ตอนที่ 1470 : การต่อสู้ในอุโมงค์

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1470 : การต่อสู้ในอุโมงค์

แสงสีม่วงส่องประกายอกมา มันส่องแสงออกมายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ครอบคลุมไปทั้งอุโมงค์ ปราณกระบี่อันน่ากลัวเต็มไปด้วยการทำลายล้าง มันกดทับมิติในอุโมงค์ อุโมงค์นี้แทบจะแยกออกจากกัน 3 เมตรของมิติใกล้กับทางออกไปยังทวีปเทียนหยวนได้แยกตัวออก มิตินั้นได้ถล่มลงไป สิ่งที่ยังเหลืออยู่มีแต่ความมืดมิด เส้นพลังของกฎที่มองไม่เห็นห้อยอยู่ปลายมิติที่ถล่มลงไปเชื่อมสองส่วนเข้าหากัน

ตอนที่แสงสีม่วงปรากฏขึ้น ขั้นรับมอบทั้งหกที่กำลังมุ่งหน้าไปที่ทางออกต่างก็แสดงสีหน้าต่างไปจากเดิม แม้ว่ามิตรอบตัวจะถล่มหลายส่วนแต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะหยุดและมองไปยังแสงสีม่วงที่ขวางทางพวกเขาอยู่

” ข้ารู้สึกถึงมัน มันคือกฎจิตวิญญาณราชันย์ คนที่จิตวิญญาณราชันย์ได้พูดถึงปรากฏตัวแล้ว” ขั้นรับมอบคนหนึ่งพูดออกมาด้วยเสียงที่ดูหนักใจ ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากกับชายที่จิตวิญญาณราชันย์พูดถึงเพราะพวกเขาแข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขั้นรับมอบโดยขึ้นถึงช่วงปลายของขั้นรับมอบแล้ว แม้ว่าจิตวิญญาณราชันย์จะอธิบายชายคนนี้ว่าแข็งแกร่งแต่ก็ชายคนนี้ก็ยังอยู่ในขั้นรับมอบ ระดับเดียวกับพวกเขา แม้ว่าชายคนนี้จะแข็งแกร่งแต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแข็งแกร่งเกินไป พวกนั้นอาจจะเอาชนะเขาไม่ได้แต่พวกนั้นก็มั่นใจว่าสามารถปกป้องตัวเองได้

แต่ตอนนี้พวกเขาก็เข้าใจแล้วว่าชายคนนี้แข็งแกร่งเพียงใดเมื่อรู้สึกได้ถึงปราณกระบี่ที่น่ากลัวภายในแสงสีม่วง

ปราณกระบี่ทำให้ทั้งหกแปลกใจอย่างมาก

ทันทีที่แสงสีม่วงปรากฏขึ้นมาที่ปลายอุโมงค์ มันก็ได้พุ่งเข้าหาทั้งหกเร็วดั่งสายฟ้า ปราณกระบี่นั้นเพียงพอจะบดขยี้ลำแสงพลังงาน

ลำแสงพลังงานที่แม้แต่เซียนจักรพรรดิก็ต้องหลีกเลี่ยงในอุโมงค์นั้นได้หายไปในทุกที่ที่แสงสีม่วงผ่าน มันเป็นฉากที่ประหลาด ในเวลาเดียวกันไม่ว่าแสงสีม่วงจะไปที่ไหน ชั้นรอยแตกบาง ๆ ก็จะปรากฏขึ้นรอบอุโมงค์เพิ่มความเร็วในการถล่มอุโมงค์นี้ขึ้นไปอีก

ขั้นรับมอบทั้งหกต่างก็หรี่ตาลง พวกเขามองไปยังแสงสีม่วงที่พุ่งเข้ามาหา พวกเขาเห็ได้ชัดว่ามีกระบี่ห่อหุ้มด้วยแสงสีม่วง ทั้งแสงและปราฏกระบี่อันน่าตกใจนั้นเกิดขึ้นมาจากกระบี่

” ให้ข้ารับมือเอง ให้ข้ารับรู้ถึงเส้นทางแห่งกระบี่ของชายคนนี้และดูว่ามันทรงพลังแค่ไหน” กู่มู่ฮึดฮัดขึ้นมา เขาก้าวออกไปข้างหน้าพร้อมแผ่พลังอันน่ากลัวออกมาจากตัว มันผลักลำแสงสีม่วงออกไป พวกมันไม่อาจจะเข้าใกล้เขามากกว่า 300 เมตรได้

