ตอนที่ 2090 ราชานิรันดร์คน…
มือข้างหนึ่งได้เอื้อมไปหยิบเม็ดยาเม็ดยาสุดท้ายในกล่อง
แต่สีหน้าของหลินหย่งชางก็ต้องเปลี่ยนไปทันที จู่ๆเขารู้สึกคันแปลกๆที่ฝ่ามือจึงดึงมือออกมาและเม็ดยาก็ได้หล่นกลับไปที่กล่องภาพที่เห็นต่อจากนั้นสร้างความหวาดผวาให้กับเขาเป็นอย่างมาก
นั่นเพราะสิ่งที่หล่นลงไปที่กล่องไม่ได้มีเพียงเม็ดยาอย่างเดียวแต่กองเนื้อที่เน่าเปื่อและโลหิตก็หล่นลงไปที่กล่องด้วยเช่นกัน หลินหย่งชางพบว่ามือของตนเองหายไปกว่าครึ่งและครึ่งที่เหลือก็ยังมีโลหิตไหลออกมาไม่หยุด
มือของเขากําลังหลอมละลาย!
“อ้ากก!” เพียงชั่วหนึ่งการเต้นของหัวใจเสียงร้องอันเจ็บปวดของหลินหย่งชางก็ดังขึ้น ในตอนนี้มือของเขาได้ถูกกัดกร่อนกลายเป็นเศษเนื้ออย่างสมบูรณ์แล้ว และฤทธิ์ของการกัดกร่อนก็ยังคงลามขึ้นไปยังส่วนแขนของเขา
“ใครช่างกล้า!” เสียงคํารามดังขึ้นกลางอากาศและร่างเงาร่างหนึ่งได้พุ่งทะยานออกมาด้วยออร่าน่าสะพรึงกลัว “ปัง” ร่างที่ว่านี้ผลักฝ่ามือเข้าใส่ประตูห้องหลอมของหลินหย่งชางและเอื้อมมือไปคว้าร่างของหลินหย่งชาง
คนผู้นี้คือปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ที่สามารถกําราบพิษของไผ่ครามผลสีชาดได้ ต่อให้เขาไม่สามารถรักษาพิษแต่อย่างน้อยก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้
เพียงแต่ทันทีที่เขายื่นมือออกไป จู่ๆฝ่าเท้าของเขาก็สะดุดล้มหัวคะมา
ใบหน้าของเขากระแทกลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนฟันหน้าสองซี่หลุดดกระเด็นออกมา
เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทุกคนก็แสดงท่าที่ตกตะลึงอย่างปิดไม่มิด
การที่ปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้จะหกล้มอย่างไร้เหตุผลได้นั้นเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเกิดขึ้นเด็ดขาด ยิ่งถึงขนาดหกล้มอย่างรุนแรงจนฟันสองสีหลุดออกมายิ่งแล้วใหญ่ แต่ใครกันล่ะจะสามารถลอบลงมือกับตัวตนระดับนี้ได้?
ราชานิรันดร์งั้นรี?
ราชานิรันดร์คนใดกันจะว่างถึงขนาดนั้น?
“กะ กะ กะ กะ” สุนัขตัวดําหัวเราะอย่างบ้าบอ เมื่อครู่เพราะมันยื่นอุ้งเท้าออกไปอีกครั้งปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ถึงได้หกล้มเช่นนั้น
จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ผู้นั้นตกตะลึงเป็นอย่างมาก คนที่จะเล่นกับเขาเหมือนกับลูกไก่ในกํามือ เช่นนี้ได้มีเพียงราชานิรันดร์เท่านั้น และในเมื่อคนที่ลงมือกับเขาเป็นถึงราชานิรันดร์ มีรีที่เขาจะกล้าทุ่มบ่ามเคลื่อนไหวตามใจชอบ?
ในความคิดของเขานี้สัญญาณเตือนจากราชานิรันดร์
“ผู้อาวุโส!” จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท่โค้งตัวและกวาดมือคํานับไปยังท้องฟ้า “รุ่นเยาว์ตรงหน้านี้ คือบุตรเพียงคนเดียวของปรมาจารย์หลินเชิงหลงแห่งหอโอสถบรรพกาลข้าอยากร้องขอให้ผู้อาวุโสเมตตายอมไว้ชีวิตเขาด้วย”
เมื่อได้ยินคําพูดนี้ทุกคนรอบด้านก็ตกตะลึง
เป็นการลงมือของราชานิรันดร์จริงๆงั้นรึ?
