ตอนที่ 2089

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2089 ลงมืออย่างลับๆ

 

หลิงฮันออกจากตําหนักเม็ดยาอย่างเงียบเฉียบและกลับไปยังโรงเตี้ยมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

วันเวลาผ่านไปและการทดสอบรอบที่สามก็เริ่มขึ้น

 

ผู้เข้าร่วมหนึ่งร้อยคนมายังลานประลองปรุงยาอีกครั้ง ถึงแม้พวกเขาส่วนใหญ่จะไม่มีความหวังในการชิงสามอันดับแรกแล้ว แต่ก็ไม่มียอมแพ้จนกว่าผลลัพธ์สุดท้ายจะออกมา

 

การทดสอบในรอบนี้ยังแยกห้องอยู่ ผู้ช่วยนักปรุงยามากมายเดินถือกล่องเข้ามาโดยที่บนกล่องแต่ละกล่องนั้นมีรายชื่อของผู้เข้าร่วมแต่ละคนเขียนเอาไว้

 

เมื่อหลินหยังชางรับกล่องมาแล้ว เขาก็หันไปชําเลืองมองหล็งฮันด้วยสายตาเหยียดหยาม

 

ช่างไม่รู้จักที่ต่ําที่สูงจริงๆที่กล้ามาขโมยความโดดเด่นไปจากข้า!

 

หลิงฮันยิ้มอย่างไม่แยแสและเมินเฉย

 

ต่อให้คราวนี้หลินหย่งชางโชคดีรอดชีวิตไปได้เขาก็หาทางสังหารอีกฝ่ายในอนาคตอยู่ดี

 

“เริ่มการทดสอบได้” ปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวที่รับหน้าที่ดูแลการทดสอบกล่าวเปิดม่าน แต่ด้วยการที่ในการประลองครั้งนี้มีนักปรุงยาสีดาวถือกําเนิดขึ้นหลายคน นําเสียงของเขาจึงอ่อนลงเป็นอย่างมาก

 

ทุกคนมีเวลาสิบสองชั่วโมง

 

ภายใต้อํานาจของห้องเร่งเวลาหนึ่งร้อยเท่าระยะเวลาเท่านี้เหลือเฟือแล้วที่จะทําการปรับแต่งเม็ดยาสามเม็ด

 

ทันทีที่หลิงฮันปิดประตูห้องหลอมเขาก็เลิกสนใจโลกภายนอกและจดจ่อสมาธิอยู่กับทักษะห้วงจิตปรับแต่ง

 

การที่ใครบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวได้หมายความว่าคนผู้นั้นมีความสามารถในศาสตร์ปรุงยาสูงพอที่จะใช้ทักษะหัวงจิตปรับแต่งขั้นห้าได้ แต่ทว่าการปรับแต่งเม็ดยาขั้นห้าก็ใช่ว่าจะสําเร็จในครั้งแรก

 

เพราะงั้นทุกคนจึงโอกาสสามครั้ง

 

หากผู้ใครมีความมั่นใจไม่มากพอก็เลือกที่จะทําการปรับแต่งสามขั้นหรือสี่ขั้นได้ เพราะไม่มีใครกําหนดเอาไว้ว่านักปรุงยาสี่ดาวจะต้องปรับแต่งเม็ดยาห้าขั้นเท่านั้น

 

แต่หากไม่ปรับแต่งเม็ดยาห้าขั้นจะสามารถขึ้นครองอันดับหนึ่งได้งั้นรี?

 

หลิงฮันสูดหายใจลึกรายละเอียดเกี่ยวกับทักษะห้วงจิตปรับแต่งและคําชี้แนะจากปรมาจารย์จ่อเฉิงก็ได้พรั่งพรูขึ้นในห้วงจิตของเขา

 

อาจารย์ผู้นี้ของเขาไม่เคยสอนอะไรเจาะจงให้แก่เขา แต่จะชี้แนะเกริ่นนําทางให้เขาคิดเองเท่านั้น

 

หลังจากเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งวันหลิงฮันก็เริ่มลงมือ

 

การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว

 

เขาปรับแต่งเม็ดยาขั้นแรก ขั้นสอง ขั้นสามและขั้นสองเสร็จอย่างรวดเร็วเนื่องจากเขาฝึกฝนมาหลายครั้งจนคุ้นเคยแล้ว ช่วงเวลาสําคัญที่ต้องจริงจังคือการปรับแต่งขั้นห้าในครั้งต่อไป

 

หลิงฮันโคจรเพลิงเก่าสวรรค์เพื่อทําการปรับแต่งครั้งสุดท้าย

 

ตูม!

