ตอนที่ 2088

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2088 วางยา

 

หลิงฮันครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะปรบมือ “คงมีแค่วิธีที่พวกเจ้าว่านั่นล่ะ!”

 

เขาไม่เชื่อในความสามารถของพานลั่วหลิง ที่นางได้รับผลคะแนนยอดเยี่ยมแบบนั้นต้องเป็นเพราะทุจริดไม่ผิดแน่ ดังนั้นในการทดสอบทักษะหัวงจิตปรับแต่ง ตราบใดที่เขาเอาชนะนางได้อย่างขาดลอยการจะขึ้นแซงอันดับของนางย่อมไม่มีปัญหา

 

สิ่งที่ขวางทางเขาอยู่มีแค่หลินหย่งชางคนเดียว

 

“หลิงฮัน เจ้าบ้าไปแล้ว!” ฟูเยวตั้งสติได้และอุทานออกมาด้วยความตะลึง

 

จะบ้ารึไงกัน ในเมืองวิถีโอสถแห่งนี้อีกฝ่ายกล้แม้กระทั่งจะสังหารผู้สืบทอดของผู้อาวุโสแห่งหอโอสถบรรพกาลเลยงั้นรึ? นี่เจ้าเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง?

 

“งั้นเจ้าจะบอกให้ข้ายอมรับความไม่ยุติธรรมนี้งั้นรึ?” หลิงฮันถลึงตามอง

 

ฟูเยว่กล่าวอย่างไร้สิ้นหนทาง “ถึงอย่างนั้นเจ้าก็ทําแบบนั้นไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรแผนการของเจ้าก็ไม่มีวันสําเร็จ เพราะในเมืองร้อยมังกรแห่งนี้มีตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้พํานักอยู่ หากเจ้าลงมือสังหารหลินหย่งชาง จุดจบของเจ้าก็จะมีเพียงความตาย”

 

หลิงฮันยิ้มและกล่าว “ก็ถูกของเจ้า จะให้ข้าทําแบบนั้นมันก็อันตรายเกินไป”

 

“อืม อม” ฟูเยวรีบพยักหน้า

 

หลิงฮันตบไหล่อีกฝ่าย “ถ้างั้นเจ้าก็ต้องเป็นคนลงมือแทนข้า”

 

ฟเยวแทบจะกระอักโลหิตออกมาทันที เขาไม่ได้อยากติดร่างแหไปด้วยเสียหน่อย

 

“ถ้าข้าลงมือไม่ได้ต่อให้เจ้าลงมือก็ไม่มีประโยชน์เหมือนกัน เพราะเจ้ามันอ่อนแอเกินไป” หลิงฮันสะบัดมือพร้อมกับสบถใส่ฟูเยว่

 

“แต่ยังมีอีกคนที่ทําได้” หลิงฮันยิ้มและมองไปยังเสี่ยว

 

“แต่ยังมีอีกคนที่ทําได้” เมื่อเสียวกู่เห็นหลิงฮันมองมามันก็คิดว่าหลิงฮันต้องการเล่นด้วย มันจึงพูดเลียนแบบออกมา

 

“เสี่ยวคู่ สังหารคนผู้หนึ่งให้ข้าที่”

 

“เสี่ยวภู่ สังหาร…” เสียวคู่เลียนแบบค่าพูด

 

หลิงฮันถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเรื่องที่จะให้เสียวก่ลงมือแทนนั้นจะเป็นไปไม่ได้ เพราะนอกจากเลียนแบบคำพูดแล้วมันก็จะลงมือเฉพาะตอนที่ป้องกันตนเอง หรือจะลงมือก่อนก็แค่ตอนที่พบเจอจอมยุทธที่ฝึกฝนศาสตร์วรยุทธที่แตกต่างเท่านั้น

 

แล้วแบบนี้จะทําอย่างไรดีล่ะ?