ร่างผอมโซของกู่มู่ขยายใหญ่ขึ้นมา ตัวตนของเขาใหญ่โตราวกับภูเขา มีดจันทร์เสี้ยวโผล่มาในมือ มันส่องประกายอันเย็นชาออกมา ตัวหนังสือลึกลับสลักไว้บนใบมีด

ทันใดนั้นกู่มู่ก็ได้หลอมรวมเข้ากับมีดจันทร์เสี้ยวจนทำให้มันส่องแสงออกมามากกว่าเดิม มันเริ่มเปล่งแสงและปราณมีดที่รุนแรงออกมา หลังจากนั้นเขาก็หลอมรวมกับมีดและส่งการโจมตีอันน่ากลัวเข้าใส่แสงสีม่วง

การโจมตีที่มีพลังทั้งหมดของขั้นรับมอบช่วงปลาย เขาไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย

ติ๊ง !

มีดจันทร์เสี้ยวได้เข้าสู่พื้นที่แสงสีม่วงและปะทะกับกระบี่จือหยิง เสียงปะทะดังก้องและทำให้อุโมงค์สั่นไหวรุนแรงยิ่งกว่าเดิม รอยแตกอันน่ากลัวก่อตัวขึ้นภายในอุโมงค์ หลายจุดได้รับความเสียหายขนาดใหญ่จนเห็นได้ถึงความมืดมิดนอกอุโมงค์

การเดินหน้าของกระบี่จือหยิงถูกหยุดด้วยการโจมตีนี้ แสงสีม่วงได้สลายไปเผยให้เห็นกระบี่จือหยิง มันร่วงลงราวกับใบไม้ที่ตกลงมา

กู่มู่กระเด็น ผมสีเงินของเขากระพือและถูกตัดออกบางส่วน ยังมีรอยตัดที่อกของเขาด้วย มีเลือดให้เห็นผ่านรอยตัด

“ไม่แปลกใจเลยว่าจิตวิญญาณราชันย์ถึงได้บอกเราเรื่องเขา เขาแข็งแกร่งจริง ๆ เส้นทางแห่งกระบี่นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ ” กู่มู่พูดดอกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา สีหน้าของเขาจริงจังและมองตรงไปด้านหน้า

ร่างหนึ่งปราฏขึ้นมาเงียบ ๆ ที่ทางเข้าอุโมงค์ กระบี่ที่เปล่งแสงสีม่วงลอยอยู่เหนือหัวเขาพร้อมกับกระบี่อีกเล่มซึ่งเปล่งแสงสีครามออกมา พวกมันเคาะกันจนเกิดเสียงดังก้อง

มีร่างอื่น ๆ โผล่มาหลังชายคนนี้ มันไม่ได้ยากที่จะบอกจากรูปร่างว่าหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิงและชายกำยำ ส่วนอีกคนเป็นเด็ก

ทั้งสี่คือ เจี้ยนเฉิน, เทพเจ้าแห่งท้องทะเล, เถี่ยต้า และเสี่ยวจิน

ทั้งสี่คนต่างก็เข้ามาในอุโมงค์ที่กำลังถล่ม ด้วยพลังในขอบเขตดั้งเดิม ตราบใดที่มิติในอุโมงค์นั้นไม่ได้ถล่มจนหมด พวกเขาก็ไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตรายตราบใดที่ไม่จมอยู่ในความว่างเปล่า ลำแสงพลังงานในอุโมงค์ไม่อาจจะเข้าใกล้พวกเขาได้

เจี้ยนเฉินยืนอยูตรงหน้าสุด กระบี่สีครามลอยอยู่เหนือหัวแผ่ปราณกระบี่ที่น่าตกใจออกมา ตัวตนของเจี้ยนเฉินได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เขาตอนนี้เหมือนกับกระบี่สวรรค์ มิติรอบตัวเหมือนกับเป็นอาณาเขตของเขา ภายใต้พลังของเขาแล้วไม่ว่าจะเป็นอากาศหรือลำแสงพลังงาน ทุกอย่างเหมือนจะกลายเป็นกระบี่ที่แหลมคม