 

ผ่านไปเพียงชั่วครู่เปลวเพลิงก็ห่อตัวรวมกันและเม็ดยาได้ถูกแผดเผาเป็นเถ้าถ่าน

 

ใช่แล้ว…การปรับแต่งสีขั้นที่ทํามากลายเป็นสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง

 

โชคยังดีที่การปรับแต่งเม็ดยาไม่จําเป็นต้องใช้วัตถุดิบอะไรมาก

 

มาลองอีกครั้ง

 

ที่ด้านนอกผู้ชมกําลังจดจ้องอย่างรัดกุมโดยเฉพาะพานลั่วหลิง ห้องหลอมของนางถูกห้อมล้อมไปด้วยผู้คนมากมาย

 

เนื่องจากแรงกดดันที่หนักหน่วง ครั้งนี้หยวนถงกวางจึงไม่กล้าทุจริตอย่างโจ่งแจ้ง

 

ด้วยการที่มีผู้คนจ้องมองจากด้านนอกอยู่มากมายเช่นนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะซ่อนได้ว่านักปรุงยาคนใดทําการปรับแต่งเม็ดยาสาเร็จกขั้น

 

หากยังจะประกาศผลออกมาว่าการปรับแต่งขั้นสี่เป็นการปรับแต่งขั้นห้าล่ะก็จากวันนี้เป็นต้นไปหอโอสถบรรพกาลสาขาเมืองนี้คงไม่มีความน่าเชื่อถืออีกต่อไป

 

แต่นอกจากพานลั่วหลิงแล้วนักปรุงยาอัจฉริยะคนอื่นก็ได้รับความสนใจอย่างล้นหลามเช่นกัน ไม่ว่าจะหลิงฮัน หลินหย่งชาง หรือพวกอู่จื่อซวีก็มีผู้ชมมากมายล้อมอยู่รอบห้องหลอม

 

“น่าเสียดายจริงๆ!”

 

“นั่นเป็นเม็ดยานิรันดร์ที่ถูกปรับแต่งถึงสี่ขั้น มูลค่าของมันต้องมีหนึ่งแสนศิลาดวงดาวเป็นอย่างน้อย”

 

เมื่อเห็นว่าหลิงฮันปรับแตกเม็ดยาเม็ดแรกล้มเหลวทุกคนก็แสดงความรู้สึกเสียดายออกมาทางด้านผู้ชมของอู่จื่อซวีและนักปรุงยายื่อหยางก็เช่นกัน พวกเขาเพิ่งบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวเท่านั้นการล้มเหลวในครั้งแรกจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ทางด้านของหลินหย่งชาง เขาเปิดกล่องและหยิบเม็ดยาออกมา

 

ไม่มีอะไรเกิดขึ้น…

 

เขาโชคดีมากที่ไม่จับโดนเม็ดยาที่มีพิษ

 

เริ่มทําการปรับแต่งเม็ดยา

 

หนึ่ง… สอง…สาม… สี่…การปรับแต่งสี่ขั้นแรกเป็นไปอย่างราบรื่น แต่เมื่อเริ่มทําการปรับแต่งครั้งที่ห้าความเร็วของหลินหย่งชางก็ช้าลง เพราะเขาเพิ่งจะบรรลุเป็นนักปรุงยาสีดาวได้ไม่นาน

 

ลวดลายสีทองสลัวปรากฏล้อมรอบเม็ดยา

 

ตูม!

