแล้ว”