ขั้นรับมอบทั้งห้าด้านหลัง กู่มู่มองไปที่เจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินทำให้พวกนั้นรู้สึกเหมือนเผชิญหน้ากับจิตวิญญาณราชันย์เพราะทั้งสองเข้าใจถึงเส้นทางแห่งกระบี่ กลิ่นอายของเส้นทางแห่งกระบี่ที่ทั้งสองแผ่ออกมานั้นคล้ายกัน

ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้ถือกระบี่จือหยิงเอาไว้ แสงสีขาวได้ปรากฏขึ้นมาที่กระบี่ซึ่งห่อหุ้มโดยแสงสีม่วงจนทำให้ปราณกระบี่จากกระบี่นั้นทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เขาฟันมันใส่กู่มู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าสุด

การโจมตีนี้เหมือนจะเรียบง่ายแต่มันมีเส้นทางแห่งโลก พลังงานที่เป็นของเส้นทางหลอมรวมเข้ากับการโจมตี จนทำให้มันทางพลังอย่างมาก มากยิ่งกว่าตอนที่ขั้นรับมอบใช้ทักษะลับ

เส้นทางแห่งกระบี่คือหนึ่งในสามพันเส้นทางซึ่งรู้จักกันดีในชื่อกฎ เจี้ยนเฉินได้ใช้ความเข้าใจของเส้นทางแห่งกระบี่ในการโจมตี การโจมตีของเขามีพลังของเส้นทางรึอีกความหมายคือพลังของกฎ

แม้ว่าความเข้าใจในเส้นทางแห่งกระบี่ของเขาจะยังไม่ลึกซึ้งโดยเพิ่งเข้าถึงช่วงเริ่มต้น แต่มันก็ยังมีพลังของกฎ พลังของมันไม่อาจจะเอามาเทียบกับขั้นรับมอบที่ยังไม่เข้าใจเส้นทางได้

ปราณกระบี่อันน่ากลัวแผ่ออกมากับการโจมตีราวกับว่าอุโมงค์ได้ถูกเติมเต็มด้วยปราณกระบี่ การฟันเกิดขึ้นทั่วทุกที่รอบอุโมงค์

กู่มู่หรี่ตาลง เขาโดนปราณกระบี่ล็อคเป้าไว้แล้ว การเผชิญหน้ากับการโจมตีแบบนี้ จริง ๆ แล้วเขารู้สึกว่าเขาไม่อาจจะหลบได้ การรับมันโดยตรงคือทางเดียวเท่านั้น

“รูปแบบที่หนึ่งของตะวันโลหิตและจันทร์เสี้ยว พลังตะวันลา ! ”

“รูปแบบที่สอง พลังจันทร์เสี้ยว ! ”

“รูปแบบที่สาม พลังจันทร์เต็มดวง ! ”

กู่มู่ตะโกนออกมาและใช้ทักษะลับที่ทรงพลังที่สุดของตน เขาฟันออกไป 3 ครั้งด้วยมีดเสี้ยวจันทร์ในมือ

ทันทีที่ใช้ทักษะลับ โลกก็ปรากฏขึ้นมาด้านหลังเขา ในท้องฟ้าสีเลือดมันมีดวงอาทิตย์และดวงจันทร์สีแดงดั่งเลือด มันคือท้องฟ้าของโลกเซียนที่ถูกทอดทิ้ง

ด้วยการฟันครั้งแรก ดวงอาทิตย์ได้ปรากฏขึ้นมาด้านหลังเขา เขาได้หลอมรวมพลังของดวงอาทิตย์และใช้มันในการโจมตี

ด้วยการฟันครั้งสอง ดวงจันทร์เสี้ยวได้ปรากฏขึ้นมาด้านหลังเขา เขาได้หลอมรวมพลังของมันและใช้มันในการโจมตี

ด้วยการฟันครั้งสาม ดวงจันทร์ได้กลายเป็นจันทร์เต็มดวง มันเปล่งแสงสีแดงอันชั่วร้ายออกมาราวกับว่าโดนย้อมไปด้วยเลือด กระบี่จันทร์เสี้ยวได้หลอมรวมกับแสงจากดวงจันทร์ทำให้มันกลายเป็นแสงสีแดงเลือดอันสดใส