 

แต่ในขณะที่หลินหย่งชางกําลังจะปรับแต่งนั้นเองเม็ดยากลับระเบิดออก

 

การปรับแต่งครั้งแรกล้มเหลว

 

หลินหย่งชางเผยสีหน้าไม่สบอารมณ์ เมื่อครู่ใกล้จะสําเร็จอยู่แล้วเชียว

 

ต้องเริ่มใหม่อีกครั้ง

 

เขาหยิบเม็ดยาอีกเม็ดจากกล่อง ซึ่งทุกอย่างก็ยังดูปกติดีไม่มีอาการใดของการถูกยาพิษ

 

ช่างโชคดีจริงๆ!

 

หลินหย่งชางเริ่มปรับแต่งเม็ดยาอีกครั้ง

 

“เป็นคนที่โชคดีจริงๆ!” ใครบางคนในหมู่ผู้ชมพึมพําออกมา คนผู้นี้ใส่ผ้าคลุมหลวมโคร่งและสวมหมวกไม่ไผ่อยู่บนหัวทําให้ร่างกายแทบทุกส่วนของเขาถูกปกปิดเอาไว้ แต่หากสังเกตสักเล็กน้อยจะพบว่าเท้าสองข้างที่โผล่ออกมานั้นเป็นเท้าของสุนัขขนสีดํา

 

“ถ้างั้นข้าก็แค่ลงมืออีกครั้งก็พอ” คนผู้นั้นกล่าวและยื่นมือออกมานอกผ้าคลุมเล็กน้อย มือของคนผู้นี้เห็นได้ชัดว่าเป็นอุ้งเท้าของสุนัขที่มีชุดชั้นในสีชมพูพันอยู่

 

“ชุดชั้นในของราชานิรันดร์หลินเยี่ยวช่างหอมจนทําให้จิตใจกระปรี่ประเปล่าดีจริงๆ!” ชายคนนั้นพึมพําคนเดียวพร้อมกับยื่นอุ้งเท้าไปยังทิศทางของหลินหย่งชาง

 

ทันทีที่เขายืนอุ้งเท้าออกไป เม็ดยาในมือของหลินหย่งชางก็ระเบิดทันที

 

บัดซบทําไมถึงได้ล้มเหลวอีกแล้ว?

 

หลินหย่งชางรู้สึกมึนงง คราวนี้เขาเพิ่งจะปรับแต่งเม็ดยาไปเพียงสามขั้นเท่านั้นแต่ก็ยังล้มเหลวงั้นรึ? เรื่องแบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

 

ที่ด้านนอกห้องหลอมทุกๆคนส่งเสียงเอะอะอลหม่าน

 

การปรับแต่งเป็นขั้นตอนที่มองออกได้ง่ายที่สุด เพราะงั้นทุกคนจึงเห็นอย่างชัดเจนว่าหลินหย่งชางนั้นล้มเหลวในการปรับแต่งครั้งที่สาม

 

“ปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวที่สูงส่งล้มเหลวแม้กระทั่งการปรับแต่งครั้งที่สามงั้นรึ?”

 

“จะเป็นการผิดพลาดที่งี่เง่าเกินไปหน่อยรึเปล่า”

 

“ตอนนี้ข้าชักสงสัยแล้วว่าเขาบรรลเป็นนักปรุงยาสี่ดาวได้อย่างไร ไม่ใช่ว่าเขาเองก็ทําการทุจริตเหมือนสตรีผู้นั้นหรอกรี?”

 

“ฮ่าๆๆๆ

 

ใครหลายคนเผยท่าทีเยาะเย้ยออกมาตรงๆ เป็นเพราะเหตุการณ์ของพานลั่วหลิงก่อนหน้านี้ ความเชื่อถือที่ทุกคนมีต่อหอโอสถบรรพกาลจึงลดดงฮวบ

 

“เหอะ!” “ชายร่างสุนัขหัวเราะแห้ง “กล้าดีอย่างไรมารังแกฉันน้อยของเรา นายท่านหมาไม่ระเบิดรูทวารของเจ้าก็ถือว่าบุญแล้ว”

 

…หากหลิงฮันได้ยินคําพูดนี้เขาคงจะเดาตัวตนของ “คน” ผู้นี้ได้ในทันที

 

หลินหย่งชางตกอยู่ในสภาวะมีนงงและยื่นมือออกไปหยิบเม็ดยาเม็ดสุดท้าย