แต่ทว่าหลังจากสิ้นประโยคบรรยากาศก็ยังคงเงียบสงัดไร้เสียงตอบกลับ
จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแม่ไม่รู้ว่าราชานิรันดร์ลึกลับผู้นี้ยอมรับหรือไม่ แต่ตอนนี้แขนของหลินหย่งชางเน่าเปื่อยไปทั้งแขนแล้ว หากยังปล่อยไปการกัดกร่อนก็จะลามไปถึงล่าคอและศีรษะ ซึ่งชีวิตของหลินหย่งชางจะดับสิ้นในที่สุด
เขาไม่กล่ลังเลอีกต่อไปและรีบคว้ามือไปยังหลินหย่งชางอีกครั้ง
ปัง!
แต่ทันทีที่เขายื่นมือออกไปร่างกายก็ราวกับยืนได้ไม่มั่นคงและหกล้มหน้ากระแทกพื้นอีกครั้ง
ราชานิรันดร์ลงมืออีกแล้ว!
ทุกคนทั้งตกตะลึงและตื่นเต้น
สําหรับคนส่วนใหญ่ ทั้งชีวิตของพวกเขาเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้พบเห็นราชานิรันดร์ที่สูงส่งยิ่งการจะเห็น ตัวตนระดับนี้ลงมือยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ตอนนี้ถึงแม้พวกเขาจะไม่เห็นว่าราชานิรันดร์ที่ลงมือมีรูปลักษณ์แบบใด แต่พวกเขาก็ได้เห็นแล้วว่าตัวตนระดับนั้นสามารถเล่นกับจอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้อยู่บนฝ่ามือได้โดยไม่แม้แต่ต้องปรากฏตัว
“ผู้อาวุโสได้โปรดมอบทางรอดให้ข้าด้วย!” หลินหย่งชางเข้าใจเรื่องราวได้อย่างรวดเร็วถึงว่าทําไมเขาถึงปรับแต่งเม็ดยาขั้นที่สามล้มเหลว ที่แท้ก็มีราชานิรันดร์แอบลอบลงมืออยู่ลับๆนี่เอง
“เจ้าตัวบัดซบ เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครถึงได้กล้ารังแกฉันน้อยของข้า? ถ้าข้าปล่อยให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไปนายท่านหมาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?” เสียงอันก้องกังวาลดังขึ้นในหูของหลินหย่งชาง และมีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้
ว่าไงนะ!
สีหน้าของหลินหย่งชางแสดงออกถึงความตกตะลึง เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลิงฮันจะมีราชานิรันดร์อยู่เบื้องหลัง ที่น่าสะพรึงกลัวก็คือราชานิรันดร์ผู้นี้ต้องการปกป้องหลิงฮันจนถึงขนาดลงมือด้วยตนเองอีกด้วย
“โปรดเมตตา! โปรดเมตตา!” หลินหย่งชางคุกเข่าร้องขอชีวิต ตอนนี้ฤทธิ์กัดกร่อนของพิษได้ลามมาจนเลยล่าคอของเขาและศีรษะแยกออกเป็นสองส่วนแล้ว เพียงแต่สำหรับนิรันดร์ตราบใดที่ห้วงจิตวิญญาณยังไม่ถูกทําลายความเสียหายนี้ก็ยังไม่ถึงกับถึงชีวิต
แต่ทว่าหลังจากสิ้นเสียงขอความเมตตาของหลินหย่งชางก็ไม่มีเสียงใดตอบรับกลับมา
“ไม่…” หลินหย่งชางโอดครวญอย่างน่าเวทนา ณ เวลานี้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก การเข้าร่วมการประลองครั้งนี้ไม่มีผลดีอะไรเลยจริงๆแม้จะได้อันดับหนึ่งก็ตามที
หลังจากร้องโอดครวญศีรษะของหลินหย่งชางก็ถูกพิษกัดกรอดกร่อนอย่างสมบูรณ์ และหลงเหลืออยู่เพียงกองโลหิต
จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้เข่าทรุด เขามองไปยังหลินหย่งชางที่กลายเป็นบ่อโลหิตด้วยหัวใจที่เต้นโครมคราม
เป็นเรื่องใหญ่แล้ว!