 

ไม่ว่าจะอย่างไรคําพูดของฟูเยว่ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง หลินหย่งชางนั้นเป็นผู้สืบทอดของหอโอสถบรรพกาล การคุ้มกันรอบตัวเขาย่อมแน่นหนาเป็นอย่างมาก การจะสังหารเขาได้จึงแทบจะเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน

 

ต่อให้เสียวก่ยินดีจะลงมือแทนเขาจริงๆ แต่ด้วยสติปัญญาของมันเกรงว่าเรื่องราวคงจะเอะอะไปทั่วยุทธภพ

 

ดังนั้นเรื่องจะให้เสียวกู่ช่วยจึงตัดทิ้งไปได้เลย

 

“จริงสิ เอาแบบนี้แล้วกัน!” หลิงฮันตบน่องตัวเอง “แต่จะสําเร็จหรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้ว”

 

เขาออกจากโรงเตี้ยมคนเดียวและมุ่งหน้าไปยังตําหนักโอสถ เพียงแต่เป้าหมายของเขาไม่ใช่ตําแหน่งของหลินหย่งชางแต่เป็นห้องเม็ดยา

 

ในการทดสอบทักษะหัวงจิตปรับแต่งรอบต่อไปเม็ดยาจะถูกเตรียมเอาไว้ให้ก่อนแล้ว

เพื่อที่จะมั่นใจว่าไม่มีการทุจริตเกิดขึ้นทางหอโอสถบรรพกาลจึงได้เตรียมเม็ดยาเหล่านี้เอาไว้ ซึ่งเพื่อที่จะ ได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองหากการใช้ทักษะหัวงจิตปรับแต่งล้มเม็ด เม็ดยาจึงมีระดับอยู่ที่หนึ่งดาวเท่านั้น

 

เขาโคจรอํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติเคลื่อนไหวราวกับภูตผี ทําให้แม้แต่จอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณที่ทรงพลังก็ยังยากที่จะพบเจอร่องรอยของเขา

 

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจหลบหนีจากการตรวจสอบของตัวตนระดับตําหนักอมตะได้อยู่ดี

 

“ใครกัน!” ร่างเงาสูงโปร่งร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากตําหนักโอสถ แต่ทันใดนั้นใบหน้าของคนผู้นี้ก็ต้อง แสดงออกถึงความแปลกใจ เพราะทั้งๆที่เขาสัมผัสได้ถึงออร่าแปลกประหลาดแท้ๆ แต่พอมาถึงกลับพบเจอแต่ความว่างเปล่า

 

หรือพักนี้เขาจะบ่มเพาะพลังเกินไปจึงสติฟันเฟือนไปแล้ว?

 

หลังจากมองดูอยู่พักหนึ่งชายร่างสูงโปร่งก็กลับเข้าไปยังตําหนัก

 

หลิงฮันออกมาจากหอคอยทมิฬซึ่งเป็นอาวุธลับที่เขาตั้งใจจะใช้จริงๆ โดยที่อานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ เป็นเพียงฉากบังหน้าเท่านั้น

 

“พรึบ ชายร่างสูงพุ่งทะยานออกมาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความสับสนยิ่งกว่าเดิมเพราะเขาสัมผัสออร่าแปลกประหลาดได้อีกแล้ว แต่พอออกมากลับไม่พบเจออะไรเลย

 

เขาวนสํารวจอยู่พักหนึ่งก่อนจะกลับเข้าไปยังตําหนัก

 

หลิงฮันออกจากหอคอยทมิฬและพุ่งทะยานไปด้านหน้า

 

พรีบ” ชายร่างสูงพุ่งออกมาอีกครั้ง

 

ดวงตาของเขาแดงฉาน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ นี่เขาบ้าไปแล้วรึไง?

 

ครั้งนี้เขาใช้สัมผัสสวรรค์ตรวจสอบผืนดินทุกละเอียดนิ้วแต่ก็ยังไม่พบเจออะไร

 

“ปัง” เขากลับเข้าตําหนักและปิดประตูเสียงดัง

 

เมื่อหลิงฮันปรากฏตัวอีกครั้งชายร่างสูงก็ไม่ปรากฏตัวอีก บางทีอีกฝ่ายอาจจะคิดว่าตนเองสติแตกจนหลอนไปเอง

 

“ที่จริงไม่จําเป็นต้องทําอะไรยุ่งยากแบบนั้นก็ได้” จู่ๆ หอคอยน้อยก็เอ่ยขึ้นมา “แค่เจ้าโคจรแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ไม่สามารถตรวจพบตัวตนของเจ้าได้ง่ายๆ”

 

“จริงรึ?”

 

“ในเมื่อแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่มีคําว่าสวรรค์และปฐพี่อยู่ แน่นอนว่ามันย่อมต้องเป็นส่วนหนึ่งของสวรรค์และปฐพี หากเจ้าใช้อํานาจของมันเจ้าก็จะถูกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และปฐพี หากไม่ถูกสัมผัสสวรรค์ของราชานิรันดร์เพ่งเล็งเข้า ก็เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะหาตัวตนของเจ้าพบ”

 

หลิงฮันกัดฟัน “ทําไมเรื่องสําคัญแบบนี้เจ้าจึงไม่บอกข้าก่อน?”