ผู้สืบทอดของหอโอสถบรรพกาลที่เป็นทั้งบุตรของปรมาจารย์นักปรุงยาห้าดาวตายต่อหน้าต่อตาเขา
โชคยังดีคนที่ลงมือคือราชานิรันดร์ จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นก่าเนิดแท่ไม่อาจหยุดยั้งราชานิรันดร์ได้ เพราะงั้นเขาก็ไม่น่าจะเป็นอะไร…สินะ?
รอบด้านกลายเป็นเงียบสงัด การตายของปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงยิ่งกว่าการตายของสุดยอดจักรพรรดิอย่างพวกเทียนชิงเต่เสียอีก นั่นก็เพราะมากมองในมุมมองของโลกวรยุทธจอมยุทธระดับ แบ่งแยกวิญญาณก็ยังคงเป็นจอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณ
แต่ปรมาจารย์นักปรุงยาสีดาวนั้น… เป็นตัวตนที่มีสถานะเทียบเท่ากับจอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้
เมื่อตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้สิ้นชีพมีรีที่ใครจะไม่ตกตะลึง?
เหนือสิ่งอื่นใดคือหลินหย่งชางยังเป็นบุตรเพียงคนเดียวของปรมาจารย์นักปรุงยาห้าดาวอีกด้วย
แต่คําถามคือหากราชานิรันดร์ลงมือล่ะก็จะมีร่องรอยใดๆเหลืออยู่ได้อย่างไร? เพราะงั้นหลังจากนี้จึงไม่มีการแก้แค้นใดๆเกิดขึ้นทั้งนั้น
หรือจะให้สังหารราชานิรันดร์ทุกคนเลยงั้นรึ?
ใครกันจะมีความสามารถเช่นนั้น?
เพียงแต่สําหรับผู้เข้าแข่งขันในห้องหลอมแล้วพวกเขาไม่รู้แม้แต่น้อยว่าดํานนอกเกิดอะไรขึ้น พวกเขายังคงตั้งมั่นสมาธิไปกับการปรับแต่งเม็ดยา
หลังจากเวลาผ่านไปสองชั่วโมงผู้เข้าแข่งขันผู้หนึ่งก็เดินออกมาเป็นคนแรก
เขารู้สึกตกตะลึงทันทีที่ออกมา เหตุใดบรรยากาศด้านนอกถึงได้อึมครึมขนาดนี้กัน มีอะไรเกิดขึ้นงั้นรึ? ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานผู้เข้าแข่งขันคนนี้ก็ต้องอุทานออกมามีราชานิรันดร์อยู่ที่นี่และลอบวางยาพิษหลินหย่งชางจนตาย?
เรื่องนี้…ฟังดูแล้วช่างไร้เหตุผลสิ้นดี
ราชานิรันดร์จะลงมือสังหารจอมยุทธระดับแบ่งแยกวิญญาณจําเป็นต้องวางยาพิษด้วย?
เรื่องแบบนี้คิดว่าจะหลอกใครได้!
ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆเริ่มทยอยออกกันมา พวกเขาทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึงในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธที่จะเชื่อว่าราชานิรันดร์ลงมือจริงๆ
ท่ามกลางความตกตะลึงอู่จื่อซวี หลิงฮันและผู้เข้าแข่งขันตัวเต็งคนอื่นๆก็ออกมาจากห้องหลอมที่ละคน
เมื่อทุกคนออกจากห้องหลอม หารตรวจสอบคุณภาพของทักษะห้วงจิตปรับแต่งก็เริ่มขึ้น
ในหมู่ผู้เข้าแข่งขันมีเพียงหลิงฮันกับอู่จื่อซวีเท่านั้นที่ปรับแต่งเม็ดยาได้ห้าขั้น
นักปรุงยายื่อหยางกับเซียเล่อจางปรับแต่งเม็ดยาขั้นห้าล้มเหลวสองครั้งติดต่อกัน ทําให้ในการปรับแต่งเม็ดยาเม็ดที่สามพวกเขาไม่กล้าลองปรับแต่งเม็ดยาขั้นห้าต่อ
ทักษะหัวงจิตปรับแต่งของพานลั่วหลิงเองก็อยู่ในขั้นสี่ ซึ่งต่อหน้าการจับจ้องของฝูงชนไม่มีทางที่นางจะท่าการทุจริดได้
เมื่อผลลัพธ์ออกมาเช่นนี้ ตําแหน่งผู้ชนะอันดับหนึ่งจึงเป็นการตัดสินระหว่างหลิงฮันกับอู่จื่อซวีเพียงสองคน