 

“เพราะข้าประเมินสติปัญญาของเจ้าพลาดไปอย่างไงล่ะ ข้าคิดว่าเจ้าจะคิดเรื่องนี้ออกเสียอีก” หอคอยน้อยกล่าว

 

เขาถูกหอคอยน้อยเหน็บแนมอีกแล้ว

 

หลิงฮันเล็กสนใจหอคอยน้อยและโคจรแก่นกําเนิดสวรรค์พฤกษา เพราะตําหนักแห่งนี้มีรากฐานเป็นพฤกษาและปฐพี

 

“ครืน” สัมผัสสวรรค์กวาดผ่านร่างของเขาไปแต่ก็ไม่มีการชะงักใดๆเกิดขึ้น

 

นั่นเป็นสัมผัสสวรรค์ของตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้!

 

หลิงฮันพยักหน้า เป็นอย่างที่หอคอยน้อยกล่าวจริงๆ ปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ผู้นี้เห็นเขาเป็นเพียงต้นไม้ของตําหนักโอสถจึงไม่ได้ให้ความสนใจใดๆ

 

ในเมื่อเป็นแบบนี้หรือเขาจะเปลี่ยนแผนไปสังหารหลินหย่งชางดี?

 

ความคิดนี้แวบผ่านมาเพียงชั่วพริบตาก็สลายไป นั่นเพราะเมื่อใดที่เขาลงมือออร่าของเขาก็จะเล็ดลอดออกมา ต่อให้เขาเข้าไปยังหอคอยทมิฬได้ทันเวลาและไม่ถูกปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้พบเห็น แต่ตราบใดที่มีออร่าของเขาหลงเหลือเอาไว้ละก็ การถูกปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เห็นหน้ายังจะดีกว่าเสียด้วยซ้ํา

 

นั่นเพราะว่ารูปลักษณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่าย ผิดกลับออร่าที่อย่าจะเปลี่ยนแปลง

 

เพราะงั้นหลิงฮันจึงตัดสินใจทําตามแผนเดิม

 

เขาเดินลุ่มอยู่นานสองนานในที่สุดก็เจอห้องเม็ดยา

 

“โชคดีที่ไม่มีค่ายกลอาคมคุ้มกันเอาไว้!” หลิงฮันยิ้ม

 

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ที่นี่มีตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้พํานักอยู่ ค่ายกลอาคมคุ้มกันจะยังมีความจําเป็นงั้นรี?

 

หลิงฮันผลักประตูเข้าไปและค้นภายในห้อง

 

“เจอแล้ว!”

 

เขาพบชั้นวางที่มีกล่องหนึ่งร้อยกล่องวางเอาไว้ แต่ละกล่องมีเม็ดยาที่ปราศจากการปรับแต่งสามเม็ดใส่อยู่ และแต่ละกล่องก็มีชื่อของผู้เข้าประลองในรอบที่สามเขียนแปะเอาไว้ด้วย

 

“หลินหย่งชาง” หลิงฮันเจอกล่องที่เขียนชื่อของหลินหย่งชางแปะเอาไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดกล่องเขาก็พ่นพิษของไผ่ครามผลสีชาดที่เหลืออยู่เพียงหยดเดียวออกมา

 

เขาหยดพิษลงบนเม็ดยาเม็ดหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการหยุดพิษลงบนเม็ดยาอีกสองเม็ดแต่ที่ไม่ทําเช่นนั้น ก็เพราะพิษถูกใช้ไปหมดแล้ว

 

“ถือว่าเป็นโชคชะตาให้เจ้ามีโอกาสรอดชีวิต ถ้าหากเจ้าทําการปรับแต่งเม็ดยาเพียงหนึ่งหรือสองเม็ดและหลีกเลี่ยงเม็ดยาเม็ดนี้ได้ นั่นก็คือดวงชะตาของเจ้า” หลิงฮันกล่าว

 

ถ้าไม่ใช่เพราะหลินหย่งชางกับหยวนถงกวางเล่นไม่ซื่อก่อน เขาก็รังเกียจที่จะใช้วิธีการแบบนี้เช่นกัน